ก่อนที่จะนำบุตรหลาน ที่มีสมาธิสั้น หรือ ยังทานยาอยู่ อย่าเพิ่งมีความหวังที่จะให้เรียนที่นี่นะคะ เพราะเด็กบางคนเป็นมากหรือน้อยทางโรงเรียน ก็จะแจ้งตอนแรกว่ารับได้หมด "ลูกเราเรียนได้"
.
เพราะความที่ผิดหวังจากหลายๆโรงเรียนในฝั่งธน ที่จะหวังให้รับเด็กสมาธิสั้น เรียนร่วมกับเด็กปกติ ที่คุณหมอแนะนำว่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้ลูกเราได้เรียนกับเด็กปกติ และนำพาให้เด็กที่เป็นโรคนี้ได้ลดลงบ้าง หรือเบี่ยงเบนความสนใจจากเด็กปกติได้
.
แม่ไม่ได้คาดหวังให้ลูกได้หาย หรือ ต้องหายดีเสียทีเดียว ซึ่งน้องเองก็มีภาวะอยู่ไม่นิ่ง และสือสารบกพร่องอยู่แล้ว อันนี้ก็น้อมรับ แต่การทดลองเรียนในช่วง "ซัมเมอร์ 2500 บาท " ทางครูเองก็แจ้งกับแม่ว่า น้องเรียนได้ทำตามคำสั่งได้ดี และครูใหญ่ก็บอกว่าได้ๆ ทุกครั้ง แม่ไม่ต้องห่วง เราเลยวางใจ จ่ายค่าสม้ครเริ่มต้นของเด็กอนุบาลทั้งสิ้น 15xxx (รวมทุกอย่างแล้ว)
**เป็นเด็กใหม่อุปกรณ์ทุกอย่างใหม่หมดค่าใช้จ่ายสูงผู้ปกครองน่าจะเข้าใจ**
.
แต่พอเริ่มสัปดาห์แรก ครูประจำชั้นเรียกให้พบครูใหญ่ และบอกว่า น้องไม่สามารถเรียนร่วมได้
ห๊ะ!!! นี่แค่สัปดาห์แรกเองทำไมถึงบอกว่าเรียนไม่ได้ละคะ (คือจ่ายค่าเทอมไปแล้วก็เสียดายเนอะ)
เอางี้ละกันแม่ ครูขอดูน้องอีกสักสองอาทิตย์นะคะ ...เราได้แต่ตอบว่า "ได้ค่ะ" ก็ไม่รู้จะพูดอะไรได้ดีไปกว่านี้
.
สองอาทิตย์ผ่านไป ครูประจำชั้นแจ้งอีกครั้งว่า ให้หาโรงเรียนให้น้องใหม่ได้เลยเพราะน้องเรียนไม่ได้จริงๆ เห็นแก่ที่เราจ่ายค่าเทอมและอุปกรณ์มาแล้ว ก็คงจะได้แค่ "เลี้ยงดูฟูมฟักกันไป" เรื่องวิชาการคงไม่ได้อะไร...คือเราไม่ได้หวังหรอก
.
สภาพเลี้ยงดูฟูมฟักที่ลูกเราต้องเจอคือ "แย่มากค่ะ"
.
ในหัวเราก็ตัดสินใจไม่ได้ ถ้าออกตอนนี้ก็เสียดายเงิน แต่ฝืนต่อไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น
" เราเสียดายเงิน หรือ จะปล่อยให้ลูกอยู่ไปวันๆ "
......
จนมาวันหนึ่ง....
เราพาลูกมาส่งเข้าแถวปกติ แล้วลูกก็งอแงก็ไม่เข้าอยากเข้าแถว ทางครูที่สอนซัมเมอร์ก็เดินมายืนคู่ครูประจำชั้น และบ่นว่าน้องกับครูประจำชั้น "แบบนี้เลยตอนเรียนซัมเมอร์จับกันวุ่นวาย" ซึ่งขณะนั้นทางครูที่สอนซัมเมอร์ มองไม่เห็นเรา แต่ครูประจำชั้นรุ้ เลยสะกิดให้ครูซัมเมอร์หยุดพูด เรายืนมองตาเขม็ง เพราะวันที่เขาบอกเราว่าน้องเรียนได้ "ยังก้องอยู่ในหู"
.
เอ้า!!! แล้วที่บอกว่าเรียนได้คืออะไร??? .ให้เราเสียค่าเล่าเรียนไปแล้วมาบอกว่าเรียนไม่ได้ คือ "ปล้น" ทางอ้อมเหรอ??
.
มันไม่ใช่เราคนแรกที่โดน ผุ้ปกครองที่มีลูกอยู่ในภาวะสมาธิสั้น ก็ "เจอแบบเดียวกัน" เหมือนเด็กกลุ่มนี้จะดึงเกรดของทางโรงเรียนให้ต่ำลง แล้วที่อาจารย์ใหญ่บอกว่า "ทางโรงเรียนให้โอกาสเด็กๆเสมอ" มันเป็นแค่คำพูด "สวยแต่การกระทำปล้นเราทางอ้อมนั่นเอง" ผู้ปกครองบางคนขอค่าใช้จ่ายคืนหวังให้ทางโรงเรียนช่วยคืนสักครึ่งก็ยังดี แต่ไม่มี!!! แม้แต่บาทเดียว!!!
.
ใครที่คิดจะพาลุกไปแบบมีความหวัง "ให้เด็กๆเรียนร่วม" ที่โรงเรียนนี้ อย่าเสียเวลาเลยค่ะ เสียดายเงินที่เค้าจะรับไปแบบหน้าตาเฉย และให้จำไว้อย่างหนึ่งว่า "ลูกเราไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน" แค่อยากให้พูดตรงๆกับเราเท่านั้น
ไอดีไลน์ เอ็มอีอีเเซดแซดเอเอ **คุณแม่**
ขจรโรจน์ หรือ ขโจร กันแน่??? (แผนกอนุบาล)
.
เพราะความที่ผิดหวังจากหลายๆโรงเรียนในฝั่งธน ที่จะหวังให้รับเด็กสมาธิสั้น เรียนร่วมกับเด็กปกติ ที่คุณหมอแนะนำว่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้ลูกเราได้เรียนกับเด็กปกติ และนำพาให้เด็กที่เป็นโรคนี้ได้ลดลงบ้าง หรือเบี่ยงเบนความสนใจจากเด็กปกติได้
.
แม่ไม่ได้คาดหวังให้ลูกได้หาย หรือ ต้องหายดีเสียทีเดียว ซึ่งน้องเองก็มีภาวะอยู่ไม่นิ่ง และสือสารบกพร่องอยู่แล้ว อันนี้ก็น้อมรับ แต่การทดลองเรียนในช่วง "ซัมเมอร์ 2500 บาท " ทางครูเองก็แจ้งกับแม่ว่า น้องเรียนได้ทำตามคำสั่งได้ดี และครูใหญ่ก็บอกว่าได้ๆ ทุกครั้ง แม่ไม่ต้องห่วง เราเลยวางใจ จ่ายค่าสม้ครเริ่มต้นของเด็กอนุบาลทั้งสิ้น 15xxx (รวมทุกอย่างแล้ว)
**เป็นเด็กใหม่อุปกรณ์ทุกอย่างใหม่หมดค่าใช้จ่ายสูงผู้ปกครองน่าจะเข้าใจ**
.
แต่พอเริ่มสัปดาห์แรก ครูประจำชั้นเรียกให้พบครูใหญ่ และบอกว่า น้องไม่สามารถเรียนร่วมได้
ห๊ะ!!! นี่แค่สัปดาห์แรกเองทำไมถึงบอกว่าเรียนไม่ได้ละคะ (คือจ่ายค่าเทอมไปแล้วก็เสียดายเนอะ)
เอางี้ละกันแม่ ครูขอดูน้องอีกสักสองอาทิตย์นะคะ ...เราได้แต่ตอบว่า "ได้ค่ะ" ก็ไม่รู้จะพูดอะไรได้ดีไปกว่านี้
.
สองอาทิตย์ผ่านไป ครูประจำชั้นแจ้งอีกครั้งว่า ให้หาโรงเรียนให้น้องใหม่ได้เลยเพราะน้องเรียนไม่ได้จริงๆ เห็นแก่ที่เราจ่ายค่าเทอมและอุปกรณ์มาแล้ว ก็คงจะได้แค่ "เลี้ยงดูฟูมฟักกันไป" เรื่องวิชาการคงไม่ได้อะไร...คือเราไม่ได้หวังหรอก
.
สภาพเลี้ยงดูฟูมฟักที่ลูกเราต้องเจอคือ "แย่มากค่ะ"
.
ในหัวเราก็ตัดสินใจไม่ได้ ถ้าออกตอนนี้ก็เสียดายเงิน แต่ฝืนต่อไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น
" เราเสียดายเงิน หรือ จะปล่อยให้ลูกอยู่ไปวันๆ "
......
จนมาวันหนึ่ง....
เราพาลูกมาส่งเข้าแถวปกติ แล้วลูกก็งอแงก็ไม่เข้าอยากเข้าแถว ทางครูที่สอนซัมเมอร์ก็เดินมายืนคู่ครูประจำชั้น และบ่นว่าน้องกับครูประจำชั้น "แบบนี้เลยตอนเรียนซัมเมอร์จับกันวุ่นวาย" ซึ่งขณะนั้นทางครูที่สอนซัมเมอร์ มองไม่เห็นเรา แต่ครูประจำชั้นรุ้ เลยสะกิดให้ครูซัมเมอร์หยุดพูด เรายืนมองตาเขม็ง เพราะวันที่เขาบอกเราว่าน้องเรียนได้ "ยังก้องอยู่ในหู"
.
เอ้า!!! แล้วที่บอกว่าเรียนได้คืออะไร??? .ให้เราเสียค่าเล่าเรียนไปแล้วมาบอกว่าเรียนไม่ได้ คือ "ปล้น" ทางอ้อมเหรอ??
.
มันไม่ใช่เราคนแรกที่โดน ผุ้ปกครองที่มีลูกอยู่ในภาวะสมาธิสั้น ก็ "เจอแบบเดียวกัน" เหมือนเด็กกลุ่มนี้จะดึงเกรดของทางโรงเรียนให้ต่ำลง แล้วที่อาจารย์ใหญ่บอกว่า "ทางโรงเรียนให้โอกาสเด็กๆเสมอ" มันเป็นแค่คำพูด "สวยแต่การกระทำปล้นเราทางอ้อมนั่นเอง" ผู้ปกครองบางคนขอค่าใช้จ่ายคืนหวังให้ทางโรงเรียนช่วยคืนสักครึ่งก็ยังดี แต่ไม่มี!!! แม้แต่บาทเดียว!!!
.
ใครที่คิดจะพาลุกไปแบบมีความหวัง "ให้เด็กๆเรียนร่วม" ที่โรงเรียนนี้ อย่าเสียเวลาเลยค่ะ เสียดายเงินที่เค้าจะรับไปแบบหน้าตาเฉย และให้จำไว้อย่างหนึ่งว่า "ลูกเราไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน" แค่อยากให้พูดตรงๆกับเราเท่านั้น
ไอดีไลน์ เอ็มอีอีเเซดแซดเอเอ **คุณแม่**