ชื่อกระทู้ก็บอกแล้ว ว่า Single Trip แน่นอนว่าเราไปคนเดียวค่ะ
ขอบอกก่อนว่านี่คือกระทู้รีวิวท่องเที่ยวแรกของเรา ผิดพลาดยังไงต้องขออภัยล่วงหน้า
รูปทุกรูปถ่ายจากมือถือซัมซุงA8 ของเรา มันอาจจะไม่ค่อยชัดเท่าไหร่

ทริปนี้เกิดขึ้น เพราะ ..ความคิดถึงล้วนๆ คิดถึงวิวยอดดอยหลวงเชียงดาว
เมื่อ3ปีที่แล้วเราเคยมาที่นี่ แล้วก็รู้สึกหลงรักตั้งแต่ครั้งนั้น เลยบอกกับตัวเองตลอดหลังกลับไปครั้งนั้น ว่าต้องกลับมาอีกครั้งให้ได้
ทริปนี้จึงเริ่มต้นขึ้น..
" OCT 6 - 7, 2018 "



จากภาพคงรู้ว่าเราไปเชียงดาวยังไง .. เราอยากไปถึงเร็วๆ
เลยเช่า Wave i 110 จากร้าน Bikky chiangmai
แว๊นจากตัวเมืองเชียงใหม่ ไปเชียงดาว ไป-กลับ เติมน้ำมันไป150บาท เหลือๆ
ระยะทางจากตัวเมืองมานี่ประมาณ 70 กิโล
เส้นทางต่อจากนี้เราไม่สามารถจอดถ่ายภาพได้แล้ว เพราะมันจะเริ่มแคบ และ ชัน ขึ้นเรื่อยๆ
จากจุดนี้ถึง บ้านนาเลาใหม่ อยู่ที่ประมาณ 20 กิโล ขึ้นเขาล้วนๆค๊าาาา
แว๊นต่อไม่รอแล้วน๊าาาา
ระหว่างทางเจอถนนกำลังก่อสร้าง วิ่งได้เลนเดียว ต้องรออีกฝั่งมาก่อน
ทางบางช่วงก็จะแคบกว่าในรูปนะคะ บางช่วงนี่ขึ้นเขาแบบชันๆ โค้งหักศอกกันเลยทีเดียว
ถึงแล้วววววววววว .. ม่านหมอกเชียงดาวโฮมสเตย์
ใช้เวลาขี่รถจากตัวเมืองเชียงใหม่มาถึงที่พัก รวมๆแล้ว 2 ชั่วโมงได้
รูปนี้เราไม่ได้ถ่าย เป็นรูปของทางเพจม่านหมอกเชียงดาวโฮมสเตย์ ในFacebook ค่ะ
คือ อยากให้เห็นว่ามันสวยยังไง แล้ววันที่เราไปหมอกค่อนข้างหนา
มองไม่เห็นวิวยอดดอยหลวงเชียงดาว เลยแอบเอาภาพจากทางโฮมสเตย์มาแปะให้ชม
สวยเน๊อะ
นี่ที่นอนเราคืนนี้ เราจองเป็นแบบเต็นท์ไว้
แต่ไม่สามารถเลือกล่วงหน้าได้ว่าจองหลังไหน ต้องมาเลือกวันเข้าพัก
โชคดีมาถึงก่อนคนอื่นที่เค้าจองไว้ เราเลยมีสิทธิ์เลือกทำเลก่อนใคร เลยเลือกหน้าสุดเลย
จริงๆ ทำเลดีทุกหลังนะ ที่นี่เค้าจะจัดเต็นท์ไว้ห่างกัน มีความเป็นส่วนตัวพอสมควร
ภาพเต็นท์แบบชัดๆ (แอบถ่ายข้างๆมา ของตัวเองเละเทะแล้ว 5555)
กว้างมาก แข็งแรงมาก มีพลาสติกใสคลุมทับกันฝนอีกที นอนได้เต็นท์ละ 2-3คน
ข้างในก็ตามภาพเลย มีฟูกขนาดเท่าเต็นท์วางไว้ น่าจะประมาณเตียง 5ฟุต พร้อมหมอนและผ้านวม

หลังจากเอากระเป๋าเก็บ เราเลยออกมาขี่รถเล่น มาเมืองคอง ..ห่างจากที่พัก 20กิโล
มาให้รู้ว่ามันมีอะไร เพราะเห็นคนรีวิวกันเยอะ ก็อย่างที่เห็นจุดน่าสนใจที่เราเจอมีแค่นี้
คือที่นี่อาจมีจุดน่าสนใจจุดอื่นอีก แต่เราไม่เจอ ตรงนี้คือขี่รถมาตามทางเรื่อยๆก็จะเจอเลย
ตรงนี้เป็นมุมจากร้านกาแฟ อยู่ตรงคลองเมืองคอง

ยืนคิดอยู่ว่า ..กูขี่รถมาทำไมตั้ง20กิโลวะเนี้ย 5555
ทางก็แคบ แบบว่าแคบกว่าทางมาบ้านนาเลาใหม่อีก หลุมก็เยอะ ต้องหลบขี้ควายอีกค๊าาา
แต่ที่เราชอบอยู่อย่าง คือ ระหว่างทางที่ขี่รถมาเมืองคอง ข้างทางมีแต่ธรรมชาติสวยๆ
มีทุ่งนาในบางช่วง มีลำธารขนาบข้าง สลับซ้ายขวาตลอดทาง

เราอยู่ที่ร้านกาแฟสักพัก นั่งให้หายเหนื่อย เราก็ขี่รถกลับที่พักเลย เพราะฝนทำท่าจะตกแล้วด้วย
ขากลับจากเมืองคอง ระหว่างทางเจอลำธาร มีสะพานไม้ด้วย เลยจอดรถไว้ข้างทาง แวะพักนิดนึง
ใจอยากเล่นน้ำมากอะ แต่กลัว.. ไปคนเดียวอะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นเดี๋ยวไม่มีใครช่วย แถวนั้นไม่มีคนเลยด้วย

17:00 น. กลับมาถึงที่พักแล้ววววว อาหารเย็นมารอถึงหน้าเต็นท์เลย
หน้าตาธรรมดา แต่รสชาติไม่ธรรมดาเลย อร่อยมากกกกกก อร่อยทุกอย่าง
ทีเด็ดเลย คือ น้ำพริกลีซู กินกับอะไรก็อร่อย
ดูวิวดิ! นั่งกินข้าวไปชมวิวไป อากาศเย็นๆ มีลมเอื่อยๆ แต่บนเขาท้องฟ้าแอบมืด เหมือนฝนจะตก

แก!! ความสุขมันอยู่กับเราแป๊บเดียวจริงๆ ฝนตกเว้ย!!
เราเลยต้องหอบเข้ามากินต่อในเต็นท์ โชคดีที่เรานอนคนเดียว พื้นที่เลยเหลือ
เทียนนั้นเตรียมมาเองนะจ๊ะ ที่นี่หลัง2ทุ่มไม่มีไฟฟ้าแล้ว

ฝนหยุดแล้ว ฟ้าเปิด ดาวเต็มฟ้าเลย

.. เราเลยย้ายออกมานั่งตรงระเบียงหน้าเต็นท์
อากาศเย็นๆ จิบเบียร์ นั่งมองดาว เปิดเพลงคลอเบาๆ
ดีต่อใจเรามากอะ

ดึกๆ มีเพื่อนมาเยี่ยมค่ะ เพื่อนใจดีนอนเฝ้าหน้าเต็นท์ให้ด้วย

เรานั่งดื่ม นั่งดูดาวเพลินจนเกือบเที่ยงคืน เบียร์หมดก็เข้าเต็นท์นอน หลับสบายมากๆ

เช้าแล้วววววว นี่คือ 6โมงเช้า หมอกอะแก!!! เต็มหน้าเลย!! แบบเปิดเต็นท์มาเจอเลยอะ
โอ๊ยยยยยย ดีต่อใจอีกแล้ว

มื้อเช้ามาแล้วววววว .. ข้าวต้มหมูเติมได้ไม่อั้น ไข่ต้ม โอวัลตินร้อนๆ ยกมาบริการถึงหน้าเต็นท์เลย

ดูหมอกข้างหน้าเราดิ นี่เราต้องนั่งกินมื้อเช้าวิวนี้อ่าาาาา


อยากจะอยู่ต่ออีกซักคืนเลย





ไม่พูดเยอะ เห็นภาพก็คงรู้ ว่า มีความสุขแค่ไหน

กินข้าวเสร็จ เราก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
แล้วมานอนดูหมอก ชมวิวยอดดอยหลวงต่อในเต็นท์ แต่หมอกหนามากวันนี้ เราเลยไม่ได้เห็นยอดดอยหลวง

สายๆหลังจากเพลิดเพลินกับวิวที่ม่านหมอกโฮมสเตย์แล้ว หลังร่ำลาพี่หมิงอี้ และทุกคนที่นั่น
เราก็มานั่งชมวิวที่บ้านระเบียงดาวต่อ อีกหนึ่งโฮมสเตย์ยอดฮิต รุ่นบุกเบิกของที่นี่
ที่ๆสร้างความประทับใจให้เราเมื่อ 3ปีที่แล้ว
หลังจากนั้นเราก้แว๊นกลับเข้าตัวเมืองเชียงใหม่เลย

:: พระธาตุดอยสุเทพ ::
มาเชียงใหม่ทั้งที ไม่มาไหว้พระที่นี่ได้ไง ก่อนไปสนามบินเราเลยแวะไปไหว้สักหน่อย
เดี๋ยวนี้ไม่ต้องเหนื่อยเดินขึ้นแล้วนะ ที่นี่มีกระเช้าแล้ว .. จริงๆ มันเหมือนลิฟมากกว่า
ขึ้น-ลง จ่าย 20 บาท เองค่ะ แต่มีเวลานะ รอบสุดท้าย 18:00 น.

สุดท้ายแล้ววววว ลาไปด้วยภาพนี้ .. วิวเมืองเชียงใหม่ช่วงเย็น
หมอกเริ่มลงแล้ว อากาศเริ่มเย็น
และเราก็ต้องไปแล้ว
กลับกรุงเทพฯ ทำงานต่อในเช้าวันจันทร์
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ รายละเอียดค่าใช้จ่าย เราจะลงไว้ในคอมเม้นที่1 น๊า





[CR] #SingleTrip 2วัน 1คืน @เชียงดาว | ม่านหมอกเชียงดาวโฮมสเตย์ 🍀⛺
ขอบอกก่อนว่านี่คือกระทู้รีวิวท่องเที่ยวแรกของเรา ผิดพลาดยังไงต้องขออภัยล่วงหน้า
รูปทุกรูปถ่ายจากมือถือซัมซุงA8 ของเรา มันอาจจะไม่ค่อยชัดเท่าไหร่
เมื่อ3ปีที่แล้วเราเคยมาที่นี่ แล้วก็รู้สึกหลงรักตั้งแต่ครั้งนั้น เลยบอกกับตัวเองตลอดหลังกลับไปครั้งนั้น ว่าต้องกลับมาอีกครั้งให้ได้
ทริปนี้จึงเริ่มต้นขึ้น..
" OCT 6 - 7, 2018 "
จากภาพคงรู้ว่าเราไปเชียงดาวยังไง .. เราอยากไปถึงเร็วๆ
เลยเช่า Wave i 110 จากร้าน Bikky chiangmai
แว๊นจากตัวเมืองเชียงใหม่ ไปเชียงดาว ไป-กลับ เติมน้ำมันไป150บาท เหลือๆ
ระยะทางจากตัวเมืองมานี่ประมาณ 70 กิโล
เส้นทางต่อจากนี้เราไม่สามารถจอดถ่ายภาพได้แล้ว เพราะมันจะเริ่มแคบ และ ชัน ขึ้นเรื่อยๆ
จากจุดนี้ถึง บ้านนาเลาใหม่ อยู่ที่ประมาณ 20 กิโล ขึ้นเขาล้วนๆค๊าาาา
แว๊นต่อไม่รอแล้วน๊าาาา
ระหว่างทางเจอถนนกำลังก่อสร้าง วิ่งได้เลนเดียว ต้องรออีกฝั่งมาก่อน
ทางบางช่วงก็จะแคบกว่าในรูปนะคะ บางช่วงนี่ขึ้นเขาแบบชันๆ โค้งหักศอกกันเลยทีเดียว
ถึงแล้วววววววววว .. ม่านหมอกเชียงดาวโฮมสเตย์
ใช้เวลาขี่รถจากตัวเมืองเชียงใหม่มาถึงที่พัก รวมๆแล้ว 2 ชั่วโมงได้
รูปนี้เราไม่ได้ถ่าย เป็นรูปของทางเพจม่านหมอกเชียงดาวโฮมสเตย์ ในFacebook ค่ะ
คือ อยากให้เห็นว่ามันสวยยังไง แล้ววันที่เราไปหมอกค่อนข้างหนา
มองไม่เห็นวิวยอดดอยหลวงเชียงดาว เลยแอบเอาภาพจากทางโฮมสเตย์มาแปะให้ชม
สวยเน๊อะ
นี่ที่นอนเราคืนนี้ เราจองเป็นแบบเต็นท์ไว้
แต่ไม่สามารถเลือกล่วงหน้าได้ว่าจองหลังไหน ต้องมาเลือกวันเข้าพัก
โชคดีมาถึงก่อนคนอื่นที่เค้าจองไว้ เราเลยมีสิทธิ์เลือกทำเลก่อนใคร เลยเลือกหน้าสุดเลย
จริงๆ ทำเลดีทุกหลังนะ ที่นี่เค้าจะจัดเต็นท์ไว้ห่างกัน มีความเป็นส่วนตัวพอสมควร
ภาพเต็นท์แบบชัดๆ (แอบถ่ายข้างๆมา ของตัวเองเละเทะแล้ว 5555)
กว้างมาก แข็งแรงมาก มีพลาสติกใสคลุมทับกันฝนอีกที นอนได้เต็นท์ละ 2-3คน
ข้างในก็ตามภาพเลย มีฟูกขนาดเท่าเต็นท์วางไว้ น่าจะประมาณเตียง 5ฟุต พร้อมหมอนและผ้านวม
มาให้รู้ว่ามันมีอะไร เพราะเห็นคนรีวิวกันเยอะ ก็อย่างที่เห็นจุดน่าสนใจที่เราเจอมีแค่นี้
คือที่นี่อาจมีจุดน่าสนใจจุดอื่นอีก แต่เราไม่เจอ ตรงนี้คือขี่รถมาตามทางเรื่อยๆก็จะเจอเลย
ตรงนี้เป็นมุมจากร้านกาแฟ อยู่ตรงคลองเมืองคอง
ทางก็แคบ แบบว่าแคบกว่าทางมาบ้านนาเลาใหม่อีก หลุมก็เยอะ ต้องหลบขี้ควายอีกค๊าาา
แต่ที่เราชอบอยู่อย่าง คือ ระหว่างทางที่ขี่รถมาเมืองคอง ข้างทางมีแต่ธรรมชาติสวยๆ
มีทุ่งนาในบางช่วง มีลำธารขนาบข้าง สลับซ้ายขวาตลอดทาง
ขากลับจากเมืองคอง ระหว่างทางเจอลำธาร มีสะพานไม้ด้วย เลยจอดรถไว้ข้างทาง แวะพักนิดนึง
ใจอยากเล่นน้ำมากอะ แต่กลัว.. ไปคนเดียวอะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นเดี๋ยวไม่มีใครช่วย แถวนั้นไม่มีคนเลยด้วย
หน้าตาธรรมดา แต่รสชาติไม่ธรรมดาเลย อร่อยมากกกกกก อร่อยทุกอย่าง
ทีเด็ดเลย คือ น้ำพริกลีซู กินกับอะไรก็อร่อย
ดูวิวดิ! นั่งกินข้าวไปชมวิวไป อากาศเย็นๆ มีลมเอื่อยๆ แต่บนเขาท้องฟ้าแอบมืด เหมือนฝนจะตก
เราเลยต้องหอบเข้ามากินต่อในเต็นท์ โชคดีที่เรานอนคนเดียว พื้นที่เลยเหลือ
เทียนนั้นเตรียมมาเองนะจ๊ะ ที่นี่หลัง2ทุ่มไม่มีไฟฟ้าแล้ว
อากาศเย็นๆ จิบเบียร์ นั่งมองดาว เปิดเพลงคลอเบาๆ
ดีต่อใจเรามากอะ
เรานั่งดื่ม นั่งดูดาวเพลินจนเกือบเที่ยงคืน เบียร์หมดก็เข้าเต็นท์นอน หลับสบายมากๆ
โอ๊ยยยยยย ดีต่อใจอีกแล้ว
อยากจะอยู่ต่ออีกซักคืนเลย
แล้วมานอนดูหมอก ชมวิวยอดดอยหลวงต่อในเต็นท์ แต่หมอกหนามากวันนี้ เราเลยไม่ได้เห็นยอดดอยหลวง
เราก็มานั่งชมวิวที่บ้านระเบียงดาวต่อ อีกหนึ่งโฮมสเตย์ยอดฮิต รุ่นบุกเบิกของที่นี่
ที่ๆสร้างความประทับใจให้เราเมื่อ 3ปีที่แล้ว
หลังจากนั้นเราก้แว๊นกลับเข้าตัวเมืองเชียงใหม่เลย
มาเชียงใหม่ทั้งที ไม่มาไหว้พระที่นี่ได้ไง ก่อนไปสนามบินเราเลยแวะไปไหว้สักหน่อย
เดี๋ยวนี้ไม่ต้องเหนื่อยเดินขึ้นแล้วนะ ที่นี่มีกระเช้าแล้ว .. จริงๆ มันเหมือนลิฟมากกว่า
ขึ้น-ลง จ่าย 20 บาท เองค่ะ แต่มีเวลานะ รอบสุดท้าย 18:00 น.
หมอกเริ่มลงแล้ว อากาศเริ่มเย็น
และเราก็ต้องไปแล้ว
กลับกรุงเทพฯ ทำงานต่อในเช้าวันจันทร์
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ รายละเอียดค่าใช้จ่าย เราจะลงไว้ในคอมเม้นที่1 น๊า
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น