บันทึกรัสเซีย วันที่ 1 วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน 2561
ถึงสนามบิน VKO ประมาณบ่ายโมงครึ่ง สมาชิกแวะซื้อซิมโทรศัพท์ Bline สีเหลือง ใครมารัสเซียแนะนำยี่ห้อนี้ค่ะ เนตดี ลื่นปรื๊ด ๆ ใช้ไลน์ได้ด้วย แถมโทรหากันฟรีใน Bline ด้วยกันด้วย ส่วนยี่ห้อที่ไม่แนะนำอย่างยิ่งคือ Megaphone สีเขียวค่ะ แย่ถึงระดับที่เรียกว่าห่วยมาก ๆ ได้เลย สัญญานแย่ เล่นไลน์ไม่ได้นะคะ โทรหากันก็ตาม Packgage การสื่อสารเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นมากกกกกค่ะ เรื่องซิมโทรศัพท์จึงสำคัญมากนะคะ ที่สนามบิน VKO นี้ ถ้าเดินออกทางออกผู้โดยสารขาออกมาจะเห็นมีร้านซิมหลายร้านทีเดียว ร้านที่พวกเราไปคือร้านที่เดินเลี้ยวขวาออกมา เป็นบูทของน้องผู้หญิง น่ารักมาก ใจดี แถมช่วยแนะนำเราถึงวิธีการเรียก Uber ด้วย จากนั้นเราก็ออกเดินทางโดย Uber จากสนามบินไปที่พักแรกแห่งแรก คือWinterfell on Baumanskaya เพราะมากัน 3 คน คำณวนแล้วค่าโดยสารถูกว่า ถ้าใช้ Aeroexpress ซึ่งไปสุดสายที่สถานี Metro Kiyevskaya จะแพงกว่า เพราะค่า Aeroexpress อย่างเดียวก็คนละ 500 รูเปิ้ล แล้วต้องต่อรถไฟฟ้าจากสถานี Metro Kiyevskaya ไป Baumanskaya Metro Station ซึ่งเป็นสถานี Metro ที่ใกล้ที่พักสุดอีก
เล่าเรื่อง Aeroexpress ก่อนว่า เป็นรถไฟฟ้าที่วิ่งเชื่อมจากสนามบินหลัก 3 สถานีของมอสโควอันได้แก่ DME SVO และ VKO ไปยังรถไฟฟ้าในเมือง เนื่องจากสนามบินของมอสโควจะอยู่ จะอยู่ค่อนมาทางนอกเมือง โดย
Aeroexpress จาก DME airport จะวิ่งไปที่ Paveletsky Rail Terminal ในขณะที่ Aeroexpress จาก SVO airport จะวิ่งไปที่ Belorussky Rail Terminal ส่วน Aeroexpress จาก VKO airport ที่เราลงนี้จะวิ่งไปสุดสายที่ สถานี Kiyevskaya (Kievsky Rail Terminal) ฉะนั้น ถ้าไปกันเป็นทีม 3 คนขึ้นไป การใช้บริการ Uber ถือว่าสะดวกและประหยัดที่สุด เพราะอย่างไรก็ไม่น่าเกิน 1,000 รูเปิ้ล
เราเข้าถึงที่พักอย่างสะบักสะบอม เพราะหาที่พักยากมากกกกกก กระเป๋าก็ใบใหญ่มากกกกก เก็บของเรียบร้อยก็ออกไปยังใจกลางของเมืองมอสโคว . . . จตุรัสแดง
เมื่อจะเดินทาง เราก็เริ่มต้นด้วยการซื้อบัตร Metro ก่อน ซึ่งแน่นอนว่าการเดินทางที่ใช้ Metro เป็นหลักอย่างทีมเรานี่ ซื้อแบบเหมา 60 รอบจะประหยัดกว่ามาก เพราะตั๋ว Metro ที่นี่สามารถใช้ด้วยกันได้ คือเดินเข้าสถานีโดยการบัตรแล้วส่งให้เพื่อนแตะต่อได้เลย (ตามที่อ่านมาบอกว่า ครั้งละไม่เกิน 7 คน อันนี้ไม่รู้จริงหรือเปล่า เพราะเรามากันแค่ 3 คน) ตอนขาออก ไม่มีการแตะบัตรอีก เดินผ่านที่กั้นออกจากสถานีได้เลย ราคาตั๋วอยู่ที่ประมาณ 1,850 รูเปิ้ล รวมค่ามัดจำบัตรแล้ว ตกเที่ยวละ 30 รูเปิ้ลเอง ถ้าซื้อเป็นเที่ยวจะ 45 รูเปิ้ล ประหยัดไปเที่ยวละ 15 รูเปิ้ลเลยทีเดีย ก็ลองเอา 60 คูณ จะรู้ว่าประหยัดไปเยอะมากกกกกกก เข้าทางเรา แฮ่....
หลังจากซื้อบัตรเสร็จเรียบร้อยก็เดินทางกันเลย ทีมเราไปถึงจัตุรัสแดงประมาณ 5 โมงเย็น แต่พากันหลงวนไปมา ตั้งแต่หาทางออกจากสถานี ออกก็ผิดทางถามคนก็พูดอังกฤษไม่ได้ คนที่นี่พูดอังกฤษน้อยมากจริง ๆ (แอปกูเกิ้ลช่วยได้จ้า) วนไปมากว่าจะถึงจตุรัสแดงก็เกือบหกโมง แสงกำลังสวยเลยทีเดียว ก็ถ่ายรูปกันจนเพลิน ชมแต่ด้านนอกก็รู้สีกว่าคุ้มแล้ว สวยมากจริง ๆ
รูปนี้ถ่ายตอนพระจันทร์ขึ้น สวยจับใจมาก เป็นภาพสวยที่สุดในทริปนี้ของเราเลย
Red Square เป็นจตุรัสใจกลางกรุงมอสโก เปรียบเสมือนหัวใจของมอสโกเลยทีเดียว เพราะถนนสายสำคัญทุกสายของกรุงมอสโกจะวิ่งตรงออกจากจัตุรัสแดงแห่งนี้ นอกจากนี้ ยังเป็นสถานที่ตั้งของมหาวิหารเซนต์บาซิล และหลุมฝังศพของวลาดิมีร์ เลนิน อีกด้วย
จัตุรัสแดง มีขนาดกว้าง 70 เมตร ยาว 695 เมตร มีพื้นที่รวม 23,100 ตารางเมตร
ชื่อจัตุรัสแดงมักถูกเข้าใจผิดว่า คำว่า "แดง" ในชื่อจัตุรัส มาจากสีของคอมมิวนิสต์ หรือสีของอิฐในบริเวณนั้นที่เป็นสีแดง แต่แท้จริงแล้วชื่อจัตุรัสแดงมาจากภาษารัสเซียคำว่า "красный" ซึ่งในภาษารัสเซียดั้งเดิมมีความหมายว่าสวยงาม ในขณะที่ภาษารัสเซียสมัยใหม่แปลว่าสีแดง
การเดินทาง ขึ้นจากเมโทร Ploshchad Revolyutsii (Пло́щадь Револю́ции) สายสีน้ำเงิน
ถามว่า St. Basil's ออกประตูทางออกไหน เมื่อขึ้นมาเจอลานกว้าง ๆ จุดนี้ คือ จัตุรัสแดง ข้างหน้า คือ วิหารเซนต์บาซิล ฝั่งตรงข้ามโบสถ์จะเห็นอาคารสีแดงสด คือพิพิธภัณฑ์แห่งชาติรัสเซีย State history museum ที่เก็บสมบัติล้ำค่าของประเทศรัสเซีย ด้านขวามือคือ พระราชวังเครมลิน ส่วนด้านซ้ายมือคือ ห้าง GUM และถ้าเราหันหลังให้โบสถ์เซนต์เบซิล แล้วเดินออกมาทางซุ้มประตู Voskresensky gate จะเจอจุดโยนเหรียญเสี่ยงโชค หน้า Red Square วัฒนธรรมท้องถิ่นคือยืนบนแผ่นทองเหลืองตรงกลาง และโยนเหรียญ ถ้าเหรียญไม่กลิ้งออกไปนอกกรอบทั้ง 4 ด้านนี้ถือว่าจะโชคดี แต่เราไม่ได้ลองโยนกัน
เดินจนเหนื่อยก็แวะเข้าห้างกุม ห้างเก่าแก่ที่สุดของที่นี่ สวยงามอลังการมาก และที่พลาดไม่ได้คือ “ไอติมกุม” มิฉะนั้นถือว่ามาไม่ถึงห้างกุม ต้องยอมรับว่า ไอติมเค้าอร่อยสมเป็นเอกลักษณ์จริง ๆ แนะนำเลยค่ะ ราคา 100 รูเปิ้ล เดินไปมาสักพัก น้องในทีมอยากเข้าห้องน้ำ เดินหาห้องน้ำฟรีในห้างกัน หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ เอ...อ่านรีวิวมาว่าในห้างมีห้องน้ำฟรีนะ คงยกเลิกไปแล้ว จึงตัดใจไปเข้าจ่ายตังค์ 30 รูเปิ้ล เสร็จภาระกิจเอาออก ท้องก็หิว จะกินที่กุมก็ดูจะแพงไป จึงเดินไปดูในห้างด้านหน้าจัตุรัสแดง เป็นห้างที่อยูใต้ดิน โผล่ให้เห็นเฉพาะหลังคาโดม
ระหว่างเดินไปห้างจะผ่านจุดโยนเหรียญเสี่ยงทาย ซึ่งอยู่หน้าซุ้มประตู Voskresensky gate ที่จะเข้า Red Square ก่อน ณ จุดนี้นับเป็นหลักกิโลเมตรที่ 0 เป็นจุดที่ถนนสายสำคัญทุกสายของมอสโคว์จะวิ่งออกจากจัตุรัสแดงนี้
เมื่อไปถึงห้าง ก็ลองกินอาหารที่เป็นของที่นี่จริง ๆ ชื่อร้าน My My (อ่านออกเสียงว่า Mu Mu) สรุปกินไม่ได้ ไม่ถูกปากทีมเราเลย ขนาดเหนื่อยและหิวกันมาก ยังไม่สามารถกินจนหมดได้ จากนั้นก็รู้สึกไปไหนไม่รอดแล้ว เพราะเพลียจากการเดินทาง ดูนาฬิกาก็ปาเข้าไปสามทุ่มแล้วจึงตัดสินใจกลับเข้าที่พัก
แต่ตอนออกมาจากห้างก็ยังได้เห็นไฟที่ไม่มีวันดับ ซึ่งอยู่บริเวณข้างกำแพงวัง
สรุป วันแรกของการเยือนแดนหมีขาว เราฉลองด้วยการเดินกันประมาณ 10 กิโลได้
#MoscowMarathon
ท่องแดนหมีขาว Moscow Marathon 2018 ตอน 2
ถึงสนามบิน VKO ประมาณบ่ายโมงครึ่ง สมาชิกแวะซื้อซิมโทรศัพท์ Bline สีเหลือง ใครมารัสเซียแนะนำยี่ห้อนี้ค่ะ เนตดี ลื่นปรื๊ด ๆ ใช้ไลน์ได้ด้วย แถมโทรหากันฟรีใน Bline ด้วยกันด้วย ส่วนยี่ห้อที่ไม่แนะนำอย่างยิ่งคือ Megaphone สีเขียวค่ะ แย่ถึงระดับที่เรียกว่าห่วยมาก ๆ ได้เลย สัญญานแย่ เล่นไลน์ไม่ได้นะคะ โทรหากันก็ตาม Packgage การสื่อสารเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นมากกกกกค่ะ เรื่องซิมโทรศัพท์จึงสำคัญมากนะคะ ที่สนามบิน VKO นี้ ถ้าเดินออกทางออกผู้โดยสารขาออกมาจะเห็นมีร้านซิมหลายร้านทีเดียว ร้านที่พวกเราไปคือร้านที่เดินเลี้ยวขวาออกมา เป็นบูทของน้องผู้หญิง น่ารักมาก ใจดี แถมช่วยแนะนำเราถึงวิธีการเรียก Uber ด้วย จากนั้นเราก็ออกเดินทางโดย Uber จากสนามบินไปที่พักแรกแห่งแรก คือWinterfell on Baumanskaya เพราะมากัน 3 คน คำณวนแล้วค่าโดยสารถูกว่า ถ้าใช้ Aeroexpress ซึ่งไปสุดสายที่สถานี Metro Kiyevskaya จะแพงกว่า เพราะค่า Aeroexpress อย่างเดียวก็คนละ 500 รูเปิ้ล แล้วต้องต่อรถไฟฟ้าจากสถานี Metro Kiyevskaya ไป Baumanskaya Metro Station ซึ่งเป็นสถานี Metro ที่ใกล้ที่พักสุดอีก
เล่าเรื่อง Aeroexpress ก่อนว่า เป็นรถไฟฟ้าที่วิ่งเชื่อมจากสนามบินหลัก 3 สถานีของมอสโควอันได้แก่ DME SVO และ VKO ไปยังรถไฟฟ้าในเมือง เนื่องจากสนามบินของมอสโควจะอยู่ จะอยู่ค่อนมาทางนอกเมือง โดย
Aeroexpress จาก DME airport จะวิ่งไปที่ Paveletsky Rail Terminal ในขณะที่ Aeroexpress จาก SVO airport จะวิ่งไปที่ Belorussky Rail Terminal ส่วน Aeroexpress จาก VKO airport ที่เราลงนี้จะวิ่งไปสุดสายที่ สถานี Kiyevskaya (Kievsky Rail Terminal) ฉะนั้น ถ้าไปกันเป็นทีม 3 คนขึ้นไป การใช้บริการ Uber ถือว่าสะดวกและประหยัดที่สุด เพราะอย่างไรก็ไม่น่าเกิน 1,000 รูเปิ้ล
เราเข้าถึงที่พักอย่างสะบักสะบอม เพราะหาที่พักยากมากกกกกก กระเป๋าก็ใบใหญ่มากกกกก เก็บของเรียบร้อยก็ออกไปยังใจกลางของเมืองมอสโคว . . . จตุรัสแดง
เมื่อจะเดินทาง เราก็เริ่มต้นด้วยการซื้อบัตร Metro ก่อน ซึ่งแน่นอนว่าการเดินทางที่ใช้ Metro เป็นหลักอย่างทีมเรานี่ ซื้อแบบเหมา 60 รอบจะประหยัดกว่ามาก เพราะตั๋ว Metro ที่นี่สามารถใช้ด้วยกันได้ คือเดินเข้าสถานีโดยการบัตรแล้วส่งให้เพื่อนแตะต่อได้เลย (ตามที่อ่านมาบอกว่า ครั้งละไม่เกิน 7 คน อันนี้ไม่รู้จริงหรือเปล่า เพราะเรามากันแค่ 3 คน) ตอนขาออก ไม่มีการแตะบัตรอีก เดินผ่านที่กั้นออกจากสถานีได้เลย ราคาตั๋วอยู่ที่ประมาณ 1,850 รูเปิ้ล รวมค่ามัดจำบัตรแล้ว ตกเที่ยวละ 30 รูเปิ้ลเอง ถ้าซื้อเป็นเที่ยวจะ 45 รูเปิ้ล ประหยัดไปเที่ยวละ 15 รูเปิ้ลเลยทีเดีย ก็ลองเอา 60 คูณ จะรู้ว่าประหยัดไปเยอะมากกกกกกก เข้าทางเรา แฮ่....
หลังจากซื้อบัตรเสร็จเรียบร้อยก็เดินทางกันเลย ทีมเราไปถึงจัตุรัสแดงประมาณ 5 โมงเย็น แต่พากันหลงวนไปมา ตั้งแต่หาทางออกจากสถานี ออกก็ผิดทางถามคนก็พูดอังกฤษไม่ได้ คนที่นี่พูดอังกฤษน้อยมากจริง ๆ (แอปกูเกิ้ลช่วยได้จ้า) วนไปมากว่าจะถึงจตุรัสแดงก็เกือบหกโมง แสงกำลังสวยเลยทีเดียว ก็ถ่ายรูปกันจนเพลิน ชมแต่ด้านนอกก็รู้สีกว่าคุ้มแล้ว สวยมากจริง ๆ
Red Square เป็นจตุรัสใจกลางกรุงมอสโก เปรียบเสมือนหัวใจของมอสโกเลยทีเดียว เพราะถนนสายสำคัญทุกสายของกรุงมอสโกจะวิ่งตรงออกจากจัตุรัสแดงแห่งนี้ นอกจากนี้ ยังเป็นสถานที่ตั้งของมหาวิหารเซนต์บาซิล และหลุมฝังศพของวลาดิมีร์ เลนิน อีกด้วย
จัตุรัสแดง มีขนาดกว้าง 70 เมตร ยาว 695 เมตร มีพื้นที่รวม 23,100 ตารางเมตร
ชื่อจัตุรัสแดงมักถูกเข้าใจผิดว่า คำว่า "แดง" ในชื่อจัตุรัส มาจากสีของคอมมิวนิสต์ หรือสีของอิฐในบริเวณนั้นที่เป็นสีแดง แต่แท้จริงแล้วชื่อจัตุรัสแดงมาจากภาษารัสเซียคำว่า "красный" ซึ่งในภาษารัสเซียดั้งเดิมมีความหมายว่าสวยงาม ในขณะที่ภาษารัสเซียสมัยใหม่แปลว่าสีแดง
การเดินทาง ขึ้นจากเมโทร Ploshchad Revolyutsii (Пло́щадь Револю́ции) สายสีน้ำเงิน
ถามว่า St. Basil's ออกประตูทางออกไหน เมื่อขึ้นมาเจอลานกว้าง ๆ จุดนี้ คือ จัตุรัสแดง ข้างหน้า คือ วิหารเซนต์บาซิล ฝั่งตรงข้ามโบสถ์จะเห็นอาคารสีแดงสด คือพิพิธภัณฑ์แห่งชาติรัสเซีย State history museum ที่เก็บสมบัติล้ำค่าของประเทศรัสเซีย ด้านขวามือคือ พระราชวังเครมลิน ส่วนด้านซ้ายมือคือ ห้าง GUM และถ้าเราหันหลังให้โบสถ์เซนต์เบซิล แล้วเดินออกมาทางซุ้มประตู Voskresensky gate จะเจอจุดโยนเหรียญเสี่ยงโชค หน้า Red Square วัฒนธรรมท้องถิ่นคือยืนบนแผ่นทองเหลืองตรงกลาง และโยนเหรียญ ถ้าเหรียญไม่กลิ้งออกไปนอกกรอบทั้ง 4 ด้านนี้ถือว่าจะโชคดี แต่เราไม่ได้ลองโยนกัน
เดินจนเหนื่อยก็แวะเข้าห้างกุม ห้างเก่าแก่ที่สุดของที่นี่ สวยงามอลังการมาก และที่พลาดไม่ได้คือ “ไอติมกุม” มิฉะนั้นถือว่ามาไม่ถึงห้างกุม ต้องยอมรับว่า ไอติมเค้าอร่อยสมเป็นเอกลักษณ์จริง ๆ แนะนำเลยค่ะ ราคา 100 รูเปิ้ล เดินไปมาสักพัก น้องในทีมอยากเข้าห้องน้ำ เดินหาห้องน้ำฟรีในห้างกัน หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ เอ...อ่านรีวิวมาว่าในห้างมีห้องน้ำฟรีนะ คงยกเลิกไปแล้ว จึงตัดใจไปเข้าจ่ายตังค์ 30 รูเปิ้ล เสร็จภาระกิจเอาออก ท้องก็หิว จะกินที่กุมก็ดูจะแพงไป จึงเดินไปดูในห้างด้านหน้าจัตุรัสแดง เป็นห้างที่อยูใต้ดิน โผล่ให้เห็นเฉพาะหลังคาโดม
ระหว่างเดินไปห้างจะผ่านจุดโยนเหรียญเสี่ยงทาย ซึ่งอยู่หน้าซุ้มประตู Voskresensky gate ที่จะเข้า Red Square ก่อน ณ จุดนี้นับเป็นหลักกิโลเมตรที่ 0 เป็นจุดที่ถนนสายสำคัญทุกสายของมอสโคว์จะวิ่งออกจากจัตุรัสแดงนี้
เมื่อไปถึงห้าง ก็ลองกินอาหารที่เป็นของที่นี่จริง ๆ ชื่อร้าน My My (อ่านออกเสียงว่า Mu Mu) สรุปกินไม่ได้ ไม่ถูกปากทีมเราเลย ขนาดเหนื่อยและหิวกันมาก ยังไม่สามารถกินจนหมดได้ จากนั้นก็รู้สึกไปไหนไม่รอดแล้ว เพราะเพลียจากการเดินทาง ดูนาฬิกาก็ปาเข้าไปสามทุ่มแล้วจึงตัดสินใจกลับเข้าที่พัก
แต่ตอนออกมาจากห้างก็ยังได้เห็นไฟที่ไม่มีวันดับ ซึ่งอยู่บริเวณข้างกำแพงวัง
สรุป วันแรกของการเยือนแดนหมีขาว เราฉลองด้วยการเดินกันประมาณ 10 กิโลได้
#MoscowMarathon