หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
ท่องแดนหมีขาว Moscow Marathon 2018 ตอน 6
กระทู้สนทนา
เที่ยวต่างประเทศ
บันทึกรัสเซีย วันที่ 5 วันจันทร์ที่ 24 กันยายน 2561
วันนี้เป็นวันที่อยู่มอสโควเป็นวันสุดท้ายแล้ว ใจหายหน่อย ๆ โปรแกรมเราคือ เดินทางไปเมือง Sergiyev Posad (Сергиев Посад) หรือปัจจุบันคือ เมือง "ซาร์กอร์ส " (Zagorsk) ตอนออกจากที่พัก ทางพี่พักทำใบรีจิสเตอร์ให้เรียบร้อยเลย ฟรีด้วย
น่ารักมาก ออกจากที่พักก็เรียก Uber ไปสถานี เพราะต้องฝากกระเป๋าก่อน ดีที่เป็นสถานีเดียวกับที่เราจะใช้เดินทางไป St.Peterburg คืนนี้ เลยสบายหน่อยทุ่นเวลาไปได้มาก ก่อนอื่นขอเล่าเรื่องการฝากกระเป๋าก่อน ที่ฝากกระเป๋าอยู่ที่ชั้น -1 มี 2 แบบคือ แบบฝากแล้วมีคนเฝ้า ใบละ 230 รูเปิ้ล จะขนาดไหนไม่สนใจเพราะนับชิ้น แบบนี้เดินเข้าไปเอากระเป๋าฝาก คนที่เฝ้าก็จะเอากระเป๋าเราไปไว้ที่ชั้น อีกแบบจะเป็นเช่า locker แบบนี้จะตามขนาด locker ราคาก็แตกต่างกันออกไป เราเช่าขนาดกลาง 450 รูเปิ้ล ซึ่งต้องไปจ่ายค่าฝากแล้วรับการ์ดมา การ์ดนี้ใช้สำหรับปิด-เปิด locker แต่ต้องระวังให้ดีเพราะ การเปิด locker จะทำได้ครั้งเดียวเท่านั้น ฉะนั้น หากจะฝากแบบนี้ ต้องตรวจสอบสัมภาระให้ดีว่าของที่ต้องการฝากได้ถูกจัดเก็บใน locker เรียบร้อยแล้ว และไม่มีของที่เราจำเป็นต้องใช้ติดไปในกระเป๋าที่จะฝาก มิฉะนั้น ต้องเช่ากันใหม่เลยทีเดียว เพราะทันที่ที่เปิดล็อคเกอร์ หมายความว่าจบการเช่านั่นเอง อัตราดังกล่าวคิดต่อวัน มันไม่ได้ถูกแบบที่อ่านมาเลยนี่นา แถมคนรับฝากโคตรดุเลย พอฝากของเสร็จก็รีบไปซื้อตัวไปเมือง Sergiyev Posad (Сергиев Посад) หรือปัจจุบันคือ เมือง "ซาร์กอร์ส " (Zagorsk) ซึ่งเป็นแหล่งต้นกำเนิดของ ตุ๊กตาแม่ลูกดก матрёшка (มาโตรชก้า) สามารถหาซื้อเป็นของฝากได้ในราคาไม่แพงนัก ประมาณ 250 รูเปิ้ล ขึ้นไป แต่ด้วยกลัวว่าจะหาอะไรกินไม่ได้ พอผ่านรถเข็น KFC เราก็แวะซื้อตุนกันก่อนคนละเมนู แล้วรีบไปซื้อตั๋ว ปรากฏได้เวลา 10 โมงกว่า รอวนไปจ้า เพราะตอนนี้ยัง 9 โมงดีเลย ระหว่างรอก็ควักเสบียงออกมากินกันอย่างอร่อยเลย (น่าจะเพราะหิว หรือเปล่า . . .555)
การขึ้นรถไฟที่นี่มีความงงมาก เพราะตั๋วที่ได้มาไม่ได้บอกชานชาลา ต้องไปลุ้นกันเองว่าชานชาลาไหน โดยไปยืนดูที่บอร์ดว่ารถไฟขบวนของเราออกเวลาเท่าไหร่ เทียบชานชาลาไหน และเวลาก็จะแสดงใกล้ ๆ เวลารถออกด้วย ดีว่าได้หนุ่มรัสเซียผู้ใจดีคอยแนะนำเรา เลยนั่งไปด้วยกัน เค้าลงก่อนเรา 1 สถานี แต่ยังใจดีเดินกลับมาย้ำเราว่าให้ลงสถานีไหนด้วย เพราะรถคันที่เราไปไม่ได้สุดสายที่เมืองนี้ บนรถไฟรัสเซียก็มีอย่างหนึ่งเหมือนบ้านเรา คือคนเดินมาขายของ แล้วเค้าขายเก่งมาก พูดไม่หยุดเลย ยืนพูดโฆษณาอยู่ประตูจนจบ แล้วเริ่มเดินขายไปจนสุดโบกี้ แม้ฟังไม่รู้เรื่องแต่ก็เพลินเหมือนกันนะ เมื่อถึงสถานีฝนยังตก อย่างที่บอกว่าฝนที่นี่มาพร้อมลม เราก็กางร่มไปและต้องคอยหันร่มหลบลมไปทุลักทุเลพอควร พอเดินไปถึงตัวโบสถ์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักก็เห็นร้านขายของเรียงไป เราได้แต่เดินรอบนอก เพราะมีฝน และเวลาก็เหลือไม่มาก กลัวไปขึ้นรถไฟไม่ทัน เดินกลับลงมา ได้หมวกรัสเซียที่ตามหา ดีใจมากกกก ก่อนขึ้นรถไฟ เดินผ่าน Supermarket จึงแวะเข้าไปหาของฝาก ได้ chocolate เด็กน้อย Signature ของรัสเซียมา ดีใจ แต่ก็หนักน่าดูเลยต้องซื้อกระเป๋าอีกใบ เพราะ ถุงที่เราเตรียมไปก็เล็ก และ Supermarket ที่นี่ไม่มีถุงให้นะจ๊ะ ใครซื้อของต้องเอาถุงไปเองจ๊ะ เสร็จเรื่องราวก็ไปรอรถไฟเหมือนเดิม ลุ้นชานลาลาเอาที่ป้ายไฟ แต่ส่วนใหญ่ จะเข้าชานชาลาที่ 1
กลับมาถึงสถานี ทบทวนโปรแกรมปรากฏว่ายังไม่ได้ไปอีกหลายที่เลย เช่น พิพิธภัณฑ์พระราชวังคุสโกโว (Kuskovo Misaim Estate) ซึ่งนับเป็น “แวร์ซายน์แห่งรัสเซีย” / มหาวิหารโดมทองเซนต์ซาเวียร์ (Cathedral of Christ the Savior) (Храм Христа Спасителя) / วิหารเซนต์บาซิล (St Basil’s Cathedral) (Собор Василия Блаженного) แต่เวลาไม่ทันแล้ว เลยตัดสินใจว่าจะไปที่ใกล้ ๆ แล้วกัน เลยตกลงจะร่ำลามอสโควกันที่แวะวิหารเซนต์บาซิล (St Basil’s Cathedral) (Собор Василия Блаженного) หรือโบสถ์หัวหอม ซึ่งเราเยี่ยมเยียนในวันแรกนั่นเอง เพราะที่นี่เราได้แต่ชมความงามด้านนอก ยังไม่ได้เข้าชมความงามด้านในเลย สงสัยวันนี้เห็นเดินไม่มากพอ ขึ้นรถไฟฟ้าได้เลยพากันเดินหลงอ้อมไปอีกเป็นกิโลเลยทีเดียว ประเด็นเดินไกลไม่เท่าไหร่ แต่ฝนและลมนี่ซิ เล่นเอาหนาวสั่นกันทั้งทีม พอมาถึงก็รีบหาที่ซื้อตั๋วเข้าชมในอาคารเลย สวยงามจริง กะว่าจะเดินจนโบสถ์ปิดเลย ก็ได้ดังใจ เพราะเราเดินชมกันจนเค้าปิดไฟไล่ ต้องรีบหาทางออกกันใหญ่ นับว่าวันนี้เราได้ชมโบสถ์หัวหอมท่ามกลางสายฝน และแน่นอนว่าเมื่อมาถึงที่นี่ ไอติมกุมเป็นสิ่งที่เราไม่พลาด 555 และเพราะวันนี้เป็นวันสั่งลาเลยจัดมาคนละ 2 เล๊ยยย หุ หุ จากนั้นก็พากันขึ้น Metro กลับสถานีรถไฟ ไปเจอน้องปอ เพื่อนใหม่ที่มางานวิ่งด้วยกัน ก่อนอื่นทันทีที่ไปถึงเราก็เปลี่ยนรองเท้าและถุงเท้าทันที ไม่งั้นคืนนี้คงแย่ เพราะถุงเท้ารองเท้าเปียกน้ำหนักมาก เอาแระเป๋าได้ ก็เปิดกระเป๋าจัดการกันตรงนั้น จากนั้นก็พากันขึ้นรถไฟไปเซ็นปีเตอร์เบิร์ก
รถไฟที่เราใช้ในการเดินทางเป็นรถไฟที่เรียกว่า “คูเป้” คือ เป็นห้อง ๆ 1 นอนกันได้ 4 คนเป็นเตียงบนล่าง มีไฟและที่ชาร์ทไฟพร้อม เหมือนรถไฟใหม่บ้านเราเลย ด้วยความที่เป็นคนตัวใหญ่ จึงได้สิทธิ์นอนเตียงล่าง แฮ่... สิ่งแรกที่ทุกคนทำคือ พยายามชาร์ทไฟ แต่ปรากฏไม่มีไฟ เซ็งไปตาม ๆ กัน เพราะพรุ่งนี้ต้องใช้โทรศัพท์ทั้งวัน และเรายังเข้าที่พักไม่ได้ด้วย แต่คงเพราะเพลีย พอหัวถึงหมอนทุกคนก็หลับสบาย ไม่มีใครสนใจเรื่องชาร์ทแบตอีกเลย จะไม่สลบยังไงไหว วันนี้ก็เดินไม่น้อยกว่า 20 กิโลเช่นเดิม นี่อยู่นานกว่านี้ กล้ามขาจะชัดมาก 555
#MoscowMarathon
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
รบกวนช่วยดูแพลนการเที่ยวรัสเซียให้หน่อยครับ
สวัสดีครับ พอดีผมจะไปรัสเซียในวันที่ 19-27 เมษานี้ครับ รบกวนช่วยดูให้หน่อยได้ไหมครับ ว่ามันพอจะเป็นไปได้ไหม โดยส่วนใหญ่ผมก็ copy จากพันทิพ คือของคุณ YUI_008 ครับ (ขอบคุณครับ 555) แต่ในส่วนวันหลังๆ ผมก
อยากให้รู้ว่ารัก
Russia 2013 EP 5 : เที่ยวเมืองโบราณ " Sergiyev Posad "
ก่อนหน้านี้เที่ยวรัสเซีย 4 ตอน 1. Russia 2013 EP1 : มุ่งตรงสู่ " Moscow " http://pantip.com/topic/30852203 2. Russia 2013 EP2 : Cathedral of Christ the Savior @ " Moscow " ht
snowy_shot
Early Spring in Russia-รัสเซียไปเองได้ไม่ยาก Part3
วันนี้เราจะออกไปเที่ยวนอกเมืองกัน โดยจุดหมายของเราวันนี้คือ Sergiev Posad (Се́ргиев Поса́д) หรือที่คนไทยคุ้นหูกันว่า “ซากอส” เป็นเมืองที่ตั้งของ Trinity Monastery of St. Sergius ซึ่งสร้างข
Napapatnui
MOSCOW 4 วัน ยุโรปราคาไม่แพง
มอสโก ยุโรป ราคาประหยัดมีเวลา4วันก็ไปได้นะ ทริปนี้เราขึ้นแท็กซี่อย่างเดียวเลยไม่ได้นั่งรถไฟใต้ดินเนื่องจากป่วยและผู้สูงวัยก็เริ่มเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง แท็กซี่รัสเซียราคาไม่แพงแต่แนะนำให้เรียกผ่านแ
สมาชิกหมายเลข 1470060
[พาแม่ไปเที่ยวแถว Kansai กันเถอะ] Day 3 - วันสุดท้ายที่เกียวโต ณ.ป่าไผ่
Day 3(Arashiyama Bamboo groove >> Aeon Mall Kyoto >> Osaka) Day 1 - พวกเราพร้อมจะบินDay 2 - Uji เมืองชาเขียวที่ไม่ได้มีแต่ชาเขียว แต่มีเห็ดมาริโอ้ !! Nintendo MuseumDay 4 - ศาลเจ้าสุดเกร๋
สมาชิกหมายเลข 7732593
รบกวนผู้เชี่ยวชาญเรื่องเที่ยว Russia ช่วยตรวจแผนการท่องเที่ยว 10 วัน 9 คืน เดือนตุลาคมค่ะ
วางแผนจะไปเที่ยว Mosow / St.Petersburg 13-22 ตุลาคมนี้ หลังจากเก็บข้อมูลใน pantip เราเลยวางแผนตามด้านล่างนี้ ขอรบกวนผู้รู้ให้คำแนะนำว่าเหมาะสม หรือควรลดหรือเพิ่มส่วนไหนบ้างคะ ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ Mos
เจ้าหญิงต้อยติ่ง
ช่วยตรวจทริปมอสโกให้ด้วยครับ
จะเดินทางไปเที่ยวมอสโกระหว่างวันที่ 15-19 Feb 2018 ทำแผนเที่ยวดังนี้ 15-ก.พ. พฤหัส 10.30 ขึ้นเครื่อง Aeroflot บินตรง 16.30 มอสโก 19.00 เข้าพักที่โรงแรม Maxima Panorama Hotel 16-ก.พ. ศุกร์ 10.00
ซันกุ้ยฮุด
รีวิวการเดินทางจาก ม.มหิดล ศาลายา ไปยังสนามบินดอนเมือง ด้วยราคา 40 บาท
เริ่มจากการนั่งรถเมล์สาย 515 จากฝั่งตรงข้ามม.มหิดล ไปลงป้าย สถานีบางบำหรุ ราคา 20 บาท จากนั้นเดินเรียบถนนใหญ่ย้อนไปสวนทางกับทางที่รถมา เลี้ยวขวาตรงหัวโค้ง ตามฟุตบาธไปเรื่อยๆ จนเจอทางม้าลายหน้าสถานีรถไ
สมาชิกหมายเลข 1354952
ขึ้นรถไฟขบวนธรรมดา บางครั้งอย่าลืมเผื่อเวลาสองต่อ!
นั่งรถไฟขบวนธรรมดา นอกจากจะเผื่อเวลารอรถไฟมาแล้ว ยังต้องเผื่อเวลารถไฟล่าช้าอีกนิดหน่อย นิดหน่อยจริงๆๆ... โอ้!! รถไฟมาแล้ว 50 นาที ตามที่ประกาศไว้เลย ในที่สุดรถไฟก็เคลื่อนที่จากชานชาลาแล้ว Go Go
สมาชิกหมายเลข 7265802
กระเป๋าเดินทางขนาด 29 นิ้ว จะสามารถใส่ใน locker ตามสถานีรถไฟในโตเกียวได้ไหมครับ
มีกระเป๋าเดินทางขนาด 29 นิ้ว (ขนาดตาม spec 52cm X 78cm X 29cm) สงสัยว่าจะสามารถใส่ใน locker ตามสถานีรถไฟในโตเกียวได้ไหมครับ
Rapin.P
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวต่างประเทศ
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
ท่องแดนหมีขาว Moscow Marathon 2018 ตอน 6
วันนี้เป็นวันที่อยู่มอสโควเป็นวันสุดท้ายแล้ว ใจหายหน่อย ๆ โปรแกรมเราคือ เดินทางไปเมือง Sergiyev Posad (Сергиев Посад) หรือปัจจุบันคือ เมือง "ซาร์กอร์ส " (Zagorsk) ตอนออกจากที่พัก ทางพี่พักทำใบรีจิสเตอร์ให้เรียบร้อยเลย ฟรีด้วย
การขึ้นรถไฟที่นี่มีความงงมาก เพราะตั๋วที่ได้มาไม่ได้บอกชานชาลา ต้องไปลุ้นกันเองว่าชานชาลาไหน โดยไปยืนดูที่บอร์ดว่ารถไฟขบวนของเราออกเวลาเท่าไหร่ เทียบชานชาลาไหน และเวลาก็จะแสดงใกล้ ๆ เวลารถออกด้วย ดีว่าได้หนุ่มรัสเซียผู้ใจดีคอยแนะนำเรา เลยนั่งไปด้วยกัน เค้าลงก่อนเรา 1 สถานี แต่ยังใจดีเดินกลับมาย้ำเราว่าให้ลงสถานีไหนด้วย เพราะรถคันที่เราไปไม่ได้สุดสายที่เมืองนี้ บนรถไฟรัสเซียก็มีอย่างหนึ่งเหมือนบ้านเรา คือคนเดินมาขายของ แล้วเค้าขายเก่งมาก พูดไม่หยุดเลย ยืนพูดโฆษณาอยู่ประตูจนจบ แล้วเริ่มเดินขายไปจนสุดโบกี้ แม้ฟังไม่รู้เรื่องแต่ก็เพลินเหมือนกันนะ เมื่อถึงสถานีฝนยังตก อย่างที่บอกว่าฝนที่นี่มาพร้อมลม เราก็กางร่มไปและต้องคอยหันร่มหลบลมไปทุลักทุเลพอควร พอเดินไปถึงตัวโบสถ์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักก็เห็นร้านขายของเรียงไป เราได้แต่เดินรอบนอก เพราะมีฝน และเวลาก็เหลือไม่มาก กลัวไปขึ้นรถไฟไม่ทัน เดินกลับลงมา ได้หมวกรัสเซียที่ตามหา ดีใจมากกกก ก่อนขึ้นรถไฟ เดินผ่าน Supermarket จึงแวะเข้าไปหาของฝาก ได้ chocolate เด็กน้อย Signature ของรัสเซียมา ดีใจ แต่ก็หนักน่าดูเลยต้องซื้อกระเป๋าอีกใบ เพราะ ถุงที่เราเตรียมไปก็เล็ก และ Supermarket ที่นี่ไม่มีถุงให้นะจ๊ะ ใครซื้อของต้องเอาถุงไปเองจ๊ะ เสร็จเรื่องราวก็ไปรอรถไฟเหมือนเดิม ลุ้นชานลาลาเอาที่ป้ายไฟ แต่ส่วนใหญ่ จะเข้าชานชาลาที่ 1
กลับมาถึงสถานี ทบทวนโปรแกรมปรากฏว่ายังไม่ได้ไปอีกหลายที่เลย เช่น พิพิธภัณฑ์พระราชวังคุสโกโว (Kuskovo Misaim Estate) ซึ่งนับเป็น “แวร์ซายน์แห่งรัสเซีย” / มหาวิหารโดมทองเซนต์ซาเวียร์ (Cathedral of Christ the Savior) (Храм Христа Спасителя) / วิหารเซนต์บาซิล (St Basil’s Cathedral) (Собор Василия Блаженного) แต่เวลาไม่ทันแล้ว เลยตัดสินใจว่าจะไปที่ใกล้ ๆ แล้วกัน เลยตกลงจะร่ำลามอสโควกันที่แวะวิหารเซนต์บาซิล (St Basil’s Cathedral) (Собор Василия Блаженного) หรือโบสถ์หัวหอม ซึ่งเราเยี่ยมเยียนในวันแรกนั่นเอง เพราะที่นี่เราได้แต่ชมความงามด้านนอก ยังไม่ได้เข้าชมความงามด้านในเลย สงสัยวันนี้เห็นเดินไม่มากพอ ขึ้นรถไฟฟ้าได้เลยพากันเดินหลงอ้อมไปอีกเป็นกิโลเลยทีเดียว ประเด็นเดินไกลไม่เท่าไหร่ แต่ฝนและลมนี่ซิ เล่นเอาหนาวสั่นกันทั้งทีม พอมาถึงก็รีบหาที่ซื้อตั๋วเข้าชมในอาคารเลย สวยงามจริง กะว่าจะเดินจนโบสถ์ปิดเลย ก็ได้ดังใจ เพราะเราเดินชมกันจนเค้าปิดไฟไล่ ต้องรีบหาทางออกกันใหญ่ นับว่าวันนี้เราได้ชมโบสถ์หัวหอมท่ามกลางสายฝน และแน่นอนว่าเมื่อมาถึงที่นี่ ไอติมกุมเป็นสิ่งที่เราไม่พลาด 555 และเพราะวันนี้เป็นวันสั่งลาเลยจัดมาคนละ 2 เล๊ยยย หุ หุ จากนั้นก็พากันขึ้น Metro กลับสถานีรถไฟ ไปเจอน้องปอ เพื่อนใหม่ที่มางานวิ่งด้วยกัน ก่อนอื่นทันทีที่ไปถึงเราก็เปลี่ยนรองเท้าและถุงเท้าทันที ไม่งั้นคืนนี้คงแย่ เพราะถุงเท้ารองเท้าเปียกน้ำหนักมาก เอาแระเป๋าได้ ก็เปิดกระเป๋าจัดการกันตรงนั้น จากนั้นก็พากันขึ้นรถไฟไปเซ็นปีเตอร์เบิร์ก
รถไฟที่เราใช้ในการเดินทางเป็นรถไฟที่เรียกว่า “คูเป้” คือ เป็นห้อง ๆ 1 นอนกันได้ 4 คนเป็นเตียงบนล่าง มีไฟและที่ชาร์ทไฟพร้อม เหมือนรถไฟใหม่บ้านเราเลย ด้วยความที่เป็นคนตัวใหญ่ จึงได้สิทธิ์นอนเตียงล่าง แฮ่... สิ่งแรกที่ทุกคนทำคือ พยายามชาร์ทไฟ แต่ปรากฏไม่มีไฟ เซ็งไปตาม ๆ กัน เพราะพรุ่งนี้ต้องใช้โทรศัพท์ทั้งวัน และเรายังเข้าที่พักไม่ได้ด้วย แต่คงเพราะเพลีย พอหัวถึงหมอนทุกคนก็หลับสบาย ไม่มีใครสนใจเรื่องชาร์ทแบตอีกเลย จะไม่สลบยังไงไหว วันนี้ก็เดินไม่น้อยกว่า 20 กิโลเช่นเดิม นี่อยู่นานกว่านี้ กล้ามขาจะชัดมาก 555
#MoscowMarathon