สวัสดีค่ะ เราอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การทำงานและเที่ยวเล่นภายใต้ Work And Holiday Visa เราอยากทำรีวิวทิ้งไว้เผื่อเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังหาข้อมูล เพราะเราก็หาข้อมูลจากในนี้ บอกเลยว่ารีวิวของหลายคน inspire มากๆ ช่วงนี้ว่างๆ เลยจะมารีวิวแบบฉบับเรา คือเล่ากันแบบบ้านๆ เม้ามอยส่วนใหญ่ เอาแบบที่อ่านจบแล้วตามมาสมัครงานได้เลย เป็นความตั้งใจจริงจัง 555 ถ้าใครมีเรื่องสงสัย/อยากร่วมแชร์ประสบการณ์เพิ่มเติม เวลคัมมากๆ ค่ะ มาพูดคุยกันได้เลยค่ะ ^___^
สำหรับคนธรรมดา ภาษาติ๊งต๊อง ทำอะไรไม่ค่อยเป็น แถมยังไม่มีจิตใจบริการ อีกทั้งขี้รำคาญอย่างเรา (เฮ้ย แย่ไปป่ะแก) ก่อนมาก็ไม่ได้คิดว่าจะง่าย แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะยากขนาดนี้ ถึงแม้งานในซิดนีย์จะมีเยอะมาก แต่คนที่มาทำงานก็มีเยอะมากเช่นกัน มีเยอะกว่างานไปอีกกกก นับว่าเป็นเมืองที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง
#longstoryshort ถ้าใครอยากรู้แบ็คกราวด์ ขอเล่าสั้นๆ เราเคยเป็นพนักงานบริษัทด้านบันเทิงแห่งหนึ่ง ทำมาเกือบ 3 ปีก็อยากเปลี่ยนบรรยากาศ อยากรู้ว่าใช้ชีวิตที่เมืองนอกมันเป็นยังไง อยาก challenge ตัวเองด้วยอะไรใหม่ๆ เลยมาลงเอยที่วีซ่านี้
เรามาถึงซิดนีย์หลังปีใหม่ เที่ยวเล่นอยู่ได้ 5 วัน เริ่มรู้สึกเคว้งคว้าง ตื่นมาแบบไร้เป้าหมายเกินไป เลยไปเริ่มทำเสิร์ฟในร้านอาหารไทยที่พี่จากที่ทำงานเก่าแนะนำให้ เป็นร้านแบบ fine dining ที่ได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก (ทิปก็เยอะมากด้วย อิอิ) พร้อมกับไปลองสัมภาษณ์งานหลายที่ ตั้งแต่ restaurant ในโรงแรมหรูยันร้านขายไอติม พอไม่ได้ติดๆ กันก็เสียหลักอยู่มิใช่น้อย จนได้ไป group interview งานแม่บ้าน ได้ทำในโรงแรมย่านใจกลางเมือง แต่ทำไปได้แค่ 2 วัน...ไปขอเค้าลาออก แป่วววว supervisor ไม่ให้ออก บอกว่ายูต้อง 14 days prior notice เลยต้องทำไปอีก 2 อาทิตย์ รู้ซึ้งเลยว่าร่างกาย ณ ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว ลุกนั่งเช็ดกระจกขาจะพัง ถึงจะเงินดีแค่ไหนแต่ร่างกายต้องมาก่อน ยกธงขาวโบกแรงๆ จ้า

ระหว่างรอออกจากแม่บ้าน ก็รับทำนู่นทำนี่ไปเรื่อย ไปรับงานดร็อปใบปลิวตามบ้านมา ภาพในหัวคือ ดูเป็นงานอิสระ ง่ายๆ เดินดร็อปไป ฟังเพลงไปก็ได้ ชิลๆ แล้วแต่เรา แต่ความจริงคือ...... เหนื่อยมาก กรีดร้อง!!! ต้องเดินหลายกิโลรอบหมู่บ้าน บ้านก็ห่างกันเป็นวา บางบ้านติดป้าย no advertising mail อีก อยากจะทุบตู้ไปรษณีย์บ้านเค้า ขาพังจากแม่บ้านแล้วมาเดินอีก เหมือนโดนซ้ำเติม แล้วตอนดร็อปเสร็จไปกินข้าว กินมิลค์เชค หักค่ารถออก เหลือเงินค่าแรงไม่ถึงครึ่ง เอ้า เราทำอะไรลงไป ไม่เหลือค่าแรงแล้วเนี่ย สติลู้กกกกกกก
และระหว่างที่ทำงานบ้าๆ บอๆ ก็เที่ยวไม่หยุดเช่นกัน จนไปตกบันไดล้มคะมำหน้าจิ้มพื้น ล้มแรงขนาดลงไปกองนอนเห็นดาว มีคนเดินตามมา นังวิ่งเข้ามาร้อง are you okay?! ไม่หยุด ตกใจยิ่งกว่าเรา ได้แต่บอกไปว่า เออๆ แอมโอเค ปรากฎเอ็นข้อเท้าอักเสบ เหยียบพื้นแล้วเสียวแป๊บยันหนังหัว นอนเป็นผักขยับไม่ได้ในห้องไป 2 วัน ทรมานสุดๆ นอนว่างก็คิดเยอะ ฟุ้งซ่านไปกันใหญ่ ไปทำงานไม่ได้ นอนอ่านกระทู้พันทิปทั้งวัน เห็นคนไปเป็นบาริสต้ากันเยอะจัง ก็เลยอยากลองบ้าง แต่ทำกาแฟไม่เป็น แต่ก็พอได้ไอเดียว่าจะไปลองหางานทำตามคาเฟ่ดู
เริ่มขั้นตอนสมัครงานใหม่ หลังจากหยุดหางานไปพักนึง มีคาเฟ่ที่นึงเรียกไปคุย ได้ไปลองงาน ก็ทำเนียนว่า พอเป็นบ้าง เน้นทำเร็วๆ ราวกับคล่องแคล่วเป็นงาน พยายาม make sure ให้เทคออเดอร์ไม่ผิด แล้วก็ยิ้มแย้มมั่นใจราวกับเข้าใจทุกอย่าง (แต่จริงๆ คือ พูดว่าอะไรอ่ะ ถถถ) สุดท้ายเค้าให้มา 2 ชิพ แล้วก็ได้เพิ่มมาอีก 2 เป็น 4 ชิพต่อสัปดาห์ โล่งใจที่อะไรก็เริ่มลงตัว
การหางาน เราเน้นออนไลน์เป็นหลัก เข้าไปร่อนใบสมัครได้ที่ gumtree และ seek.com.au แล้วก็โหลดแอพ Sydney Thai เอาไว้ ร้านกาแฟร้านแรกที่เราทำได้จากในนี้ ค่าแรงตามสไตล์คนไทย แต่นับว่าเป็นก้าวแรกให้เข้าไปเรียนรู้ระบบงานในร้านกาแฟ ไว้ค่อยขยับขยายทีหลัง เพราะถ้าผ่านก้าวแรกแล้ว ก้าวต่อไปยังไงก็ง่ายขึ้น สู้ตาย!!!
[CR] Work And Holiday : แชร์ประสบการณ์เสิร์ฟกาแฟสวยๆ ณ ซิดนีย์ (สวยจริงเรอะ)
สวัสดีค่ะ เราอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การทำงานและเที่ยวเล่นภายใต้ Work And Holiday Visa เราอยากทำรีวิวทิ้งไว้เผื่อเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังหาข้อมูล เพราะเราก็หาข้อมูลจากในนี้ บอกเลยว่ารีวิวของหลายคน inspire มากๆ ช่วงนี้ว่างๆ เลยจะมารีวิวแบบฉบับเรา คือเล่ากันแบบบ้านๆ เม้ามอยส่วนใหญ่ เอาแบบที่อ่านจบแล้วตามมาสมัครงานได้เลย เป็นความตั้งใจจริงจัง 555 ถ้าใครมีเรื่องสงสัย/อยากร่วมแชร์ประสบการณ์เพิ่มเติม เวลคัมมากๆ ค่ะ มาพูดคุยกันได้เลยค่ะ ^___^
สำหรับคนธรรมดา ภาษาติ๊งต๊อง ทำอะไรไม่ค่อยเป็น แถมยังไม่มีจิตใจบริการ อีกทั้งขี้รำคาญอย่างเรา (เฮ้ย แย่ไปป่ะแก) ก่อนมาก็ไม่ได้คิดว่าจะง่าย แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะยากขนาดนี้ ถึงแม้งานในซิดนีย์จะมีเยอะมาก แต่คนที่มาทำงานก็มีเยอะมากเช่นกัน มีเยอะกว่างานไปอีกกกก นับว่าเป็นเมืองที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง
#longstoryshort ถ้าใครอยากรู้แบ็คกราวด์ ขอเล่าสั้นๆ เราเคยเป็นพนักงานบริษัทด้านบันเทิงแห่งหนึ่ง ทำมาเกือบ 3 ปีก็อยากเปลี่ยนบรรยากาศ อยากรู้ว่าใช้ชีวิตที่เมืองนอกมันเป็นยังไง อยาก challenge ตัวเองด้วยอะไรใหม่ๆ เลยมาลงเอยที่วีซ่านี้
เรามาถึงซิดนีย์หลังปีใหม่ เที่ยวเล่นอยู่ได้ 5 วัน เริ่มรู้สึกเคว้งคว้าง ตื่นมาแบบไร้เป้าหมายเกินไป เลยไปเริ่มทำเสิร์ฟในร้านอาหารไทยที่พี่จากที่ทำงานเก่าแนะนำให้ เป็นร้านแบบ fine dining ที่ได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก (ทิปก็เยอะมากด้วย อิอิ) พร้อมกับไปลองสัมภาษณ์งานหลายที่ ตั้งแต่ restaurant ในโรงแรมหรูยันร้านขายไอติม พอไม่ได้ติดๆ กันก็เสียหลักอยู่มิใช่น้อย จนได้ไป group interview งานแม่บ้าน ได้ทำในโรงแรมย่านใจกลางเมือง แต่ทำไปได้แค่ 2 วัน...ไปขอเค้าลาออก แป่วววว supervisor ไม่ให้ออก บอกว่ายูต้อง 14 days prior notice เลยต้องทำไปอีก 2 อาทิตย์ รู้ซึ้งเลยว่าร่างกาย ณ ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว ลุกนั่งเช็ดกระจกขาจะพัง ถึงจะเงินดีแค่ไหนแต่ร่างกายต้องมาก่อน ยกธงขาวโบกแรงๆ จ้า
ระหว่างรอออกจากแม่บ้าน ก็รับทำนู่นทำนี่ไปเรื่อย ไปรับงานดร็อปใบปลิวตามบ้านมา ภาพในหัวคือ ดูเป็นงานอิสระ ง่ายๆ เดินดร็อปไป ฟังเพลงไปก็ได้ ชิลๆ แล้วแต่เรา แต่ความจริงคือ...... เหนื่อยมาก กรีดร้อง!!! ต้องเดินหลายกิโลรอบหมู่บ้าน บ้านก็ห่างกันเป็นวา บางบ้านติดป้าย no advertising mail อีก อยากจะทุบตู้ไปรษณีย์บ้านเค้า ขาพังจากแม่บ้านแล้วมาเดินอีก เหมือนโดนซ้ำเติม แล้วตอนดร็อปเสร็จไปกินข้าว กินมิลค์เชค หักค่ารถออก เหลือเงินค่าแรงไม่ถึงครึ่ง เอ้า เราทำอะไรลงไป ไม่เหลือค่าแรงแล้วเนี่ย สติลู้กกกกกกก
และระหว่างที่ทำงานบ้าๆ บอๆ ก็เที่ยวไม่หยุดเช่นกัน จนไปตกบันไดล้มคะมำหน้าจิ้มพื้น ล้มแรงขนาดลงไปกองนอนเห็นดาว มีคนเดินตามมา นังวิ่งเข้ามาร้อง are you okay?! ไม่หยุด ตกใจยิ่งกว่าเรา ได้แต่บอกไปว่า เออๆ แอมโอเค ปรากฎเอ็นข้อเท้าอักเสบ เหยียบพื้นแล้วเสียวแป๊บยันหนังหัว นอนเป็นผักขยับไม่ได้ในห้องไป 2 วัน ทรมานสุดๆ นอนว่างก็คิดเยอะ ฟุ้งซ่านไปกันใหญ่ ไปทำงานไม่ได้ นอนอ่านกระทู้พันทิปทั้งวัน เห็นคนไปเป็นบาริสต้ากันเยอะจัง ก็เลยอยากลองบ้าง แต่ทำกาแฟไม่เป็น แต่ก็พอได้ไอเดียว่าจะไปลองหางานทำตามคาเฟ่ดู
เริ่มขั้นตอนสมัครงานใหม่ หลังจากหยุดหางานไปพักนึง มีคาเฟ่ที่นึงเรียกไปคุย ได้ไปลองงาน ก็ทำเนียนว่า พอเป็นบ้าง เน้นทำเร็วๆ ราวกับคล่องแคล่วเป็นงาน พยายาม make sure ให้เทคออเดอร์ไม่ผิด แล้วก็ยิ้มแย้มมั่นใจราวกับเข้าใจทุกอย่าง (แต่จริงๆ คือ พูดว่าอะไรอ่ะ ถถถ) สุดท้ายเค้าให้มา 2 ชิพ แล้วก็ได้เพิ่มมาอีก 2 เป็น 4 ชิพต่อสัปดาห์ โล่งใจที่อะไรก็เริ่มลงตัว
การหางาน เราเน้นออนไลน์เป็นหลัก เข้าไปร่อนใบสมัครได้ที่ gumtree และ seek.com.au แล้วก็โหลดแอพ Sydney Thai เอาไว้ ร้านกาแฟร้านแรกที่เราทำได้จากในนี้ ค่าแรงตามสไตล์คนไทย แต่นับว่าเป็นก้าวแรกให้เข้าไปเรียนรู้ระบบงานในร้านกาแฟ ไว้ค่อยขยับขยายทีหลัง เพราะถ้าผ่านก้าวแรกแล้ว ก้าวต่อไปยังไงก็ง่ายขึ้น สู้ตาย!!!
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้