การพูดจากของหมอโรงพยาบาลเอกชน

มีบางสิ่งในเรื่องของการบริการของแพทย์โรงพยาบาลปิยะเวท ซึ่งเมื่อวานเรามีอาการปวดหัว แล้วเหมือนจะขับรถไม่ไหว เราเห็นป้ายโรงพยาบาลปิยะเวท เราก็เลยแวะ สิ่งแรกเลย ก็บ่นเรื่องทางขึ้นที่จอดรถหน่อย คือทางขึ้นที่จอดรถ น่ากลัวมาก แคบมาก แถมไม่มีเจ้าหน้าคอยดูอีกต่างหาก ถ้าใครไปมาจะรู้ว่า ทางขึ้นมันน่ากลัวขนาดไหน แต่ก็ไม่ถึงกับขับขึ้นไม่ได้ แต่ถ้าคนไม่สบายขับขึ้นไปจอด มันก็ขับได้ไม่ 100% แน่ แต่พอเราจอดรถเสร็จ เราก็มาที่ประชาสัมพันธ์ เพราะ เราก็มาที่นี้ครั้งแรก การพูดจา การต้อนรับ ค่อยข้างดี ถึงแม้ จะเน้นลูกค้าชาว Middle East ไปหน่อย ดูจากการแต่งตัวของต้อนรับ หลังจากเสร็จก็มาที่ Night Clinic รอไม่นาน พยาบาลบริการดี พูดจาดี แล้วก็มาพบหมอ ชื่อ รพี ไม่ขอบอกนามสกุล เราก็บอกอาการเราไป แล้วก็บอกประวัติ ว่าเราไปรักษามาแล้วสองโรงพยาบาล ที่นี้เป็นโรงพยาบาลที่สาม บอกหมดว่าโรงพยาบาลแรกรักษายังไง โรงพยาบาลที่สองรักษายังไง แต่คำตอบที่หมอให้มาคือ ทำไมไม่กลับไปหาหมอโรงพยาบาลก่อนหน้านี้ แล้วก็พูดสั้นๆว่า ผมให้ยาแก้บรรเทาไปกิน เราก็เลยตอบไปว่า คุณหมอ คือเราปวดมาสามอาทิตย์แล้ว เราไม่สามารถกินยาแก้ปวดไปตลอดหรอกน่ะ เราอยากหาสาเหตุและรักษาให้หายขาด แล้วการที่หมอบอกว่า ทำไมไม่กลับไปหาหมอโรงพยาบาลก่อนหน้านี้แล้วทำหน้าแบบดูเราแต่งตัว ยอมรับ เราก็บอกไปว่า พอดีเราปวดหัวแบบไม่ไหวมากๆ และเห็นป้ายโรงพยาบาลเลยขับรถเลี้ยวเข้ามา เพื่อตรวจรักษาอีกครั้ง และที่ไม่ได้กลับไปหาโรงพยาบาลก่อนหน้า เพราะ กว่าจะไปถึงก็จะได้เจอแผนกฉุกเฉิน ซึ่งก็ไม่คิดว่าที่นี้แพทย์เฉพาะทางที่นี้จะปิดเร็วขนาดนี้ เพราะปกติโรงพยาบาลแพทย์เฉพาะทางจะปิดสองทุ่ม แล้วเราก็แสดงความไม่พอใจกับสิ่งที่หมอ ทำทั้งหน้าตาและคำพูด แต่เดี๋ยวเราจะเปรียบเทียบการตรวจให้ฟัง

หมอรพี ที่ปิยะเวท ให้เราบอกอาการ แต่ไม่มีการจับตัวเราเลย และให้ยาบรรเทา
หลังจากที่เราไม่พอใจเราขอพยาบาล บอกว่าเราไม่ขอรักษาแล้ว และเราก็ขับรถกลับคอนโดแล้วแวะ โรงพยาบาลเกษมราษฏร์ ประชาชื่น หมอเฉพาะทางยังอยู่ หมอดูฟังอาการและอธิบายได้ละเอียดมาก แล้วก็เดินมาตรวจตั้งแต่ขมับ ถามแต่ล่ะจุดๆ ว่ากดตรงนี้เจ็บมั้ย ตรงนี้ตึงมั้ย ซึ่งหมอที่นี้ คือดีมากคนนี้ คุณหมอชื่อ อรรถวิทย์ เจริญศรี แต่ยังบอกว่าถ้ายังไม่ดีขึ้นกลับมาสแกนเพื่อความสบายใจของเราได้

เราอยากจะแชร์ว่า อาชีพหมอเป็นอาชีพที่ดูสูงกว่าอาชีพอื่นก็จริง แต่ในฐานะที่เราก็เป็นคนนึ่งที่จ่ายค่าประกัน แล้วประกันก็จ่ายเงินให้โรงพยาบาล แล้วโรงพยาบาลก็จ่ายเงินให้หมอ มีส่วนต่างเราก็ต้องจ่าย การบริการแบบนี้ ไม่คำนึ่งมั้งหรา ว่าเราจ่ายเงินค่าบริการทั้งหลายๆ หมอถึงจะดูน่าตาเด็กแต่ก็ได้รับการเรียนการสอนมามากอยู่เหมือนกัน คนไข้ถ้าเขาไหวเขาคงไม่ไปหาหมอหรอก มีใครอยากจะไปหาหมอมั้ง ที่แชร์ก็ไม่ได้ว่าตัวเองมีเงินมากมายอะไรแต่อยากให้รู้ว่าทุกคนล้วนต้องการ การบริการที่ดี ยิ่งถ้าโรงพยาบาลที่แพงก็ยิ่งคาดหวังการบริการที่ดี เหมือนกันคนอาชีพอื่นๆ ที่ต้องการ การบริการจากการซื้อสินค้าหรือใช้บริการนั้นๆเช่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่