ยาดอน ซานโช ดาวรุ่งจากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ถูกจารึกชื่อว่าเป็นนักเตะที่เกิดหลังปี 2000 คนแรกที่ได้ติดธงสิงโตคำรามทีมชาติอังกฤษ เขาเป็นเด็กหนุ่มไฟแรงคนล่าสุดที่บุนเดสลีกามีส่วนช่วยบ่มเพาะฝีเท้าจนก้าวขึ้นมามีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ
หลังย้ายจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้มาซบทีมเสือเหลือง ดอร์ทมุนด์ เด็กหนุ่มฝีเท้าดีวัยเพียง 18 ปีรายนี้ก็กลายเป็นดาวดังในลีกสูงสุดของเยอรมนี ลีกที่นักเตะดาวรุ่งมากมายถือกำเนิดขึ้น จึงเรียกได้ว่าบุนเดสลีกาเป็นเวทีที่เจ๋งที่สุดในโลกสำหรับผู้เล่นดาวรุ่งเปี่ยมพรสวรรค์ที่เริ่มฉายแววในอาชีพค้าแข้ง หากใครยังไม่เชื่อ วันนี้เราจะพาไปรู้จักเหล่าดาวรุ่งที่เริ่มต้นออกบินจนเปล่งแสงประกายได้ในเวทีฟุตบอลลีกเยอรมันแห่งนี้
ยาดอน ซานโช
สโมสร: โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
อายุ: 18 ปี
ตำแหน่ง: ปีก

งานนี้แมนฯ ซิตี้คงได้แต่หัวเสียที่ปล่อยให้ซานโชหลุดมือไปอยู่กับทีมเสือเหลือง เด็กหนุ่มชาวลอนดอนถือเป็นคลื่นลูกใหม่ของวงการลูกหนังที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง การตัดสินใจเลือกเส้นทางอาชีพค้าแข้งด้วยการโยกซบทีมเสือเหลืองในเดือนสิงหาคมปี 2017 เป็นการย้ายทีมที่แทบไม่มีใครสนใจเลยด้วยซ้ำ แต่ทว่านี่กลับเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของซานโชเลย
ฤดูกาลที่แล้วซานโชเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับบุนเดสลีกาด้วยการเป็นนักเตะอังกฤษอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูในลีกสูงสุดของเยอรมนีได้ พร้อมกับคว้ารางวัล “Rookie Award” ประจำเดือนมกราคม ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้นักเตะดาวรุ่งที่อายุไม่เกิน 23 ปี ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลและสำหรับผู้เล่นที่ไม่เคยลงสนามในบุนเดสลีกามาก่อน (สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับรางวัลนี้ได้ที่
http://www.rookie-award.com/en/)
ในฤดูกาลนี้เขาก็กำลังทำสถิติแซงหน้าดาวเตะระดับโลกอย่างคริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ เลโอเนล เมสซี่ ด้วยการทำแอสซิสต์ในลีกไปแล้วถึง 5 ครั้ง สูงที่สุดในทวีปยุโรป ณ ตอนนี้ จนแกเร็ธ เซาธ์เกตมองเขาเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตทีมชาติอังกฤษ
“เขากล้าหาญมากพอที่จะไปเล่นในต่างแดน” หัวเรือใหญ่ทีมชาติอังกฤษกล่าวชมหลังเรียกซานโชติดทีมชาติอังกฤษลุยศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบกับสเปนและโครเอเชียในเดือนตุลาคม “เขาได้เล่นในแชมเปียนส์ลีกไปถึง 2 ครั้งและก้าวไปเล่นในบุนเดสลีกา ได้ลงเล่นกับสโมสรที่ยิ่งใหญ่ต่อหน้าแฟนบอลมหาศาลทุกสัปดาห์ เขามีจิตใจที่แข็งแกร่ง รับมือกับทุกสิ่งได้ และก็ทำได้ดีอีกด้วย”
เบนฌาแม็ง ปาวาร์
สโมสร: เฟาเอฟเบ ชตุทท์การ์ท
อายุ: 22 ปี
ตำแหน่ง: กองหลัง

ถ้าให้พูดกันตรงๆ สำหรับแฟนบอลลีลแล้ว นอกจากทรงผมหยิกฟูทรงเสน่ห์แล้ว ปาวาร์ก็แทบไม่ได้โดดเด่นอะไรเลย กองหลังสารพัดประโยชน์รายนี้เริ่มเล่นฟุตบอลที่เมืองบ้านเกิด “ชูมอนต์” คนบ้านเดียวกันกับ ฌอง-ปิแอร์ ปาแปง ตำนานศูนย์หน้าบาเยิร์น มิวนิค ดีกรีเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ ปาวาร์ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะในทีมชุดใหญ่ของลีลในฤดูกาล 2014/15 แต่เขาได้โอกาสลงเล่นเพียง 21 นัดเท่านั้นและแทบไม่เคยได้โอกาสลงเป็นตัวจริง เขาจึงพยายามหาลู่ทางใหม่ๆ ก่อนเก็บข้าวของมาซบทีม “ม้าขาว” ชตุทท์การ์ทในหน้าร้อนปี 2016
การย้ายไปเล่นในต่างแดนและลดชั้นลงไปเล่นในดิวิชั่นที่ต่ำลงดูจะเป็นเรื่องเสี่ยงไม่น้อย แต่สำหรับปาวาร์แล้วมันช่างคุ้มค่า “ช่วงแรกๆ โค้ชด่าผมเยอะเลย” ปาวาร์กล่าว
จากนั้นเขาก็กลายเป็นนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น มีส่วนช่วยพาทีมม้าขาวเลื่อนชั้นกลับไปเล่นในลีกสูงสุดได้อีกครั้ง จนมาถึงฤดูกาล 2017/18 ปาวาร์ได้ลงสนามทุกนาทีในเกมบุนเดสลีกา ซึ่งนั่นเป็นจุดพลิกชีวิตของเขาจากหลังมือเป็นหน้ามือ เมื่อเขาถูกเรียกติดธงทีมชาติฝรั่งเศสเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2017 เขายังเป็นตัวเลือกแรกในตำแหน่งแบ็คขวาของทีมตราไก่เจ้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2018
ทั้งที่เมื่อ 2 ปีก่อน ปาวาร์ยังนั่งดูการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2016 กับเพื่อนๆ ที่ลีลอยู่เลย โดยเขาเชื่อว่าเป็นเพราะการที่เขาได้เล่นในตำแหน่งที่ถนัดในทีมม้าขาว ซึ่งก็คือตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คนั่นเอง และเช่นเดียวกับซานโช ปาวาร์สามารถคว้ารางวัล “Rookie Award” ประจำเดือนกุมภาพันธ์ (ต่อจากซานโช) ในฐานะนักเตะดาวรุ่งที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในสีเสื้อทีมม้าขาว ชตุทท์การ์ท
โกร็องแต็ง โตลิสโซ่
สโมสร: บาเยิร์น มิวนิค
อายุ: 24 ปี
ตำแหน่ง: กองกลาง

ต้นกำเนิดจากฝรั่งเศสเหมือนกัน แต่ช่างแตกต่างกับปาวาร์ กรณีของโตลิสโซ่นั้นเคยเป็นตัวจริงของลียงมาก่อนและผ่านการลงสนามในลีกเอิงกว่า 100 นัดก่อนจะย้ายมาค้าแข้งในเยอรมนี แต่สิ่งที่เหมือนกันคือทั้งคู่มีความสามารถหลากหลายจนพาพวกเขามาถึงจุดนี้ได้ โตลิสโซ่ลงประเดิมสนามกับลียงเป็นครั้งแรกในฤดูกาล 2013/14 ในตำแหน่งแบ็คขวา แต่พอถูกเปลี่ยนตัววิ่งออกจากม้านั่งสำรองลงไปเท่านั้นแหละผู้ตัดสินก็เป่านกหวีดหมดเวลาพอดี เล่นเอาผู้ชมทางบ้านแทบไม่ทันได้เห็นเขาด้วยซ้ำ โตลิสโซ่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผลผลิตนักเตะดาวรุ่งฝีเท้าดีของโรงเรียนฝึกเยาวชนลียง เขาได้รับหน้าที่สวมปลอกแขนกัปตันนำทัพทีมแชมป์ลีกเอิง 7 สมัยอยู่หลายต่อหลายครั้ง และกลายมาเป็นนักเตะที่แฟนบอลรักในรั้วทีมเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค
ส่วนในนามทีมชาติฝรั่งเศสนั้นต้องยอมรับว่าไม่ใช่งานง่ายเลยที่เขาจะเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงในแผงมิดฟิลด์ได้จาก ปอล ป็อกบา เอ็นโกโล ก็องเต้ หรือ แบลส มาตุยดี้ แต่เขาก็ยังได้รับโอกาสจากดิดิเยร์ เดชองส์ให้ลงเล่นอยู่บ้าง รวมทั้งเกมสำคัญอย่างนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย
คาร์โล อันเชล็อตติเป็นผู้เซ็นสัญญาคว้าตัวโตลิสโซ่มาเล่นในเยอรมนีเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2017 โดยได้กล่าวว่าโตลิสโซ่เป็นมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดในตลาดซื้อขายนักเตะตอนนั้น ส่วนเรื่องค่าตัวของโตลิสโซ่อันนี้ต้องบอกว่าสูงสุดเป็นสถิติใหม่ของบุนเดสลีกาและของบาเยิร์นเลยทีเดียว ด้านฟอร์มในสนามเขาพัฒนาฝีเท้าและโชว์ฟอร์มดีขึ้นเรื่อยๆ ในชุดทีมเสือใต้ จนกระทั่งมาได้รับบาดเจ็บที่เอ็นหัวเข่าจากเกมบุนเดสลีกานัดที่ 3 ที่พบกับไบเออร์ เลเวอร์คูเซน แต่ก็คงพักเจ็บไม่นาน และจะกลับมาฟาดแข้งต่อได้ในเร็ววันอย่างแน่นอน ทุกวันนี้โตลิสโซ่ได้รับการยกย่องว่าเป็นมิดฟิลด์กลางสนามที่อายุไม่เกิน 25 ปีที่ดีที่สุดในโลกคนหนึ่ง
ตอร์กาน อาซาร์
สโมสร: โบรุสเซีย เมินเชนกลัดบัค
อายุ: 25 ปี
ตำแหน่ง: กองหน้า

ตอร์กาน อาซาร์นั้นสลัดข้อครหาที่ว่าสโมสรเชลซีเซ็นสัญญาคว้าตัวเขาเพียงเพราะเป็นน้องชายของเอแดนทิ้งไปได้สำเร็จ โดยตอร์กานสวนกลับไปว่า “เชลซีไม่ได้เซ็นสัญญาน้องชายของนักเตะทุกคนหรอกนะ ไม่เห็นพวกเขาจะเซ็นสัญญากับน้องชายแฟรงค์ แลมพาร์ด หรือ จอห์น เทอร์รีเลย พวกเขาเซ็นสัญญากับผมเพราะผมมีศักยภาพ พวกเขาต้องจ่ายค่าตัวผมให้กับล็องส์และพวกเขาทำถูกต้องแล้ว ผมอาจไม่ได้เดินตามรอยเท้าเอแดน แต่ผมก็ค่อยๆ พัฒนาไปทีละขั้น” เส้นทางของตอร์กานก็คือการย้ายไปเล่นให้ซูลเต้ วาเรเกม ทีมในลีกบ้านเกิดด้วยสัญญายืมตัว 2 ปี ก่อนจะถูกยืมตัวมาเล่นกับโบรุสเซีย เมินเชนกลัดบัคอีกหนึ่งปี และเมื่อทีม “สิงห์หนุ่ม” มองเห็นศักยภาพในตัวเขาก็ไม่ลังเลที่จะล่าลายเซ็นคว้าตัวตอร์กานแบบถาวร แล้วหลังจากนั้นแข้งดาวรุ่งเบลเยียมรายนี้ก็ไม่เคยหันหลังกลับไปอีกเลย
ในฤดูกาล 2017/18 ตอร์กานก็ก้าวพ้นออกมาจากเงาของพี่ชายของเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ในซีซั่นที่ผ่านมาซึ่งเป็นฤดูกาลที่ 4 บนเวทีบุนเดสลีกาของปีกวัยเบญจเพศ เขาทำสถิติติดทำเนียบผู้เล่นที่ทั้งยิงและทำแอสซิสต์สูงสุดในบุนเดสลีกา แถมยังลงเล่นครบทุกเกม โดยมีเพียงนัดเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้ลงสนามเป็นตัวจริง แต่ในนัดนั้นเขาก็ถูกเปลี่ยนตัวลงมาซัดประตูชัยให้กลัดบัคเฉือนชนะแฮร์ธ่า เบอร์ลินไปได้ 1-0 ประตู เป็นความสามารถที่ตอร์กานเพิ่งแสดงให้โลกได้เห็นในสีเสื้อทีมกลัดบัคเท่านั้น นอกจากนี้เขายังถูกเรียกติดทีมชาติทุกครั้งภายใต้การคุมทีมของโรแบร์โต มาร์ติเนซ ตั้งแต่ฟุตบอลยูโร 2016 จนกระทั่งได้เล่นร่วมกับอาซาร์ผู้พี่ในฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ซึ่งพวกเขาคว้าอันดับ 3 มาครองได้ ทีนี้โลกจะได้รู้สักทีว่าตระกูลอาซาร์ไม่ได้มีแค่เอแดนเพียงเท่านั้น
ยุสซุฟ โพลเซ่น
สโมสร: แอร์เบ ไลป์ซิก
อายุ: 24 ปี
ตำแหน่ง: ศูนย์หน้าตัวเป้า

หากแอร์เบ ไลป์ซิกจะสร้างหอเกียรติยศขึ้นมาไว้ในสโมสร รับรองว่าหนึ่งในนั้นต้องมีเรื่องราวของยุสซุฟ โพลเซ่นรวมอยู่ด้วย โพลเซ่นลงเล่นให้กับไลป์ซิกไปแล้วเกือบ 200 นัดนับตั้งแต่ย้ายมาจากสโมสรลิงบี้ในเดนมาร์กเมื่อหน้าร้อนปี 2013 และยิงไปหลายต่อหลายประตูพาไลป์ซิกเลื่อนชั้นจากดิวิชั่น 3 มาดิวิชั่น 2 จนกระทั่งได้ขึ้นมาเล่นในบุนเดสลีกาอย่างทุกวันนี้
โพลเซ่นติดธงทีมชาติเดนมาร์กตั้งแต่เล่นอยู่ในบุนเดสลีกา 2 และเป็นกำลังหลักในทีมชาติเสมอมแม้จะเคยปฏิเสธการรับใช้ชาติลุยศึกโอลิมปิกปี 2016 เพื่อโฟกัสกับต้นสังกัดที่เปรียบเหมือนบ้านหลังที่สองของเขา เจ้าตัวติดธงทีมชาติไปทั้งสิ้น 35 ครั้ง ได้โอกาสลงเล่นฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซียไป 3 นัด และเพิ่งจะอายุได้เพียง 24 ปี ในสีเสื้อทีมไลป์ซิก โพลเซ่นยิงรวมทั้งสิ้น 45 ประตู ถือว่าไม่เลวเลยสำหรับศูนย์หน้าตัวเป้าที่สูงถึง 193 ซม. ผู้นี้
credit : www.siamsport.co.th
บุนเดสลีกา แหล่งบ่มเพาะฝีเท้าดาวรุ่งที่เจ๋งที่สุดในโลก
หลังย้ายจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้มาซบทีมเสือเหลือง ดอร์ทมุนด์ เด็กหนุ่มฝีเท้าดีวัยเพียง 18 ปีรายนี้ก็กลายเป็นดาวดังในลีกสูงสุดของเยอรมนี ลีกที่นักเตะดาวรุ่งมากมายถือกำเนิดขึ้น จึงเรียกได้ว่าบุนเดสลีกาเป็นเวทีที่เจ๋งที่สุดในโลกสำหรับผู้เล่นดาวรุ่งเปี่ยมพรสวรรค์ที่เริ่มฉายแววในอาชีพค้าแข้ง หากใครยังไม่เชื่อ วันนี้เราจะพาไปรู้จักเหล่าดาวรุ่งที่เริ่มต้นออกบินจนเปล่งแสงประกายได้ในเวทีฟุตบอลลีกเยอรมันแห่งนี้
ยาดอน ซานโช
สโมสร: โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
อายุ: 18 ปี
ตำแหน่ง: ปีก
งานนี้แมนฯ ซิตี้คงได้แต่หัวเสียที่ปล่อยให้ซานโชหลุดมือไปอยู่กับทีมเสือเหลือง เด็กหนุ่มชาวลอนดอนถือเป็นคลื่นลูกใหม่ของวงการลูกหนังที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง การตัดสินใจเลือกเส้นทางอาชีพค้าแข้งด้วยการโยกซบทีมเสือเหลืองในเดือนสิงหาคมปี 2017 เป็นการย้ายทีมที่แทบไม่มีใครสนใจเลยด้วยซ้ำ แต่ทว่านี่กลับเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของซานโชเลย
ฤดูกาลที่แล้วซานโชเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับบุนเดสลีกาด้วยการเป็นนักเตะอังกฤษอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูในลีกสูงสุดของเยอรมนีได้ พร้อมกับคว้ารางวัล “Rookie Award” ประจำเดือนมกราคม ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้นักเตะดาวรุ่งที่อายุไม่เกิน 23 ปี ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลและสำหรับผู้เล่นที่ไม่เคยลงสนามในบุนเดสลีกามาก่อน (สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับรางวัลนี้ได้ที่ http://www.rookie-award.com/en/)
ในฤดูกาลนี้เขาก็กำลังทำสถิติแซงหน้าดาวเตะระดับโลกอย่างคริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ เลโอเนล เมสซี่ ด้วยการทำแอสซิสต์ในลีกไปแล้วถึง 5 ครั้ง สูงที่สุดในทวีปยุโรป ณ ตอนนี้ จนแกเร็ธ เซาธ์เกตมองเขาเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตทีมชาติอังกฤษ
“เขากล้าหาญมากพอที่จะไปเล่นในต่างแดน” หัวเรือใหญ่ทีมชาติอังกฤษกล่าวชมหลังเรียกซานโชติดทีมชาติอังกฤษลุยศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบกับสเปนและโครเอเชียในเดือนตุลาคม “เขาได้เล่นในแชมเปียนส์ลีกไปถึง 2 ครั้งและก้าวไปเล่นในบุนเดสลีกา ได้ลงเล่นกับสโมสรที่ยิ่งใหญ่ต่อหน้าแฟนบอลมหาศาลทุกสัปดาห์ เขามีจิตใจที่แข็งแกร่ง รับมือกับทุกสิ่งได้ และก็ทำได้ดีอีกด้วย”
เบนฌาแม็ง ปาวาร์
สโมสร: เฟาเอฟเบ ชตุทท์การ์ท
อายุ: 22 ปี
ตำแหน่ง: กองหลัง
ถ้าให้พูดกันตรงๆ สำหรับแฟนบอลลีลแล้ว นอกจากทรงผมหยิกฟูทรงเสน่ห์แล้ว ปาวาร์ก็แทบไม่ได้โดดเด่นอะไรเลย กองหลังสารพัดประโยชน์รายนี้เริ่มเล่นฟุตบอลที่เมืองบ้านเกิด “ชูมอนต์” คนบ้านเดียวกันกับ ฌอง-ปิแอร์ ปาแปง ตำนานศูนย์หน้าบาเยิร์น มิวนิค ดีกรีเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ ปาวาร์ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะในทีมชุดใหญ่ของลีลในฤดูกาล 2014/15 แต่เขาได้โอกาสลงเล่นเพียง 21 นัดเท่านั้นและแทบไม่เคยได้โอกาสลงเป็นตัวจริง เขาจึงพยายามหาลู่ทางใหม่ๆ ก่อนเก็บข้าวของมาซบทีม “ม้าขาว” ชตุทท์การ์ทในหน้าร้อนปี 2016
การย้ายไปเล่นในต่างแดนและลดชั้นลงไปเล่นในดิวิชั่นที่ต่ำลงดูจะเป็นเรื่องเสี่ยงไม่น้อย แต่สำหรับปาวาร์แล้วมันช่างคุ้มค่า “ช่วงแรกๆ โค้ชด่าผมเยอะเลย” ปาวาร์กล่าว
จากนั้นเขาก็กลายเป็นนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น มีส่วนช่วยพาทีมม้าขาวเลื่อนชั้นกลับไปเล่นในลีกสูงสุดได้อีกครั้ง จนมาถึงฤดูกาล 2017/18 ปาวาร์ได้ลงสนามทุกนาทีในเกมบุนเดสลีกา ซึ่งนั่นเป็นจุดพลิกชีวิตของเขาจากหลังมือเป็นหน้ามือ เมื่อเขาถูกเรียกติดธงทีมชาติฝรั่งเศสเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2017 เขายังเป็นตัวเลือกแรกในตำแหน่งแบ็คขวาของทีมตราไก่เจ้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2018
ทั้งที่เมื่อ 2 ปีก่อน ปาวาร์ยังนั่งดูการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2016 กับเพื่อนๆ ที่ลีลอยู่เลย โดยเขาเชื่อว่าเป็นเพราะการที่เขาได้เล่นในตำแหน่งที่ถนัดในทีมม้าขาว ซึ่งก็คือตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คนั่นเอง และเช่นเดียวกับซานโช ปาวาร์สามารถคว้ารางวัล “Rookie Award” ประจำเดือนกุมภาพันธ์ (ต่อจากซานโช) ในฐานะนักเตะดาวรุ่งที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในสีเสื้อทีมม้าขาว ชตุทท์การ์ท
โกร็องแต็ง โตลิสโซ่
สโมสร: บาเยิร์น มิวนิค
อายุ: 24 ปี
ตำแหน่ง: กองกลาง
ต้นกำเนิดจากฝรั่งเศสเหมือนกัน แต่ช่างแตกต่างกับปาวาร์ กรณีของโตลิสโซ่นั้นเคยเป็นตัวจริงของลียงมาก่อนและผ่านการลงสนามในลีกเอิงกว่า 100 นัดก่อนจะย้ายมาค้าแข้งในเยอรมนี แต่สิ่งที่เหมือนกันคือทั้งคู่มีความสามารถหลากหลายจนพาพวกเขามาถึงจุดนี้ได้ โตลิสโซ่ลงประเดิมสนามกับลียงเป็นครั้งแรกในฤดูกาล 2013/14 ในตำแหน่งแบ็คขวา แต่พอถูกเปลี่ยนตัววิ่งออกจากม้านั่งสำรองลงไปเท่านั้นแหละผู้ตัดสินก็เป่านกหวีดหมดเวลาพอดี เล่นเอาผู้ชมทางบ้านแทบไม่ทันได้เห็นเขาด้วยซ้ำ โตลิสโซ่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผลผลิตนักเตะดาวรุ่งฝีเท้าดีของโรงเรียนฝึกเยาวชนลียง เขาได้รับหน้าที่สวมปลอกแขนกัปตันนำทัพทีมแชมป์ลีกเอิง 7 สมัยอยู่หลายต่อหลายครั้ง และกลายมาเป็นนักเตะที่แฟนบอลรักในรั้วทีมเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค
ส่วนในนามทีมชาติฝรั่งเศสนั้นต้องยอมรับว่าไม่ใช่งานง่ายเลยที่เขาจะเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงในแผงมิดฟิลด์ได้จาก ปอล ป็อกบา เอ็นโกโล ก็องเต้ หรือ แบลส มาตุยดี้ แต่เขาก็ยังได้รับโอกาสจากดิดิเยร์ เดชองส์ให้ลงเล่นอยู่บ้าง รวมทั้งเกมสำคัญอย่างนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย
คาร์โล อันเชล็อตติเป็นผู้เซ็นสัญญาคว้าตัวโตลิสโซ่มาเล่นในเยอรมนีเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2017 โดยได้กล่าวว่าโตลิสโซ่เป็นมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดในตลาดซื้อขายนักเตะตอนนั้น ส่วนเรื่องค่าตัวของโตลิสโซ่อันนี้ต้องบอกว่าสูงสุดเป็นสถิติใหม่ของบุนเดสลีกาและของบาเยิร์นเลยทีเดียว ด้านฟอร์มในสนามเขาพัฒนาฝีเท้าและโชว์ฟอร์มดีขึ้นเรื่อยๆ ในชุดทีมเสือใต้ จนกระทั่งมาได้รับบาดเจ็บที่เอ็นหัวเข่าจากเกมบุนเดสลีกานัดที่ 3 ที่พบกับไบเออร์ เลเวอร์คูเซน แต่ก็คงพักเจ็บไม่นาน และจะกลับมาฟาดแข้งต่อได้ในเร็ววันอย่างแน่นอน ทุกวันนี้โตลิสโซ่ได้รับการยกย่องว่าเป็นมิดฟิลด์กลางสนามที่อายุไม่เกิน 25 ปีที่ดีที่สุดในโลกคนหนึ่ง
ตอร์กาน อาซาร์
สโมสร: โบรุสเซีย เมินเชนกลัดบัค
อายุ: 25 ปี
ตำแหน่ง: กองหน้า
ตอร์กาน อาซาร์นั้นสลัดข้อครหาที่ว่าสโมสรเชลซีเซ็นสัญญาคว้าตัวเขาเพียงเพราะเป็นน้องชายของเอแดนทิ้งไปได้สำเร็จ โดยตอร์กานสวนกลับไปว่า “เชลซีไม่ได้เซ็นสัญญาน้องชายของนักเตะทุกคนหรอกนะ ไม่เห็นพวกเขาจะเซ็นสัญญากับน้องชายแฟรงค์ แลมพาร์ด หรือ จอห์น เทอร์รีเลย พวกเขาเซ็นสัญญากับผมเพราะผมมีศักยภาพ พวกเขาต้องจ่ายค่าตัวผมให้กับล็องส์และพวกเขาทำถูกต้องแล้ว ผมอาจไม่ได้เดินตามรอยเท้าเอแดน แต่ผมก็ค่อยๆ พัฒนาไปทีละขั้น” เส้นทางของตอร์กานก็คือการย้ายไปเล่นให้ซูลเต้ วาเรเกม ทีมในลีกบ้านเกิดด้วยสัญญายืมตัว 2 ปี ก่อนจะถูกยืมตัวมาเล่นกับโบรุสเซีย เมินเชนกลัดบัคอีกหนึ่งปี และเมื่อทีม “สิงห์หนุ่ม” มองเห็นศักยภาพในตัวเขาก็ไม่ลังเลที่จะล่าลายเซ็นคว้าตัวตอร์กานแบบถาวร แล้วหลังจากนั้นแข้งดาวรุ่งเบลเยียมรายนี้ก็ไม่เคยหันหลังกลับไปอีกเลย
ในฤดูกาล 2017/18 ตอร์กานก็ก้าวพ้นออกมาจากเงาของพี่ชายของเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ในซีซั่นที่ผ่านมาซึ่งเป็นฤดูกาลที่ 4 บนเวทีบุนเดสลีกาของปีกวัยเบญจเพศ เขาทำสถิติติดทำเนียบผู้เล่นที่ทั้งยิงและทำแอสซิสต์สูงสุดในบุนเดสลีกา แถมยังลงเล่นครบทุกเกม โดยมีเพียงนัดเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้ลงสนามเป็นตัวจริง แต่ในนัดนั้นเขาก็ถูกเปลี่ยนตัวลงมาซัดประตูชัยให้กลัดบัคเฉือนชนะแฮร์ธ่า เบอร์ลินไปได้ 1-0 ประตู เป็นความสามารถที่ตอร์กานเพิ่งแสดงให้โลกได้เห็นในสีเสื้อทีมกลัดบัคเท่านั้น นอกจากนี้เขายังถูกเรียกติดทีมชาติทุกครั้งภายใต้การคุมทีมของโรแบร์โต มาร์ติเนซ ตั้งแต่ฟุตบอลยูโร 2016 จนกระทั่งได้เล่นร่วมกับอาซาร์ผู้พี่ในฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ซึ่งพวกเขาคว้าอันดับ 3 มาครองได้ ทีนี้โลกจะได้รู้สักทีว่าตระกูลอาซาร์ไม่ได้มีแค่เอแดนเพียงเท่านั้น
ยุสซุฟ โพลเซ่น
สโมสร: แอร์เบ ไลป์ซิก
อายุ: 24 ปี
ตำแหน่ง: ศูนย์หน้าตัวเป้า
หากแอร์เบ ไลป์ซิกจะสร้างหอเกียรติยศขึ้นมาไว้ในสโมสร รับรองว่าหนึ่งในนั้นต้องมีเรื่องราวของยุสซุฟ โพลเซ่นรวมอยู่ด้วย โพลเซ่นลงเล่นให้กับไลป์ซิกไปแล้วเกือบ 200 นัดนับตั้งแต่ย้ายมาจากสโมสรลิงบี้ในเดนมาร์กเมื่อหน้าร้อนปี 2013 และยิงไปหลายต่อหลายประตูพาไลป์ซิกเลื่อนชั้นจากดิวิชั่น 3 มาดิวิชั่น 2 จนกระทั่งได้ขึ้นมาเล่นในบุนเดสลีกาอย่างทุกวันนี้
โพลเซ่นติดธงทีมชาติเดนมาร์กตั้งแต่เล่นอยู่ในบุนเดสลีกา 2 และเป็นกำลังหลักในทีมชาติเสมอมแม้จะเคยปฏิเสธการรับใช้ชาติลุยศึกโอลิมปิกปี 2016 เพื่อโฟกัสกับต้นสังกัดที่เปรียบเหมือนบ้านหลังที่สองของเขา เจ้าตัวติดธงทีมชาติไปทั้งสิ้น 35 ครั้ง ได้โอกาสลงเล่นฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซียไป 3 นัด และเพิ่งจะอายุได้เพียง 24 ปี ในสีเสื้อทีมไลป์ซิก โพลเซ่นยิงรวมทั้งสิ้น 45 ประตู ถือว่าไม่เลวเลยสำหรับศูนย์หน้าตัวเป้าที่สูงถึง 193 ซม. ผู้นี้
credit : www.siamsport.co.th