ปกติแล้วถ้าเลือกได้เราจะไม่ไปทัวร์ค่ะ ครั้งนี้ก็เป็นการกลับมาใช้บริการทัวร์ครั้งแรกในรอบ 3 ปี
เพราะนอกจากเรื่องความชะโงกแล้ว ไหนจะเคยเข็ดหลาบกับไกด์และลูกทัวร์ในทริปก่อนๆ
แต่เมื่อเลือกไม่ได้เพราะต้องไปกับคุณพ่อคุณแม่ เลยกลายเป็นทริปเที่ยวง้อทัวร์นี้ขึ้นมา

ทริปนี้...หลังจากเลือกดูนั่นนี่สะระตะแล้วก็มาจบที่โปรแกรม
Mono Italy 8 วัน 5 คืน 17-24 กันยายน 2561 ของ Quality Express ค่ะ

เริ่มแรกที่คิดไว้คร่าวๆ คือจะไปช่วงเดือน 9 เพราะพอเข้าตุลาแล้วราคาทัวร์จะแพงขึ้นเกือบหมื่น...
ก็เริ่มมองหาทัวร์ตั้งแต่เดือน 5 มาเจอโปรแกรมนี้ราคา 59,900++ บาทก็ว่าพอโอเค
โทรไปสอบถามได้คำตอบว่า ยังไม่มีคนจองเลยค่ะ ตึ่ง... คิดว่าสงสัยทัวร์ไม่ออกแหง
ก็ทิ้งเวลาจนเข้าเดือน 7 โทรไปถามถึงโปรแกรมเดิมอีกที จนท.บอกไม่มีโปรแกรมนี้นะคะ มีแต่ราคา 49,900++ บาท
ห่ะ...หั่นราคาลงหมื่นนึงงี้เลยเหรอ

แต่ขนาดลดแล้วครอบครัวเราก็ยังเป็นเจ้าแรกที่จองไปอยู่ดีค่ะ 555
(++ ในที่นี้คือ ไม่รวมค่าวีซ่า 3,000 บาท ค่าทิปไกด์และค่าขับรถรวม 36 ยูโรค่ะ)

ครั้งนี้เราจองไปทั้งครอบครัว 5 คน มีน้องชายนอนห้องเดี่ยวเลยต้องจ่ายเพิ่ม 5,900 บาท
สนนราคา 255,400 บาท แต่ใช้โปรบัตรเครดิต เลยลดไปได้อีกนิดดดดนึงค่ะ

มัดจำไปตั้งแต่วันที่ 17/7/2561 กว่าจะนัดทำวีซ่าก็วันที่ 24/8/2561 ช้าไหม...เราว่าช้าไปนิ๊ด แอบใจตุ๊มๆต่อมๆ เหมือนกัน

แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี ได้เวลาบินแล้ววววว เย้!!

จากนี้จะรีวิวโปรแกรมแบบวันต่อวัน โดยตัวเอียงจะเป็นโปรแกรมของบ.ทัวร์ที่ตัดมาแบบย่อๆ นะคะ

วันที่ 1 วันจันทร์ที่ 17 กันยายน 2561 - กรุงเทพฯ

21.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 8 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย
โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก

ไปถึงก่อนเวลา รอแปปนึงก็ได้เจอหน้าคุณไกด์เป็นครั้งแรก ชื่อคุณปม
จากการสอบถามก็ได้ทราบว่ากรุ๊ปนี้ลูกทัวร์ 33 คน ไกด์ 1 คน อื้อหือ...จะเป็นยังไงเนี่ย

เจอหน้ากันแล้วคุณไกด์ก็แจกพาสปอร์ตคืนให้ไปเช็คอินและทำขั้นตอนต่างๆ ไปตามเรื่อง

ซึ่งพอถึงขั้นตอนตรวจสมบัติ เราถูกเรียกเช็คกระเป๋าสะพายใบน้อยทั้งที่มั่นใจมากว่าไม่มีอะไรผิดกฎ
ประเด็นคือคุณเจ้าหน้าที่มองจากหน้าคงคิดว่าเราเป็นคนจีน และด้วยกระเป๋าเราคงเก่าและของอัดแน่น
นางจึงเบ้ปากแล้วพูดว่ากระเป๋ารกมากพร้อมหยิบของในกระเป๋าเราออกมาด้วยกิริยาเหมือนแขยงมาก คือแบบ...อึ้งอะ
แล้วแปปนึงเหมือนนางจะรู้ตัวว่าเราคนไทย นางรีบพูดแก้เก้อว่ามีคิเรอิ(เจลล้างมือ)ชิ้นเดียว
แล้วรีบเดินไปบอกคนดูจอเครื่องสแกนว่า โดนเครื่องหลอก แล้วไม่หันมาทางเราอีกเลย

งงมาก ผิดสินะที่กระเป๋าเราเก่า ก็อ่านรีวิวมาแล้วเค้าบอกว่าอิตาลีขโมยเยอะสุดๆ เราเลยเลือกกระเป๋าใบโทรมๆ มา
แล้วของข้างในนั้นก็อัดแน่นและคงดูไม่ดีในสายตาคุณเค้า เพราะเราเอากระเป๋าสตางค์ใบสวยออก
แล้วใช้วิธีกระจายเงินและพาสปอร์ตใส่กระเป๋าผ้าใบน้อยหลายๆ ใบก่อนใช้เข็มกลัดกลัดติดกันไว้ เผื่อโดนล้วงคนล้วงจะได้ดึงไปไม่ได้ ถถถถ


ก็พยายามปล่อยผ่านคนไร้มารยาท ท่องไว้ว่าเรากำลังจะไปเที่ยวๆ ฮึบ

วันที่ 2 วันอังคารที่ 18 กันยายน 2561 - กรุงเทพ – มิลาน – เวนิส เมสเตร

07.35 น. ถึง สนามบินมิลาโนมัลเปนซา เมืองมิลาน นำท่านถ่ายรูปด้านนอกของมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo di Milano)
นำท่านชมแกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele II), อนุสาวรีย์ของกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล ที่ 2
และอนุสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังลีโอนาร์โด ดาร์วินซี่

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเวนิส (Venice Mestre) ฝั่งแผ่นดินใหญ่

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

ที่พัก โรงแรม ALEXANDER

ประสบการณ์แรกที่ได้รับจากการมาอิตาลีคือ...อื้อหือ ตม.แถวยาวมาก ที่ยืนต่อนี่คือมองไม่เห็นหัวแถว
และมีจนท.ตม.ที่ขี้เมาท์มาก คือพวกพี่แก 3-4 ช่องนั้นคุยเมาท์มอยกันตลอดเวลาประหนึ่งไม่ได้พบหน้ากันมานาน...


พอผ่านตม.และรับกระเป๋าเดินทางกันเรียบร้อย เตรียมไปขึ้นรถบัส ก็ได้เจอปัญหาของการมีลูกทัวร์ 33 คน ไกด์ 1 คนเลยค่ะ
เพราะว่าลูกทัวร์หายไป 2 คนซะงั้น พวกเราก็ยืนรออออออยู่ ขณะที่คุณไกด์ก็วิ่งตามหา จะพาลูกทัวร์ไปขึ้นรถรอก่อนก็ไม่ได้เพราะมีคนเดียว

ลูกทัวร์ยืนรอกันระเกะระกะอยู่ตรงแถวหน้าทางออกจนเจ้าหน้าที่มาบอกว่าอยู่ตรงนี้ไม่ได้ประมาณ 3 รอบ
(คือตอนแรกเราไม่รู้ค่ะว่าตรงนั้นคือจุดที่เจ้าหน้าที่เอาไว้ให้ยกกระเป๋าเดินทางขึ้นเปิดตอนโดนสุ่มตรวจ ก็นึกว่าที่นั่ง...)
ซึ่งปัญหานี้ก็มีโผล่มาเรื่อยๆ ประปรายตลอดทริป แต่โดยรวมยังอยู่ในระดับที่รับได้ โชคดีไป...

พอครบแล้วก็ขึ้นรถเดินทางไป Duomo di Milano กัน มีการแอดไลน์คุณไกด์
ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยได้มากเมื่อเทียบกับสมัยก่อนที่ไม่มีไลน์ มาทัวร์ทียังต้องให้ไกด์พาไปซื้อซิมที่สนามบินกันอยู่งี้

ไปถึงดูโอโม่ คุณไกด์ปล่อยให้เดินเที่ยวอิสระบริเวณนั้นทั้งหมดประมาณ 50 นาที ซึ่ง...เข้ามหาวิหารไม่ทันแน่นอน 5555 เสียดาย
แต่ก็ทำใจมาตั้งแต่ซื้อทัวร์แล้วค่ะว่าทริปนี้คือไม่ได้เข้าที่ไหนเลย ยกเว้นโบสถ์เซนต์ปีเตอร์

เราก็ถ่ายรูป Duomo di Milano มหาวิหารศิลปะโกธิคแบบอิตาลียิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
เริ่มก่อสร้างปี ค.ศ. 1386 และเสร็จสิ้นปี ค.ศ. 1965 ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 579 ปี


ห้าง Galleria Vittorio Emanuele II ห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดของอิตาลี


และอนุสาวรีย์ของกษัตริย์วิคเตอร์ฯ ที่ 2 กษัตริย์พระองค์แรกของราชอาณาจักรอิตาลีไปเรื่อย


ซึ่งจากจุดที่คุณไกด์ปล่อย เราจะเห็นสามสิ่งนี้ชัดๆ เลย แต่จากโปรแกรมทัวร์แล้วจะขาดอนุสาวรีย์ลีโอนาร์โด ดาร์วินซี่ไปค่ะ
จะเก็บให้ครบต้องเดินไปจนทะลุออกมาอีกด้านของห้างแกลเลอรีฯ


ระหว่างถ่ายรูปก็สังเกตรอบตัวถึงสิ่งที่เคยอ่านรีวิวมาว่าแถวนี้มักจะมีพวกยิปซีมายัดอาหารนกเข้ามือ
หรือมายื่นสายผูกข้อมือให้และเรียกเก็บเงิน ซึ่งที่เห็นก็คือมีพวกชายผิวสีเดินถือเชือกผูกข้อมือ
แต่ส่วนมากเป้าหมายของคนเหล่านี้กลับเป็นฝรั่งผู้ชายผมบลอนด์ซะงั้น แปลกใจเหมือนกันค่ะ นึกว่าจะเล็งเป้าคนเอเชียซะอีก

หมดเวลาก็มารวมตัว เวลาที่เหลือของวันนี้ก็ไม่มีอะไรแล้วค่ะ ทานข้าวมื้อกลางวันและค่ำที่ร้านอาหารจีน

ซึ่งทริปนี้จะทานอาหารจีน 6 มื้อ อาหารอิตาลี 3 มื้อ

ซึ่งสำหรับเราอาหารจีนทุกมื้อโอเคหมด จะมีอร่อยมากอร่อยน้อยแตกต่างไปบ้าง แต่โดยรวมคือทานได้ดีไม่มีปัญหาอะไรค่ะ
แต่ละมื้อก็จะมีกับข้าวประมาณ 7 อย่าง + ผลไม้
(ตรงนี้ขอผ่านไม่รีวิวละเอียดนะคะ เพราะไม่ได้ถ่ายรูปอาหารไว้เลย คือแบบอาหารมาปุ๊บก็โซ้ยเลย
แถมไม่มีครอบครัวไหนยกกล้องมาแชะภาพอาหารจีนเลยด้วย แต่มีถ่ายชื่อร้านไว้ครบหมด ใครสนใจถามได้เน้อ)

จากนั้นก็ขึ้นรถยิงยาวไปเวนิสฝั่งแผ่นดินใหญ่ ระหว่างอยู่บนรถคุณไกด์ให้แนะนำตัวด้วยค่ะ
ตะลึงเล็กน้อย 555 อารมณ์แบบไม่ใช่ outing บริษัทนะ ไปทัวร์ไหนไม่เคยมีแนะนำตัวเลย เพิ่งเจอที่นี่ครั้งแรก

โรงแรมคืนนี้ชื่อโรงแรม ALEXANDER

ซึ่งเราก็รู้อยู่แล้วล่ะว่าชื่อโรงแรมที่อยู่ในโปรแกรมที่ใช้โฆษณาขายทัวร์กับโรงแรมที่พักจริงนั้น ส่วนมากจะคนละโรงแรมกัน
เพราะในโปรแกรมก็จะบอกอยู่ว่า โรงแรม... หรือเทียบเท่า แต่เราก็คิดว่าคงจะมีตามเดิมสักรร.เนอะ
ปรากฏว่าเปลี่ยนไปหมดเลยจ้า รร.ที่เขียนไว้ตอนแรกชื่อโรงแรม RUSSOTT ค่ะ
(ไม่มีเวลาเปรียบเทียบ แต่จะลงชื่อรร.ที่พักจริงกับรร.ที่ไว้ในโปรแกรมตอนแรกไว้ให้นะคะ เผื่อใครสนใจ)

โรงแรม RUSSOTT นี่จะเป็นยังไงไม่รู้ล่ะ แต่โรงแรม ALEXANDER นั้น
ตามความเห็นของบรรดาลูกทัวร์คือเป็นรร.ที่ไม่น่าประทับใจที่สุดในทริปค่ะ
คือนอนได้ไหมก็นอนได้ค่ะ (หลับสนิทด้วย 555 จะว่าไปก็หลับสนิททุกคืนเลย สงสัยแก่แล้ว เมื่อก่อนมาแปลกถิ่นแบบนี้มักนอนไม่หลับ)
แต่รร.ค่อนข้างเก่า แอร์ไม่ค่อยเย็น คับแคบแบบไม่สามารถเปิดกระเป๋าเดินทางอ้าซ่าได้
แถมห้องที่พักชักโครกก็รุนแรงมาก น้ำกระเด็นมาถึงฝารองนั่ง

เอาจริงๆ วันนี้เที่ยวน้อย แต่ค่อนข้างเพลียมาก เพราะนั่งเครื่องมา 11 ชั่วโมงกว่า แถมไม่ได้อาบน้ำมาข้ามวัน
นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่เราตัดโปรแกรมทัวร์ที่ลงเครื่องที่โรมและเที่ยวทั้งวาติกันกับโรมในวันแรกทิ้งค่ะ
รู้สึกว่าสำหรับครอบครัวเรา...ไม่ไหวแน่ๆ อะค่ะ