คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
ตั้งแต่อ่านรีวิวมาเหมือนพึ่งเห็นคนเข้าใจแกนของหนังจริงๆก็ในรีวิวนี้แหละ ครับ
รีวิวอื่นมีแต่อวยตัวละคร อวยนักแสดง อวยซีจี แต่สุดท้ายดูหนังละไม่ได้แก่นไรเลย
ถ้าดูจากเนื้อเรื่องดีๆแล้วมันเหมือนเป็นบทเรียนวิชาจิตวิทยาเล่มหนึ่งเลยด้วยซ้ำ
ถ้าดูจากในหนัง ตลอดทั้งเรื่องผู้คุมจะเรียกตัวละครเอก(มิน)ว่า””เสมอ เคยสงสัยไหมครับ ทุกครั้งที่เรียก””กล้องจะถ่ายให้เห็นเน้นแต่ตัวผู้คุม ที่จริงแล้วทั้งเรื่องต้องการที่จะสื่อสารกับคนดู(ถึงแม้นคนดูอาจยังเข้าไม่ถึงก็ตาม) เพราะที่จริงแล้ววิญญาณที่เข้ามาอยู่ในร่างของมิน เปรียบเหมือนกับคนดูนั้นแหละครับ เนื้อเรื่องตอนแรกถึงแม้นจะเอื่อยเฉื่อยไปหน่อย แต่เขาพยายามให้เราเป็นเหมือนตัวละครในหนัง ให้เราใช้ชีวิตเป็นคนอื่นดูบ้าง(ตอนท้ายผู้คุมก็กล่าวไว้) ในหนังดำเนินเรื่องเหมือนกับว่าให้เราคิดว่าใครที่เป็นสาเหตุที่ทำให้มินต้องฆ่าตัวตาย ครอบครัว เพื่อนที่ รร รุ่นพี่ที่แอบชอบ คนรอบตัว หรือว่าใคร เคยคิดไหมครับตอนที่มินตอบคำถามกับผู้คุม(ที่สิงร่างของเด็กผู้หญิง) เราคิดเหมือนกับตัวละครไหม? แล้วตอนสุดท้ายที่คุยกับผู้คุมในกระจกเขาก็เฉลย ออกมาด้วยว่าสาเหตุที่ทำให้มินฆ่าตัวตาย ก็เพราะเกิดจากความคิดของเราเองทั้งนั้นที่ไปตัดสินว่าชีวิตเจอแต่เรื่องแย่ๆ ทั้งที่จริงแล้วชีวิตของเราไม่ได้มีอะไรที่แย่เสมอไป ชีวิตมีสุข มีเศร้า มีสมหวัง มีผิดหวัง ปะปนกันไป ความจริงหนังเรื่องนี้ถ้าเคยอ่านหนังสือมา มันจะสะท้อนความคิด และชีวิตของเราได้เยอะมากๆ ท้ายที่สุดหนังเรื่องนี้มันสะท้อนปัญหาสังคมอะไรได้เยอะแยะมากเลยครับ อย่างเช่นโรคซึมเศร้า บางครั้งเราก็ต้องเข้าใจคนอื่นด้วยว่าเหตุการณ์ในชีวิตหลายๆอย่างมันถาถมจิตใจของคนเรามากมายขนาดไหน จะดีขนาดไหนถ้าเราไม่ไปตอกย้ำชีวิตของคนอื่น แต่เปลี่ยนไปลองชี้นำสิ่งสวยงามในชีวิตให้เขาดูสิครับ ให้คนในครอบครัว ให้คนรัก ให้เพื่อน ให้คนรอบตัว ความจริงโลกนี้มันสวยงามนะครับ เพียงแต่ว่าเราจะมองโลกนี้ในมุมมองไหนเท่านั้นเอง
รีวิวอื่นมีแต่อวยตัวละคร อวยนักแสดง อวยซีจี แต่สุดท้ายดูหนังละไม่ได้แก่นไรเลย
ถ้าดูจากเนื้อเรื่องดีๆแล้วมันเหมือนเป็นบทเรียนวิชาจิตวิทยาเล่มหนึ่งเลยด้วยซ้ำ
ถ้าดูจากในหนัง ตลอดทั้งเรื่องผู้คุมจะเรียกตัวละครเอก(มิน)ว่า””เสมอ เคยสงสัยไหมครับ ทุกครั้งที่เรียก””กล้องจะถ่ายให้เห็นเน้นแต่ตัวผู้คุม ที่จริงแล้วทั้งเรื่องต้องการที่จะสื่อสารกับคนดู(ถึงแม้นคนดูอาจยังเข้าไม่ถึงก็ตาม) เพราะที่จริงแล้ววิญญาณที่เข้ามาอยู่ในร่างของมิน เปรียบเหมือนกับคนดูนั้นแหละครับ เนื้อเรื่องตอนแรกถึงแม้นจะเอื่อยเฉื่อยไปหน่อย แต่เขาพยายามให้เราเป็นเหมือนตัวละครในหนัง ให้เราใช้ชีวิตเป็นคนอื่นดูบ้าง(ตอนท้ายผู้คุมก็กล่าวไว้) ในหนังดำเนินเรื่องเหมือนกับว่าให้เราคิดว่าใครที่เป็นสาเหตุที่ทำให้มินต้องฆ่าตัวตาย ครอบครัว เพื่อนที่ รร รุ่นพี่ที่แอบชอบ คนรอบตัว หรือว่าใคร เคยคิดไหมครับตอนที่มินตอบคำถามกับผู้คุม(ที่สิงร่างของเด็กผู้หญิง) เราคิดเหมือนกับตัวละครไหม? แล้วตอนสุดท้ายที่คุยกับผู้คุมในกระจกเขาก็เฉลย ออกมาด้วยว่าสาเหตุที่ทำให้มินฆ่าตัวตาย ก็เพราะเกิดจากความคิดของเราเองทั้งนั้นที่ไปตัดสินว่าชีวิตเจอแต่เรื่องแย่ๆ ทั้งที่จริงแล้วชีวิตของเราไม่ได้มีอะไรที่แย่เสมอไป ชีวิตมีสุข มีเศร้า มีสมหวัง มีผิดหวัง ปะปนกันไป ความจริงหนังเรื่องนี้ถ้าเคยอ่านหนังสือมา มันจะสะท้อนความคิด และชีวิตของเราได้เยอะมากๆ ท้ายที่สุดหนังเรื่องนี้มันสะท้อนปัญหาสังคมอะไรได้เยอะแยะมากเลยครับ อย่างเช่นโรคซึมเศร้า บางครั้งเราก็ต้องเข้าใจคนอื่นด้วยว่าเหตุการณ์ในชีวิตหลายๆอย่างมันถาถมจิตใจของคนเรามากมายขนาดไหน จะดีขนาดไหนถ้าเราไม่ไปตอกย้ำชีวิตของคนอื่น แต่เปลี่ยนไปลองชี้นำสิ่งสวยงามในชีวิตให้เขาดูสิครับ ให้คนในครอบครัว ให้คนรัก ให้เพื่อน ให้คนรอบตัว ความจริงโลกนี้มันสวยงามนะครับ เพียงแต่ว่าเราจะมองโลกนี้ในมุมมองไหนเท่านั้นเอง
แสดงความคิดเห็น
Homestay หนังดีมีคุณค่าแต่ค่อนข้างน่าเบื่อ 8/10
ข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้คือ
1.อย่ามองว่าปัญหาของเราใหญ่กว่าปัญหาของคนอื่น เพราะคนเราล้วนมีปัญหาของตนเองทั้งนั้น วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือ ทบทวนปัญหามองแบบภาพรวมแล้วแก้มันให้ดีที่สุด ไม่ใช่ตอกย้ำซ้ำเติมตนเองจนสูญเสียความเป็นตัวเอง^_^
2.คนเรามักจะโทษผู้อื่นก่อนจะโทษตัวเอง
ในการที่เราพบว่าชีวิตเรามีแต่ปัญหา เจอแต่ปัญหา
แน่นอนว่าเป็นเรื่องปกติ ทุกๆคนเกิดมาต้องดำเนินชีวิตโดยประสบพบเจอปัญหาอยู่แล้ว ไม่มีใครดำเนินชีวิตโดยปราศจากปัญหาไปได้ตลอด แต่วิธีแก้ปัญหาของเราถ้าเราแก้แล้วมันไม่ได้ดั่งใจเราหวัง เรามักจะโทษแต่ผู้อื่น โดยลืมคำนึงไปว่า อำนาจในการตัดสินใจแก้ปัญหามันอยู่ที่เราไม่ใช่ใครอื่นเลย หรือต่อให้ปัญหามันเกิดจากผู้อื่นแล้วส่งผลให้กลายเป็นปัญหาของเรา แต่มันก็เปรียบเสมือนการขัดเกลาทางอ้อม
ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับเราว่าเราจะดำเนินชีวิตหรือแก้ปัญหาอย่างไรด้วยตนเอง^_^
3.ปัญหาถ้าแก้ไม่ได้ก็สนุกไปกับมัน
ปัญหาทุกปัญหามันแก้ได้ หรือ ถ้าแก้ไม่ได้ก็อย่าตกต่ำเพราะมัน เราสนุกไปกับมันเพราะอีกไม่นานมันก็จะผ่านไป แล้วจะกลายเป็นบทเรียนชีวิตที่ดีเลิศมาก^_^
Homestay=หนังดีดูแล้วไม่ผิดหวัง
แต่การเดินเรื่องสำหรับเราแล้วค่อนข้างน่าเบื่อ
(แล้วแต่คนมั้ง) ยังไงก็แนะนำให้มาดูกันเพราะหนังดีจริง^_^
ใครที่ดูแล้วคิดเห็นอย่างไรบ้างก็มาร่วมพูดคุยกันได้นะคะ^_^