นาย A คือ ผู้ให้เช่า, เจ้าของอาคาร และที่ดิน
นาย B คือ ผู้เช่า
10 กว่าปีก่อน นาย A ลงทุนถมที่ แล้วสร้างอาคารขึ้นมาด้านที่ติดถนนใหญ่ เป็นการสร้างแบบไม่ได้วางแผนอะไรมากนัก ไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง ไม่คิดว่าจะมีคนมาเช่า
พอสร้างอาคารเสร็จ อาคารก็มีคนเช่าตลอด ไม่เคยว่าง และทุกรายจะมาขอเช่าทำธุรกิจร้านอาหาร (ขายเหล้าด้วย) เป็นสัญญาปีต่อปี
ผู้เช่าก็เปลี่ยนไปหลายราย ล่าสุดคือ นาย B เช่าอยู่
นาย B เช่ามาแล้ว 3 ปีกว่า
ผู้เช่ารายนี้แปลกที่สุดตั้งแต่เคยเจอมา คือ เป็นร้านที่แทบไม่มีคนเข้าร้าน เด็กเสิร์ฟก็หลายคน แต่ร้านก็ยังอยู่ได้ (คนดูแลของนาย A รายงานว่า วันนึงคนเข้าร้าน 1-5 คน วันไหนฝนตกไม่มีลูกค้าเข้าร้านเลย)
ช่วงต่อสัญญาตอนครบปีที่ 2 นาย B ขออนุญาตนาย A ตกแต่งปรับปรุงร้าน
นาย A มองว่า ร้านของนาย B ขายไม่ดี ความเป็นไปได้ คือ นาย B คงแต่งร้านแบบง่ายๆ เพราะคงไม่น่าจะมีงบมากนัก
แต่กลายเป็นว่า นาย B ตกแต่งร้านอย่างดี เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์หมดทั้งร้าน ลงทุนติดแอร์ทั้งหลัง (ก็ไม่รู้เอางบมาจากไหน)
ปัจจุบัน มีคนโทรมาหานาย A ทุกเดือน เพื่อขอเช่าอาคารนี้
คนที่โทรมาแทบทุกราย จะพูดประมาณว่า ถ้าร้านนาย B เจ๊ง เค้าขอเช่าต่อ (สาเหตุที่คนโทรมา เพราะทุกคนคิดว่าร้านคงเจ๊งในเร็วๆ นี้) แต่ร้านนาย B ก็ไม่เจ๊งซักที (ทุกคนที่โทรมาก็พูดทำนองไม่เข้าใจว่าทำไมร้านยังอยู่ได้)
จากการสอบถามจากคนที่โทรมาหลายๆ ราย ก็มีทั้งอยากจะเปิดร้านขายอาหาร ขายก๋วยเตี๋ยว ร้านกาแฟ ซีฟู๊ด เปิดออฟฟิศสำนักงาน ฯลฯ
นาย A มองว่า ทำเลนี้มีความต้องการเช่าที่ดินสูง ที่ดินด้านหลังควรทำประโยชน์ แต่ปัญหา คือ อาคารที่นาย B เช่าอยู่บังด้านหลังหมด
จึงมีโครงการรื้อทิ้ง เพื่อสร้างอาคารเต็มพื้นที่ (สร้างแบบเรียงๆ กัน มีที่จอดรถเป็นสัดส่วน)
ซึ่งถ้าทำได้ตามนี้ จะได้ค่าเช่าเพิ่ม 8-10 เท่า หรือมากกว่า
ถ้าเอาตามสัญญาเช่า คือ สิ้นปีนี้ นาย B จะหมดสัญญาเช่า นาย A สามารถไม่ต่อสัญญาเช่ากับนาย B ก็ได้
แต่นาย A ก็เห็นใจ นาย B เพราะนอกจากร้านจะขายไม่ดีแล้ว ก็เพิ่งลงทุนตกแต่งร้านใหม่ไป หมดไปเยอะกับค่าแต่งร้าน และ นาย B คงโกรธแค้นนาย A (ใจเขาใจเรา)
แต่ถ้าเกรงใจนาย B โครงการก็เกิดช้า เป็นการเสียโอกาสทางธุรกิจที่ให้มูลค่าสูง
รบกวนถามความเห็นครับว่า ใช้แนวทางไหนถึงจะ winwin ทั้ง 2 ฝ่าย บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่นครับ
ขอบคุณครับ
ไม่อยากต่อสัญญาเช่า เพื่อรื้ออาคารทิ้งแล้วสร้างใหม่ แต่ผู้เช่าเพิ่งลงทุนแต่งร้านไป เจรจาอย่างไรให้ winwin ครับ
นาย B คือ ผู้เช่า
10 กว่าปีก่อน นาย A ลงทุนถมที่ แล้วสร้างอาคารขึ้นมาด้านที่ติดถนนใหญ่ เป็นการสร้างแบบไม่ได้วางแผนอะไรมากนัก ไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง ไม่คิดว่าจะมีคนมาเช่า
พอสร้างอาคารเสร็จ อาคารก็มีคนเช่าตลอด ไม่เคยว่าง และทุกรายจะมาขอเช่าทำธุรกิจร้านอาหาร (ขายเหล้าด้วย) เป็นสัญญาปีต่อปี
ผู้เช่าก็เปลี่ยนไปหลายราย ล่าสุดคือ นาย B เช่าอยู่
นาย B เช่ามาแล้ว 3 ปีกว่า
ผู้เช่ารายนี้แปลกที่สุดตั้งแต่เคยเจอมา คือ เป็นร้านที่แทบไม่มีคนเข้าร้าน เด็กเสิร์ฟก็หลายคน แต่ร้านก็ยังอยู่ได้ (คนดูแลของนาย A รายงานว่า วันนึงคนเข้าร้าน 1-5 คน วันไหนฝนตกไม่มีลูกค้าเข้าร้านเลย)
ช่วงต่อสัญญาตอนครบปีที่ 2 นาย B ขออนุญาตนาย A ตกแต่งปรับปรุงร้าน
นาย A มองว่า ร้านของนาย B ขายไม่ดี ความเป็นไปได้ คือ นาย B คงแต่งร้านแบบง่ายๆ เพราะคงไม่น่าจะมีงบมากนัก
แต่กลายเป็นว่า นาย B ตกแต่งร้านอย่างดี เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์หมดทั้งร้าน ลงทุนติดแอร์ทั้งหลัง (ก็ไม่รู้เอางบมาจากไหน)
ปัจจุบัน มีคนโทรมาหานาย A ทุกเดือน เพื่อขอเช่าอาคารนี้
คนที่โทรมาแทบทุกราย จะพูดประมาณว่า ถ้าร้านนาย B เจ๊ง เค้าขอเช่าต่อ (สาเหตุที่คนโทรมา เพราะทุกคนคิดว่าร้านคงเจ๊งในเร็วๆ นี้) แต่ร้านนาย B ก็ไม่เจ๊งซักที (ทุกคนที่โทรมาก็พูดทำนองไม่เข้าใจว่าทำไมร้านยังอยู่ได้)
จากการสอบถามจากคนที่โทรมาหลายๆ ราย ก็มีทั้งอยากจะเปิดร้านขายอาหาร ขายก๋วยเตี๋ยว ร้านกาแฟ ซีฟู๊ด เปิดออฟฟิศสำนักงาน ฯลฯ
นาย A มองว่า ทำเลนี้มีความต้องการเช่าที่ดินสูง ที่ดินด้านหลังควรทำประโยชน์ แต่ปัญหา คือ อาคารที่นาย B เช่าอยู่บังด้านหลังหมด
จึงมีโครงการรื้อทิ้ง เพื่อสร้างอาคารเต็มพื้นที่ (สร้างแบบเรียงๆ กัน มีที่จอดรถเป็นสัดส่วน)
ซึ่งถ้าทำได้ตามนี้ จะได้ค่าเช่าเพิ่ม 8-10 เท่า หรือมากกว่า
ถ้าเอาตามสัญญาเช่า คือ สิ้นปีนี้ นาย B จะหมดสัญญาเช่า นาย A สามารถไม่ต่อสัญญาเช่ากับนาย B ก็ได้
แต่นาย A ก็เห็นใจ นาย B เพราะนอกจากร้านจะขายไม่ดีแล้ว ก็เพิ่งลงทุนตกแต่งร้านใหม่ไป หมดไปเยอะกับค่าแต่งร้าน และ นาย B คงโกรธแค้นนาย A (ใจเขาใจเรา)
แต่ถ้าเกรงใจนาย B โครงการก็เกิดช้า เป็นการเสียโอกาสทางธุรกิจที่ให้มูลค่าสูง
รบกวนถามความเห็นครับว่า ใช้แนวทางไหนถึงจะ winwin ทั้ง 2 ฝ่าย บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่นครับ
ขอบคุณครับ