เอาล่ะค้าาา สาวๆจ๋าาา แค่เห็นชื่อกระทู้ก็น่าจะเข้าใจดีว่า กระทู้นี้เราจะรีวิวแนะนำแบบไม่โกหกหมกเม็ดกันเลยทีเดียว การต่อสู้ฝ่าฝันแดดอันแรงกล้า รวมถึงมลภาวะในท้องถนน ของประเทศไทยในแต่ละวันนั้นเป็นปัญหาแห่งชาติกันเลยทีเดียว แต่!!เดี๋ยวก่อนนะ แค่ปัญหาแสงแดดจากดวงอาทิตย์อันร้อนแรงนั้นไม่ใช่แค่ปัญหาเดียวที่ทำให้ผิวที่เราบ่มดูแลรักษานั้นพังได้ในพริบตา เพราะสาวๆออฟฟิศอย่างเรา น่าจะรู้ซึ้งถึงแสงUVจากหลอดไฟในออฟฟิศ หรือ แสงจอคอม รวมถึงแสงสีฟ้าจากหน้าจอโทรศัพท์ ก็ทำให้หน้าเราบ้ง พอๆกับแสงจากพระอาทิตย์ได้เหมือนกันจ้าพี่จ๋าาาา


          เอาล่ะจ้าสาวๆจ๋าาา มาทำความคุ้นเคยกะตัวกันแดดทั้ง 5 แล้วพิจารณากันเอาเลยว่าเราเหมาะกับตัวไหนอย่างไร


Nivea sun oil control serum SPF50+ PA+++  349.-


          ตัวนี้สาวๆน่าจะผ่านตากันมาบ้าง หรือไม่บางคนก็อาจจะใช้ตัวนี้อยู่ ซึ่งนางเคลมมาว่าเป็น เซรั่มกันแดดที่ลดความมันบนใบหน้า เอ้อออ เอาเส้ไม่ใช่แค่คุมมันแต่ลดความมันไปด้วย และด้วยความที่นางเป็นเซรั่มจึงสามารถบำรุงผิวก่อนแต่งหน้าได้ไปในตัว เอ้อออออ มาจริงอะไรจริง ตัวเนื้อครีมเป็นสีขาว สัมผัสไม่หนัก บางเบาพอสมควร และที่สำคัญคือ เวลาทาลงบนใบหน้า นางจะปรับผิวหน้าให้สว่างขึ้นนิดนุง สาวคนไหนไม่ชอบตรงนี้ข้ามไปค่ะ  เพราะส่วนตัวเรา ไม่เลิฟต้องปรับสีบนใบหน้า เพราะเวลาแต่งหน้ามันจะเป็นวอกๆ อ่ะสาวๆ ต้องเลือกรองพื้นกันให้ดีเลยทีเดียว แต่เรื่องคุมมัน บ่ได้เลยสำหรับสาวผิวมัน ส่วนสาวๆที่หน้าแห้งหรือผิวผสม ถือว่ารอดอยู่กรุบ รับได้เพราะราคาน่ารักกรุบ


          เนื้อครีม             :    ธรรมดาไม่หนักไม่เบา
          ความคุมมัน        :    ปานกลางไม่ได้คุมมันมากตามที่นางเคลมไว้
          ความเป็นคราบ   :    มีคราบนิดหน่อยแต่รับได้จ้า
          คะแนนโดยรวม   :    เอาไป 7/10 ก่อนนะจ๊ะ


         Mana Sake Rice Silk Sunscreen SPF50 PA+++     390.-


          เอาล่ะจ้า ครีมกันแดดตัวนี้บางคนอาจไม่เคยเห็น บางคนอาจเห็นบ่อยล่ะ เนื่องจากพรีเซนเตอร์ของ MANA ครีมกันแดดเป็น พี่โป๊ป หรือ ท่านหมื่นของเจ้ >< นั้นเอง ต้องลองหน่อยม้ะตัวเน้ อ่ะๆ เขาว่ากันว่า ตัวนี้เป็นกันแดดเนื้อใยไหม ก็บางเบาไปสิตัวเธอ เพราะเนื้อแบบนี้จะคุมมันได้เป็นอย่างดี แล้วไม่ต้องห่วงสำหรับคนแพ้ง่าย เพราะนางเป็นสูตรจากแพทย์จร้า สิ่งที่พีคกว่านั้นคือ นอกจากนางสามารถกันแสงแดด มลภาวะแล้ว นางยังกันแสงสีฟ้าจากหน้าจอคอม โทรศัพท์ แท็บเล็ตได้ด้วยเอ้อออ เริ่ดน้าเอาดีๆ อ้ะมาพูดถึงเนื้อสัมผัส ด้วยความเป็นใยไหมเนื้อครีมจึงนุ่มละมุนตุ้นมาก แต่แอบเกลี่ยยากหน่อย ต้องนวดๆนิดนึงซึบซาบได้ดี แต่ต้องยอมนะเรื่องความคุมมัน ให้เขาหน่อย คือคุมมันจริงอะไรจริง เว่อร์มาก นั่งหน้าคอมเช้ายันเย็นหน้าไม่เยิ้มอ้ะสาวๆ จากใจเจ้าของกระทู้ หลังจากที่ใช้กันแดดตัวนี้มาเกือบเดือน เราไม่แตะกันแดดตัวอื่นอีกเลย เพราะสัมผัสได้ว่า ผิวหน้าดูสว่างสดใสไม่อ่อนล้า ตอบโจทย์สาวออฟฟิศได้อย่างแท้ทรู


          เนื้อครีม             :    เบาบางละมุนตุ้น แต่แอบเกลี่ยยาก
          ความคุมมัน        :    คุมมันจริงอยู่ยาวตลอดทั้งวัน ยอมแล้วจ้า
          ความเป็นคราบ   :    น้อยมากจนคิดว่าไม่เป็นคราบ
          คะแนนโดยรวม   :    เอาไปเล้ยยย  9/10 ทุบๆๆ

          Biore uv aqua rich watery essence SPF50+ PA+++  450.-


          มาถึงตัวนี้จะไม่หยิบมาพูดถึงคงไม่ได้ เพราะเชื่อว่าสาวๆหลายคนใช้ตัวนี้ หรือแอบเล็งกันอยู่ช้ะม้ะ  บีโอเร ยูวี อควอ ริช ราคาแอบแรง ด้วยความที่นางเคลมมาว่าเนื่อกันแดดเป็นแบบน้ำ สูตรใหม่กันเหงื่อ กันน้ำ คุมความมัน แต่ถ้าดูจากรูปแล้วมันก็ไม่น้ำนะ เอาจากความรู้สึกเจ้าของกระทู้ เนื้อครีมเหมือนเจลน้ำมากกว่า ไม่ใช่ฟีลแบบน้ำตบกันแดดไรขนาดนั้น เนื้อโอเค แต่แอบมันวาวอยู่กรุบ ส่วนเรื่องคุมมัน กันน้ำ กันเหงื่อ ไม่สมหวังเท่าไร แอบเสียใจเล็กๆ นั่งพิมงานแปปๆต้องเอากระดาษคอยซับมัน T^T แต่เลิฟตรงนางเป็นเนื้อน้ำ จึงซึมสู่ผิวได้ดีเลย แต่เมื่อลองทดสอบโดยน้ำเปล่ามาถูๆ  คราบกำเนิดเกิดขึ้นมาเบาๆจ้า ถ้าไม่คิดอะไรมากสำหรับวันง่ายๆหยิบขึ้นมาใช้ได้สบายใจ


          เนื้อครีม             :    เนื้อบางเบาใช้ได้เลย ซึมสู่ผิวได้ง่าย
          ความคุมมัน        :    ปานกลางจ้า พอรับได้อยู่
          ความเป็นคราบ   :    คราบมาอะไรมาบ้างแต่ถือว่ารอดจ้า
          คะแนนโดยรวม   :    เอาไป  8/10 ก่อนนะจ๊ะ


         Smithy Astaxanthin Protection Sunscreen SPF50+ PA+++    590.-


          ตัวที่ 4 แล้ว ราคาแรงขึ้นเรื่อยๆ อิอิ แต่ตัวเนี้ยยยยมีสารที่ชื่อ “Astaxanthin” ซึ่งเป็นสารที่ช่วยบำรุงให้ผิวดูสว่างกระจ่างใส และลดริ้วรอย นอกจากกันแดดแล้วยังบำรุงกันไปอี้กกกก หลังจากได้ลองใช้ตามกระแส เห้ยได้อยู่น้าา เมื่อลองทาแล้วรูขุมขนดูเรียบเนียนขึ้น ไม่มีการปรับสีใบหน้าแต่อย่างใด ไม่ต้องกลัวหน้าลอยหน้าเทาเลยจ่ะ เนื้อครีมเป็นสีขาว แลดูเข้มข้น ไม่บางเบาเหมือนตัวทีผ่านๆมา ส่วนเรื่องคุมความมัน เห้ยยยย เริ่ดอยู่น้า ได้เลยอ่ะ ถ้าไม่ติดว่าแอบมีคราบเบาๆ คือตำต่อยาวๆเลยจ้าตัวนี้


          เนื้อครีม             :    เนื้อปานกลางไม่บางเบา
          ความคุมมัน        :    สุดอยู่ตัวนี้ แต่เกิน8ชม.ความมันเริ่มมาจ้า
          ความเป็นคราบ   :    พอมีบ้างตามอัธยาศัย
          คะแนนโดยรวม   :    เอาไป  7.5/10

          
          Anessa Perfect UV Sunscreen SPF50+ PA++++  650.-


          สุดท้ายล้าววว ตัวนี้ใครไม่รู้จักหรือไม่เคยเห็นคงไม่มีเนอะ เพราะรับพรีออเดอร์กันกระหน่ำ เอาจริงมันดีขนาดนั้นเลยหรอ ไม่รอช้าจร่ะ จัดมา1แมทต์หวานๆ แต่ราคาไม่หวานด้วย 5555 นางเคลมมาว่า กันน้ำแต่ล้างออกง่าย หื้มมม ไหนลองใช้ก่อน พี่จ๋าพี่ เนื้อออกเป็นฟิวน้ำไหลเลยนะ แต่พอเกลี่ยไปแล้วซึมซาบได้ไว หน้าไม่แวววาว ไอเลิฟฟฟฟ ความคุมมันคือได้เลย หลังจากที่ทาลงไปแล้วผิวดูเรียบเนียนขึ้น เหมือนเป็นเมคอัพเบสไปในตัว แนะนำว่าเหมาะกับวันที่เราจะไปเที่ยวมากกว่า ถ้าไม่ติดเรื่องราคา ก็ต้องตำๆทุบๆกันเลยจร้าสาวๆ

          เนื้อครีม             :    เนื้อน้ำ บางเบาซึมสู่ผิวได้เริ่ดด
          ความคุมมัน        :    คุมได้ดี แทบไม่มีความมันติดกระดาษซับมันอยู่เลย
          ความเป็นคราบ   :    ไม่มีคราบเลยจ้า ไอเลิฟฟฟ
          คะแนนโดยรวม   :    เอาไป  8.5/10 (เพราะแอบแพง)


          สรุปแล้วจร้าสาวๆจ๋า 5 ตัวที่นำมารีวิว มันก็เริ่ดไปคนละแบบแล้วแต่สภาพผิวหรือความชอบของแต่ล่ะคน แต่อย่างเจ้าของกระทู้เนี้ยย เลิฟตัวAnessa และ MANA เป็นอย่างมาก เท่าที่รู้ๆกัน Anessa นางดีมาแต่ไหนแต่ไร แต่ดูราคาสิ่จ่ะพี่จ๋าาาา สู้บ่ไหว หนีมาพักใจที่ MANA ครีมกันแดดใยไหมข้าวสาเก ที่สามารถทดแทนกันได้เลย สำหรับสาวๆออฟฟิศที่ใช้ชีวิตอยู่หน้าคอม เชื่อว่าต้องเลิฟ เนื่องจากอะไรที่เรามองไม่เห็นใช่ว่าจะไม่มีหรือทำร้ายเราไม่ได้นะคะ อยากให้สาวๆเมืองกรุง หรือเมืองไหนก็แล้วแต่ 555 หันมาดูแลผิวหน้ากันด้วยน้า  ขอฝากไว้หน่อยน้า