[CR] [CR] บินเดี่ยวเที่ยวฮอกไกโด Sapporo,Shikisai no oka,Blue pond,Jozankei Onsen,Noboribetsu 2018 Part 2

สวัสดีคะหลังจากห่างหายจากการรีวิวไปนาน ครั้งนี้ไปเที่ยว Hokkaido มาอีกรอบช่วงใบไม้เปลี่ยนสีพอดีเลยอยากมาอัพเดทไว้เป็นข้อมูลให้คนที่สนใจไว้เผื่อมีแพลนอยากเที่ยวที่เดียวกันจะได้มีตัวเลือกคะ รอบนี้เที่ยวช่วงวันที่ 13-16 ตุลาคม 3 คืน 4 วัน แต่ที่พิเศษคืไปคนเดียวเพราะฉะนั้นรีวิวก็จะขาดๆเกินๆไปบ้างนะคะ รูปก็ใช้มือถือถ่ายสลับกัลกล้องซึ่งไม่มีเวลาถ่ายดีๆเลยคะเพราะเวลาน้อยมาก เพราะไปเที่ยวนอกเมืองทุกวันซึ่งค่อนข้างไกลยิ่งห่างเมืองเท่าไหร่รอบรถยิ่งน้อยเท่านั้น บางสถานีรถไฟ 2 ชั่วโมงผ่านมา 1 ขบวนก็ต้องวางแผนให้รัดกุมยิ่งขึ้น สำหรับแพลนที่วางไว้นะคะ

Day 1 Noboribetsu Onsen
Day 2 Sapporo Factory,Blue Pond,Shikisai no oka
Day 3 Jozankei Onsen,Moiwa Rope way
Day 4 Former Hokkaido Government Office Building,Hokkaido Shrine,Chitose Airport

ลิ้ง Day 1-2



ลิ้งปีที่แล้วไป Hakodate,Sapporo ช่วงหน้าหนาว




Jozankei Onsen,Japan



Day 3 Jozankei Onsen,Moiwa Rope way
   กองทัพต้องเดินด้วยท้องตื่นเช้ามาก็หิวเลยคะ ความจริงที่พักมีอาหารเช้าให้จองเพิ่มด้วยคะ 500 เยนเป็นเซ็ทแบบฝรั่งคือขนมปังไข่ดาว แต่อยากไปกินที่ตลาดปลามากกว่าเลยไม่เอา จากที่พัก Grids Sapporo เดินไปตลาดปลา Nijo ประมาณ 800 เมตร เราเป็นคoที่กินปลาดิบได้ทุกชนิด กินไข่ปลา ไข่หอยเม่น กุ้ง ปู หอยดิบได้หมดใครที่ชอบกินพวกซูชิซาชิมิจะรู้ดีว่าที่สุดของอาหารทะเลสดๆต้องที่ Hokkaido เลยคะถึงขนาดคนญี่ปุ่นที่บริษัทเคยพูดว่า ถ้าไปกินที่ Hokkaido มากินที่ไหนก็อร่อยไม่เท่าซึ่งก็จริงคะอาหารที่ชอบมากกินได้ไม่เบื่อคือข้าวหน้าปลาดิบ ซูชิ ซาชิมิ วันนี้เลยขอจัดเต็มอีกมื้อ







วันนี้กินปูกับไข่ปลาอิคุระ ราคา 1700 เยน


      กินเสร็จก็นั่งรถไฟไป Sapporo Factory จะมีตึกเก่าที่สร้างจากอิฐแดง ซึ่งตามข้อมูลที่หามาช่วงนี้เถาไอวี่กำลังเปลี่ยนสีพอดี เลยไม่พลาดโอกาสไปดูใบไม้เปลี่ยนสีด้วย  นั่งรถไฟจากสถานี Odori ไปลง Bus Center Mae เดินต่อ 400 เมตรจะเจอตึกใหม่ก่อนซึ่งเราไม่เข้านะคะ แล้วก็บอกไม่ได้ด้วยว่ามีอะไร เพราะตั้งใจมาดูแค่ตึกเก่าจริงๆเพื่อนรอรอบบัสไป Jozankei Onsen ตอนสายๆ ไปหามุมตั้งกล้องนานมากเพราะเป็นลานจอดรถด้วยมีรถจอดหลายคันหามุมถูกใจไม่ได้เลยคะ








     ถ่ายรูปเสร็จก็เดินไปสถานี Sapporo เพื่อไป Bus Terminal ที่หน้าสถานี ที่นี่ไม่มีรถไฟไปถึงนะคะต้องเช่ารถขับหรือไปด้วยรถบัสเท่านั้น ป้ายที่จะไป Jozankei Onsen อยู่ป้ายหมายเลข 12 จะมีรถไปวันละ  2 รอบจากข้อมูลที่หามานะคะ คือรอบ 11.00 โมงกับ 3 โมงเย็น แล้วขากลับมีรอบ 3 โมงเยน เลยเผื่อเวลาไว้ไปถึงจุดขึ้นรถตอน 10 โมงกว่าจะร้องไห้คนเยอะมาก ลืมไปเลยว่าที่นี่สวยมากตอนใบไม้เปลี่ยนสีคนก็ต้องอยากไปเที่ยวกัน รถมาตรงเวลาแต่คนแน่นมากได้รอรถเสริม ซึ่งมาตอนเที่ยงนิดๆยืนรอขาแข็งกันไปแล้วกว่าจะไปถึง Jozankei Onsen ก็บ่ายโมงนิดๆแล้วพอลงรถฝนดันตกอีก ทริปวันนี้ทุลักทุเลมากวิ่งไปซื้อร่มในแฟมิลี่มาร์ทมากางไปถ่ายรูปไป หาจุดขึ้นรถขากลับไปด้วย แพลนที่วางไว้ว่าจะมาเดินเล่นชิวๆแล้วหาออนเซ็นแช่พังพินาศมาก


วันที่ไปเพราะคนเยอะเลยมีสต๊าฟมาค่อยจัดคิวที่ป้ายด้วย เลยไปถามเรื่องตั๋ว พนักงานแนะนำว่าให้ซื้อแบบวันเดย์เลยได้ใบนี้มาราคา 1800 เยน


ใกล้ป้ายนี้จะเป็นป้ายรถขากลับนะคะ เดินไปอีกแค่  100 กว่าเมตรจะเจอป้ายรถเม์กลับ Sapporo
















    Jozankei Onsen เป็นเมืองออนเซ็นเล็กๆที่น่ารักมา เงียบสงบ สวยงาม มีบ่อแช่เท้าฟรีหลายบ่อ เสียดายมากที่วันนี้ลืมไปว่าจะมาออนเซ็นใส่ถุงน่องมาเลยอดแช่ แล้วไม่มีเวลาด้วยรอบหน้าจะหาโอกาสมาลองอีกครั้งให้ได้ คนที่นี่ก็ใจดีมากเดินถ่ายรูปไปหาป้ายรถเมล์กลับเข้าเมืองไปด้วย ถามคนที่รอรถอยู่ป้าๆน่ารักมากช่วยกันบอกทาง เป็นเสน่ห์อีกอย่างของญี่ปุ่นเลยคะ ที่ไม่ว่าจะไปเที่ยวไหนก็ไม่กลัวหลง ถามทางไปเรื่อยๆ
ชื่อสินค้า:   Hokkaido
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่