‘สตั๊นท์แมน’ ละครดัง ควบเก๋งอัดรถบรรทุกพังยับ ดับคาซาก
เมื่อวันที่ 13 ต.ค. พ.ต.ท.บัญญัติ เพิ่มนาค สารวัตรสอบสวน สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกชนกับรถยนต์เก๋ง มีผู้เสียชีวิตติดภายในรถ ไม่สามารถนำร่างออกมาได้ ขอให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม นำอุปกรณ์ตัดถ่างเข้าช่วยเหลือ เหตุเกิดบริเวณสี่แยกคลองชลประทาน ริมถนนดอนตูม-หนองปลาไหล หมู่ 8 ต.วังน้ำเขียว อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้อฮี่โน่ สีขาว โชคโกศล ทะเบียน 82-7156 กาญจนบุรี ตัวพ่วง 82-7159 กาญจนบุรี สภาพรถด้านหน้ายุบพัง ที่หน้ารถพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อซูซูกิ เซียส สีดำ ทะเบียน 5 กท 8429 กรุงเทพมหานคร สภาพหลังคาเปิด พังยับเยินทั้งคันภายในรถพบศพนายประจักษ์ หาฤทธิ์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 หมู่ที่ 5 ต.กุดบง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย แต่ไม่สามารถนำศพออกมาจากรถได้ เจ้าหน้าที่ต้องประสานนำเครื่องตัดถ่างจากมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม จุดวัดละมุด หน่วยบรรเทาสาธารณภัย หลวงพ่อสมหวัง วัดกลางบางพระ เข้าช่วยเหลือ โดยใช้เวลากว่า 40 นาที จึงนำศพออกจากรถได้ แต่ในที่เกิดเหตุไม่พบคนขับรถบรรทุกคู่กรณี คาดว่าหลบหนีไปช่วงชุลมุน

จากการสอบถาม น.ส.นัฎชนก เกตุแก้ว อายุ 25 ปี แฟนสาวของผู้ตาย เปิดเผยว่า นายประจักษ์ มีอาชีพเป็นนักแสดงสตั๊นท์แมน ของละครจักรๆ วงศ์ๆ หลายเรื่อง ทางช่อง 7 ก่อนเกิดเหตุนายประจักษ์ขับรถมาจากบ้านพัก ใน จ.หนองคาย เพื่อเดินทางมาส่งตนที่บ้านใน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เมื่อส่งตนเสร็จผู้ตายกำลังเดินทางกลับ และเพิ่งแยกกันได้เพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ก็มีชาวบ้านมาแจ้งว่านายประจักษ์ ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตแล้ว จึงรีบมาดูทันที พ.ต.ท.บัญญัติ สารวัตรสอบสวนเจ้าของคดี เปิดเผยว่า เท่าที่สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ในเบื้องต้นทราบว่า เห็นรถยนต์เก๋งของผู้ตายวิ่งมาทางเลียบคลองชลประทาน เป็นไปได้ว่าไม่คุ้นชินกับเส้นทาง เนื่องจากด้านหน้ามีทางแยกตัดถนนสายหลัก ขณะนั้นมีรถบรรทุกวิ่งมาทางตรงพอดี จึงพุ่งเข้าชนอย่างจังจนเสียชีวิต
ทั้งนี้ นายลอง คนขับรถบรรทุกคู่กรณีได้ติดต่อเข้ามายัง สภ.กำแพงแสน แล้ว พร้อมรับสารภาพว่า ไม่กล้าอยู่ในที่เกิดเหตุ เนื่องจากกลัวญาติๆ ของผู้ตาย ซึ่งยังทำใจไม่ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวมาสอบปากคำเพื่อหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมต่อไป
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_1684573
‘สตั๊นท์แมน’ ควบเก๋ง อัดรถบรรทุกพังยับ เสียชีวิต คาซาก @ กำแพงแสน จ.นครปฐม
เมื่อวันที่ 13 ต.ค. พ.ต.ท.บัญญัติ เพิ่มนาค สารวัตรสอบสวน สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกชนกับรถยนต์เก๋ง มีผู้เสียชีวิตติดภายในรถ ไม่สามารถนำร่างออกมาได้ ขอให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม นำอุปกรณ์ตัดถ่างเข้าช่วยเหลือ เหตุเกิดบริเวณสี่แยกคลองชลประทาน ริมถนนดอนตูม-หนองปลาไหล หมู่ 8 ต.วังน้ำเขียว อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้อฮี่โน่ สีขาว โชคโกศล ทะเบียน 82-7156 กาญจนบุรี ตัวพ่วง 82-7159 กาญจนบุรี สภาพรถด้านหน้ายุบพัง ที่หน้ารถพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อซูซูกิ เซียส สีดำ ทะเบียน 5 กท 8429 กรุงเทพมหานคร สภาพหลังคาเปิด พังยับเยินทั้งคันภายในรถพบศพนายประจักษ์ หาฤทธิ์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 หมู่ที่ 5 ต.กุดบง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย แต่ไม่สามารถนำศพออกมาจากรถได้ เจ้าหน้าที่ต้องประสานนำเครื่องตัดถ่างจากมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม จุดวัดละมุด หน่วยบรรเทาสาธารณภัย หลวงพ่อสมหวัง วัดกลางบางพระ เข้าช่วยเหลือ โดยใช้เวลากว่า 40 นาที จึงนำศพออกจากรถได้ แต่ในที่เกิดเหตุไม่พบคนขับรถบรรทุกคู่กรณี คาดว่าหลบหนีไปช่วงชุลมุน
จากการสอบถาม น.ส.นัฎชนก เกตุแก้ว อายุ 25 ปี แฟนสาวของผู้ตาย เปิดเผยว่า นายประจักษ์ มีอาชีพเป็นนักแสดงสตั๊นท์แมน ของละครจักรๆ วงศ์ๆ หลายเรื่อง ทางช่อง 7 ก่อนเกิดเหตุนายประจักษ์ขับรถมาจากบ้านพัก ใน จ.หนองคาย เพื่อเดินทางมาส่งตนที่บ้านใน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เมื่อส่งตนเสร็จผู้ตายกำลังเดินทางกลับ และเพิ่งแยกกันได้เพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ก็มีชาวบ้านมาแจ้งว่านายประจักษ์ ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตแล้ว จึงรีบมาดูทันที พ.ต.ท.บัญญัติ สารวัตรสอบสวนเจ้าของคดี เปิดเผยว่า เท่าที่สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ในเบื้องต้นทราบว่า เห็นรถยนต์เก๋งของผู้ตายวิ่งมาทางเลียบคลองชลประทาน เป็นไปได้ว่าไม่คุ้นชินกับเส้นทาง เนื่องจากด้านหน้ามีทางแยกตัดถนนสายหลัก ขณะนั้นมีรถบรรทุกวิ่งมาทางตรงพอดี จึงพุ่งเข้าชนอย่างจังจนเสียชีวิต
ทั้งนี้ นายลอง คนขับรถบรรทุกคู่กรณีได้ติดต่อเข้ามายัง สภ.กำแพงแสน แล้ว พร้อมรับสารภาพว่า ไม่กล้าอยู่ในที่เกิดเหตุ เนื่องจากกลัวญาติๆ ของผู้ตาย ซึ่งยังทำใจไม่ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวมาสอบปากคำเพื่อหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมต่อไป
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_1684573