ก่อนแต่งงานก็อ่านรีวิวงานแต่งคนอื่นมาเยอะ ถึงเวลาที่ต้องรีวิวงานแต่งตัวเองแล้ว งานแต่งผ่านมา 5 เดือนแล้วค่ะ อยากแชร์ประสบการณ์งานแต่งเล็กๆ ที่อบอุ่นด้วยญาติพี่น้อง ที่จัดงานกันเองที่บ้านเจ้าสาว รายละเอียดพิธีการและค่าใช้จ่ายจัดเต็มค่ะ
บทนำ เรากับแฟนคบกันมา 12 ปี ตลอดเวลาที่ผ่านมาช่วยกันประคองความรัก ความเข้าใจ เมื่อกลางปี 2559 พ่อแม่ห่วงใยในอายุที่นับวันจะเพิ่มขึ้น จึงอนุญาตให้แฟนมาพูดเรื่องแต่งงาน ครั้งแรกจะแต่งกันต้นปี 2560 แต่เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 รัชกาลที่ 9 สวรรคต เราทั้งสองจึงขอเวลาให้ผ่านช่วงยากลำบากใจนี้ไปก่อน ระหว่างนี้แฟนก็ถามพ่อกับแม่ว่า “ค่าสินสอดเท่าไร” พ่อเราใจดี กลัวลูกขายไม่ออก บอกว่า “ตามสมควร พ่อกับแม่ไม่ต้องการเงินทองจากลูก ถ้าเสร็จงานจะคืนเพื่อให้ลูกทั้งสองได้ตั้งตัว” ดังนั้น เราทั้งสองจึงช่วยกันเก็บเงินและทอง ต้นเดือนมกราคม 2561 พ่อ แม่ และป้า ฝ่ายชายไปสู่ขอ ทานข้าวกันเล็กๆ ที่บ้านเรา กำหนดงานแต่งคือ วันที่ 7 พฤษภาคม 2561 ถ้านับไปก็แค่ 5 เดือน พิธีคือ ตักบาตรเช้า ยกน้ำชา บายศรีสู่ขวัญ และทานข้าวเที่ยง ค่าจัดงานทั้งหมด แยกต่างหากจากค่าสินสอด ด้วยความที่เราทั้งสองอยู่กรุงเทพฯ งานจัดที่จังหวัดอุบลราชธานี ณ บ้านเจ้าสาว งานร่วมด้วยช่วยกันจึงเกิดขึ้น
ช่วงแรก วางแผนงาน ชุดเจ้าสาว เลือกที่จะเช่าชุดไทยที่อุบล ราคาชุดพร้อมแต่งหน้า 15,XXX ส่วนชุดเลี้ยงเที่ยง ญาติเจ้าบ่าวตัดเป็นของขวัญแต่งงาน เราเลือกผ้าลูกไม้และผ้าซับในสีงาช้าง ราคา 15,XXX ที่ดิโอสยาม ส่วนชุดเจ้าบ่าว ตัดชุดขาวและสูทที่ร้านดังแถวแยกเกษตร ราคา 16,XXXX ผ้าฉากเป็นสีชมพู เมตรละ 75 บาท ใช้ 12 เมตร และผ้ามุ้งสีชมพูและสีขาว เมตรละ 20 บาท 12 เมตร ของรับไหว้ทั้งสองฝั่ง เป็นผ้าคลุมไหล่และผ้าขาวม้า 2,500 ค่ากลองยาว 4,000 บาท ส่วนค่าดอกไม้และโอเอซีสในงาน 15,000 บาท มาลัยบ่าวสาวและจัดดอกไม้ค่าแรงฟรี น้องสะใภ้จัดเอง ค่าพานบายศรีใบตองสด 3 ชั้น 3,000 บาท พานขันหมาก 9 พานๆ ละ 500 บาท พร้อมถั่วงา ส่วนขนมไทยมงคล 9 อย่าง 3,000 บาท โต๊ะจีน 1,500 บาท ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ช่วงเตรียมงาน หยุดยาวสงกรานต์ เรากลับบ้านทำโครงเหล็ก 2 อัน กว้าง 4 เมตร สูง 3 เมตร ใช้เหล็กกล่อง 1”X1” จำนวน 14 เส้น ค่าช่างฟรี เจ้าบ่าวและน้องเจ้าสาวช่วยกัน และถ่ายตะเวนถ่ายรูปพรีเวดดิ้งแบบง่ายๆ บ้านๆ ใช้กล้อง Nikon D750 ค่าช่างภาพฟรี (น้องเจ้าสาว) และเก็บตกภาพถ่ายกันเองที่สวนรถไฟ ค่าล้างภาพ 2,000 บาท ส่วนที่ต้องยืมจากโรงเรียนแม่และวัด คือ โพเดียม แจกัน โต๊ะขาว พรมปูในบ้าน ร่มขาว กรอบวางรูปบ่าวสาว ของชำร่วย เราเลือกเป็นช้อนส้อมขนาดจริง กล่องรับซอง สมุดเขียนคำอวยพร อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับพิธีปูเตียง ซื้อที่จตุจักรทั้งหมด การ์ดงานแต่ง ป้ายของชำร่วย และฉากชื่อในพิธี เจ้าบ่าวออกแบบเอง ปริ้นเอง ใช้ระยะเวลาในการเตรียมงานจริงๆ 2 เดือน

เมื่อถึงวันงานจริงๆ เราทั้งสองคนสามารถลางานได้ 10 วัน จึงมีเวลาจัดเตรียมสถานที่คือวันที่ 5 และ 6 ดังนั้นจึงเป็นการรวมพลของญาติพี่น้อง ขนโต๊ะ เก้าอี้ เครื่องเสียง (ฟรี) และเวทีเล็กๆ จัดฉากด้านในและด้านนอกบ้าน จัดเตรียมสถานที่จึงเกิดขึ้น

วันงานแต่ง พิธีเริ่ม 7.00 ตักบาตร แห่ขันหมาก 6 ประตู สู่ขอ ยกน้ำชาฝั่งเจ้าบ่าว บายศรี ส่งตัวเข้าห้องหอ เลี้ยงแขกประมาณ 11 โมง

ค่าช่างภาพในงานฟรี ค่ารถตู้และค่าที่พักแขก 2 วัน 20,000 บาท ค่าอาหารก่อนวันงานและอาหารถวายพระ 10,000 รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 140,000 แสนบาท หลังเสร็จงานนอนอยู่ 2 วัน เหนื่อยแต่ก็มีความสุขมาก พ่อแม่ทั้งสองฝ่าย ญาติพี่น้อง เพื่อนน้องชาย-สะใภ้ เพื่อนเรา เพื่อนพ่อเพื่อนแม่ มาช่วยแรงกันเต็มที่แข็งขัน พ่อแม่ยกสินสอดพร้อมทองคืนให้ทั้งหมด เราแต่งตามประเพณีจีนและแฟนแต่งตามประเพณีอีสาน สองวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน สามารถรวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้
งานแต่งเล็กๆ สองประเพณี สองวัฒนธรรม
บทนำ เรากับแฟนคบกันมา 12 ปี ตลอดเวลาที่ผ่านมาช่วยกันประคองความรัก ความเข้าใจ เมื่อกลางปี 2559 พ่อแม่ห่วงใยในอายุที่นับวันจะเพิ่มขึ้น จึงอนุญาตให้แฟนมาพูดเรื่องแต่งงาน ครั้งแรกจะแต่งกันต้นปี 2560 แต่เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 รัชกาลที่ 9 สวรรคต เราทั้งสองจึงขอเวลาให้ผ่านช่วงยากลำบากใจนี้ไปก่อน ระหว่างนี้แฟนก็ถามพ่อกับแม่ว่า “ค่าสินสอดเท่าไร” พ่อเราใจดี กลัวลูกขายไม่ออก บอกว่า “ตามสมควร พ่อกับแม่ไม่ต้องการเงินทองจากลูก ถ้าเสร็จงานจะคืนเพื่อให้ลูกทั้งสองได้ตั้งตัว” ดังนั้น เราทั้งสองจึงช่วยกันเก็บเงินและทอง ต้นเดือนมกราคม 2561 พ่อ แม่ และป้า ฝ่ายชายไปสู่ขอ ทานข้าวกันเล็กๆ ที่บ้านเรา กำหนดงานแต่งคือ วันที่ 7 พฤษภาคม 2561 ถ้านับไปก็แค่ 5 เดือน พิธีคือ ตักบาตรเช้า ยกน้ำชา บายศรีสู่ขวัญ และทานข้าวเที่ยง ค่าจัดงานทั้งหมด แยกต่างหากจากค่าสินสอด ด้วยความที่เราทั้งสองอยู่กรุงเทพฯ งานจัดที่จังหวัดอุบลราชธานี ณ บ้านเจ้าสาว งานร่วมด้วยช่วยกันจึงเกิดขึ้น
ช่วงแรก วางแผนงาน ชุดเจ้าสาว เลือกที่จะเช่าชุดไทยที่อุบล ราคาชุดพร้อมแต่งหน้า 15,XXX ส่วนชุดเลี้ยงเที่ยง ญาติเจ้าบ่าวตัดเป็นของขวัญแต่งงาน เราเลือกผ้าลูกไม้และผ้าซับในสีงาช้าง ราคา 15,XXX ที่ดิโอสยาม ส่วนชุดเจ้าบ่าว ตัดชุดขาวและสูทที่ร้านดังแถวแยกเกษตร ราคา 16,XXXX ผ้าฉากเป็นสีชมพู เมตรละ 75 บาท ใช้ 12 เมตร และผ้ามุ้งสีชมพูและสีขาว เมตรละ 20 บาท 12 เมตร ของรับไหว้ทั้งสองฝั่ง เป็นผ้าคลุมไหล่และผ้าขาวม้า 2,500 ค่ากลองยาว 4,000 บาท ส่วนค่าดอกไม้และโอเอซีสในงาน 15,000 บาท มาลัยบ่าวสาวและจัดดอกไม้ค่าแรงฟรี น้องสะใภ้จัดเอง ค่าพานบายศรีใบตองสด 3 ชั้น 3,000 บาท พานขันหมาก 9 พานๆ ละ 500 บาท พร้อมถั่วงา ส่วนขนมไทยมงคล 9 อย่าง 3,000 บาท โต๊ะจีน 1,500 บาท ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ช่วงเตรียมงาน หยุดยาวสงกรานต์ เรากลับบ้านทำโครงเหล็ก 2 อัน กว้าง 4 เมตร สูง 3 เมตร ใช้เหล็กกล่อง 1”X1” จำนวน 14 เส้น ค่าช่างฟรี เจ้าบ่าวและน้องเจ้าสาวช่วยกัน และถ่ายตะเวนถ่ายรูปพรีเวดดิ้งแบบง่ายๆ บ้านๆ ใช้กล้อง Nikon D750 ค่าช่างภาพฟรี (น้องเจ้าสาว) และเก็บตกภาพถ่ายกันเองที่สวนรถไฟ ค่าล้างภาพ 2,000 บาท ส่วนที่ต้องยืมจากโรงเรียนแม่และวัด คือ โพเดียม แจกัน โต๊ะขาว พรมปูในบ้าน ร่มขาว กรอบวางรูปบ่าวสาว ของชำร่วย เราเลือกเป็นช้อนส้อมขนาดจริง กล่องรับซอง สมุดเขียนคำอวยพร อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับพิธีปูเตียง ซื้อที่จตุจักรทั้งหมด การ์ดงานแต่ง ป้ายของชำร่วย และฉากชื่อในพิธี เจ้าบ่าวออกแบบเอง ปริ้นเอง ใช้ระยะเวลาในการเตรียมงานจริงๆ 2 เดือน
เมื่อถึงวันงานจริงๆ เราทั้งสองคนสามารถลางานได้ 10 วัน จึงมีเวลาจัดเตรียมสถานที่คือวันที่ 5 และ 6 ดังนั้นจึงเป็นการรวมพลของญาติพี่น้อง ขนโต๊ะ เก้าอี้ เครื่องเสียง (ฟรี) และเวทีเล็กๆ จัดฉากด้านในและด้านนอกบ้าน จัดเตรียมสถานที่จึงเกิดขึ้น
วันงานแต่ง พิธีเริ่ม 7.00 ตักบาตร แห่ขันหมาก 6 ประตู สู่ขอ ยกน้ำชาฝั่งเจ้าบ่าว บายศรี ส่งตัวเข้าห้องหอ เลี้ยงแขกประมาณ 11 โมง
ค่าช่างภาพในงานฟรี ค่ารถตู้และค่าที่พักแขก 2 วัน 20,000 บาท ค่าอาหารก่อนวันงานและอาหารถวายพระ 10,000 รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 140,000 แสนบาท หลังเสร็จงานนอนอยู่ 2 วัน เหนื่อยแต่ก็มีความสุขมาก พ่อแม่ทั้งสองฝ่าย ญาติพี่น้อง เพื่อนน้องชาย-สะใภ้ เพื่อนเรา เพื่อนพ่อเพื่อนแม่ มาช่วยแรงกันเต็มที่แข็งขัน พ่อแม่ยกสินสอดพร้อมทองคืนให้ทั้งหมด เราแต่งตามประเพณีจีนและแฟนแต่งตามประเพณีอีสาน สองวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน สามารถรวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้