สวัสดีค่ะ
"พี่หยอดวัดยาง" แวะมาส่งมินิรีวิว การเดินทาง Bangkok-Tokyo โดยสายการบิน Japan Airlines ค่ะ
เพิ่งมีโอกาสได้เดินทางญี่ปุ่นเมื่อไม่นานมานี้... ปกติก็จะใช้บริการการบินไทยอยู่เรื่องๆ หรือไม่ก็ low cost อย่าง NokScoot หรือ AirAsia (เพราะเรามันนักท่องเที่ยวสายประหยัด 555) แต่มาคราวนี้ลองเปลี่ยนมาใช้บริการสายการบินแห่งชาติของประเทศญี่ปุ่นกันบ้างค่ะ

สำหรับการเดินทางครั้งนี้ รายละเอียดตามนี้เลยค่ะ
- ขาไป JL034 Bangkok - Tokyo (Haneda) ออกเดินทางเวลา 9:55 pm ถึงที่หมาย 6:05 am
- ขากลับ JL033 Tokyo (Haneda) - Bangkok ออกเดินทางเวลา 12:40 am ถึงที่หมาย 5:00 am
เมื่อมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ก็พุ่งตัวไป check-in ที่ Row R ได้เลยค่ะ ใช้เวลาในการ check-in ไม่นานถึงแม้ว่าแถวจะยาวก็ตาม
สำหรับสายการบิน JAL ผู้โดยสายที่นั่ง Economy สามารถโหลดกระเป๋าใต้เครื่องได้ 2 ใบค่ะ ใบละไม่เกิน 23 กิโลกรัม
ส่วนกระเป๋าที่จะหิ้วขึ้นเครื่อง (Carry-on) ให้น้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม ค่ะ

check-in กันเรียบร้อยก็เข้าไปข้างในกันเลย ใครอยากช๊อปก็จัดไป หรือถ้ามีเวลามาหน่อยก็ไปนั่งรอหาไรทานรองท้องไปก่อนได้
สำหรับครั้งนี้ เราไปขึ้นเครื่องกันที่ประตู F6 ค่ะ Boarding Time 21.25 น.
เครื่องออกตรงเวลาเป๊ะ ดีงามมากมายค่ะ

เอาล่ะขึ้นเครื่องกันแล้ว...
จากที่เดินผ่าน สำหรับเที่ยวบินนี้มีที่นั่ง 3 แบบคือ Business / Premium Economy / Ecomomy
และแน่นอนค่ะ "พี่หยอด" นั่งแบบ Economy !! 555
แต่ความพิเศษอยู่ที่สายการบิน JAL นี้ได้รับคัดเลือกโดย Skytrax ให้เป็นสายการบินที่มี World’s No.1 Economy Seat ด้วยนะ
เครื่องที่เราใช้โดยสายกันครั้งนี้เป็น Boeing 777-200 ที่นั่งแบบ 3-4-2 เพดานสูงโปร่งสบาย
ส่วนตัวแล้วชอบโทนสีของ JAL มากๆเลยนะ ดำ-แดง เท่ห์ดี เบาะนั่งก็เช่นกัน
ความเป็น World’s No.1 Economy Seat นั่นคือดีงามเพราะที่นั่ง JAL SKY WIDER กว้างขวางใช้ได้เลยทีเดียว (84-86 cm.) เบาะก็กว้าง (48 cm.) แบบว่ามีที่ขยับได้ 555 ที่เบาะจะมีหมอน ผ้าห่ม และหูฟังวางไว้ให้เรียบร้อย
ส่วน Safety Demonstration เป็นแนวญี่ปุ๊น ญี่ปุ่นค่ะ เป็นการ์ตูน animation แบบเนิบๆนิดนึง เมื่อเทียบกับสายการบินอื่นอาจจะไม่หวือหวามากนัก
แต่รวมๆแล้วน่ารักดี เข้าใจง่ายค่ะ ส่วนพนักงานบริการบนเครื่องก็น่ารักทุกคนค่ะ บริการแบบนุ่มนวลสไตล์ญี่ปุ่น
ทุกที่นั่งมีปลั๊ก AC power outlet ไว้ให้เสียบชาร์ตตามใจชอบ และมี inflight entertainment จอ touch screen ลื่นปรื๊ด 10.6 นิ้ว
Flight นี้ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมงค่ะ มีเสริฟอาหารมื้อหลัก 1 มื้อ และเป็นขนมกุบกิบอีก 1 ครั้ง
สำหรับอาหารมื้อหลักนี้จะเสริฟเลยหลังจากที่เครื่องขึ้นบินค่ะ
มื้อนี้ไม่มีตัวเลือกนะคะ มีอย่างเดียวคือข้าวปลาย่าง ที่เสริฟมาพร้อมกับ บะหมี่เย็น ปลาหมึกอะไรซักอย่าง และผลไม้สด
ส่วนเครื่องดื่มก็มีทั้งน้ำผลไม้ น้ำอัดลม และแอลกอฮอล์ แต่ที่เห็นในเมนูเครื่องดื่มอันแรกเลย ก็คือ "JAL Original Drink - SKY TIME Kiwi" ค่ะ
ก็เลยลองจัดมาชิมซักหน่อย มันก็คือน้ำกีวีนี่แหละค่ะ
สำหรับมื้อนี้ รวมๆแล้วอร่อยใช้ได้เลยค่ะ

[img]
ทานเสร็จแล้วยังไม่ค่อยง่วง เลยหาหนังดูซักเรื่อง ไหนๆ ก็กำลังจะไปญี่ปุ่นอยู่แล้ว เลยเลือกหนังญี่ปุ่นซะเลย
ไถจอไปๆมาๆ ก็ไปเจอกับเรื่องนี้เลยค่ะ
"Over Drive" หนังเรื่องนี้เพิ่งออกฉายเมื่อช่วงต้นปี 2018 นี่เอง ใหม่มากๆ เป็นเรื่องราวของการแข่งขันงานแข่งรถแรลลี่เซย์โกะคัพ ในประเทศญี่ปุ่น โดยมีพี่น้อง 2 คนเป็นคนเดินเรื่อง ทั้งคู่อยู่ในทีมที่ชื่อว่า Supika คนนึงเป็นคือหัวหน้าช่างกลและวิศวกรของทีม ส่วนอีกคนเป็นนักขับรถแข่ง
เรื่องราวน่าสนใจ ดราม่าระดับนึงเลยล่ะ แถมในเรื่องยังมีวิวสวยๆของจังหวัดต่างๆในประเทศญี่ปุ่นด้วย ลองไปหาดูกันได้นะคะ
ปล. พี่น้องคู่นี้น่าตาดีมากกก 5555

ดูหนังจบแล้วก็ได้เวลานอนค่ะ หลับยาวๆไปเลย เบาะนั่งสบาย สามารถปรับมาพิงคอได้ ขายืดได้เต็มที่
แถม Flight นี้ยังถึงที่หมายเร็วกว่าเวลาซะอีก ดีงามมากค่ะ

เป็นครั้งแรกที่ใช้บริการของ JAL ประทับใจมากค่ะ คงต้องหาโอกาสใช้บริการอีกซักครั้ง (ถ้าราคาไม่โหดร้ายจนเกินไป)
------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ...
หากสนใจอ่านรีวิวอื่นๆ จิ้มเข้าไปดูกันได้ที่
"เที่ยวรัวรัว"
www.facebook.com/travelruarua
[CR] เที่ยวรัวรัว : Bangkok - Tokyo (Haneda) สายการบิน Japan Airlines (JAL)
"พี่หยอดวัดยาง" แวะมาส่งมินิรีวิว การเดินทาง Bangkok-Tokyo โดยสายการบิน Japan Airlines ค่ะ
เพิ่งมีโอกาสได้เดินทางญี่ปุ่นเมื่อไม่นานมานี้... ปกติก็จะใช้บริการการบินไทยอยู่เรื่องๆ หรือไม่ก็ low cost อย่าง NokScoot หรือ AirAsia (เพราะเรามันนักท่องเที่ยวสายประหยัด 555) แต่มาคราวนี้ลองเปลี่ยนมาใช้บริการสายการบินแห่งชาติของประเทศญี่ปุ่นกันบ้างค่ะ
สำหรับการเดินทางครั้งนี้ รายละเอียดตามนี้เลยค่ะ
- ขาไป JL034 Bangkok - Tokyo (Haneda) ออกเดินทางเวลา 9:55 pm ถึงที่หมาย 6:05 am
- ขากลับ JL033 Tokyo (Haneda) - Bangkok ออกเดินทางเวลา 12:40 am ถึงที่หมาย 5:00 am
เมื่อมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ก็พุ่งตัวไป check-in ที่ Row R ได้เลยค่ะ ใช้เวลาในการ check-in ไม่นานถึงแม้ว่าแถวจะยาวก็ตาม
สำหรับสายการบิน JAL ผู้โดยสายที่นั่ง Economy สามารถโหลดกระเป๋าใต้เครื่องได้ 2 ใบค่ะ ใบละไม่เกิน 23 กิโลกรัม
ส่วนกระเป๋าที่จะหิ้วขึ้นเครื่อง (Carry-on) ให้น้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม ค่ะ
check-in กันเรียบร้อยก็เข้าไปข้างในกันเลย ใครอยากช๊อปก็จัดไป หรือถ้ามีเวลามาหน่อยก็ไปนั่งรอหาไรทานรองท้องไปก่อนได้
สำหรับครั้งนี้ เราไปขึ้นเครื่องกันที่ประตู F6 ค่ะ Boarding Time 21.25 น.
เครื่องออกตรงเวลาเป๊ะ ดีงามมากมายค่ะ
เอาล่ะขึ้นเครื่องกันแล้ว...
จากที่เดินผ่าน สำหรับเที่ยวบินนี้มีที่นั่ง 3 แบบคือ Business / Premium Economy / Ecomomy
และแน่นอนค่ะ "พี่หยอด" นั่งแบบ Economy !! 555
แต่ความพิเศษอยู่ที่สายการบิน JAL นี้ได้รับคัดเลือกโดย Skytrax ให้เป็นสายการบินที่มี World’s No.1 Economy Seat ด้วยนะ
เครื่องที่เราใช้โดยสายกันครั้งนี้เป็น Boeing 777-200 ที่นั่งแบบ 3-4-2 เพดานสูงโปร่งสบาย
ส่วนตัวแล้วชอบโทนสีของ JAL มากๆเลยนะ ดำ-แดง เท่ห์ดี เบาะนั่งก็เช่นกัน
ความเป็น World’s No.1 Economy Seat นั่นคือดีงามเพราะที่นั่ง JAL SKY WIDER กว้างขวางใช้ได้เลยทีเดียว (84-86 cm.) เบาะก็กว้าง (48 cm.) แบบว่ามีที่ขยับได้ 555 ที่เบาะจะมีหมอน ผ้าห่ม และหูฟังวางไว้ให้เรียบร้อย
ส่วน Safety Demonstration เป็นแนวญี่ปุ๊น ญี่ปุ่นค่ะ เป็นการ์ตูน animation แบบเนิบๆนิดนึง เมื่อเทียบกับสายการบินอื่นอาจจะไม่หวือหวามากนัก
แต่รวมๆแล้วน่ารักดี เข้าใจง่ายค่ะ ส่วนพนักงานบริการบนเครื่องก็น่ารักทุกคนค่ะ บริการแบบนุ่มนวลสไตล์ญี่ปุ่น
ทุกที่นั่งมีปลั๊ก AC power outlet ไว้ให้เสียบชาร์ตตามใจชอบ และมี inflight entertainment จอ touch screen ลื่นปรื๊ด 10.6 นิ้ว
Flight นี้ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมงค่ะ มีเสริฟอาหารมื้อหลัก 1 มื้อ และเป็นขนมกุบกิบอีก 1 ครั้ง
สำหรับอาหารมื้อหลักนี้จะเสริฟเลยหลังจากที่เครื่องขึ้นบินค่ะ
มื้อนี้ไม่มีตัวเลือกนะคะ มีอย่างเดียวคือข้าวปลาย่าง ที่เสริฟมาพร้อมกับ บะหมี่เย็น ปลาหมึกอะไรซักอย่าง และผลไม้สด
ส่วนเครื่องดื่มก็มีทั้งน้ำผลไม้ น้ำอัดลม และแอลกอฮอล์ แต่ที่เห็นในเมนูเครื่องดื่มอันแรกเลย ก็คือ "JAL Original Drink - SKY TIME Kiwi" ค่ะ
ก็เลยลองจัดมาชิมซักหน่อย มันก็คือน้ำกีวีนี่แหละค่ะ
สำหรับมื้อนี้ รวมๆแล้วอร่อยใช้ได้เลยค่ะ
ทานเสร็จแล้วยังไม่ค่อยง่วง เลยหาหนังดูซักเรื่อง ไหนๆ ก็กำลังจะไปญี่ปุ่นอยู่แล้ว เลยเลือกหนังญี่ปุ่นซะเลย
ไถจอไปๆมาๆ ก็ไปเจอกับเรื่องนี้เลยค่ะ
"Over Drive" หนังเรื่องนี้เพิ่งออกฉายเมื่อช่วงต้นปี 2018 นี่เอง ใหม่มากๆ เป็นเรื่องราวของการแข่งขันงานแข่งรถแรลลี่เซย์โกะคัพ ในประเทศญี่ปุ่น โดยมีพี่น้อง 2 คนเป็นคนเดินเรื่อง ทั้งคู่อยู่ในทีมที่ชื่อว่า Supika คนนึงเป็นคือหัวหน้าช่างกลและวิศวกรของทีม ส่วนอีกคนเป็นนักขับรถแข่ง
เรื่องราวน่าสนใจ ดราม่าระดับนึงเลยล่ะ แถมในเรื่องยังมีวิวสวยๆของจังหวัดต่างๆในประเทศญี่ปุ่นด้วย ลองไปหาดูกันได้นะคะ
ปล. พี่น้องคู่นี้น่าตาดีมากกก 5555
ดูหนังจบแล้วก็ได้เวลานอนค่ะ หลับยาวๆไปเลย เบาะนั่งสบาย สามารถปรับมาพิงคอได้ ขายืดได้เต็มที่
แถม Flight นี้ยังถึงที่หมายเร็วกว่าเวลาซะอีก ดีงามมากค่ะ
เป็นครั้งแรกที่ใช้บริการของ JAL ประทับใจมากค่ะ คงต้องหาโอกาสใช้บริการอีกซักครั้ง (ถ้าราคาไม่โหดร้ายจนเกินไป)
------------------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ...
หากสนใจอ่านรีวิวอื่นๆ จิ้มเข้าไปดูกันได้ที่ "เที่ยวรัวรัว"
www.facebook.com/travelruarua
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น