เที่ยว อัมพวา 2วัน 1คืน ทริปสั้นสำหรับพนักงานออฟฟิศ

วันหยุดไม่กี่วัน ไม่รู้จะไปเที่ยวไหน ไปไกลรถก็ติด เลยอยากได้ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ ขับรถไม่นาน นึกถึงตลาดน้ำอัมพวา (แอบอยากไปดูหิ่งห้อย) ช่วงที่ไปอยู่ในเดือนตุลาคม 2561 หยุด 3 วัน


เดินทางออกจากกรุงเทพไปอัมพวา วันที่ 13 ตุลาคม 2561 เวลา 10 โมง ถึงอัมพวา เกือบบ่าย 3โมง เป็นการเดินทางที่ยาวนานมาก คนเค้าไปเที่ยวที่ไหนกันน้า เลยไม่ทันไปดูตลาดร่มหุบเลย 😑 คงต้องเข้าที่พักเลย
เราจองที่พักผ่าน agoda ที่พักที่อัมพวาแอบแพงเหมือนกัน เราได้ที่พักชื่อว่า ปางวิมาน อัมพวา การ์เด้น รีสอร์ท อยู่หากจากตลาดน้ำประมาณ 1 กม.
พนักงานเอาใจใส่ดีมาก มาถึงเค้าก็มาช่วยยกกระเป๋า พาไป Check-in มาถึงเหนื่อยๆ มีน้ำมาให้ทาน +ขนมเป็นวุ้นเป็ดอร่อยเลยแระ จากนั้นก็เข้าห้องพัก

บรรยากาศในห้องก็จะประมาณนี้ ห้องกว้างอยู่นะ มีขนมให้ น้ำอยู่ในตู้เย็น ราคาห้องอยู่ที่ 1,400/คืน (จริงๆแล้วแฟนเราก็เข้าไปดูที่ agoda ได้ราคา 1,200 แต่เรากดผิด จองไปก่อนแล้ว เซง😒) ราคาสูงน่าจะเพราะหยุดยาว
นอนพักกันสักพัก ก็ออกไปตลาดน้ำอัมพวา ตอนแรกเอารถไป ออกไปหน้าปากซอย รถติดมาก ไม่มีที่จอดแน่ๆ เลยวนเอารถมาจอดที่รีสอร์ท เหมือนเดิม ถามเค้าว่ามีทางลัดเดินไปตลาดน้ำมั้ย เค้าบอกไม่มี แต่เรียกรถ 3 ล้อให้เค้ามารับได้ ราคา 40 บาท ขากลับก็ขอเบอร์เค้าไว้ แล้วให้เค้ามารับกลับรีสอร์ท คิดในใจดีเหมือนกัน ไปหาที่จอดก็เสียค่าที่จอดอยู่ดี ไปกับคนพื้นที่รถไม่ติดนะจ๊ะ เพราะเค้าพาไปทางลัดส่งหน้าตลาดเลยค่ะ

และแล้วเราก็ถึงตลาดน้ำอัมพวากันนะคะ
เดินไปเรื่อยๆ คนเยอะมาก ไม่มีที่จะถ่ายรูปได้เลยค่ะ มองไปทางไหนก็มีแต่คนๆ เดินขึ้นสะพานข้ามไปอีกฝั่นยังใช้เวลาเกือบ 10 นาทีอยู่บนสะพาน ร้อนมาๆเลยค่ะ
กิจกรรมยอดนิยม สำหรับที่นี่ก็จะเป็น
ล่องเรือไหว้พระ 5 วัด ราคา คนละ 50 บาท หรือแบบเหมาก็ 500 บาท หรือจะเป็น
ล่องเรือดูหิ่งห้อย ราคา คนละ 60 บาท อยากโรแมนติกก็แบบเหมา 600 บาท
วันนี้เราเลือกไปดูหิ่งห้อยนะคะ และก็เดินหาท่าเรือ จ่าภิญโญ (เจอแนะนำจากพันทิปเหมือนกัน) อยู่แถวๆ ร้านภวัต ส้มตำไก่ย่าง (เจ้าแรก) แนะนำจองตั๋วกันก่อนเลยค่ะ +จองที่นั่งไปด้วยได้เลยนะคะ อยากนั่งตรงไหนเป็นพิเศษ (เลือกนั่งด้านขวาไว้นะคะ) เรือใหญ่ดูไม่น่ากลัวเวลาเดินทางกลางคืน

ถึงเวลาออกชมหิ่งห้อย เรือรอบแรก 18.15 ค่ะ
ระหว่างทางผ่านวัดสวยๆ คนขับเรือเค้าจะจอดให้ถ่ายรูปด้วยนะคะ




แล้วขับไปเรื่อยๆเค้าจะจอดทุกที่ที่มีหิ่งห้อยค่ะ ให้จ้องไปที่ต้นไม้แล้วพยายามหาแสงกระพริบ เค้าบอกว่าจะเป็นสัญชาตญาณของคนเวลาหาแสง แล้วจะเจอหิ่งห้อยเองค่ะ (ลองทำตามกันดูนะคะ 555) คนขับเรือขับช้ามากและจอดตามทางไปเรื่อยๆ สงสัยว่าทำไมเรือคนอื่นเค้าขับเร็วไม่เห็นจอดเหมือนเราเลย คนขับเค้าบอกว่าเจ้าอื่นเค้าทำรอบ ส่วนพี่เค้าไม่รีบ ส่วนตัวแล้วเราชอบเจ้านี้นะ เรื่อยๆไม่รีบๆ ปลอดภัย ไม่มีรูปสำหรับหิ่งห้อยนะคะ ถ่ายไม่ติดเลยเก็บเป็นความทรงจำเท่านั้น ชชพ้น ร้านภวัต ส้มตำไก่ย่าง อยู่ไกลและเป็นร้านดัง เลยต้องลองกันหน่อย คนเยอะ แต่อาหารออกไวอยู่นะคะ
เราสั่ง ไก่ย่าง ส้มตำปูปลาร้า ลูกชิ้นปลาลวก และหอยแมลงภู่เผา ข้าวเหนียว 2 น้ำเปล่า 1 ขวด มื้อนี้ราคาอยู่ที่ 350+นั่งห้องแอร์คนละ 15 บาท (รู้ตอนจ่ายเงินเลยค่ะว่าเสียค่าแอร์ด้วย 😬) รวมเป็น 380 บาท




จากนั้นเดินตลาดน้ำอีกรอบ กลางคืนเดินสบายๆ คนไม่เยอะ แต่เรือขายของก็จะไม่มี บางร้านก็ปิด แล้วแต่คนชอบเนอะ
พอกลับมาถึงรีสอร์ท พนักงานก็เอาผลไม้มาให้ค่ะ

เช้าวันที่ 14 ตุลาคม 2561 ทางรีสอร์ท มีอาหารเช้าให้คนละ 1 ชุด รวมอยู่กับค่าห้องแล้วนะคะ ส่วนใครอยากทำบุญตักบาตร ก็มีให้ค่ะ ประมาณชุดละ 79 บาท
ได้เวลากลับกรุงเทพแล้วนะคะ check-out ออกจากรีสอร์ท หาร้านอาหารเจ้าดังกินสักหน่อยก่อนกลับ เลยเลือกร้านแดงอาหารทะเลค่ะ
เราสั่ง ปลาทูตาเตี๊ยะ -150฿ ได้ 5 ตัว ,หอยลายผัดพริกเผา-150฿ จานใหญ่ ,ปูไข่ดอง-350฿ ไข่เยอะสมกับราคา แต่รสชาติเฉยมาก (ไม่มีรูปนะคะ หน้ามืดกินอย่างเดียว) รวมๆแล้วปริมาณอาหารเหมาะสมกับราคาค่ะ รสชาติกลางๆ ไม่ได้แบบอร่อยมากกก แล้วแต่คนด้วยนะคะ (ความคิดเห็นส่วนตัว) มื้อนี้ประมาณ 800 บาท/2คน

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สรุปค่าใช้จ่ายในการเที่ยวครั้ง
ค่าที่พัก 1,400
ดูหิ่งห้อย 120
ค่าอาหาร 1,500
ค่าน้ำมัน 800 (ขึ้นอยู่กับรถแต่ละยี่ห้อ และเติมอะไรด้วยนะคะ เราขับเที่ยวในกรุงเทพอีกด้วยตอนขากลับ)
รวม 3,820/2 คนละ 1,910 บาท จำนวนเงินขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ของแต่ละคนนะคะ 😉

ขอบคุณที่อ่านจนจบ ไว้ครั้งหน้ามีไปเที่ยวไหนจะเอามาแบ่งปันเพื่อนๆนะคะ