อยู่ทำงานกรุงเทพคนก็เยอะแยะมหาศาล แต่ทำไมมันยังเหงา ไม่เจอคนที่ใช่ อยู่ตจว คนน้อยกว่าเยอะ แปปเดียวก็เจอจูนกันได้แล้ว

ทำงาน กทม ขึ้น bts mrt ไปทำงานทุกวัน อัดแน่นเป็นปลากระป๋องทั้งเช้าและค่ำ ผู้คนก็มากมายมหาศาล สาวๆก็สวยๆ หุ่นดี แต่งตัวสวยตามแฟชันกันทั้งนั้น หนุ่มๆก็หน้าตาดี รวมทั้งผมด้วยคนหนึ่ง คนเยอะแยะมากมาย สวยๆหล่อๆ แบบนี้ แต่ทำไมลึกๆในใจมันยังไม่เจอคนที่ใช่ เหงาตอนอยู่คนเดียวว่าเหงาแล้ว เหงาตอนที่รอบข้างมีคนมากมายแต่ไม่ได้รู้จักเดินสวนกันขวักไขว่ยิ่งเหงากว่า ทั้งตอนไปเดินห้าง และไปวิ่งสวนลุม ตัวห่างกันไม่เท่าไหร่แต่ใจมันห่างกันเหลือเกิน ทุกคนดูต่างยุ่งอยู่กับกิจกรรมของตน ต่างคนต่างใช้ชีวิตกันไปด้วยความเร่งรีบ เดินสวนกันไป วิ่งสวนกันไป บางทีตอนวิ่งเสร็จก็อยากจะทักทายว่า "สวัสดีครับ รองเท้าวิ่งสวยจังนะครับ" แต่ก็ไม่กล้า

อยู่ตจว คนน้อยกว่า แต่ดูรู้จักกันมากกว่า กินข้าวตอนเช้าก็คุยกับแม่ค้าได้ นี่ถ้าอยู่กทม ในห้าง ตามร้านเฟรนไชดังๆคงทำไม่ได้ เพราะคนเยอะ มีคิวอื่นๆรอสั่งอยู่ อยู่ตจว คนน้อยกว่า สาวๆก็ไม่หุ่นดี ขาว สวยเท่าสาวบางกอก แต่กลับได้รู้จักได้คุยกันง่ายกว่า



ไม่มีอะไรแค่มาบ่น
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
แวะเข้ามาให้กำลังใจค่ะ อยากเราเรื่องตัวเองให้ฟังบ้างจัง เราเป็นคนตจว.ที่ไม่ไกลจาก กทม.ค่ะ ในชีวิต ไม่เคยใช้ชีวิตคนเดียว เดินคนเดียว จนถึงกินข้าวห้างคนเดียว แต่ใช่ค่ะวันนึงมันถึงจุดเปลี่ยน เพราะสายงานเราส่วนใหญ่อยู่ในกทม.เราเองมาอยู่ที่นี่ได้1ปี10เดือน ใช้ชีวิตคนเดียว ไม่มีเพื่อนที่กทม. เราอายุ28ปี ในตอนที่เข้ามาทำงานกทม.ในช่วงนั้นเราเด็กสุดในบริษัท ทุกคน34+ เพราะฉะนั้น เรื่องเที่ยวเรื่องกินตัดทิ้งได้เลยค่ะ ด้วยความห่างของอายุ เราจะดูเป็นเด็กๆสำหรับพี่ๆเขา เข้ามาสู้ชีวิตในกทม.ทำงานวันแรกกลับที่พักเรายังหลงเลยค่ะ ลงbts ปุ้บไม่รู้ว่าที่ตัวเองอยู่ต้องไปทางไหน ยืนร้องไห้เลยค่ะ เพราะโทรถามใครก็ไม่ได้ ไม่รู้ด้วยซ้ำที่พักอยู่ตรงไหนชื่ออะไร เรื่องราวในกทม.เราเยอะมากๆ หลงทางบ่อยมาก เขาพูดถึงตรงนู้นตรงนี่ก็ไม่รู้จัก กว่าจะอยู่ตัวได้ ก็เหนื่อยก่อนเหงาเลยค่ะ อยู่ๆมา1ปีเพิ่งเคยขึ้นรถเมล์ ขึ้นทีไรผิดทุกครั้ง แต่เราก็ยังชอบนะ ชอบมองผู้คน ชอบนั่งรถเมล์ไปเรื่อยๆ หลงปุ้บ ลงปั้บ ขึ้นใหม่ หลงอีก สุดท้ายจบด้วยแท็กซี่ ที่ทำงานกับที่พักเราใกล้กัน ประมาณ2-3สถานีก็ถึงที่ทำงานแล้ว แรกๆเราไปทำงานด้วยรถไฟฟ้าเป็นอย่างที่จขกท.พิมพ์เลยค่ะ แรกๆเราตกใจมากเลยนะกับภาพรถไฟฟ้าตอนเช้า เรามองผู้คนมากมายที่ขึ้นรถไฟฟ้าตอนเช้าด้วยความเร่งรีบจนถึงเจอผู้คนที่เห็นแก่ตัวมากมาย แซงคิวกลายเป็นเรื่องปกติ เบียดกันจนหายใจไม่ออก ขนาดไม่มีที่จะขึ้นรถไฟฟ้าบางคนยังยอมที่จะเหยียดเท้าเราเพื่อให้ปลายเท้าตัวเองได้เข้ามาอยู่ในรถไฟฟ้า จนเราเริ่มรู้สึกว่าการใช้ชีวิตในกทม.คือต้องมีความกล้าและเห็นแก่ตัวเล็กๆ และเราไม่อยากจะกลายเป็นแบบนั้น สุดท้ายเราเลิกขึ้นรถไฟฟ้ามาทำงานค่ะ มานั่งวินแทน ราคาแพงกว่า แต่แลกกับความสบายใจก็โอเคนะ ในวันส-อา เหงาๆเราก็ไปเที่ยวให้ทั่วกทม. บางทีมีเลยไปตจว.ใกล้ๆคนเดียวแบบไปเช้า-เย็นกลับด้วย เราทำงานอยู่สีลม เวลากลับบ้านก็เดินเรื่อยๆมานั่งเรือข้ามฝาก แบบเหงาๆ แต่เราไม่ชอบรถติด ทำใจไม่ได้ เลยขอเดินดีกว่า วันไหนกลับเร็ว ก็ออกไปวิ่งคนเดียว ใช้ชีวิตผู้หญิงคนเดียวในกทม.เต็มรูปแบบ แต่มันก็ท้าทายดีนะเราว่า ไม่รู้ว่าจขกท.เป็นคนตจว.ไหม แต่เราเองมีเป้าหมายว่าสักวันจะกลับไปอยู่บ้านที่ตจว. เลยคิดว่าเอาน่าถือว่ามาเที่ยวระยะยาวแล้วกัน เราเองเพิ่งจะเคยกินข้าวคนเดียวในห้าง ดูหนังคนเดียว ดูเป็นเรื่องเล็กๆแต่ใหญ่มากกกกสำหรับเรา เพราะไม่เคยทำมาก่อน ทำตัวไม่ถูกและเราเป็นคนขี้อาย เวลาที่เรามองความวุ่นวายในกทม.มันก็มีเหงาบ้างบางช่วง แต่เราก็มีบางสิ่งที่ทำให้เราไม่เหงานะ อย่างเช่นการได้ไปที่ใหม่ๆ หรือได้ไปในที่ๆเราชอบ อย่างเราชอบไปอยู่ในร้านเครื่องสำอางค์ ขอแค่ได้ไปก็มีความสุขแล้ว 😁 ลองหาสิ่งที่ชอบทำดูนะคะ ส่วนเรื่องความเหงา มันเข้ามาเดี๋ยวมันก็ผ่านไปค่ะ อย่างจขกท.เป็นผช.ลองชวนเพื่อนๆไปสังสรรค์บ้าง นั่งชิวบ้าง ไม่รู้จะช่วยให้ผ่อนคลายไหม แต่ไม่แน่น้าา ขจกท.อาจเจอคนที่กำลังเหงาแบบจขกท.อยู่ก็ได้ค่ะ สู้ๆนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่