แบกกล้องตะลุยกรุง Seoul @ South Korea

สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน

พอดีเราได้มีโอกาสไปประชุมที่เกาหลีช่วงวันที่ 2-8 ตุลา 2018 เลยได้มีโอกาสแวะไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆบ้าง
ซึ่งเท่าที่ลองหาดู บางสถานที่เหมือนคนไทยจะไม่ค่อยไปกันเท่าไหร่
เลยอยากจะเอาสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆมาแบ่งปันให้เพื่อนๆ ดูกันจ้า
ฝากติดตาม ig: chorchaindent ด้วยนะ
..........................................

ข้อมูลทั่วไป
1. ตม. เกาหลี
เป็นที่เลื่องลือในกลุ่มชาวไทยสำหรับ ตม. เกาหลี ในวันที่ผมไปก็เห็นมีคนโดนเรียกเข้าห้องเย็นเป็นระยะๆ น่าจะประมาณ 10 คนจะโดนเรียกคนนึง ไม่จำกัดเฉพาะชาวไทย แต่สำหรับเราแล้ว ไม่โดนถามอะไรซักคำเดียว เขาดูแค่พาสปอร์ต (ซึ่งของเราพึ่งทำใหม่มา) เลยคิดว่าหลักๆเขาน่าจะดูใบที่เรากรอกตอนขาเข้าว่าเรามาทำอะไร พักที่ไหน (หรือเขาอาจจะพิจารณาแล้วว่าหน้าอย่างเราคงไปทำอะไรมากไม่ได้ก็ไม่รู้ 5555)

แต่ที่แปลกอย่างนึงคือ เขาไม่ได้ประทับตราอะไรลงบนพาสปอร์ตเราเลย แต่มีกระดาษแผ่นเล็กๆแนบมา ว่าอนุญาตให้อยู่ได้ถึงวันไหน ซึ่งถ้าใบนี้หายไปก็ไม่มีหลักฐานใดๆเลยว่าเข้าเมืองมาวันที่เท่าไหร่ ละเขาก็ไม่ได้เย็บอะไรติดกับพาสปอร์ตเลย อารมณ์ว่าแนบมาเหมือนใบปลิวเฉยๆ เป็นประเทศแรกที่เห็นว่าทำแบบนี้

2. การเดินทางในเกาหลี
การเดินทางทั้งหมดในโซลสามารถใช้บัตร T money ได้ ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อ สนามบิน หรือโรงแรม
ส่วนใหญ่ในทริปนี้เราเดินทางด้วยรถเมล์ ซึ่งข้อดีของรถเมล์คือมันไปส่งเกือบจะถึงที่แบบต่อเดียวเลย ไม่ค่อยต้องเปลี่ยนรถ และรถในเกาหลีจะมีภาษาอังกฤษคอยประกาศอยู่ที่ด้านหน้ารถว่าสถานีไหนแล้ว อีกอย่างคือ เราใช้ google map ในการนำทาง เวลาลงรถใต้ดิน GPS จะไม่ทำงาน ทำให้การเดินทางด้วยรถเมล์จะสะดวกกว่า ดังนั้นใครที่คิดว่าตัวเองชอบหลงบ่อยๆ เราแนะนำให้ใช้รถเมล์น่าจะดีกว่า

ความตรงต่อเวลาของรถเมล์ในเกาหลีอาจจะไม่เท่ากับที่ญี่ปุ่น แต่ก็คลาดเคลื่อนไม่เกินหลักนาที โดยจะมีเวลาและสายรถเมล์ที่กำลังจะเข้าบอกตลอด
ข้อเสียอย่างนึงของรถเมล์เกาหลีคือจะขับค่อนข้างเร็ว อารมณ์เหมือนสาย 8 ทุกคัน และคนขับรถดูจะอารมณ์ร้อนอยู่ตลอดเวลา ทำให้เวลาเราจะขึ้นรถเมล์ อาจจะต้องเตรียมตัวแตะบัตรนิดนึง ไม่งั้นอาจจะถูกคนขับเร่งได้ แล้วพอขึ้นปุ๊ปก็ต้องรีบหาที่นั่งหรือที่จับ เพราะเขาจะไม่รอให้เรานั่ง พอคนขึ้นครบเขาจะออกรถเลย (คาดว่าอาจจะต้องทำเวลา) อ้อ! อีกอย่างคือเขาไม่ให้เอาน้ำที่ไม่ได้ใส่ภาชนะปิดสนิทขึ้นนะจ๊ะ ระวังด้วย

ได้มีโอกาสเห็นคนเกาหลีทะเลาะกับคนขับรถอยู่ 2 ครั้ง เนื่องจากผู้โดยสารกำลังจะขึ้นรถ แล้วอยู่ดีๆคนขับก็ปิดประตูใส่หน้า และจะขับออกไป ก็เลยทะเลาะกัน เหมือนในซีรีย์ที่เคยดูเลย ก็ฟังไม่ออกนะว่าทะเลาะอะไรกันบ้าง แต่ดูแล้วก็เพลินดี (อ่าว 5555)

ในส่วนของ taxi อันนี้เราก็ยังงงๆอยู่นิดหน่อย เนื่องจากมีหลายบริษัท และเรทราคาไม่เท่ากัน เข้าใจว่ารถ taxi ดำน่าจะเป็นแบบ premium หรือไงไม่ทราบแต่ราคาจะแพงกว่าจ้า ซึ่งป้ายบอกว่าว่างนั้นเป็นภาษาเกาหลี อ่านไม่ออกว่ามันเขียนว่าอะไร บางบริษัทป้ายขึ้นสีแดงแปลว่าว่าง ถ้าปิดไฟแปลว่าไม่ว่าง หรือบางบริษัทก็เป็นสีเขียวก็มี วิธีแก้ง่ายๆ ถ้าเห็นไฟขึ้นคือโบกไปเลย 5555 ถ้าว่างมันก็จอดเอง โดยใน taxi จะมี GPS ดังนั้นไม่ต้องกังวลถ้าสถานที่ที่เราจะไปมันไม่ได้ลึกลับอะไรมาก

3. ภาษา
คนที่นี่พูดภาษาอังกฤษได้มากกว่าที่ญี่ปุ่น ตามร้านอาหารทั่วไปสามารถพูดและฟังคำง่ายๆได้บ้าง แล้วก็วัยรุ่นสามารถพูดและฟังภาษาอังกฤษได้บ้างครับ ในส่วนของเมนู ร้านที่ไปส่วนใหญ่จะมีรูปให้ หรือไม่ก็จะมีเมนูภาษาจีนหรืออังกฤษให้จ้า ดังนั้นคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร

ในตอนที่รอเครื่องขากลับ เห็นคู่สามีภรรยาสูงอายุคนไทย พกดิกชันนารีภาษาเกาหลี (คือพยายามคุยกับเราเป็นภาษาเกาหลีแบบเป็นคำๆ แต่เราคนไทยไง
-*-) พยายามถามว่าขึ้นเครื่องกลับไทยจะต้องทำยังไง (คือขึ้นไฟลท์ไหนก็ไม่รู้ ต้อง check in ยังไงก็ไม่รู้ ตอนนั้นเรากำลังเข้าแถวโหลดกระเป๋าเลยบอกให้รอก่อน เดี๋ยวจะมาช่วย แต่พอโหลดกระเป๋าเสร็จหันกลับมาทั้ง 2 คนก็หายไปแล้ว) เราก็เลยคิดว่าถ้า 2 คนนี้สามารถเที่ยวเกาหลีได้ คนอื่นไม่น่าจะมีปัญหาใดๆจ้า

4. ร้านอาหาร
ในกรุงโซลมีร้านอาหารและคาเฟ่มากมายให้ทุกคนไปชิมได้ เพียวแต่อยากจะเตือนไว้ว่า ร้านอาหารที่เกาหลีส่วนใหญ่ (ประมาณ 95%) เปิดหลัง 10.00 โมง โดยบางร้านเปิดเที่ยงเลยด้วย และร้านส่วนใหญ่จะปิดช่วง 21.00-22.00  แต่นี่คือเวลาร้านปิด ไม่ใช่เวลาครัวปิด ส่วนใหญ่ครัวจะปิดก่อนหน้าร้านปิดสักครึ่งถึง 1 ชม ในตอนกลางคืนยังมีร้านพวกผับ (ไม่ใช่ที่แดนซ์แบบที่ไทย) รวมถึงร้านหมูกระทะส่วนใหญ่ก็ปิดดึกจ้า เลยไม่เท่าไหร่ ดังนั้นใครที่ไม่มีอาหารเช้าที่โรงแรม หรือไปเที่ยวเพลินกลับดึก อย่าลืมแพลนเรื่องนี้ไว้ด้วยนะ ไม่งั้นอาจได้กินข้าวกล่องร้านสะดวกซื้อ 5555
..........................................
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่