เคยตั้งกระทู้ ริมฝั่งน้ำ ละครสอนความตาย ไป
ดูจนจบเมื่อคืน ก็ยังยืนยันว่าละครเรื่องนี้พูดเรื่องความตายได้อบอุ่นมาก ตั้งแต่ตอนแรกตีหัวเข้าบ้าน
พ่อพระเอกตายด้วยอุบัติเหตุ แม่อาจารย์ล้มป่วยเส้นเลือดในสมองแตก พระเอกเสียการทรงตัวไปเลย
แต่ละครกลบเกลื่อนความทุกข์ (ทั้งๆที่เรื่องเสี่ยงไปแนวนั้น) ทำให้เราสนุก หัวเราะ ไม่เศร้า ไม่หดหู่
ด้วยความน่ารักของเหล่าคุณตาคุณยายบ้านร่มไม้ชายคา
แล้วก็แทรกเรื่องความตายใน 2 ฉากสุดยอดของ 2 คุณตา
ฉากคุณปู่ชาญชัยพูดว่า คนแก่กลัวความเหงา เพราะบางทีเหงาจนอยากจะตาย
ฉากคุณตาโตมร นั่งเหงาคิดถึงลูกหลาน ที่สยาม
พอมาอีกหน่อย ความตายก็มาแบบไม่ให้คนดูตั้งตัว
ความตายของแม่พฤกษ์ที่พลิกชีวิตลูกชาย เปลี่ยนชีวิตทุกคนรอบๆ
จนถึงช่วงท้าย ลุ้นกันหนักมาก
ความใกล้ตายของคุณตาโตมร กับอาจารย์พฤกษ์
คนนึงรู้ล่วงหน้าในเวลาที่เดินถอยหลัง
อีกคนเลือกไม่ได้ รู้ตอนชีวิตมีความสุขที่สุด กำลังจะสร้างครอบครัว
ใครจะไปก่อนกัน
ความตายมาแบบไม่เลือกเวลา ไม่บอกล่วงหน้านาน
แต่ตัวละครในเรื่อง สะกิดคนดูเป็นระยะ
ริมฝั่งน้ำพาคนดูลุ้นยันตอนสุดท้าย (แบบห้ามกะพริบตา)
จนถึงฉากจบอิ่มใจแบบที่คุณตาชาญชัยพระเอกของเรื่องพูดจริงๆ
ชีวิตเหมือนวงกลม สุขทุกข์หมุนวนกันไป ชีวิตถึงต้องการคนที่จับมือกันแน่นๆ
ละครใช้ฉากเต้นลีลาศเป็น Symbolic ให้ตัวละครทุกคนเต้นหมุนกันไปเหมือนที่คุณตาชาญชัยเปรียบเทียบ
เป็นภาพที่ไม่โหดร้ายกับจิตใจคนดู
(ทั้งๆ ที่ตามเรื่องพระเอกยังป่วย อานัสไปติดคุก วีนัสต้องดูแลแฟน เนมยังร้ายไม่แคร์โลก
เอาจริงๆ ปู่ชาญชัยคงตรอมใจ นับวันรอวันหลานชายกลับตัวได้จริงๆ)
ที่น่ารักมากๆๆๆ สิบดาว คือ ละครไม่ทิ้งคนที่จากไปแล้ว
มีกิมมิคให้คนที่มองเห็นคุณตาโตมร คือ พอเพียง (อันนี้กำลังยิ้มๆ อยู่น้ำตามาเลย)
พ่อแม่พฤกษ์ก็ยิ้มให้ลูก
ส่งกำลังใจให้คนดู ทุกคนมีคนที่รัก มองอยู่เสมอ
เป็นริมฝั่งน้ำที่มีทั้งสุข ทั้งเศร้า แต่เราจะมองมุมไหน ใช้ชีวิตมุมไหน
ถ้าอาจารย์พฤกษ์ คือ ทุกข์นิยม วีนัสก็คงเป็นสุขนิยมที่มาบาลานซ์ชีวิตหนักๆของอาจารย์ .. ดาววีนัสของผม
เอาลูกกวาดสีฟรุ้งฟริ้งมาห่อเรื่องดาร์กๆ
ขอบคุณการแสดงที่ดีมากของศิลปินแห่งชาติ นักแสดงผู้ใหญ่ นักแสดงรุ่นพ่อแม่ นักแสดงรุ่นใหม่
ทุกคนเต็มที่มาก งานนี้แจ้งเกิดหลายคน
ชื่นชมช่อง 3 ที่กล้าทำเรื่องนี้ ชื่นชมเป่าจินจง ผู้กำกับ กัปตัน ที่ทำให้เราหันไปมองพ่อแม่ อยากดูแลในวันที่ยังมีท่านอยู่
เพราะละครเตือนแล้วว่า อย่าประมาทกับความตาย
ริมฝั่งน้ำ ละครสอนความตายที่แสนอบอุ่น
เคยตั้งกระทู้ ริมฝั่งน้ำ ละครสอนความตาย ไป
ดูจนจบเมื่อคืน ก็ยังยืนยันว่าละครเรื่องนี้พูดเรื่องความตายได้อบอุ่นมาก ตั้งแต่ตอนแรกตีหัวเข้าบ้าน
พ่อพระเอกตายด้วยอุบัติเหตุ แม่อาจารย์ล้มป่วยเส้นเลือดในสมองแตก พระเอกเสียการทรงตัวไปเลย
แต่ละครกลบเกลื่อนความทุกข์ (ทั้งๆที่เรื่องเสี่ยงไปแนวนั้น) ทำให้เราสนุก หัวเราะ ไม่เศร้า ไม่หดหู่
ด้วยความน่ารักของเหล่าคุณตาคุณยายบ้านร่มไม้ชายคา
แล้วก็แทรกเรื่องความตายใน 2 ฉากสุดยอดของ 2 คุณตา
ฉากคุณปู่ชาญชัยพูดว่า คนแก่กลัวความเหงา เพราะบางทีเหงาจนอยากจะตาย
ฉากคุณตาโตมร นั่งเหงาคิดถึงลูกหลาน ที่สยาม
พอมาอีกหน่อย ความตายก็มาแบบไม่ให้คนดูตั้งตัว
ความตายของแม่พฤกษ์ที่พลิกชีวิตลูกชาย เปลี่ยนชีวิตทุกคนรอบๆ
จนถึงช่วงท้าย ลุ้นกันหนักมาก
ความใกล้ตายของคุณตาโตมร กับอาจารย์พฤกษ์
คนนึงรู้ล่วงหน้าในเวลาที่เดินถอยหลัง
อีกคนเลือกไม่ได้ รู้ตอนชีวิตมีความสุขที่สุด กำลังจะสร้างครอบครัว
ใครจะไปก่อนกัน
ความตายมาแบบไม่เลือกเวลา ไม่บอกล่วงหน้านาน
แต่ตัวละครในเรื่อง สะกิดคนดูเป็นระยะ
ริมฝั่งน้ำพาคนดูลุ้นยันตอนสุดท้าย (แบบห้ามกะพริบตา)
จนถึงฉากจบอิ่มใจแบบที่คุณตาชาญชัยพระเอกของเรื่องพูดจริงๆ
ชีวิตเหมือนวงกลม สุขทุกข์หมุนวนกันไป ชีวิตถึงต้องการคนที่จับมือกันแน่นๆ
ละครใช้ฉากเต้นลีลาศเป็น Symbolic ให้ตัวละครทุกคนเต้นหมุนกันไปเหมือนที่คุณตาชาญชัยเปรียบเทียบ
เป็นภาพที่ไม่โหดร้ายกับจิตใจคนดู
(ทั้งๆ ที่ตามเรื่องพระเอกยังป่วย อานัสไปติดคุก วีนัสต้องดูแลแฟน เนมยังร้ายไม่แคร์โลก
เอาจริงๆ ปู่ชาญชัยคงตรอมใจ นับวันรอวันหลานชายกลับตัวได้จริงๆ)
ที่น่ารักมากๆๆๆ สิบดาว คือ ละครไม่ทิ้งคนที่จากไปแล้ว
มีกิมมิคให้คนที่มองเห็นคุณตาโตมร คือ พอเพียง (อันนี้กำลังยิ้มๆ อยู่น้ำตามาเลย)
พ่อแม่พฤกษ์ก็ยิ้มให้ลูก
ส่งกำลังใจให้คนดู ทุกคนมีคนที่รัก มองอยู่เสมอ
เป็นริมฝั่งน้ำที่มีทั้งสุข ทั้งเศร้า แต่เราจะมองมุมไหน ใช้ชีวิตมุมไหน
ถ้าอาจารย์พฤกษ์ คือ ทุกข์นิยม วีนัสก็คงเป็นสุขนิยมที่มาบาลานซ์ชีวิตหนักๆของอาจารย์ .. ดาววีนัสของผม
เอาลูกกวาดสีฟรุ้งฟริ้งมาห่อเรื่องดาร์กๆ
ขอบคุณการแสดงที่ดีมากของศิลปินแห่งชาติ นักแสดงผู้ใหญ่ นักแสดงรุ่นพ่อแม่ นักแสดงรุ่นใหม่
ทุกคนเต็มที่มาก งานนี้แจ้งเกิดหลายคน
ชื่นชมช่อง 3 ที่กล้าทำเรื่องนี้ ชื่นชมเป่าจินจง ผู้กำกับ กัปตัน ที่ทำให้เราหันไปมองพ่อแม่ อยากดูแลในวันที่ยังมีท่านอยู่
เพราะละครเตือนแล้วว่า อย่าประมาทกับความตาย