สรุปพระนามของสมเด็จพระนเรศวร คือ”นเรศวร” หรือ “นเรศ”คะ

งงจริงๆค่ะไม่รู้ว่าจะสรุปข้อมูลอย่างไรดี  ถ้าพระนาม”นเรศวร” ไม่ใช่อันที่ถูกต้องแล้วมันมาจากไหนหรอคะ //ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
ความคิดเห็นจาก Expert Account
ความคิดเห็นที่ 7
คำว่า “นเรศวร” ที่บางครั้งอาจสะกดเพี้ยนเป็น “นะเรศวร” หรือ “ณเรศวร” โดยรูปศัพท์แล้วมาจากการสนธิของคำว่า นร (คน) กับคำว่า อีศวร (พระอิศวร หรือความเป็นใหญ่) พบได้ในพงศาวดารทั่วไป

แต่ในระยะหลัง เริ่มมีการตั้งข้อสงสัยว่าพระนาม “พระนเรศวร” อาจจะไม่ใช่พระนามที่ถูกต้องของพระองค์ ซึ่งเข้าใจว่าผู้ที่นำเสนอข้อสันนิษฐานนี้เป็นคนแรกคือ ดร.วินัย พงศ์ศรีเพียร ได้กล่าวปาฐกถาในงานรำลึกครบรอบ ๔๐๐ ปีสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมื่อ ๑๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๓

ทั้งนี้เพราะพระนาม “นเรศวร” นั้นเป็นพระนามที่ค้นพบแต่ในเอกสารที่สร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์เป็นหลัก

เมื่อพิจารณาหลักฐานอื่นๆ ประกอบ จะพบว่าหลักฐานที่มีอายุถึงสมัยอยุทธยา ไม่มีฉบับไหนระบุพระนามว่า “พระนเรศวร” เลย ส่วนมากมักระบุพระนามว่า “พระนเรศ” และหลักฐานสมัยรัตนโกสินทร์หลายชิ้นก็ยังระบุพระนามแบบนั้นเช่นเดียวกัน ซึ่งจะยกตัวอย่างต่อไปนี้


- พระราชพงศาวดารพม่า ฉบับหอแก้ว (Hmannan Maha Yazawindawgyi) ระบุพระนามว่า พรนรจ์ (ဗြနရစ်) ออกเสียงตามสำเนียงพม่าว่า Bra Narit ซึ่งคงเพี้ยนมาจาก “พระนริศ” หรือ “พระนเรศ”

- ศิลาจารึกหมายเลข K27 หรือศิลาจารึกวัดโรมโลก ที่จังหวัดตาแก้ว ประเทศกัมพูชา จารึกเหตุการณ์ที่สมเด็จพระนเรศวรยกทัพไปตีเมืองละแวกใน พ.ศ.๒๑๓๑ ระบุพระนามว่า “พฺระ นเรสฺส”

- ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเอกสารของล้านนาระบุพระนามว่า “พระนเรศ”

- โคลงมังทรารบเชียงใหม่ที่แต่งใน พ.ศ.๒๑๕๗ ระบุพระนามว่า “นอเรศ” หรือ “นอเรตย์”

- พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ของ เยเรเมียส ฟาน ฟลีต (Jeremias Van Vliet) หัวหน้าสถานีการค้าของบริษัทอินเดียตะวันออกของดัตช์ (Vereenigde Oost-Indische Compagnie-VOC) ประจำกรุงศรีอยุทธยา ซึ่งเขียนใน พ.ศ. ๒๑๘๓ ระบุพระนามว่า “พระนเรศราชาธิราช” (Pra Naerith Raetsia Thieraij)

- สังคีติยวงศ์ ซึ่งสมเด็จพระพนรัตน์ (แก้ว) วัดพระเชตุพน เมื่อครั้งมีสมณศักดิ์เป็นพระพิมลธรรมได้แต่งในสมัยรัชกาลที่ ๑ ระบุพระนามในภาษามคธว่า “นริส์สราชา”

- พระไอยการกระบดศึก ปีขาล จุลศักราช ๙๕๕ (พ.ศ.๒๑๓๖) ในประมวลกฎหมายตราสามดวง ได้ระบุพระนามว่า “สมเดจ์บรมบาทบงกชลักษณอัคบุริโสดมบรมหน่อนรา เจ้าฟ้านเรศเชษฐาธิบดี”

- เอกสารคำให้การขุนหลวงหาวัด ซึ่งเป็นคำให้การของเชลยไทยสมัยเสียกรุงครั้งที่ ๒ แปลจากภาษามอญ ระบุพระนามว่า “พระนเรศร์”


มีพระนามที่แปลกออกไปบ้างเช่นพระราชพงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์ ที่ชำระใน พ.ศ. ๒๒๒๔ สมัยสมเด็จพระนารายณ์ ที่ระบุพระนามว่า “สํมเดจพระณะรายบ่พิดรเปนเจัา” “สมเดจพระณรายเปนเจัา” หรือ “ส่มเดจพระณรัายบ่อพีตรเปนเจา” สันนิษฐานเป็นพระนามที่เรียกเฉลิมพระเกียรติเป็นพิเศษว่าทรงเป็นพระนารายณ์อวตาร ซึ่งยังในเอกสารอื่นๆ อย่างเช่นคำให้การชาวกรุงเก่า และตำนานพราหมณ์นครศรีธรรมราชก็เรียกพระองค์ว่า “พระนารายณ์เมืองหาง” เพราะพระองค์สวรรคตที่เมืองหาง


เอกสารสมัยรัตนโกสินทร์เอง แม้จะปรากฏพระนาม “นเรศวร” แล้ว แต่ก็มีพระนาม “นเรศ” อยู่ อย่างเช่น พงศาวดารฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ที่มี “พระนเรศ” หรือ ฉบับบริติชมิวเซียมที่มี “พระนเรจ์” “พระณะเรศเจ้า” ซึ่งในฉบับที่ชำระต่อๆ มาถูกแก้เป็น “นเรศวร” ทั้งหมด หรือในพระราชหัตถเลขาที่รัชกาลที่ ๔ พระราชทานไปยังเซอร์จอห์น เบาว์ริ่ง ที่บุพระนามว่า “Naresr (นเรศร์)”

จะเห็นได้ว่าในหลักฐานส่วนใหญ่ของทั้งไทยและต่างประเทศ ตั้งแต่เอกสารทั่วไปจนถึงพระนามแบบทางการอย่างที่พบในพระไอยการกระบดศึกจะระบุพระนามว่า “นเรศ” ซึ่งมาจากการสนธิของคำว่า นร (คน) กับคำว่า อีศ (ผู้เป็นใหญ่) จึงทำให้เกิดข้อสันนิษฐานที่ว่าพระนามที่ถูกต้องน่าจะเป็น “พระนเรศ” มากกว่า “พระนเรศวร”

ซึ่งถ้าข้อสันนิษฐานดังกล่าวถูกต้องก็นำมาสู่ข้อสงสัยต่อมาว่าแล้วพระนามพระนเรศเป็นพระนามที่ถูกต้อง แล้วคำว่า นเรศ (นร + อีศ) กลายเป็น นเรศวร (นร + อีศวร) ไปได้อย่างไร


เรื่องนี้ ดร.วินัย พงศ์ศรีเพียรได้สันนิษฐานโดยอิงจากศิลาจารึกวัดพระธาตุศรีสองรัก ซึ่งสร้างขึ้นในรัชกาลของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิหรือพระเฑียรราชาซึ่งเป็นพระอัยกา (ตา) ของสมเด็จพระนเรศวร

โดยในจารึกนั้นระบุพระนามสมเด็จพระมหาจักรพรรดิว่า "สํเดจพฺระปรมมหาจกฺกรพตฺติวรราชาธิราช (สมเด็จพระบรมมหาจักรพรรดิวรราชาธิราช)"


ดร.วินัยได้สันนิษฐานว่สมเด็จพระนเรศวรซึ่งเป็นพระนัดดา (หลาน) ของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ก็น่าจะใช้สร้อยพระนาม “วรราชาธิราช” ต่อท้ายแบบเดียวกัน เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงสายสัมพันธ์กับพระอัยกา โดยพระนามจริงของสมเด็จพระนเรศวร (ตามการสันนิษฐานของ ดร.วินัย) น่าจะเป็น "สมเด็จพระนเรศ วรราชาธิราช" แต่เหตุที่กลายมาเป็น “นเรศวร” นั้น ดร.วินัยได้สันนิษฐานไว้ว่า เป็นการตัดคำผิดจาก นเรศ-วรราชาธิราช เป็น นเรศวร-ราชาธิราช

“ถ้าหากว่า อาลักษณ์ในราชสำนักสมเด็จพระนารายณ์ฯ ซึ่งชำระพงศาวดารและได้พบเอกสารเก่าซึ่งเผอิญมีพระนามที่ถูกต้องของสมเด็จพระนเรศวรฯอยู่ ก็มีความเป็นไปได้ไม่น้อยที่จะตัดคำผิดเป็น ‘นเรศวร-ราชาธิราช’ โดยเข้าใจว่า ‘ราชาธิราช’ เป็นสร้อยวลียกย่องพระเกียรติยศของพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระนามว่า ‘นเรศวร’ (นร + อีศวร)”


ข้อสันนิษฐานเรื่องการวรรคพระนามผิด รวมไปถึงประเด็นสร้อยพระนาม “วรราชาธิราช” นับว่าน่าสนใจ แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีหลักฐานสนับสนุนที่ชัดเจน และ ดร.วินัยเองก็บอกเองว่าท่านแค่ "เดา" เท่านั้นครับ

“...กระผมขอเดาว่าสร้อยพระนาม ‘วรราชาธิราช’ มีความสัมพันธ์ในเชิงสัญลักษณ์ซึ่งแสดงถึงสายสัมพันธ์ระหว่างสมเด็จพระนเรศวรฯ กับสมเด็จพระบรมมหาจักรพรรดิ ผู้เป็นพระเจ้าตา.”



ข้อสันนิษฐานอีกประการที่เป็นไปได้คืออาจจะมีการสะกดพระนามว่า "นเรศวร" แต่ออกเสียงว่า "นะ-เรด" ทั้งนี้เพราะในสมัยโบราณไม่ได้เคร่งครัดในการใส่เครื่องหมายทัณฑฆาตในการกำกับเสียง บางทีพบว่าไม่ได้ใส่ก็ไม่ออกเสียง เช่น วงศ์ สะกดว่า วงศ หรือ โลกย์ สะกด โลกย

คำว่า "นเรศวร" จึงอาจออกเสียงเหมือนคำว่า "นเรศวร์" ก็ได้

สำหรับผู้ที่ศึกษาประวัติศาสตร์ การศึกษาเปิดรับแนวคิดใหม่ๆ เป็นเรื่องที่สมควรทำ แต่ก็ยังไม่ควรสรุปทันทีว่าข้อสันนิษฐานนี้จะเป็นความจริงทั้งหมด และควรคิดวิเคราะห์ตามไปด้วยครับ

ดังนั้นแม้จะมีหลักฐานว่าพระนามจริงน่าจะเป็น "พระนเรศ" ก็ตาม แต่เราก็ยังไม่ควรสรุปชี้ชัดไปในทันทีว่า "พระนเรศวร" เป็นพระนามแปลกปลอมที่เกิดขึ้นในสมัยหลังแต่ประการเดียวครับ

ข้อสันนิษฐานทางประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลงได้เสมอ ขึ้นกับหลักฐานใหม่ๆ ซึ่งอาจค้นพบได้อีกในอนาคตครับ

https://www.facebook.com/WipakHistory/posts/1116173255112810/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่