เล่าประสบการณ์คุณพ่อเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ และเสียชีวิตหลังจากทำบอลลูนได้1วันค่ะ

คุณพ่อเป็นคนสุขภาพแข็งแรงค่ะ ชอบออกกำลังกายและทำอะไรด้วยตัวเองมาตลอด ไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่ เป็นผู้นำครอบครัวที่ดีมาก มีโรคประจำตัวคือไขมันในเส้นเลือด กินยามาเป็น10ปีแล้วค่ะ เมื่อกลางๆเดือนกันยายนที่ผ่านมา คุณพ่อเริ่มมีอาการเหนื่อยและปวดกล้ามเนื้อตัวและนอนไม่ค่อยหลับค่ะ คิดว่าเกิดจากการทำสวนตามปกติ ประมาณวันที่20กันยา คุณพ่อตื่นมามีอาการเวียนหัวบ้านหมุน เลยไปรพ.ประจำอำเภอ พยาบาลให้ตรวจคลื่นหัวใจและเข้าไปพบคุณหมอ บอกอาการคุณหมอไป คุณหมอได้ให้ยาคลายเครียด แก้เวียนหัว แก้ปวดกล้ามเนื้อมาค่ะ และบอกว่าคลื่นหัวใจปกติ พอกินยาอาการดีขึ้นค่ะ บ้านหมุนหายปกติ แต่ปวดกล้ามเนื้อตัวยังมีอาการอยู่ และได้ปวดขึ้นเรื่อยๆ 3วันจากนั้นได้ไปคลีนิคใกล้บ้าน หมอบอกว่าคุณพ่อทำงานหนัก ภาษาชาวบ้านเรียกว่าไข้เส้น จึงให้ยามากิน หลังจากนั้นคุณพ่อมีอาการเหนื่อยมากขึ้น เดินได้นิดเดียวก็เหนื่อย ทั้งที่เมื่อก่อนคุณพ่อตื่นมาเดินออกกำลังกายตั้งแต่ตี4 เดินได้วันละประมาณ 4-5 กิโล คุณพ่อเริ่มเหนื่อยมากขึ้นค่ะ ขึ้นบันไดแล้วเหนื่อยมาก ต้องหยุดพักถึง3รอบ หลังจากนั้นคุณพ่อมีอาการท้องอืด ปวดหลัง และสังเกตเจอว่าขาบวมเพราะใส่รองเท้าแล้วรู้สึกได้ ปวดกล้ามเนื้อยังคงมีอาการอยู่ วันที่27กันยาจึงไปรพ.พยาบาลอีกรอบ เจาะเลือด และได้บอกอาการคุณหมอไปว่า ท้องอืด ปวดหลัง และขาบวม คุณหมอบอกกับคุณพ่อว่าขาคุณพ่อไม่ได้บวมเพราะถ้าบวมจะกดแล้วบุ๋ม ส่วนอาการปวดหลังเกิดจากกรดไหลย้อน จึงให้ยามากินค่ะ อาการไม่ได้ดีขึ้น สังเกตได้ว่าปัสสาวะน้อย นอนราบไม่ได้ค่ะ ตอนกลางคืนต้องนั่งหลับ วันรุ่งขึ้น28กันยา จึงตัดสินใจไปตรวร่างกายอย่างละเอียดที่รพ.เอกชนในจังหวัดใกล้เคียง ตัดสินใจซื้อคอสตรวจทุกอย่างอย่างละเอียด พอถึงคิวตรวจคลื่นหัวใจ ตรวจเสร็จ พยาบาลเอารถเข็นมารับคุณพ่อทันทีและพาไปหาหมอหัวใจโดยตรงเลยค่ะ พอเจอคุณหมอ คำแรกที่คุณหมอพูดคือ "คุณจะต้องนอนไอซียู มันอันตรายมาก หลอดเลือดหัวใจคุณมีปัญหามาก" เราจำไม่ได้ว่าคุณหมอบอกว่าค่าอะไรต่ำมากๆคุณอาจจะช้อคได้หลังจากนี้อีกนิดเดียว หลังจากนั้นคุณหมอได้ฉีดยาที่รอบสะดือค่ะ แล้วให้อมยาข้างแก้มอีก8เม็ด น่าจะเป็นยาขยายหลอดเลือด หลังจากคุยกับคุณหมอ คุณพ่อได้ตัดสินใจให้คุณหมอส่งตัวไปที่รพ.รัฐบาลใดล้เคียง เพราะมีศูนย์หัวใจอยู่ และคุณพ่อมีสิทธิข้าราชการสามารถเบิกได้ คุณหมอจึงให้พ่อนอนให้ออกซิเจนและน้ำเกลืออยู่พักใหญ่ๆ ให้ค่าอะไรๆมันปกติก่อนจึงส่งตัวไปศูนย์หัวใจค่ะ พอไปถึงรพ.ประจำจังหวัด พบายาลเห็นว่าคุณพ่อเท้าบวม จึงรู้ว่าคุณพ่อมีอาการน้ำท่วมปอดจึงดึงสายน้ำเกลืออกทันที แล้วก็วัด ตรวจอะไรอีกเยอะแยะมากมาย คุณพ่อนอนรักษาอาการน้ำท่วมปอดอยู่4คืนค่ะ และฉีดยารอบสะดือทุก12ชั่วโมง ตอนอยู่รพ.คุณพ่อมีกำลังใจดีค่ะ อารมดี ดูไม่เหมือนคนป่วยเลย สุขภาพแข็งแรง แต่คุณหมอได้วินิจฉัยว่า คุณพ่อมีอาการกล้ามเนื้อหัวใจส่วนหน้าตาย เพราะผนังหัวใจไม่ทำงาน แต่จะรู้แน่ชัดเมื่อได้ฉีดสี ให้ยาสลายลิ่มเลือดเพื่อประครองอาการไว้ แล้วแนะนำว่าให้ไปฉีดสีกับอีกรพ.นึง เป็นศูนย์หัวใจที่เปิดใหม่เปิดร่วมกับเอกชน คุณพ่อสามารถเบิกได้ เพราะถ้ารอที่นี่คง7-8เดือน วันที่2ตุลา คุณพ่อได้กลับบ้านค่ะ กลับมานอนที่บ้านได้2คืน อาการปกติดีทุกอย่าง พอวันที่3ตุลา รพ.ใหม่ได้โทรมานัดให้ไปฉีดสีค่ะ วันที่4ได้ออกเดินทางตั้งแต่เช้า ประมาณ6โมงเย็นก็ถึงคิวคุณพ่อ หลังจากฉีดสีเสร็จ คุณหมอได้เรียกญาติเข้าไปฟัง และได้บอกว่า เส้นเลือดหัวใจคุณพ่อตีบหมดทั้ง3เส้น 70% 80% 90%และมีที่ขั้วหัวใจด้วย และเป็นแบบเรื้อรัง ไม่ใช่แบบเฉียบพลัน คือเริ่มเป็นมาพักใหญ่ๆแล้วแต่ไม่รู้ตัวค่ะ หมอได้บอลลูนให้แล้ว3ที่ เส้นเลือด2เส้นกับที่ขั้วหัวใจ เหลืออีกเส้นตีบไป 90% นัดมาทำอีกวันที่7พ.ย แล้วเราก็ได้ออกมาเจอคุณพ่อค่ะ คุณพ่อยิ้มแย้ม อารมดี ยังบอกกับพยาบาลว่ารักษาให้ได้อยู่เลี้ยงหลานก่อน พยาบาลบอกไม่ต้องห่วงมีชีวิตได้อีกยาวนาน หลังจากนั้นก็คุยกันอีกเยอะแยะมากมายเพราะโล่งใจแล้วที่คุณพ่อได้รักษา คุณหมอให้นอนดูอาการ1คืนค่ะ พอบ่ายๆคุณหมออนุญาตให้กลับบ้านได้เพราะคุณพ่อสุขภาพแข็งแรง แทบจะเหมือนคนปกติทุกอย่าง เย็นๆก็กลับมาถึงบ้านค่ะ กินข้าว อาบน้ำแปรงฟันเองทุกอย่าง จนประมาณ1ทุ่ม คุณพ่อได้บอกกับเราว่าเอายาก่อนนอนให้พ่อหน่อย พ่อจะนอนแล้ว พอตอนประมาณ5ทุ่มกว่าๆ คุณแม่ที่นอนอยู่ข้างๆคุณพ่อ ได้ยินเสียงผิดปกติ คล้ายๆคนหายใจแบบฝันร้าย ดัง ฮึดๆๆ อยู่ประมาณ3ครั้ง เลยได้เรียกเรากับพี่สาวลงมาค่ะ พี่สาวโทร1669ทันที ตอนนั้นที่เราลงมาคุณพ่อไม่หายใจแล้วค่ะ เราสติแตกจนทำอะไรไม่ถูก พยายามcprแต่ก็ทำไม่เป็น ประมาณ5นาที รถกู้ชีพมาถึง และพยายามปั้มหัวใจคุณพ่อ แล้วรถพยาบาลก็ตามมา แล้วเอาคุณพ่อไปรพ.ค่ะ ปั้มหัวใจอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง คุณหมอก็บอกเสียใจด้วยค่ะ สรุปเวลาเสียชีวิตคือ วันที่ 6 ตุลาคม 2561 เวลา 00.30 น. สาเหตุการเสียชีวิต กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน สรุปอายุ 55 ปี 8 เดือน 7 วัน และประโยคสุดท้ายที่เราได้ยินเสียงคุณพ่อคือ "พ่อจะนอนแล้ว"ค่ะ

********************************************

คุณพ่อจากไปเร็วมากจนตั้งตัวไม่ทัน จากวันที่คิดว่าทุกอย่างจะดีขึ้นแล้ว จะได้นอนหลับสนิท กลับกลายเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตเสียใจจนโลกทั้งโลกของเราพังลง เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น วันนี้ครบ3สัปดาห์ที่คุณพ่อตรวจเจอโรคหัวใจ และครบ2สัปดาห์ที่คุณพ่อจากไปค่ะ บางทีเรารู้สึกเหมือนเราฝันไปเลยค่ะ พยายามสะบัดหัวให้ตื่นอยู่หลายๆครั้ง อธิบายเป็นคำพูดไม่ถูกเลยค่ะ โลกที่ไม่มีคุณพ่อมันทรมานมาก มากจนเราแทบไม่อยากอยู่เลยค่ะ มีหลายครั้งที่เรารู้สึกว่าไม่อยากอยู่อีกแล้ว แต่พอหันมามองคุณแม่เรารู้สึกสงสารคุณแม่มากค่ะ ตอนนี้ที่บ้านเหลือแค่เรา2คนแล้วค่ะ คุณแม่พยายามเข้มแข็ง เรารู้ว่าคุณแม่เสียใจมาก คุณพ่อเป็นผู้นำครอบครัวทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นขับรถ หรือไปจ่ายตลาด จัดการบริหารเงิน ทำสวน คิดที่จะทำนู้นนี่อยู่ตลอด มีอะไรคุณพ่อจะปรึกษาคุณแม่ตลอด เศร้ามากค่ะ ยังทำใจไม่ได้ ทุกอย่างในบ้านยังอยู่ที่เดิม ของใช้ทุกอย่าง สิ่งเดียวที่หายไปคือคุณพ่อค่ะ กลายเป็นความว่างเปล่า จากบ้านที่เคยอุ่นใจตอนมีคุณพ่ออยู่ กลับกลายเป็นเรากับแม่ที่นอนหลับไม่สนิท เราคิดถึงคุณพ่อมากค่ะ พยายามยอมรับความจริง พยายามทำตัวปกติเพื่อช่วยแบ่งเบาคุณแม่ ทั้งๆที่เรารู้สึกอยากร้องไห้ ไม่อยากคุยไม่อยากทำอะไรเลยสักอย่างอยู่ตลอดเวลา

*********************************************
อยากฝากถึงคนอื่นๆนะคะ โรคหัวใจไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย ถ้ามีเวลาพาคุณพ่อคุณแม่ไปตรวจเถอะค่ะ ตรวจเลือดไม่เจอนะคะโรคหัวใจเพราะคุณพ่อเราตรวจสุขภาพทุกปี และอีกอย่างอย่าเชื่อรพ.เล็กๆไปหมดทุกอย่างนะคะ ถ้าเรารู้สึกว่าไม่ดีขึ้น ถ้าสะดวกที่จะไปให้ไปรพ.พร้อมดีกว่าค่ะ แล้วอีกอย่างควรมีความรู้เรื่องcprไว้ค่ะ เพราะมันจำเป็นมาก ถ้าเราทำcprเป็น คุณพ่อคงมีโอกาสรอดชีวิตมากกว่านี้ค่ะ

ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่