....พล.ร.ต.หญิงสุชาดา วุฑฒกนก คณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า
นายคณิน เป็นนักศึกษาคณะทันตแพทย์ ม.รังสิต รุ่นแรก โดยในช่วงของการเรียนปี2-3 ได้ทำเรื่องขอทางคณะ เพื่อไปทำงานเป็นนักแสดง แต่ทางคณะยืนยันว่า นักศึกษาทุกคนจะต้องเรียนทุกรายวิชาจนครบ ทำให้นายคณิน ต้องเรียนซ้ำ ซึ่งเจ้าตัวก็เรียนจนครบและเข้าสู่การฝึกปฏิบัติในชั้นคลินิก ในช่วงปีที่ 5และ6
แต่เหตุมาเกิดขึ้นในช่วง ปี6 ภาคเรียนที่ 1พบว่า ลายเซ็นที่ปรากฏอยู่ในบันทึกคนไข้ ไม่ใช่ลายเซ็นจริงของอาจารย์ผู้สอน ทางคณะจึงสั่ง ให้มีการตรวจสอบย้อนหลัง ทำให้พบว่า มีการปลอม
ทั้งลายเซ็นอาจารย์ ลายเซ็นแคชเชียร์ ที่ต้องลงบันทึกการจ่ายเงินคนไข้ และลายเซ็นเพื่อน
ในการแลกเวร สลับคนไข้ รวมแล้วจำนวน 70 ครั้ง
โดยลายเซ็นเหล่านี้เป็นหลักฐานสำคัญ ในการจบการศึกษา ทำให้รู้ว่านักศึกษาได้ฝึกปฏิบัติครบตามหลักสูตร
ดังนั้นทางมหาวิทยาลัยจึงตั้งคณะกรรมการสอบสวน
และมีมติรีไทร์ หรือให้นายคณินพ้นสภาพการเป็นนักศึกษา คณะทันตแพทย์ ม.รังสิต ในปี2555
และได้แจ้งมติดังกล่าวไปให้ทันตแพทยสภารับทราบ
ด้วย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกระบวนการสอบสวน ใช้เวลาพอสมควร ระหว่างนั้นนายคณินได้ไปขอทรานสคริปต์ ซึ่งเป็นเกรดที่ยังไม่ได้แก้ไขหลังการสอบสวน และ
ใช้ผลการเรียนดังกล่าว ไปเทียบโอนเพื่อเรียนต่อในมหาวิทยาลัยในประเทศฟิลิปปินส์ จนกระทั่งจบการศึกษาภายในเวลา 1 ปีครึ่ง
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_1193799
คณบดี ‘ทันตะ ม.รังสิต’ เผย "คูณ คณิน" ปลอม 70 ลายเซ็น จนโดนไล่ออก และแอบเอาทรานสคริปต์ไปเรียนต่อที่ฟิลิปปินส์
นายคณิน เป็นนักศึกษาคณะทันตแพทย์ ม.รังสิต รุ่นแรก โดยในช่วงของการเรียนปี2-3 ได้ทำเรื่องขอทางคณะ เพื่อไปทำงานเป็นนักแสดง แต่ทางคณะยืนยันว่า นักศึกษาทุกคนจะต้องเรียนทุกรายวิชาจนครบ ทำให้นายคณิน ต้องเรียนซ้ำ ซึ่งเจ้าตัวก็เรียนจนครบและเข้าสู่การฝึกปฏิบัติในชั้นคลินิก ในช่วงปีที่ 5และ6
แต่เหตุมาเกิดขึ้นในช่วง ปี6 ภาคเรียนที่ 1พบว่า ลายเซ็นที่ปรากฏอยู่ในบันทึกคนไข้ ไม่ใช่ลายเซ็นจริงของอาจารย์ผู้สอน ทางคณะจึงสั่ง ให้มีการตรวจสอบย้อนหลัง ทำให้พบว่า มีการปลอม
ทั้งลายเซ็นอาจารย์ ลายเซ็นแคชเชียร์ ที่ต้องลงบันทึกการจ่ายเงินคนไข้ และลายเซ็นเพื่อน
ในการแลกเวร สลับคนไข้ รวมแล้วจำนวน 70 ครั้ง
โดยลายเซ็นเหล่านี้เป็นหลักฐานสำคัญ ในการจบการศึกษา ทำให้รู้ว่านักศึกษาได้ฝึกปฏิบัติครบตามหลักสูตร
ดังนั้นทางมหาวิทยาลัยจึงตั้งคณะกรรมการสอบสวน
และมีมติรีไทร์ หรือให้นายคณินพ้นสภาพการเป็นนักศึกษา คณะทันตแพทย์ ม.รังสิต ในปี2555
และได้แจ้งมติดังกล่าวไปให้ทันตแพทยสภารับทราบ
ด้วย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกระบวนการสอบสวน ใช้เวลาพอสมควร ระหว่างนั้นนายคณินได้ไปขอทรานสคริปต์ ซึ่งเป็นเกรดที่ยังไม่ได้แก้ไขหลังการสอบสวน และ
ใช้ผลการเรียนดังกล่าว ไปเทียบโอนเพื่อเรียนต่อในมหาวิทยาลัยในประเทศฟิลิปปินส์ จนกระทั่งจบการศึกษาภายในเวลา 1 ปีครึ่ง
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_1193799