เราอยากแชร์ให้เพื่อนๆฟัง คือเราคบน้องหนึ่งคนตั้แต่เข้าเรียนมหาลัยปีสองจนเขาเรียนจบ และเตรียมตัวสอบอาชีพที่เขาฝันไว้ เรายอมรับว่าเราอายุเยอะกว่าน้องเขา และเราก็ดูแลเรื่องต่างให้เขาเท่าที่เราดูได้ เพราะเราเองก็ไม่ได้ฐานะดีอะไรมากมาย ตั้งแต่คบกันมาแลกๆมีทะเลาะกันบ้างเรื่องปกติ หลังๆไม่ค่อยทะเลาะเพราะเราจะรู้ว่าเขาไม่ชอบอะไร เขาจะรู้ว่าเราไม่ชอบอะไร แต่เมื่อไม่นานมานี้ เขาได้เจอผู้หญิงคนนึ่งที่ฟิตเนสห้างใจกลางเมืองของกรุงเทพ ซึ่งเราไม่ได้เข้าฟิตเนส เพราะเรามีหลายๆอย่างที่ต้องทำมากมาย เราไม่เคยไปเฝ้า หรือตามอะไรมากมาย เลยทำให้เขาได้รู้จักคนนี้ ซึ่งแรกๆเขาก็มีบอกให้ฟังบ้างๆ ว่าคนนี้เป็นใคร แต่มีวันนึ่ง เราได้รับโทรศัทพ์ประมาณเก้าโมง (ซึ่งเราไม่เคยคุยธุระอะไรกับเขาเวลานี้เพราะเราก็ยุ่งช่วงเช้า ก็เลยเอะใจนิดหน่อย) เขาก็บอกว่า "พี่ผมขอเลิกติดต่อก่อนน่ะ ผมต้องตั้งใจสอบอาชีพที่ผมอยากเป็น" เราก็อึ่ง แต่พอฟังๆ เราฟังรู้ว่ามีคนนั่อยู่ข้างๆเขา เราก็ปากไว ถามไปว่า ใครอยู่ข้างๆหรา และเขาก็แกล้งไปนั่งข้างหลังรถเผื่อไม่ให้เรารู้ว่า คนข้างๆเป็นใคร เราก็เลยบอกไปว่าตามใจล่ะกัน เอาที่เราสะดวกเลย และเขาก็บอกว่า "ผมขอบล็อคเบอร์ ไลน์ และโซเชียลอื่นๆ น่ะพี่" เราก็โอเค และหบังจากนั้นเรื่อยๆ มีคนส่งแต่รูปเขามาให้ดู ว่าไปเที่ยวไหน ต่างประเทศบ้าง ในประเทศบ้าง ขับรถ Super Car บ้าง สลับยี่ห้อเป็นว่าเล่น แต่เราก็ปากไว ด่าเพื่อนไปอีกว่า "กุไม่ได้อยากรับรู้เรื่องอะไรเขามากมาย ไม่ต้องส่งให้กุก็ได้น่ะ" หลังจากนั้น เพื่อนก็ไม่กล้าส่งอะไรมาอีกเลย
พอเวลาผ่านไปเราก็ลืมอะไรๆได้เยอะ ลืมสิ่งที่เคยทำให้เขา ลืมที่เคยดูแลเขามาตลอดจนเรียนจบ ลืมว่าเคยไปไหนมาด้วยกัน ซึ่งพอเราลืมและไม่ยึดติดอะไรพวกนี้ เราสบายใจเรามาก เราโล่งมาก เรารู้สึกดี ที่ไม่รู้สึกอะไรกับใครเลย และความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่วันที่เราผ่านมานั้นเราก็เสียใจคนเดียวเจียนตายเหมือนกัน
หลังจากลืมได้ เพื่อนบางคนก็ยังมาพูดกระแนะกระแหน่ เราเหมือนกัน ประมาณว่าเด็กคนนี้เป็นไงล่ะ เรียนจบก็ไป และเพื่อนเขาบางคนก็มาเล่าให้ฟังอีกว่า คนที่เขาไปคบนั้นบ้านรวยมาก มีรถขับเป็นสิบ ยี่ห้อง Super Car ทั้ง ไปกินข้าวร้านอาหารคือหรู ไม่ใช่ร้านอาหารในห้างธรรมดา แต่เป็นร้านหรูมากๆ ราคาต่อครั้งก็หกเจ็ดพันอย่างต่ำ เวลาหาโต๊ะเต็มก็จะมีวลีเด็ด หาโต๊ะให้พี่เดี๋ยวพี่ให้ 500 (เพื่อนๆน้องเขาก็มาเล่าอย่างสนุกๆกับเรา) เราถือว่าเราผ่านช่วงเวลานั้นมาแล้ว เราไม่จำเป็นต้องไปสู้กับคนนั้น เพราะเราไม่ได้รวยเหมือนคนนั้น เราไม่จำเป็นต้องไปดักคอยหน้าบ้านเขา เพื่อต้องเจอให้ได้ (เพื่อนเขาเล่าให้ฟังว่า ถ้าเขาไม่รับสาย สาวคนนี้ก็จะต้องไปรอหน้าบ้าน และต้องเจอให้ได้) เราคิดว่าเรามีค่ามากกว่านั้น เราไม่จำเป็นต้องตามผู้ชาย ถึงมีเงินมากหรือน้อย เราก็ไม่ตามอยู่ดี เราคิดเสมอว่า เราอยู่ของเรา อย่ามายุ่งกับเราพอ การที่บอกให้เลิกติดต่อเรานั้น วันนึ่งถ้าเขาโดนเหมือนที่ทำกับเรา เขาคงจะเข้าใจ แต่เขาจะรับได้มั้ย ก็อยู่ที่ตัวผู้หญิงคนนั้นแล้วแหละ เราไม่เคยดูถูกใคร ที่ต้องเอาเงินฟาดหัวใคร เรายินดีที่เขาได้ดีในสิ่งที่เขาเลือกเอง อวยพรให้เขาและผู้หยิงคนนั้นมีความสุขล่ะกัน
อยากแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวเรื่องอำนาจเงินของคนรวย
พอเวลาผ่านไปเราก็ลืมอะไรๆได้เยอะ ลืมสิ่งที่เคยทำให้เขา ลืมที่เคยดูแลเขามาตลอดจนเรียนจบ ลืมว่าเคยไปไหนมาด้วยกัน ซึ่งพอเราลืมและไม่ยึดติดอะไรพวกนี้ เราสบายใจเรามาก เราโล่งมาก เรารู้สึกดี ที่ไม่รู้สึกอะไรกับใครเลย และความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่วันที่เราผ่านมานั้นเราก็เสียใจคนเดียวเจียนตายเหมือนกัน
หลังจากลืมได้ เพื่อนบางคนก็ยังมาพูดกระแนะกระแหน่ เราเหมือนกัน ประมาณว่าเด็กคนนี้เป็นไงล่ะ เรียนจบก็ไป และเพื่อนเขาบางคนก็มาเล่าให้ฟังอีกว่า คนที่เขาไปคบนั้นบ้านรวยมาก มีรถขับเป็นสิบ ยี่ห้อง Super Car ทั้ง ไปกินข้าวร้านอาหารคือหรู ไม่ใช่ร้านอาหารในห้างธรรมดา แต่เป็นร้านหรูมากๆ ราคาต่อครั้งก็หกเจ็ดพันอย่างต่ำ เวลาหาโต๊ะเต็มก็จะมีวลีเด็ด หาโต๊ะให้พี่เดี๋ยวพี่ให้ 500 (เพื่อนๆน้องเขาก็มาเล่าอย่างสนุกๆกับเรา) เราถือว่าเราผ่านช่วงเวลานั้นมาแล้ว เราไม่จำเป็นต้องไปสู้กับคนนั้น เพราะเราไม่ได้รวยเหมือนคนนั้น เราไม่จำเป็นต้องไปดักคอยหน้าบ้านเขา เพื่อต้องเจอให้ได้ (เพื่อนเขาเล่าให้ฟังว่า ถ้าเขาไม่รับสาย สาวคนนี้ก็จะต้องไปรอหน้าบ้าน และต้องเจอให้ได้) เราคิดว่าเรามีค่ามากกว่านั้น เราไม่จำเป็นต้องตามผู้ชาย ถึงมีเงินมากหรือน้อย เราก็ไม่ตามอยู่ดี เราคิดเสมอว่า เราอยู่ของเรา อย่ามายุ่งกับเราพอ การที่บอกให้เลิกติดต่อเรานั้น วันนึ่งถ้าเขาโดนเหมือนที่ทำกับเรา เขาคงจะเข้าใจ แต่เขาจะรับได้มั้ย ก็อยู่ที่ตัวผู้หญิงคนนั้นแล้วแหละ เราไม่เคยดูถูกใคร ที่ต้องเอาเงินฟาดหัวใคร เรายินดีที่เขาได้ดีในสิ่งที่เขาเลือกเอง อวยพรให้เขาและผู้หยิงคนนั้นมีความสุขล่ะกัน