JJNY : 5in1 รุ่นใหม่พท.จี้กกต.โคราช/สามารถจ่อถกภูมิธรรม/บก.ลายจุดยันเป็นไม้หน้าสาม/จุติชี้พลังดูด/ดอกเบี้ยขึ้นเพิ่มภาระ

กระทู้คำถาม
'รชตะ ด่านกุล' รุ่นใหม่เพื่อไทย จี้กกต.โคราช ทบทวนแบ่งเขตเลือกตั้ง
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1176714

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม นายรชตะ ด่านกุล อดีต ส.จ.อำเภอด่านขุนทด ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย กลุ่มคนรุ่นใหม่ กล่าวถึงการไปยื่นหนังสือต่อ กกต.นครราชสีมา เพื่อนำเสนอรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งที่ 13 และ 14 โดยเฉพาะเขตเลือกตั้ง อ.ด่านขุนทด บ้านเกิดของตนเองและเป็นเขตที่ตนจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ถูกแบ่งอำเภอออกเป็น 2 ส่วน ทั้งที่ อ.ด่านขุนทดเป็นอำเภอใหญ่ มีประชากรกว่า 128,000 คน การขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ การพัฒนาด้านสังคม สาธารณูปโภค และวัฒนธรรมประเพณี เคยทำร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพมาตลอด แต่เมื่อ กกต.จังหวัดนครราชสีมา มาแบ่งอำเภอออกเป็น 2 ส่วน จะส่งผลให้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาในทุกด้าน เนื่องจากจะมีผู้แทนราษฎรคนละเขต ซึ่งในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดขึ้น ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ของการแบ่งเขตเลือกตั้ง อ.ขามสะแกแสงกับ อ.ด่านขุนทด ไม่น่าจะอยู่ในเขตเดียวกันได้ เนื่องจากไม่ได้มีพื้นที่ติดต่อกัน เส้นทางคมนาคมก็ไม่ได้เชื่อมต่อกัน ซึ่งผิดหลักการแบ่งเขตเลือกตั้งเพราะเป็นการกระโดดข้ามอำเภอ

ฉะนั้น ตนจึงได้ใช้สิทธินำเสนอรูปแบบเขตเลือกตั้งที่ 14 ของ จ.นครราชสีมา ใหม่ต่อ กกต.นครราชสีมา ให้มีการแบ่งเขตเลือกตั้งที่ 14 ประกอบด้วย อ.ด่านขุนทด ทั้งอำเภอ, อ.เทพารักษ์ ทั้งอำเภอ และ อ.พระทองคำ ทั้งอำเภอ รวมประชากรทั้ง 3 อำเภอกว่า 190,000 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่รับได้และเคยเป็นเขตเลือกตั้งเดียวกันมาก่อน

นายรชตะกล่าวอีกว่า ที่ตนนำเสนอรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งที่ 14 ของ จ.นครราชสีมา ใหม่ก็เป็นไปตามสิทธิ เพราะเห็นว่าไม่เป็นไปตามกฏเกณฑ์ที่ กกต.กำหนด อย่างไรก็ตาม การเสนอตัวอาสาเข้ามาเป็นผู้แทนราษฎรส่วนตัวก็พร้อมทำงานให้กับประชาชนชาวโคราชทุกอำเภอในนามของพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว โดยไม่ได้มีอคติกับชาวบ้านในอำเภอใดทั้งสิ้น ซึ่งสุดท้ายผลการแบ่งเขตเลือกตั้งของ จ.นครราชสีมา จะออกมาอย่างไรตนก็พร้อมยอมรับ และพร้อมที่จะทำงานเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน




"สามารถ"จ่อถก"ภูมิธรรม"ไม่สะดวกร่วมปช.พรรคเพื่อไทย
https://www.dailynews.co.th/politics/671208

“เด็กเพื่อไทย”เตรียมหารือ“ภูมิธรรม“ไม่สะดวกร่วมประชุมใหญ่พรรค28 ต.ค.นี้ พร้อมแจงแกนนำพรรคบินพบ “ทักษิณ” ไม่ผิดกฎหมายพรรคการเมือง

เมื่อวันที่ 13 ต.ค. นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตส.ส. เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามกติการัฐธรรมนูญ ปี 2560 คนที่เป็นหัวหน้าพรรคไม่จำเป็นต้องเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี วันนี้เรากำลังนั่งคิดกันว่าคนที่จะนั่งเป็นหัวหน้าพรรคให้ดูแลบริหารจัดการพรรค แค่นี้ก็ยุ่งอยู่แล้ว อาจจะไม่จำเป็นต้องไปเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่ ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป และยังมีเวลาในการพิจารณาจนกว่าจะถึงวันที่ 28 ต.ค. ก็คงทราบ สำหรับกำหนดจัดการประชุมใหญ่ของพรรคในวันอาทิตย์ที่ 28 ต.ค.ซึ่งมีหลายคนทักท้วงว่าอาจจะไม่สะดวกหรือไม่ เพราะอาจมีการจัดกิจกรรมในพื้นที่ช่วงวันหยุด ดังนั้นเรื่องนี้อาจจะต้องรพูดคุยกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคก่อน อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างจะชัดเจนเมื่อมีการออกหนังสือเชิญอย่างเป็นทางการ ส่วนวาระการประชุมที่สำคัญมี 2 เรื่อง คือเรื่องคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร สส.

เมื่อถามว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณากรณีแกนนำพรรคเพื่อไทยบินไปพบอดีตนายกรัฐมนตรี นายสามารถ กล่าวว่า คนเคารพนับถือกันจะบินไปเยี่ยมเยียนกัน เป็นเสรีภาพของแต่ละคน การไปมาหาสู่กันเป็นเรื่องธรรมดาสามารถดำเนินการได้ สำหรับในกฏหมายพรรคการเมืองที่กกต.จะเล่นงานพรรคการเมืองได้นั้น คือ คนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคมาชี้นำครอบงำการดำเนินกิจกรรมของพรรค แต่การไปของแกนนำพรรคเพื่อไทย เป็นเพียงการไปพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่เช่นนั้นหากเราไปไหนแม้แต่ในประเทศแล้วไปเจอเพื่อนฝูงที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคก็จะไม่สามารถพูดคุยกันได้ ฉะนั้นตราบใดที่ไม่ได้เป็นการชี้ชัด หรือเห็นชัดว่ามีการมาครอบงำการดำเนินกิจกรรมของพรรคก็จะถือว่าไม่มีความผิด.




'บก.ลายจุด' ลั่น อย่าว่าพรรคเกียนแค่ 'ไม้ประดับ' ยัน เป็น 'ไม้หน้าสาม' หวังสร้างบ้านแปลงเมือง
https://www.matichon.co.th/politics/news_1177303

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ ‘บก.ลายจุด’ ว่าที่หัวหน้าพรรคเกียน เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

‘อย่าคิดว่าพรรคเกียนเป็นไม้ประดับ เราเป็นไม้หน้าสาม’

จากนั้น จึงให้ข้อมูลในช่องแสดงความคิดเห็นว่า ‘หมายถึงใช้สำหรับสร้างบ้านแปงเมือง’

หลังข้อความเผยแพร่ออกไป มีผู้กดถูกใจและแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมเป็นจำนวนมาก

https://www.facebook.com/nuling/posts/2206375169374849




‘จุติ’ ชี้พลังดูดครั้งนี้รุนแรง ยกคำ ‘ชวน’ เปรียบเหมือนตะแกรงร่อนนักการเมือง
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1176951

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุเงื่อนไขว่าอาจจะร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่ต้องมีการปรับปรุงและเปลี่ยนไม่ให้ซ้ำรอย 4 ปีที่ผ่านมา ว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ได้หารือกัน เชื่อว่าถ้าจะตัดสินใจกันคงต้องดูที่ตัวเลข ส.ส.หลังเลือกตั้งแล้วเสร็จ และพรรคเราก็มีประเพณีการดีเบตกันว่าจะทำอะไรต่อไป ซึ่งเมื่อมีตัวเลขที่ชัดเจนก็จะสามารถบอกจุดยืนของเราว่าจะอยู่ตรงไหน จะทำอะไรให้ประชาชนได้บ้าง ซึ่งเรายืนยันมาตลอดถ้าจะร่วมรัฐบาลแล้วประชาชนไม่ได้ประโยชน์ก็ไม่ร่วม เพื่อมีตำแหน่งหรือร่วมทำงาน พรรค ปชป.เราก็แสดงตัวตนให้ประชาชนได้เห็นอยู่แล้ว ส่วนการดูดอดีต ส.ส.ของพรรคนั้น เชื่อว่าพลังดูดครั้งนี้รุนแรง แต่เป็นเรื่องปกติทางการเมือง ที่มีทุกยุคทุกสมัย และนายชวน หลีกภัย อดีตนายกฯ เคยบอกไว้ว่ามีตะแกรงร่อนไปใครทนอยู่ได้ก็อยู่ไป ถือเป็นการทดสอบความเป็นนักการเมืองมืออาชีพ

เมื่อถามถึงกรณีพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) เปิดรับบริจาคเงินเข้าพรรคนั้น นายจุติกล่าวว่า กฎหมายก็สำคัญ แต่กฎหมายต้องคำนึงถึงสภาพความเป็นจริงของสังคมไทยด้วย ส่วนที่บอกว่าการเปิดรับเงินบริจาคนั้นเพื่อต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมือง เห็นด้วยกับหลักการนี้ เพราะจะทำให้สามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้น แต่เชื่อว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าที่หัวหน้าพรรค อนค.มีฐานะทางการเงินดีมาก ฉะนั้น การขาดเงินบริหารพรรคคงไม่เกิดขึ้น แต่การจะให้คนนอกมาบริจาคนั้นคงต้องทำตามกฎหมาย ต้องทำใจและอดทน อยากบอกหัวหน้าพรรค อนค.ว่ามาใหม่แล้วขยัน เก่ง แต่ต้องอดทนหน่อย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่