https://www.thairath.co.th/content/1392025
อ้าววว...ยังไม่ทันที่ทุกพรรคจะได้เปิดตัวหัวหน้าอย่างเป็นทางการเพื่อเตรียมตัวเลือกตั้งครั้งใหม่ กระแสข่าว "พรรคเล็กๆ" ก็ดันเล่นปามีด แทงข้างหลังกันเองเสียแล้ว เมื่อสื่อพากันปล่อยข่าว "ผู้หญิงมากบารมี" นั่งเก้าอี้ผู้นำพรรคการเมือง ที่ดูเหมือนกับว่าในทีแรกจะโดนถีบตกเก้าอี้ไปแล้วด้วยซ้ำ เพราะ "ผู้หญิงมากบารมี" (กว่า) ไม่ชอบ ไม่ปลื้ม ไม่โอเคเซย์เยสเอาเสียเลย เพราะในวันนั้น เสียงลือเสียงเล่าว่า "จะผลักดัน เอาคู่ซี้ของทายาทเจ้าของพรรค" มานั่งเป็นหัวคุมบังเหียน นำทัพสู่ชัยชนะ
อยู่ดีๆ วันนี้ข่าวปล่อยออกมาว่า เกมพลิก! "ผู้หญิงมากบารมี" กลับมามีแต้มนำ ท่ามกลางกระแสต่อว่าเสียดสีนินทากันลือลั่นสนั่นพรรค เพราะนอกจากอีกฟากฝ่ายหนึ่งจะไม่โอเคด้วยแล้ว เหล่าบรรดาแกนนำที่เหมือนจะเป็นฐานเสียงหลักของภาคต่างๆ ในประเทศ ก็ได้แต่สะบัดหน้า โบกมือ ขยับมุมปาก สาวไปให้ลึกถึงได้รู้ว่า ต้นเหตุที่ไม่ชอบเพราะ "เธอคนนี้มักจะเลือกที่รัก มักที่ชัง" เอาแต่พวกตัวเองดันกันขึ้นมาเป็นใหญ่เป็นโต มิหนำซ้ำยังไม่ค่อยจะรักษาน้ำใจเพื่อนร่วมพรรค เรียกได้ว่า "ถ้าหักคือต้องหัก" ทำให้บรรดาผู้เสียผลประโยชน์ด่าว่านินทากันตามประสาคนไม่สมหวัง เหตุการณ์ปัจจุบันสมาชิกหลายคนจึงออกมาค้านกันสุดเสียง
เอาละซิ แล้วที่เม้าท์มอยกันไปเรื่อยเปื่อยก่อนหน้านี้ มันก็คงเป็นการสับขาหลอกสินะ! เพราะล่าสุดแหล่งข่าวประชิดวงใน (มากกว่า) สาวไส้นำข้อมูลออกมาแฉกันเป็นฉากๆ พูดเลยว่า จะ "ผู้หญิงมากบารมี" หรือ "ผู้หญิงบารมีมากกว่า" ทั้งคู่ต่างก็มีความสัมพันธ์กันดีมาตั้งแต่สมัยไหนต่อไหน แต่ที่ข่าวมันออกไปในรูปแบบ "เกลียดกัน" หวังจะปล่อยให้พรรคอื่นๆ ตายใจแค่นั้นเอง
และหากเป็นการปล่อยข่าวจริงๆ ก็ถือว่าเป็นผลสำเร็จ เพราะแว่วดังมาว่า พรรคอื่นเค้าเม้าท์มอยกันให้แซ่บถึงปม ผู้หญิง 2 คนในพรรคไม่กินเส้นกัน กระทั่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี่แหละความจริงถึงใกล้จะปรากฏชัด
ทั้งหมดทั้งปวงกลายเป็นประเด็นรองไปเลย เพราะไม่ว่าใครจะนั่งเก้าอี้ผู้นำ มันก็สิทธิ์ของการตัดสินใจพรรคใครพรรคมัน ประเด็นหลักมันอยู่ที่ว่า "คนในพรรคเสียงแตก" ไม่โอเค ใส่ไฟ บวกๆ กันเองแบบนี้ จะเดินหน้าเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยได้อย่างไรกัน? มันเป็นเวลาของความสมัครสมานสามัคคี ร่วมก้าวเดินไปพุ่งชนเป้าหมายเดียวกันมากกว่ามิใช่หรือ? ความไม่ชัดเจนคลุมเครือยังเกิดขึ้นเป็นระยะๆ ตราบใดที่ยังไม่เปิดหน้าไพ่ขึ้นมาอย่างเป็นทางการ ความเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลมันเกิดขึ้นได้ทั้งนั้นแหละ อย่าเพิ่งไปพ่นไฟใส่ข่าวให้ยืดยาวกันไปก่อนเลยจ้า
ใครจะรู้ล่ะว่า "ข่าวที่ปล่อยๆ ออกมาอยู่ในขณะนี้" อาจเป็นเรื่องของการสับขาหลอกซ้ำ 2 ก็เป็นได้ !! ศึกข้างหน้ายังอีกไกล ปากมีหู ประตูมีช่อง สามัคคีรักใคร่กลมเกลียวกันไว้ อย่าเพิ่งทำลายกันเอง "คือดีที่สุด"
*****************************************************************************
ใครน้อ ?????????????????
แอนตี้ ฝุ่นตลบ! พรรคการเมืองดัง 'สะอิดสะเอียน' ค้านสุดเสียง ไม่เอาเธอคนนี้? (โจ หมี)
อ้าววว...ยังไม่ทันที่ทุกพรรคจะได้เปิดตัวหัวหน้าอย่างเป็นทางการเพื่อเตรียมตัวเลือกตั้งครั้งใหม่ กระแสข่าว "พรรคเล็กๆ" ก็ดันเล่นปามีด แทงข้างหลังกันเองเสียแล้ว เมื่อสื่อพากันปล่อยข่าว "ผู้หญิงมากบารมี" นั่งเก้าอี้ผู้นำพรรคการเมือง ที่ดูเหมือนกับว่าในทีแรกจะโดนถีบตกเก้าอี้ไปแล้วด้วยซ้ำ เพราะ "ผู้หญิงมากบารมี" (กว่า) ไม่ชอบ ไม่ปลื้ม ไม่โอเคเซย์เยสเอาเสียเลย เพราะในวันนั้น เสียงลือเสียงเล่าว่า "จะผลักดัน เอาคู่ซี้ของทายาทเจ้าของพรรค" มานั่งเป็นหัวคุมบังเหียน นำทัพสู่ชัยชนะ
อยู่ดีๆ วันนี้ข่าวปล่อยออกมาว่า เกมพลิก! "ผู้หญิงมากบารมี" กลับมามีแต้มนำ ท่ามกลางกระแสต่อว่าเสียดสีนินทากันลือลั่นสนั่นพรรค เพราะนอกจากอีกฟากฝ่ายหนึ่งจะไม่โอเคด้วยแล้ว เหล่าบรรดาแกนนำที่เหมือนจะเป็นฐานเสียงหลักของภาคต่างๆ ในประเทศ ก็ได้แต่สะบัดหน้า โบกมือ ขยับมุมปาก สาวไปให้ลึกถึงได้รู้ว่า ต้นเหตุที่ไม่ชอบเพราะ "เธอคนนี้มักจะเลือกที่รัก มักที่ชัง" เอาแต่พวกตัวเองดันกันขึ้นมาเป็นใหญ่เป็นโต มิหนำซ้ำยังไม่ค่อยจะรักษาน้ำใจเพื่อนร่วมพรรค เรียกได้ว่า "ถ้าหักคือต้องหัก" ทำให้บรรดาผู้เสียผลประโยชน์ด่าว่านินทากันตามประสาคนไม่สมหวัง เหตุการณ์ปัจจุบันสมาชิกหลายคนจึงออกมาค้านกันสุดเสียง
เอาละซิ แล้วที่เม้าท์มอยกันไปเรื่อยเปื่อยก่อนหน้านี้ มันก็คงเป็นการสับขาหลอกสินะ! เพราะล่าสุดแหล่งข่าวประชิดวงใน (มากกว่า) สาวไส้นำข้อมูลออกมาแฉกันเป็นฉากๆ พูดเลยว่า จะ "ผู้หญิงมากบารมี" หรือ "ผู้หญิงบารมีมากกว่า" ทั้งคู่ต่างก็มีความสัมพันธ์กันดีมาตั้งแต่สมัยไหนต่อไหน แต่ที่ข่าวมันออกไปในรูปแบบ "เกลียดกัน" หวังจะปล่อยให้พรรคอื่นๆ ตายใจแค่นั้นเอง
และหากเป็นการปล่อยข่าวจริงๆ ก็ถือว่าเป็นผลสำเร็จ เพราะแว่วดังมาว่า พรรคอื่นเค้าเม้าท์มอยกันให้แซ่บถึงปม ผู้หญิง 2 คนในพรรคไม่กินเส้นกัน กระทั่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี่แหละความจริงถึงใกล้จะปรากฏชัด
ทั้งหมดทั้งปวงกลายเป็นประเด็นรองไปเลย เพราะไม่ว่าใครจะนั่งเก้าอี้ผู้นำ มันก็สิทธิ์ของการตัดสินใจพรรคใครพรรคมัน ประเด็นหลักมันอยู่ที่ว่า "คนในพรรคเสียงแตก" ไม่โอเค ใส่ไฟ บวกๆ กันเองแบบนี้ จะเดินหน้าเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยได้อย่างไรกัน? มันเป็นเวลาของความสมัครสมานสามัคคี ร่วมก้าวเดินไปพุ่งชนเป้าหมายเดียวกันมากกว่ามิใช่หรือ? ความไม่ชัดเจนคลุมเครือยังเกิดขึ้นเป็นระยะๆ ตราบใดที่ยังไม่เปิดหน้าไพ่ขึ้นมาอย่างเป็นทางการ ความเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลมันเกิดขึ้นได้ทั้งนั้นแหละ อย่าเพิ่งไปพ่นไฟใส่ข่าวให้ยืดยาวกันไปก่อนเลยจ้า
ใครจะรู้ล่ะว่า "ข่าวที่ปล่อยๆ ออกมาอยู่ในขณะนี้" อาจเป็นเรื่องของการสับขาหลอกซ้ำ 2 ก็เป็นได้ !! ศึกข้างหน้ายังอีกไกล ปากมีหู ประตูมีช่อง สามัคคีรักใคร่กลมเกลียวกันไว้ อย่าเพิ่งทำลายกันเอง "คือดีที่สุด"
*****************************************************************************
ใครน้อ ?????????????????