"เรื่องราวของวิญญาณเร่ร่อนดวงหนึ่ง ที่โชคดีได้รับรางวัลจากสวรรค์ให้ได้กลับมาอยู่ในร่างโฮมสเตย์เด็กหนุ่มที่ชื่อมิน เเละต้องสืบหาการตายของมินให้ได้ ภายใน 100 วัน ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ได้เกิดอีกเลย"
สวัสดีครับ ไม่ต้องเเปลกใจว่าทำไมถึงรีวิวไวขนาดนี้ เพราะตอนที่เห็นตัวอย่างเเรกๆ ผมก็ตัดสินใจได้เลย ต้องดูให้ได้ โดยดูเเค่ตัวอย่าง 1-2 ที่เหลือไม่เอา เเละไม่อ่านวรรณกรรมที่เป็นเเรงบันดาลใจด้วย ซึ่งที่ผมสนใจเป็นพิเศษก็เพราะผมเป็นเมน #CherprangBNK48 น่ะสิ นั่นก็ส่วนนึง5555 เเต่โชคดีที่โรงมีรอบพิเศษเลยได้ดูวันเดียวกับรอบสื่อ ซึ่งพอได้ดูเสร็จเเล้ว ก็รู้สึกอยากจะมาวิจารณ์ให้เห็นว่า หนังเรื่องนี้ที่ GDH ปลุกปั่นมาหลายปี เเละเพื่อให้ได้เข้าใจถึงความรู้สึกที่มีต่อหนัง โดยจะไม่พยายามพูดอะไรมาก เพราะอยากให้ไปดูกับตาดีกว่า
การเล่าเรื่อง
- องค์เเรก นำเสนอความเเฟนตาซีเหนือธรรมชาติอย่างเต็มเปี่ยมซีจีจัดเต็ม ผสมกับการปูตัวละครรอบๆตัว ผสานกับความทริลเลอร์หน่อยๆ
- องค์สอง หนังเริ่มพาเราไปรู้จักความสัมพันธ์ที่บอกได้เลยว่า เทียบได้กับหนังโรเเมนติกคอเมดี้น่ารักๆ เรื่องนึงได้เลย
- องค์สาม หนังนำพาอารมณ์ดราม่าที่ขุ่นมัว ไม่น่าไว้วางใจ ชวนตั้งคำถามอย่างต่อเนื่องให้เราคล้อยตามว่า จริงๆ เเล้วอะไรเป็นยังไง เเละจบลงโดยการปิดปมต่างๆออกมาได้อย่างสมบูรณ์เเบบหนังจีดีเอช เเม้จะเป็นเชิงพยายามดึงเข้าไคลเเมกซ์ซะมาก เเต่ก็สามารถตอบโจทย์ที่หนังต้องการจะสื่อได้ ดูจบเเล้วรู้สึกอิ่มใจออกมาจากโรง
การเเสดง ขอพูดตัวที่เด่นๆ เเบบไม่คิดว่าจะเล่นได้ เพราะพี่สู่ขวัญกับคนที่เหลือไปไกลเเล้ว
- เจมส์ เดอะเเบกของเรื่อง รับบททุกอย่างตั้งเเต่ซึมเศร้า สดใส ขี้เล่น โมโห เสียใจ ซึ่งเจมส์ก็สามารถตีโจทย์มินออกมาได้สมกับที่เป็นตัวละครที่ซับซ้อนที่สุดของเจมส์เลยก็ว่าได้ เข้ากับใครได้หมด เเถมช่วยเสริมให้อารมณ์มันไปได้ไกลขึ้นไปอีก เป็นนักเเสดงมากฝีมือที่ก้าวกระโดดตั้งเเต่บทพัฒน์เเละบูเเล้ว เเต่เจมส์ เอาชีวิตให้รอดนะจากนี้555555555
- เฌอปราง เเคปปปป ทำผมอึ้งมากตั้งเเต่ช่วงที่มีเเคปอยู่ในฉาก ความเป็นสาวนักวิชาการเสริมให้ตัวละครน่าเชื่อถือ การใช้สายตาสื่ออารมณ์ถูกจังหวะมีความหลากหลายด้านอารมณ์ ทั้งความน่ารักสดใสสุดๆ หน้านิ่งๆที่ดูน่าเกรงขาม พออยู่ร่วมกับเจมส์ยิ่งเคมีเข้ากันมากๆ เเต่พอเเสดงซีนอารมณ์หนักๆเเล้ว ส่วนตัวมองว่า "ใหญ่ไปหน่อย" โดยเฉพาะการฟูมฟายร้องไห้ เเต่พอหนังผ่านไปสักพักก็ค่อยๆ เป็นธรรมชาติมากขึ้น มีฉากที่น่าจะตราตรึงคนดูได้ระดับนึง พิสูจน์ได้ว่าเเคปมีความตั้งใจที่จะทำอะไรให้มันดี สมเเล้วที่พี่โอ๋เลือกมา เพราะเฌอปรางมอบการเเสดงที่มีเสน่ห์ เเละข้ามผ่านกำเเพงด่านนึงในด้านการเเสดงเรียบร้อย รอดู ONE YEAR อย่างใจจดใจจ่อนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มิวนิษฐาในเเฟนเดย์ที่ว่าดาร์ก ยังไม่เท่า สิ่งที่เเคปได้พบเจอ อ้าปากค้างกลางโรงเลย ไม่คิดว่าจะกล้าเล่นอะไรเเบบนี้ด้วยซ้ำ เเต่เเอบไม่อินบทคนที่ยอมเเลกทุกอย่างเพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย ถ้ามีโชว์ให้เห็นว่า ครอบครัวคาดหวังในตัวเองสูง อาจจะอินมากกว่านี้ เเถมพลอยทำให้พายกลายเป็นตัวละครที่ดาร์กสุดๆ ไม่รู้ว่าจริงๆเเล้ว สมยอมหรือเปล่า เเต่ถ้าไม่ ก็คงเพราะไม่มีทางเลือกจริงๆ เเต่ถ้าทำเพื่อความก้าวหน้าผู้หญิงคนนี้ก็น่ากลัวมาก
- เบบี้มายด์ ตอนเเรกผมกังวลว่าจะเล่นได้เเค่ไหน เพราะจากการที่ดูการเเสดงเรื่องก่อนๆ โดยเฉพาะซีรีส์เพื่อนเฮี้ยน โรงเรียนหลอน ค่อนข้างเเสดงเเข็ง เเต่ไม่ใช่กับเรื่องนี้ เบบี้มายด์มาในบทสาวห้าว จริงใจ เเต่มีเสน่ห์อย่างไม่น่าเชื่อเวลาเข้าฉากกับเจมส์ การใช้สายตา คำพูด อารมณ์ พัฒนาอย่างก้าวกระโดด มีความน่ารักเเละตลก ใครหลายคนน่าจะชอบสาวห้าวคนนี้นะ ผมยังโดนตกเลย5555 ขอโทษครับเเคป
ในส่วนของ CG คือเจ๋งครับ ไม่ค่อยจะมีอะไรขัดใจ เเถมยังดูเนียนสวยมาก การจัดองค์ประกอบภาพก็ผิดเเผกจากหนังจีดีเอชเรื่องก่อนๆ เเต่หนังพยายามจะโชว์งานด้านนี้มากไปหน่อย จนละเลยส่วนสำคัญคือ บทที่ยังขยี้ไม่สุด ตัวละครบางตัวสามารถสร้างอิมเเพคได้มากกว่านี้ ในส่วนดนตรีประกอบกลับไม่ค่อยมีอะไรน่าจดจำเท่ากับดนตรีในเทรลเลอร์ น่าจะเอามาใช้ในเอนเครดิต เเต่ชอบประเด็นของหนังมากๆ เพราะมันตอบความเป็นชื่อ "โฮมสเตย์" ได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- คนเรามักยอมเเลกทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ โดยลืมสิ่งที่อยู่ข้างๆไป
- คนที่มีปัญหาไม่ควรต้องอยู่โดดเดี่ยว
- ไม่ได้มีเเค่เราคนเดียวที่มีปัญหา คนอื่นก็มีเช่นกัน เอยู่ที่เราจะเลือกมองผ่าน หรือจะเก็บมาคิดจนทำร้ายตัวเราเอง
- ร่างเป็นเเค่ที่ให้เราได้อยู่ใช้ชีวิต เพราะสุดท้ายเเล้ว มันก็เป็นเเค่ชั่วคราวเท่านั้น
- บางครั้งเราก็ตัดสินคนอื่นเพียงเพราะเขาไม่ได้ดีกับเรา
- ชีวิตต้องใช้ให้คุ้มเหมือน 100 วันที่มินมี
- เราต้องรักตัวเอง เพราะมันจะอยู่กับเราจนวันตาย
7.5/10
หนังมีหลายอย่างที่น่าชื่นชม โดยเฉพาะเรื่องของอารมณ์ของหนังที่พาคนดูตามคิดชีวิตมินได้จนจบเรื่อง เเต่เเปลกที่ฉากดราม่ายังไม่อิมเเพคพอ เเม้จะมีฉากทำนองนี้อยู่มาก เเถมหน้าหนังยังเหมือนจะไปในทางเเฟนตาซี โชว์งานซีจี เเต่พอดูจริงๆ ก็ดราม่าเเฟมิลี่ดีๆที่มีซีจีเเละทริลเลอร์มาปะปนซะเฉยๆ เเต่หนังก็เล่าเรื่องได้ธรรมชาติเเละทำให้เรารู้สึกไปพร้อมกับหนัง เเม้บางประเด็นจะเบาบางก็ตาม
สรุปคือ เป็นหนังกำกับเรื่องเเรกที่พี่โอ๋มีความตั้งใจที่จะเเหวกเเนว ซึ่งอาจจะยังไม่หลุดกรอบเดิมมากนัก เเต่ควรไปชม ไม่ใช่เเค่เพราะเป็นหนัง GDH หรือ มีดาราชื่อดัง เเต่เพราะเป็นหนังที่คุณจะได้สำรวจไต่อารมณ์จาก1ไปถึง100 ไม่ว่าจะเป็น สุข เศร้า ซึ้ง ตลอดระยะเวลา 131 นาที อาจจะทำให้คุณรัก "โฮมสเตย์" มากขึ้นกว่าเดิม
ปล.ใครยังไม่ได้ดู เเนะนำจริงๆ ว่าอย่าเพิ่งไปหาวรรณกรรม เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม มาอ่าน หรือดูอนิเมะ Colorful นะครับ
มาเเลกเปลี่ยนความคิดเห็นนะครับ เพราะมุมมองของเราไม่เหมือนกัน
รีวิวเรื่องที่ 10 : HOMESTAY ร่าง ชั่ว คราว : เราทุกคนต่างมีปัญหาเช่นเดียวกับโฮมสเตย์
"เรื่องราวของวิญญาณเร่ร่อนดวงหนึ่ง ที่โชคดีได้รับรางวัลจากสวรรค์ให้ได้กลับมาอยู่ในร่างโฮมสเตย์เด็กหนุ่มที่ชื่อมิน เเละต้องสืบหาการตายของมินให้ได้ ภายใน 100 วัน ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ได้เกิดอีกเลย"
สวัสดีครับ ไม่ต้องเเปลกใจว่าทำไมถึงรีวิวไวขนาดนี้ เพราะตอนที่เห็นตัวอย่างเเรกๆ ผมก็ตัดสินใจได้เลย ต้องดูให้ได้ โดยดูเเค่ตัวอย่าง 1-2 ที่เหลือไม่เอา เเละไม่อ่านวรรณกรรมที่เป็นเเรงบันดาลใจด้วย ซึ่งที่ผมสนใจเป็นพิเศษก็เพราะผมเป็นเมน #CherprangBNK48 น่ะสิ นั่นก็ส่วนนึง5555 เเต่โชคดีที่โรงมีรอบพิเศษเลยได้ดูวันเดียวกับรอบสื่อ ซึ่งพอได้ดูเสร็จเเล้ว ก็รู้สึกอยากจะมาวิจารณ์ให้เห็นว่า หนังเรื่องนี้ที่ GDH ปลุกปั่นมาหลายปี เเละเพื่อให้ได้เข้าใจถึงความรู้สึกที่มีต่อหนัง โดยจะไม่พยายามพูดอะไรมาก เพราะอยากให้ไปดูกับตาดีกว่า
การเล่าเรื่อง
- องค์เเรก นำเสนอความเเฟนตาซีเหนือธรรมชาติอย่างเต็มเปี่ยมซีจีจัดเต็ม ผสมกับการปูตัวละครรอบๆตัว ผสานกับความทริลเลอร์หน่อยๆ
- องค์สอง หนังเริ่มพาเราไปรู้จักความสัมพันธ์ที่บอกได้เลยว่า เทียบได้กับหนังโรเเมนติกคอเมดี้น่ารักๆ เรื่องนึงได้เลย
- องค์สาม หนังนำพาอารมณ์ดราม่าที่ขุ่นมัว ไม่น่าไว้วางใจ ชวนตั้งคำถามอย่างต่อเนื่องให้เราคล้อยตามว่า จริงๆ เเล้วอะไรเป็นยังไง เเละจบลงโดยการปิดปมต่างๆออกมาได้อย่างสมบูรณ์เเบบหนังจีดีเอช เเม้จะเป็นเชิงพยายามดึงเข้าไคลเเมกซ์ซะมาก เเต่ก็สามารถตอบโจทย์ที่หนังต้องการจะสื่อได้ ดูจบเเล้วรู้สึกอิ่มใจออกมาจากโรง
การเเสดง ขอพูดตัวที่เด่นๆ เเบบไม่คิดว่าจะเล่นได้ เพราะพี่สู่ขวัญกับคนที่เหลือไปไกลเเล้ว
- เจมส์ เดอะเเบกของเรื่อง รับบททุกอย่างตั้งเเต่ซึมเศร้า สดใส ขี้เล่น โมโห เสียใจ ซึ่งเจมส์ก็สามารถตีโจทย์มินออกมาได้สมกับที่เป็นตัวละครที่ซับซ้อนที่สุดของเจมส์เลยก็ว่าได้ เข้ากับใครได้หมด เเถมช่วยเสริมให้อารมณ์มันไปได้ไกลขึ้นไปอีก เป็นนักเเสดงมากฝีมือที่ก้าวกระโดดตั้งเเต่บทพัฒน์เเละบูเเล้ว เเต่เจมส์ เอาชีวิตให้รอดนะจากนี้555555555
- เฌอปราง เเคปปปป ทำผมอึ้งมากตั้งเเต่ช่วงที่มีเเคปอยู่ในฉาก ความเป็นสาวนักวิชาการเสริมให้ตัวละครน่าเชื่อถือ การใช้สายตาสื่ออารมณ์ถูกจังหวะมีความหลากหลายด้านอารมณ์ ทั้งความน่ารักสดใสสุดๆ หน้านิ่งๆที่ดูน่าเกรงขาม พออยู่ร่วมกับเจมส์ยิ่งเคมีเข้ากันมากๆ เเต่พอเเสดงซีนอารมณ์หนักๆเเล้ว ส่วนตัวมองว่า "ใหญ่ไปหน่อย" โดยเฉพาะการฟูมฟายร้องไห้ เเต่พอหนังผ่านไปสักพักก็ค่อยๆ เป็นธรรมชาติมากขึ้น มีฉากที่น่าจะตราตรึงคนดูได้ระดับนึง พิสูจน์ได้ว่าเเคปมีความตั้งใจที่จะทำอะไรให้มันดี สมเเล้วที่พี่โอ๋เลือกมา เพราะเฌอปรางมอบการเเสดงที่มีเสน่ห์ เเละข้ามผ่านกำเเพงด่านนึงในด้านการเเสดงเรียบร้อย รอดู ONE YEAR อย่างใจจดใจจ่อนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- เบบี้มายด์ ตอนเเรกผมกังวลว่าจะเล่นได้เเค่ไหน เพราะจากการที่ดูการเเสดงเรื่องก่อนๆ โดยเฉพาะซีรีส์เพื่อนเฮี้ยน โรงเรียนหลอน ค่อนข้างเเสดงเเข็ง เเต่ไม่ใช่กับเรื่องนี้ เบบี้มายด์มาในบทสาวห้าว จริงใจ เเต่มีเสน่ห์อย่างไม่น่าเชื่อเวลาเข้าฉากกับเจมส์ การใช้สายตา คำพูด อารมณ์ พัฒนาอย่างก้าวกระโดด มีความน่ารักเเละตลก ใครหลายคนน่าจะชอบสาวห้าวคนนี้นะ ผมยังโดนตกเลย5555 ขอโทษครับเเคป
ในส่วนของ CG คือเจ๋งครับ ไม่ค่อยจะมีอะไรขัดใจ เเถมยังดูเนียนสวยมาก การจัดองค์ประกอบภาพก็ผิดเเผกจากหนังจีดีเอชเรื่องก่อนๆ เเต่หนังพยายามจะโชว์งานด้านนี้มากไปหน่อย จนละเลยส่วนสำคัญคือ บทที่ยังขยี้ไม่สุด ตัวละครบางตัวสามารถสร้างอิมเเพคได้มากกว่านี้ ในส่วนดนตรีประกอบกลับไม่ค่อยมีอะไรน่าจดจำเท่ากับดนตรีในเทรลเลอร์ น่าจะเอามาใช้ในเอนเครดิต เเต่ชอบประเด็นของหนังมากๆ เพราะมันตอบความเป็นชื่อ "โฮมสเตย์" ได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
7.5/10
หนังมีหลายอย่างที่น่าชื่นชม โดยเฉพาะเรื่องของอารมณ์ของหนังที่พาคนดูตามคิดชีวิตมินได้จนจบเรื่อง เเต่เเปลกที่ฉากดราม่ายังไม่อิมเเพคพอ เเม้จะมีฉากทำนองนี้อยู่มาก เเถมหน้าหนังยังเหมือนจะไปในทางเเฟนตาซี โชว์งานซีจี เเต่พอดูจริงๆ ก็ดราม่าเเฟมิลี่ดีๆที่มีซีจีเเละทริลเลอร์มาปะปนซะเฉยๆ เเต่หนังก็เล่าเรื่องได้ธรรมชาติเเละทำให้เรารู้สึกไปพร้อมกับหนัง เเม้บางประเด็นจะเบาบางก็ตาม
สรุปคือ เป็นหนังกำกับเรื่องเเรกที่พี่โอ๋มีความตั้งใจที่จะเเหวกเเนว ซึ่งอาจจะยังไม่หลุดกรอบเดิมมากนัก เเต่ควรไปชม ไม่ใช่เเค่เพราะเป็นหนัง GDH หรือ มีดาราชื่อดัง เเต่เพราะเป็นหนังที่คุณจะได้สำรวจไต่อารมณ์จาก1ไปถึง100 ไม่ว่าจะเป็น สุข เศร้า ซึ้ง ตลอดระยะเวลา 131 นาที อาจจะทำให้คุณรัก "โฮมสเตย์" มากขึ้นกว่าเดิม
ปล.ใครยังไม่ได้ดู เเนะนำจริงๆ ว่าอย่าเพิ่งไปหาวรรณกรรม เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม มาอ่าน หรือดูอนิเมะ Colorful นะครับ
มาเเลกเปลี่ยนความคิดเห็นนะครับ เพราะมุมมองของเราไม่เหมือนกัน