เมื่อประมาณเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ผมได้รับการติดต่อจากมูลนิธิสภาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย โดยอาจารย์ท่านหนึ่งแจ้งว่า มูลนิธิฯ ซึ่งทำงานภายใต้กระทรวงวิทย์ฯ มีการพิจารณาบุคคลคุณภาพแห่งปี เป็นประจำทุกๆ ปี โดยในปีนี้อยากขอให้ผมส่งประวัติเพื่อนำไปพิจารณารางวัลบุคคลคุณภาพปี 2018 สาขาการบริหารภาคธุรกิจ ผมจึงได้ดำเนินการกรอกเอกสารตามแบบฟอร์มที่ทางมูลนิธิฯ ส่งมาให้และส่งกลับไป
หลังจากนั้นในเดือนสิงหาคม อาจารย์ท่านเดิมโทรมาแจ้งว่า ผมผ่านรอบคัดเลือกแล้ว ให้รอผลการพิจารณารอบสุดท้าย และเมื่อไม่นานมานี้ท่านก็โทรมาแจ้งว่าผมได้รับการคัดเลือกให้เป็นบุคคลคุณภาพแห่งปี แต่มีเงื่อนไขว่าต้องบริจาคเงินทุนการศึกษาอย่างน้อย 50,000 บาทเพื่อช่วยเหลือด้านการศึกษา
ผมจึงขอเอกสารและรายละเอียดของโครงการที่เกี่ยวข้องกับให้ทุนการศึกษาเนื่องจากต้องนำเสนอกรรมการบริษัทรับทราบ ท่านแจ้งว่าไม่มีเอกสาร แต่ส่งวารสารสภาฯ (ฉบับปีที่ 10 เล่มที่ 13 ประจำเดือน กรกฎาคม-กันยายน 2560) มาให้แทน หลังจากนั้นก็พยายามติดตามเรื่องการบริจาคเงินอยู่หลายรอบ ผ่านทั้งผู้ช่วยของผมและตัวผมเอง
สุดท้ายเมื่อประมาณปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ท่านโทรมาหาผมอีกครั้งและถามเรื่องการบริจาคเงินทุนการศึกษา ผมแจ้งท่านว่าเนื่องจากไม่มีรายละเอียดของโครงการ จึงไม่สามารถบริจาคได้ อาจารย์ท่านนั้นจึงแจ้งว่า “ทุกคนที่ได้รับการคัดเลือก ต้องบริจาคเงินทุนการศึกษาขั้นต่ำ 1 ทุน มูลค่า 50,000 บาท หากไม่บริจาคก็ไม่สามารถพิจารณาให้รางวัลได้”
ผมจึงตอบท่านไปว่าไม่เป็นไร ผมคิดว่าการบริจาคเงิน ควรเป็นเรื่องของความสมัครใจ ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการพิจารณาว่าจะได้รับรางวัลหรือไม่ หากต้องการให้ผู้ที่ขึ้นรับรางวัลทุกคนบริจาคเงิน ผมเสนอว่าจัดเป็นโล่ห์ประกาศเกียรติคุณหรือประกาศนียบัตรสำหรับผู้มีอุปการะคุณ น่าจะเหมาะสมกว่าการอุปโลกน์รางวัลบุคคลตัวอย่าง แต่มีวาระแอบแฝงคือการหารายได้ !
ผมเชื่อและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น คงไม่ใช่นโยบายของกระทรวงฯ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่เป็นปัญหาที่เกิดจากผู้ปฏิบัติมากกว่า
ผมเข้าใจถูกต้องไหม ... มีใครประสบเหตุอย่างผมบ้าง ?
แบบนี้ก็มีด้วยเหรอ ... ใครเคยเจอบ้าง ?
หลังจากนั้นในเดือนสิงหาคม อาจารย์ท่านเดิมโทรมาแจ้งว่า ผมผ่านรอบคัดเลือกแล้ว ให้รอผลการพิจารณารอบสุดท้าย และเมื่อไม่นานมานี้ท่านก็โทรมาแจ้งว่าผมได้รับการคัดเลือกให้เป็นบุคคลคุณภาพแห่งปี แต่มีเงื่อนไขว่าต้องบริจาคเงินทุนการศึกษาอย่างน้อย 50,000 บาทเพื่อช่วยเหลือด้านการศึกษา
ผมจึงขอเอกสารและรายละเอียดของโครงการที่เกี่ยวข้องกับให้ทุนการศึกษาเนื่องจากต้องนำเสนอกรรมการบริษัทรับทราบ ท่านแจ้งว่าไม่มีเอกสาร แต่ส่งวารสารสภาฯ (ฉบับปีที่ 10 เล่มที่ 13 ประจำเดือน กรกฎาคม-กันยายน 2560) มาให้แทน หลังจากนั้นก็พยายามติดตามเรื่องการบริจาคเงินอยู่หลายรอบ ผ่านทั้งผู้ช่วยของผมและตัวผมเอง
สุดท้ายเมื่อประมาณปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ท่านโทรมาหาผมอีกครั้งและถามเรื่องการบริจาคเงินทุนการศึกษา ผมแจ้งท่านว่าเนื่องจากไม่มีรายละเอียดของโครงการ จึงไม่สามารถบริจาคได้ อาจารย์ท่านนั้นจึงแจ้งว่า “ทุกคนที่ได้รับการคัดเลือก ต้องบริจาคเงินทุนการศึกษาขั้นต่ำ 1 ทุน มูลค่า 50,000 บาท หากไม่บริจาคก็ไม่สามารถพิจารณาให้รางวัลได้”
ผมจึงตอบท่านไปว่าไม่เป็นไร ผมคิดว่าการบริจาคเงิน ควรเป็นเรื่องของความสมัครใจ ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการพิจารณาว่าจะได้รับรางวัลหรือไม่ หากต้องการให้ผู้ที่ขึ้นรับรางวัลทุกคนบริจาคเงิน ผมเสนอว่าจัดเป็นโล่ห์ประกาศเกียรติคุณหรือประกาศนียบัตรสำหรับผู้มีอุปการะคุณ น่าจะเหมาะสมกว่าการอุปโลกน์รางวัลบุคคลตัวอย่าง แต่มีวาระแอบแฝงคือการหารายได้ !
ผมเชื่อและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น คงไม่ใช่นโยบายของกระทรวงฯ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่เป็นปัญหาที่เกิดจากผู้ปฏิบัติมากกว่า
ผมเข้าใจถูกต้องไหม ... มีใครประสบเหตุอย่างผมบ้าง ?