"The Red Ticket" ทร.1/58 ครั้งหนึ่งที่เคยเป็น "ทหาร"

ครั้งหนึ่งเคยเป็นทหาร เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง แต่มันก็ผ่านมาได้3-4ปีแล้ว เรื่องที่เล่าก็จำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง เสริมลงไปบ้างตามอัธรส
***ถ้าพิมพ์ผิดเยอะอย่าว่ากันเน้อ

"วันเกณฑ์ทหาร"
อีกบทบาทหนึ่งที่ตุ๊ดไทยส่วนใหญ่ เมื่ออายุครบ20ปีจะต้องเผชิญ แต่ปอล์ผ่อนผลันมาจนอายุเกือบ24 เพราะรอใบจบการศึกษา ปอล์เข้าเกณฑ์ทหารทหารปี 2558 ระหว่างที่รอวันเกณฑ์ก็ทำงานโรงแรมได้เกือบๆ10เดือน และแล้ววันที่1เมษายน 2558ก็มาถึง วันที่เหล่าชายชาตรี และตุ๊ดบางส่วนจะต้องออกมาทำหน้าที่รับใช้ชาติ อำเภอบ้านจะมีการคัดเลือกทหารกันที่วัดเพราะสถานที่กว้างขวาง ผู้คนก็มากันเยอะแยะทั้งเด็กและผู้ใหญ่อย่างกับมาดูวงบอยแบรนด์เกาหลี ตุ๊ดล่ะเพลีย เมียทหารเยอะเกิน สีหน้าแต่ล่ะคนตึงเครีดมากอย่างกับว่าผัวนางจะไปออกรบเหมือนสมัยสงครามเย็น กลุ่มตุ๊ดทั้งสี่ได้รวมตัว โอปอล์ แม็คกี้ อิเอฟและเป้อ แต่เป้อมาแปบเดี๋ยวเพราะนางผ่อนผลันต่อ นางเรียนแพทย์มหิดล นางฉลาดมาก ยอมค่ะเรื่องเรียน ตกบ่ายอากาศร้อนมาก คนก็เยอะ แออัดก็แออัด บรรยากาศตึงเครียดอย่างกับหมอกำลังผ่าตัดใหญ่ญาติคนสำคัญ เหล่าญาติเกาะลูกกรงวัด ปีนกำแพงดู บ้างก็มีกลองยาวมาร้องกันเห้วๆๆ มีความสุข 55 ตุ๊ดที่เหลือก็อยุ่ในนั้น  เอ้อ ลืมบอกไป ปอล์ได้ B1ประเภท1 แข็งแรงไปอีก คนที่คัดทั้งหมดมีประมาน190คน ใบแดง49ใบ ใบดำ140ใบ ตำแหน่งที่ปอล์ได้อยู่แถวที่สามรองจากหลังก็คุยกับเพื่อนว่าเป็นไงเป็นกัน โดนก็โดน ไม่โดนก็ไม่โดน พอจับมาถึงอิเอฟ เสียงประกาศออกมาว่า "ดำ" นางหันมายิ้มให้คร่าา อิดอก กูเสียวสันหลังอยู่ แถวแล้วแถวเล่าก็ผ่านไป มีทั้งเสียงโห่ เสียงกรี๊ด เสียงร้องไห้ของเดอะเมียรักผัวทั้งหลาย ระงมมากค่ะ ที่มาเกณฑ์ทหารหรือมาดูหลังคู่กรรมก็ไม่รู้ ร้องกันอยู่นั้นแหละ ตุ๊ดเพลีย ปอล์ก็นั่งนับใบแดงที่ออกไปทั้งหมดว่าเหลือกี่ใบ ตอนนั้นเหลือใบแดง3ใบดำ19ใบ และแล้วก็ถึงโอปอล์ เสียงประกาศเรียกชื่อ" นาย... .... " เราก็ลุกไป ทหารพวกนั้นก็จับตัวปอล์ไว้ แหม อยากหยุดเวลาเอาไว้ นานๆที่จะมีชายในเครื่องแบบมีต้องตัว โอ๊ยเขิลแต่ต้องเก็บอารมณ์ไว้ ถึงแม้ว่าเสียงรอบข้างจะดังสนั่น แต่เวลานั้นกลับรู้สึกเงียบจนได้ยินเสียงหายใจตัวเอง มือขวากำหลวงพ่อรอดที่ลุงให้ไว้ตอนเช้าก่อนออกจากบ้านไว้ในมือ จำได้ว่าหลวงพ่อชุ่มมากเหงื่อไหลออกมือตลอด มือซ้ายค่อยๆเอื้อมไปจับ อยากจะบอกทหารตรงนั้นว่า "พี่ค่ะ เอากล่องฉลากต่ำกว่านี้ได้ไหมค่ะ แขนหนูสั่น" 555 แม่และลุงๆ ป้าๆป้า มาแอบดูอยู่ด้านหลัง ในหระว่างที่หยิบก็ควานมาได้ใบหนึ่งเรารู้สึกไม่ชอบ ก็เลยเขี่ยออกไปจากมือ แล้วจับใหม่เหมือนกับว่าใบเดิมมันเด้งเข้ามาในมือ ก็เลยเขี่ยออกอีก มันก็กลิ้งเข้ามือมาอีก เอาว่ะ ในเมื่อมันอยากให้จับก็จับ เลยตัดสินใจหยิบออหมา พอพี่ทหารรับไปเปิด เสียงรอบข้างเงียบอีกครั้ง แทนที่ด้วยเสียงของหัวใจ ตึกๆ ตึกๆ ตึกๆ ในใจเราก็คิด "ดำ ดำ ดำ ดำ" "ทร.ผลัด1" โอ้ยโล่งอก ห๊าาาาาาา!!!!!  โดนใบแดง โอ้แม่เจ้า แทนที่อิชั้นจะสลดและตกอยู่ในพวังแห่งความกลัว ฉันหันกลับมายิ้มที่มุมปาก สายตามองจิกไปรอบๆ พร้อมกับยักไหล่  การเดินทางครั้งใหม่ของฉันได้เริ่มขึ้นอีกแล้ว โฮะๆๆๆๆ หันมองไปที่แม่ นางกลับร้องไห้ แล้วก็เดินมาหาเรา
   โอปอล์ :แม่เป็นไรเนี่ย ร้องไห้ไม
   แม่: แม่ก็กลัวจะไปลำบาก
   โอปอล์: โอ้ยยแม่!!! เป็นทหารนะค่ะ ไม่ใช่ไปสนามรบ เขาไม่ให้หนูไปเกาหลีเหนือดูขีปนาวุธหรอกค่า
   แม่:หึ ก็นึกว่าจะเสีย อุส่าห์เสียใจแทน ยิ้มหัวเราะร่าอีก หึมมมม (นางคงหมดคำจะพูด) ตอนที่เซ็นเอกสารอยู่ก็มีแม่ขายผู้ชายคนหนึ่งมายืนร้องไห้ ร้องหนักมาก โอปอล์หันไปมองนางร้องแล้วก็หันกับมายิ้มในใจว่าดีนะที่สมัยนี้นอกจากสงครามไอทีแล้วสงครามที่ต้องออกนบกันจริงๆไม่ได้กิดขึ้นที่บ้านเรา
อยากให้รู้ว่าอย่าคาดหวังอะไรให้มากกับสิ่งที่คิด และมีความสุขกับสิ่งที่จะต้องเจอ


"วันเข้ากรมทหาร"
1 พฤษภาคม 2558 เป็นวันที่ปอล์ต้องเปลี่ยนคำหน้าชื่อจาก นาย เป็น พลทหาร เปลี่ยนจากบุคคลธรรมดา เป็นทหารตุ๊ด ปอล์ตื่นแต่เช้าตรู่จะด้วยความตื่นเต้น ดีใจหรือเสียใจก็แล้วแต่ แล้วก็แต่งตัวชุดธรรมดา ก่อนจะออกจากบ้านเพื่อไปหน้าอำเภอ โดยมีพี่ และแม่ไปส่ง พอจะเลี้ยวรถเข้าที่ว่าการอำเภอปอล์เห็นคนมากันเต็มเลย สงสัยจะมาส่งลูก ส่งผัวไปทหารกัน พอไปถึงเขาก็ให้ปอล์ไปเข้าแถวที่เขาเตรียมไว้ให้ พอนั่งเรียบร้อยสัสดีก็พูดบรรยายเรื่องต่างๆให้ฟัง เพื่อรอเวลาให้คนมาครบ พอครบสัสดีก็ให้เราขึ้นรถไปค่ายทหารประจำจังหวัด พอถึงค่ายทหารประจำจังหวัด มีคนมาตอนรับอย่างดีให้เราเข้าแถวเพื่อรับข้าว โดยจะมีก๋วยเตี๋ยว ข้าวราดแกง และขนมต่างๆเตรียมไว้ให้ ปอล์ก็ไปเข้าแถวก๋วยเตี๋ยว พอได้ก๋วยเตี๋ยวปั๊บ "30บาทค่ะ"โอ้แม่จ้าว 30บาท ตรูนึกว่าให้ฟรีอุตส่าห์ดีใจ ที่ได้มัดมือชกตรูแต่เช้าเลย รู้งี้กินข้าวราดแกงดีกว่า ไม่ต้องรอนานด้วย เซงแบบสวยๆ หลังจากที่กินก๋วยเตี๋ยวเสร็จเขาเรียกให้ไปเข้าแถว คราวนี้ไม่ได้เข้าแถวรวมแต่เข้าแถวตามเหล่าทัพ มี3 เหล่าด้วยกันคือ ทัพบก ทัพอากาศและทัพเรือ ของปอล์เป็นทัพเรือ พอไปถึงก็รายงานตัวแล้วให้รับเสื้อ เป็นเสื้อสีขาว ขลิปคอสีดำหรือที่ทหารเรือเรียกว่า "เสื้อน็อต" รับแล้วให้เปลี่ยนเลย ปอก็เดินไปเปลี่ยนที่ห้องน้ำ เขิล ผู้ชายเยอะ 555 เปลี่ยนแล้วเขาก็ให้นั่งรอใต้ร่มต้นมะขาม ร่มมีเยอะค่ะ แต่ปอล์ไม่กล้าไปนั่งร่วมกับเขา เพราะผู้ชายน่ากลัว ปอล์ก็ได้นั่งในร่มมะขามเหมือนกัน แต่ไม่มีใบค่ะมีแต่กิ่งไม่รู้ว่าจะเรียกร่มได้หรือปล่าว นั่งรอเพื่อให้ทหารทั้งจังหวัดนครสวรรค์มากันครบ ก็เกือบเที่ยงเข้าไปแล้ว พอทุกอย่างเรียบร้อยเขาก็เรียกให้ไปขึ้นรถ ดีนะที่เป็นรถแอร์ถึงมันจะไม่ค่อยเย็นก็เถอะ ปอล์ได้นั่งกับพี่ที่รู้จักกันที่บ้านโชคดีหน่อยเม้ามอยกันตลอด ไม่งั้นต้องนั่งจับเจ่าคนเดียวแน่ ขอเม้าอะไรนิดนึง พวกผู้ชายที่ถูกเกณฑ์ทหารเกือบ90% ดูน่ากลัวมากเลยค่ะ สักแขน สักขา บ้างก็สักที่หน้า ระเบิดหู โครตโหดอ่ะ นึกว่าอยู่ในซีรี่ย์เรื่อง ไพรสั้น เบรค(prison break) เวลาที่รถขับแซงกัน  ปอล์แทบปิดม่านไม่ทัน เพราะพวกนั้นจะชอบทำหน้าเหี้ยมใส่กัน ไม่รู้ว่าทำไม ทั้งที่หน้าเฉยๆก็น่ากลัวอยู่แล้ว รู้สึกว่าตัวเองเป็นนางฟ้าในหมู่ซาตาล 555 ลองคิดดูสิพวกเราที่ใส่ชุดเหมือนกันแล้วมีตัวอักษรย่อจังหวัดเขียนอยู่ตรงกลางเสื้อน็อต ของผู้ชายประมาณเกือบ200คน (จังหวัดของปอล์คืออักษร น.ว.) ถ้าคนอื่นมองถ้าคิดดีเขาก็จะมองว่าเป็นนักเรียนมาเข้าค่าย แต่ถ้าให้ปอล์เป็นคนคิดล่ะก็ ใช่เลย แหกคุก แหกคุกชัดๆ แหกคุกไม่พอมันยังเช่ารถแอร์ไปเที่ยวทะเลกันอีก(ก็หน้าแต่ล่ะคนมันเกินคำว่าอยู่โรงเรียนแล้วทั้งนั้น ขอโทษผู้ชายเหล่านั้นด้วยเม้าแรงไปหน่อย55) กว่าเราจะถึงชลบุลี ก็ปาไปเกือบสองทุ่มกว่า ขับหวานเย็นเหลือเกิน พอไปถึงก็โดนสัแถว สั่งหมอบ สั่งวิ่ง โอ้ยสารพัด แล้วก็ให้ถอดเสื้อผ้าตรวจอาวุธ ตรวจเสร็จก็ไปฉีดยา เขาบอกว่ายากันบาทยัก พอได้รับวัคซีนที่ว่าเสร็จก็แยกไปตามกองร้อย ของปอล์ได้อยู่ ร้อย4พัน3 แล้วรุ่นพี่ก็พาเราเดินไปที่กองร้อย ไปถึงตอนนั้นก็ห้าทุ่มกว่า ถามว่าได้นอนไหม ตอบเลยยังค่ะ ต้องมาแก้ผ้า ลองชุดฝึก รับกระเป๋า รองเท้า และของใช้จำเป็น(เสียเงินนะค่ะหักจากเงินเดือน) แล้วจ่าก็มากระซิบข้างหูโอปอล์ว่า "ใช่ๆไหม?" คือเขาจะถามว่าเป็นตุ๊ดไหม ปอล์ตอบเลยค่ะว่า "ใช่ครับ" ไม่กล้าพูดค่ะ กลัวโดนถีบ 5555 แล้วก็ได้กาบพักก็เกือยเที่ยงคืน อาบน้ำเสร็จก็มานอน ลืมบอกไปว่าเป็นเตียงสองชั้นปอล์เลือกนอนข้างล่าง ไม่ใช่อะไนหรอก ขามันสั้นปีนไม่ถึง ก็เป็นผู้หญิงก็ต้องตัวเล็กสิใช่ไหม 55 พัดลมที่กาบพักมีเป็นพัดลมเพดาน ห่างกันประมาณ สามเตียงถามว่าพัดเย็นไหม ตอบเลย "หึ" แทบไม่มีลมออกมาเลย แต่ก็ดีกว่าไม่มีล่ะนะ แล้วก็นอนหลับไป ด้วยความเพลียจากการเดินทาง ระหว่างที่นอนก็มีคนจากภาคอื่นๆทยอยกันเข้ามา ทั้ง เหนือ ใต้ ออก ตก อิสานและกลาง แต่ตอนนั้นหลับไม่รู้เรื่องแล้วรู้อีกทีก็ได้ยินเสียงนกหวีดเป่าดังขึ้นมาตอนตีห้า จะเป็นอย่างไงต่อนะ พลทหารตุ๊ด โอปอล์

วถ้าสนุกจะมาต่อให้นะจ๊ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่