
สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาแนะนำการพาคุณยาย อายุ 85 ปีไปเที่ยวเชียงราย
เรื่องความแข็งแรงของคุณยายนั้นไม่ต้องพูดถึง ปวดเข่า ความดันสูง ปวดเข่า เมื่อย ปวดเข่า 555+
แต่เรื่องใจนั้นถึงไหนถึงกันค่ะ ดังนั้นการพายายไปเที่ยวทุกที่จึงต้องมีรถเข็นคู่ใจไปด้วย โดยสถานที่ที่จะพายายไป มีดังนี้
วันแรก - วัดร่องขุ่น , ไนท์บาร์ซ่า
วันที่สอง - ดอยตุง , พระธาตุดอยตุง , ดอยช้างมูบ , ร้านจันกะผัก , ไร่ชาฉุยฟง
วันที่สาม - วัดพระธาตุเขาควายแก้ว , ไร่บุญรอด , วัดพระแก้ว
เราเดินทางในวันพฤหัสบดี เพื่อหลีกเลี่ยงคนเยอะ และไม่อยากให้ยายรู้สึกอึดอัดเวลาที่ยายทำอะไรช้า
โดยเลือกใช้บริการสายการบินหางแดง ไฟล์บ่าย 2โมงครึ่ง ที่สนามบินดอนเมือง
เนื่องจากเราขับรถไปจอดที่สนามบิน ในใจก็กังวลว่าจะมีที่จอดไหม ซึ่งเราอยากจอดที่อาคาร 2
ซึ่งใกล้กับอาคารผู้โดยสารขาออก
เมื่อไปถึงทางขึ้นอาคาร 2 ปรากฎว่าเต็มจ้าาา เราเลยเปิดกระจกสอบถามกับเจ้าที่ว่าเรามีผู้สูงอายุและใช้รถเข็น
พอจะมีที่จอดแนะนำไหม เมื่อเจ้าหน้าที่สนามบินเห็นว่าเรามีผู้สูงอายุและมีรถเข็นอยู่ท้ายรถจริง ก็อำนวยความสะดวก
ให้จอดในที่สำหรับผู้สูงอายุและพิการ บนอาคาร 2 เย้เย้!!!
หลังจากนั้นเราก็ทำการเช็คอินกระเป๋า และ รถเข็น โดยหากนำรถเข็นมาเองทางสายการบินก็ไม่คิดค่าบริการเพิ่มเติม
เราสามรถเข็นเข้าไปยังหน้าประตูขึ้นเครื่องได้เลย แล้วจะมีเจ้าที่มารับรถเข็นไปโหลดอีกที
เมื่อนั่งประจำที่แล้ว ก็ออกเดินทางได้เลยค่ะ....
ทันทีที่ถึงสนามบินเชียงราย ทางเจ้าหน้าที่ก็จะนำรถเข็นมารอรับที่หน้าประตูเครื่อง
อ่อ ลืมบอกว่าผู้สูงอายุที่มีรถเข็นจะได้สิทธิพิเศษในการ ขึ้นก่อน ลงสุดท้าย นะคะ
ดังนั้นก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเกะกะผู้โดยสารท่านอื่นเลยค่ะ
เมื่อมาถึงสนามบินเชียงรายแล้ว ยายก็ขอเก็บภาพเป็นที่ระทึกเพื่อเอากลับไปเล่าให้คนข้างบ้านฟังสักหน่อย
หลังจากนั้น ก็ไปรับรถเช่าที่จองไว้ โดยเราเลือกใช้ ฮอนด้าซิตี้ เพื่อความสะดวกในการขึ้นลงของยาย
และด้านหลังสามารถใส่รถเข็นได้พอดี ได้รถแล้วก็รีบเดินทางไปยังวัดร่องขุ่นทันที...
แต่ก็ไปไม่ทันเข้าชมด้านใน เลยได้แต่ชมความงามของโบสถ์อยู่ด้านนอก

ดูท่ายายจะเจอเนื้อคู่ซะแล้ว ชอบแบบนี้ก็ไม่บอก 555+
เมื่อเดินพาเข็นรถยายชมรอบแล้วจนหนำใจแล้ว เราก็พากันไปหาของกินแถวไนท์บาร์ซ่า ซึ่งยายเป็นคนไม่กินอาหารเหนือ
ไม่กินของแปลก แต่ของหวานถึงไหนถึงกัน

จึงฝากท้องไว้กับก๋วยเตี๋ยว แล้วมากินป้าอ้วนบัวลอยมือถือ
ที่ไนท์บาร์ซ่าต่อ เราจอดรถไว้ตรง รร. วังคำ เสียค่าจอด 30 บาท เดินมาไนท์บาร์ซ่า ประมาณ 200 ม.

ไม่ต้องสืบฮะ ถ่ายที่ยายกินไม่ทัน หมดก่อนจะได้เก็บภาพ
หลังจากเดินช๊อปปิ้งกันพอได้เสียเงินกันกรุบกริบแล้ว ก็ได้เวลา เข้าที่พัก คืนแรกเราเลือกพักที่
" Happynest Hostel " ซึ่งขับไม่ไกลจากไนท์บาร์ซ่า เราชอบสไตล์การตกแต่งของที่นี่ แต่ก็อาจจะไม่ดีต่อข้อเข่ายาย
เอาเป็นว่า ให้ยายจะได้ออกกำลังขาก็แล้วกัน ...


ตัดภาพมาเช้าวันที่สอง

มีเด็กไม่อยากลุกจากที่นอน
เติมพลังด้วยข้าวต้มหมูก่อนออกเกินทางต่อ ข้าวต้มร้อนร้อนดีต่อใจ ยายชอบ
วันที่สอง จุดหมายแรกที่เราจะไปนั้น คือ ดอยตุง
ซึ่งพยากรณ์อากาศ บอกว่า วันนี้จะมีฝนตกหนัก สลับกับลมแรง ทันใดนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงข้างข้างหูว่า
พ่อขุนช่วยลูกด้วย ขออย่าให้ฝนตกเลย ลูกพาแม่มาเที่ยว....

เสียงแม่เราเอง 555
ตลอดทางขึ้นมีหมอกลง สลับกับฟ้าครึ้ม ให้ลุ้นกันไปว่าฝนจะตกไหมนะ แต่เมื่อมาถึง
ขุ่นพระ !!! ฟ้าเปิดจ้าาาา โชคดีของยาย
การพาผู้สุงอายุที่ใช้รถเข็นมาเที่ยวดอยตุง นับว่าสะดวกสบายมาก โดยเฉพาะสวนแม่ฟ้าหลวง
สามารถนำรถเข็นลงไปในสวนได้เลย โดยใช้ทางลงตรงช่องทางออก จะมีเจ้านายที่นำทางไป
และถ้าโชคดีจะมีพี่ทหารช่วยเข็นลงไปในสวนให้ ซึ่งบอกเลยว่า ความชันในสวนนั้นค่อนข้างโหด
ดังนั้น พลขับรถเข็นต้องมีกำลังแขนและขาที่แข็งแรงนิดนึง

ไม่เช่นนั้นจะขึ้นลงไม่ไหว

เนินสุดท้ายก่อนทางออก ยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขาาาา
หลังจากนั้นก็มาต่อกันที่ พระธาตุดอยตุง ซึ่งทางวัดจัดที่จอดรถไว้ด้านหน้า และมีทางสำหรับรถเข็นสะดวกสบาย
เราพายายไปไหว้พระ ทำบุญ และเข็นรถเข็นยายชมความงามรอบรอบโบสถ์และพระธาตุได้เลย
ต่อจากพระธาตุดอยตุง เราก็พายายมาชมความงามของดอกไม้ที่ดอยช้างมูบ
ซึ่งที่นี่ทางสำหรับรถเข็นยังไม่สะดวกสบายเท่ากับสองที่แรก แต่เราก็สามารถพายายเข้าไปจนได้
มุดที่พักเจ้าหน้าที่เข้าไปสิฮะ ยายถึงขั้นเอ่ยถามว่า เราจะมาขโมยของเขาหรอ 555+ คุกนะยาย!!!
หลังจากชมความงามของดอกไม้กันมาทั้งวันแล้ว ก็พายายมาฝากท้องไว้ที่ "ร้านจันกะผัก"
ที่นี่อาหารอร่อย ราคาไม่แพง มาถึงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง กินไม่พูดไม่จาเลยจ้าาาา
ก่อนกลับเข้าเมือง ก็พายายแวะที่สุดท้ายที่จะพลาดไม่ได้ นั่นก็คือ "ไร่ชาฉุยฟงงงงง"
พอได้มาเห็นของจริง ยายถึงกับพูดว่า
" โห!!! ปลูกเยอะขนาดนี้เลยหรอ แถวบ้านยายปลูกแค่ 2 ต้น ก็โดนจับแล้วววว "
โอ้ยยยาย นี่มันต้นชาาาา

ฮ่าาาาากันไปอิ๊กกกก

ชักภาพได้ 2 ภาพ กับชา 1 แก้ว ก็ต้องกลับค่ะ ยายดูไม่ค่อยอิน เลยใช้เวลาที่นี่ไม่นาน
หลังจากออกจากไร่ชา ก็ตรงมุ่งหน้าเพื่อจะไปเช็คอินที่พักคืนที่สอง ที่ " บ้านนอนเพลิน " เพลินสมชื่อเลยค่ะ
มัวแต่ยกของลงจากรถ เลยไม่ทันได้ถ่ายภาพในห้องพัก เอาเป็นว่าไปหารีวิวอื่นดูแล้วกันนะคะ
คืนที่สอง ผ่านไปอย่างรวดเร็วยายคงจะเหนื่อยทั้งวัน...
เช้าวันที่สาม (ก่อนเดินทางกลับ กทม.)
เช้าอันสดชื่นแจ่มใส เพราะได้นอนหลับสนิททั้งคืน ซึ่งปกติยายจะชอบนอนกลางวัน แล้วตื่นกลางคืน
จนบางครั้งก็อยากพาไปสมัครงานพวกอยู่กะดึก แต่คอดอีกทีสงสารเพื่อนร่วมงาน 555
อาหารเช้าของบ้านอนเพลินจะเป็นแนวอาหารไทย มีสเตชั่นไข่ให้ทำเอง
ส่วนยายก็ฟินกับไข่ลูกเขย กับ น้ำราดหวานหวานไปล่ะ ไข่ดาวไม่สนใจ
ปิดท้ายด้วย ซอฟเค้ก กับ โอวันติน อยู่ได้อีกหลายชั่วโมง

ก่อนกลับเราก็ บอกลา เจ้าถิ่นซักหน่อย
ออกจากที่พักแล้ว เราก็มุ่งหน้าไปชมวิวตัวเมืองเชียงราย ที่ วัดพระธาตุดอยเขาควายแก้ว

แนะนำให้ขึ้นไปชมค่ะ แต่ต้องขับรถระวังหน่อยนะคะ เพราะทางแคบ และมีคนมาวิ่งออกกำลังกายกับปั่นจักรยานค่ะ
หลังจากออกมาจากวัดแล้ว ก็ไปยังจุดเช็คอินอีกแห่ง นั่นก็คือ ไร่บุญรอด

ออกแนวชะโงกทัวร์ ถ่ายภาพแล้วกลับค่ะ 555
ก่อนจะเดินทางไปสนามบิน ยังพอมีเวลาอีกนิดหน่อย เลยได้มีโอกาสพายายเข้าไปไหว้พระแก้ว
แต่ด้วยบันไดทางขึ้นหลายขั้น ยายก็เลยบอกว่า ไหว้กงตัวกระไดก็ได้ 555

ข้อคิดก่อนกลับ " ระฆังดี ไม่ตีก็ดัง แต่ถ้าอยากมีตังค์ เข้าฝันบอกเลขยายที "
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมนะคะ
[CR] (CR) รีวิวพายายไปเที่ยวเชียงรายยังไง ให้(ไม่)อยากไปอีก
เรื่องความแข็งแรงของคุณยายนั้นไม่ต้องพูดถึง ปวดเข่า ความดันสูง ปวดเข่า เมื่อย ปวดเข่า 555+
แต่เรื่องใจนั้นถึงไหนถึงกันค่ะ ดังนั้นการพายายไปเที่ยวทุกที่จึงต้องมีรถเข็นคู่ใจไปด้วย โดยสถานที่ที่จะพายายไป มีดังนี้
วันแรก - วัดร่องขุ่น , ไนท์บาร์ซ่า
วันที่สอง - ดอยตุง , พระธาตุดอยตุง , ดอยช้างมูบ , ร้านจันกะผัก , ไร่ชาฉุยฟง
วันที่สาม - วัดพระธาตุเขาควายแก้ว , ไร่บุญรอด , วัดพระแก้ว
เราเดินทางในวันพฤหัสบดี เพื่อหลีกเลี่ยงคนเยอะ และไม่อยากให้ยายรู้สึกอึดอัดเวลาที่ยายทำอะไรช้า
โดยเลือกใช้บริการสายการบินหางแดง ไฟล์บ่าย 2โมงครึ่ง ที่สนามบินดอนเมือง
เนื่องจากเราขับรถไปจอดที่สนามบิน ในใจก็กังวลว่าจะมีที่จอดไหม ซึ่งเราอยากจอดที่อาคาร 2
ซึ่งใกล้กับอาคารผู้โดยสารขาออก
เมื่อไปถึงทางขึ้นอาคาร 2 ปรากฎว่าเต็มจ้าาา เราเลยเปิดกระจกสอบถามกับเจ้าที่ว่าเรามีผู้สูงอายุและใช้รถเข็น
พอจะมีที่จอดแนะนำไหม เมื่อเจ้าหน้าที่สนามบินเห็นว่าเรามีผู้สูงอายุและมีรถเข็นอยู่ท้ายรถจริง ก็อำนวยความสะดวก
ให้จอดในที่สำหรับผู้สูงอายุและพิการ บนอาคาร 2 เย้เย้!!!
หลังจากนั้นเราก็ทำการเช็คอินกระเป๋า และ รถเข็น โดยหากนำรถเข็นมาเองทางสายการบินก็ไม่คิดค่าบริการเพิ่มเติม
เราสามรถเข็นเข้าไปยังหน้าประตูขึ้นเครื่องได้เลย แล้วจะมีเจ้าที่มารับรถเข็นไปโหลดอีกที
เมื่อนั่งประจำที่แล้ว ก็ออกเดินทางได้เลยค่ะ....
ทันทีที่ถึงสนามบินเชียงราย ทางเจ้าหน้าที่ก็จะนำรถเข็นมารอรับที่หน้าประตูเครื่อง
อ่อ ลืมบอกว่าผู้สูงอายุที่มีรถเข็นจะได้สิทธิพิเศษในการ ขึ้นก่อน ลงสุดท้าย นะคะ
ดังนั้นก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเกะกะผู้โดยสารท่านอื่นเลยค่ะ
เมื่อมาถึงสนามบินเชียงรายแล้ว ยายก็ขอเก็บภาพเป็นที่ระทึกเพื่อเอากลับไปเล่าให้คนข้างบ้านฟังสักหน่อย
หลังจากนั้น ก็ไปรับรถเช่าที่จองไว้ โดยเราเลือกใช้ ฮอนด้าซิตี้ เพื่อความสะดวกในการขึ้นลงของยาย
และด้านหลังสามารถใส่รถเข็นได้พอดี ได้รถแล้วก็รีบเดินทางไปยังวัดร่องขุ่นทันที...
แต่ก็ไปไม่ทันเข้าชมด้านใน เลยได้แต่ชมความงามของโบสถ์อยู่ด้านนอก
ดูท่ายายจะเจอเนื้อคู่ซะแล้ว ชอบแบบนี้ก็ไม่บอก 555+
เมื่อเดินพาเข็นรถยายชมรอบแล้วจนหนำใจแล้ว เราก็พากันไปหาของกินแถวไนท์บาร์ซ่า ซึ่งยายเป็นคนไม่กินอาหารเหนือ
ไม่กินของแปลก แต่ของหวานถึงไหนถึงกัน
ที่ไนท์บาร์ซ่าต่อ เราจอดรถไว้ตรง รร. วังคำ เสียค่าจอด 30 บาท เดินมาไนท์บาร์ซ่า ประมาณ 200 ม.
หลังจากเดินช๊อปปิ้งกันพอได้เสียเงินกันกรุบกริบแล้ว ก็ได้เวลา เข้าที่พัก คืนแรกเราเลือกพักที่
" Happynest Hostel " ซึ่งขับไม่ไกลจากไนท์บาร์ซ่า เราชอบสไตล์การตกแต่งของที่นี่ แต่ก็อาจจะไม่ดีต่อข้อเข่ายาย
เอาเป็นว่า ให้ยายจะได้ออกกำลังขาก็แล้วกัน ...
ตัดภาพมาเช้าวันที่สอง
เติมพลังด้วยข้าวต้มหมูก่อนออกเกินทางต่อ ข้าวต้มร้อนร้อนดีต่อใจ ยายชอบ
วันที่สอง จุดหมายแรกที่เราจะไปนั้น คือ ดอยตุง
ซึ่งพยากรณ์อากาศ บอกว่า วันนี้จะมีฝนตกหนัก สลับกับลมแรง ทันใดนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงข้างข้างหูว่า
พ่อขุนช่วยลูกด้วย ขออย่าให้ฝนตกเลย ลูกพาแม่มาเที่ยว....
ตลอดทางขึ้นมีหมอกลง สลับกับฟ้าครึ้ม ให้ลุ้นกันไปว่าฝนจะตกไหมนะ แต่เมื่อมาถึง
ขุ่นพระ !!! ฟ้าเปิดจ้าาาา โชคดีของยาย
การพาผู้สุงอายุที่ใช้รถเข็นมาเที่ยวดอยตุง นับว่าสะดวกสบายมาก โดยเฉพาะสวนแม่ฟ้าหลวง
สามารถนำรถเข็นลงไปในสวนได้เลย โดยใช้ทางลงตรงช่องทางออก จะมีเจ้านายที่นำทางไป
และถ้าโชคดีจะมีพี่ทหารช่วยเข็นลงไปในสวนให้ ซึ่งบอกเลยว่า ความชันในสวนนั้นค่อนข้างโหด
ดังนั้น พลขับรถเข็นต้องมีกำลังแขนและขาที่แข็งแรงนิดนึง
เนินสุดท้ายก่อนทางออก ยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขาาาา
หลังจากนั้นก็มาต่อกันที่ พระธาตุดอยตุง ซึ่งทางวัดจัดที่จอดรถไว้ด้านหน้า และมีทางสำหรับรถเข็นสะดวกสบาย
เราพายายไปไหว้พระ ทำบุญ และเข็นรถเข็นยายชมความงามรอบรอบโบสถ์และพระธาตุได้เลย
ต่อจากพระธาตุดอยตุง เราก็พายายมาชมความงามของดอกไม้ที่ดอยช้างมูบ
ซึ่งที่นี่ทางสำหรับรถเข็นยังไม่สะดวกสบายเท่ากับสองที่แรก แต่เราก็สามารถพายายเข้าไปจนได้
มุดที่พักเจ้าหน้าที่เข้าไปสิฮะ ยายถึงขั้นเอ่ยถามว่า เราจะมาขโมยของเขาหรอ 555+ คุกนะยาย!!!
หลังจากชมความงามของดอกไม้กันมาทั้งวันแล้ว ก็พายายมาฝากท้องไว้ที่ "ร้านจันกะผัก"
ที่นี่อาหารอร่อย ราคาไม่แพง มาถึงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง กินไม่พูดไม่จาเลยจ้าาาา
ก่อนกลับเข้าเมือง ก็พายายแวะที่สุดท้ายที่จะพลาดไม่ได้ นั่นก็คือ "ไร่ชาฉุยฟงงงงง"
พอได้มาเห็นของจริง ยายถึงกับพูดว่า
" โห!!! ปลูกเยอะขนาดนี้เลยหรอ แถวบ้านยายปลูกแค่ 2 ต้น ก็โดนจับแล้วววว "
โอ้ยยยาย นี่มันต้นชาาาา
ชักภาพได้ 2 ภาพ กับชา 1 แก้ว ก็ต้องกลับค่ะ ยายดูไม่ค่อยอิน เลยใช้เวลาที่นี่ไม่นาน
หลังจากออกจากไร่ชา ก็ตรงมุ่งหน้าเพื่อจะไปเช็คอินที่พักคืนที่สอง ที่ " บ้านนอนเพลิน " เพลินสมชื่อเลยค่ะ
มัวแต่ยกของลงจากรถ เลยไม่ทันได้ถ่ายภาพในห้องพัก เอาเป็นว่าไปหารีวิวอื่นดูแล้วกันนะคะ
คืนที่สอง ผ่านไปอย่างรวดเร็วยายคงจะเหนื่อยทั้งวัน...
เช้าวันที่สาม (ก่อนเดินทางกลับ กทม.)
เช้าอันสดชื่นแจ่มใส เพราะได้นอนหลับสนิททั้งคืน ซึ่งปกติยายจะชอบนอนกลางวัน แล้วตื่นกลางคืน
จนบางครั้งก็อยากพาไปสมัครงานพวกอยู่กะดึก แต่คอดอีกทีสงสารเพื่อนร่วมงาน 555
อาหารเช้าของบ้านอนเพลินจะเป็นแนวอาหารไทย มีสเตชั่นไข่ให้ทำเอง
ส่วนยายก็ฟินกับไข่ลูกเขย กับ น้ำราดหวานหวานไปล่ะ ไข่ดาวไม่สนใจ
ปิดท้ายด้วย ซอฟเค้ก กับ โอวันติน อยู่ได้อีกหลายชั่วโมง
ก่อนกลับเราก็ บอกลา เจ้าถิ่นซักหน่อย
ออกจากที่พักแล้ว เราก็มุ่งหน้าไปชมวิวตัวเมืองเชียงราย ที่ วัดพระธาตุดอยเขาควายแก้ว
แนะนำให้ขึ้นไปชมค่ะ แต่ต้องขับรถระวังหน่อยนะคะ เพราะทางแคบ และมีคนมาวิ่งออกกำลังกายกับปั่นจักรยานค่ะ
หลังจากออกมาจากวัดแล้ว ก็ไปยังจุดเช็คอินอีกแห่ง นั่นก็คือ ไร่บุญรอด
ออกแนวชะโงกทัวร์ ถ่ายภาพแล้วกลับค่ะ 555
ก่อนจะเดินทางไปสนามบิน ยังพอมีเวลาอีกนิดหน่อย เลยได้มีโอกาสพายายเข้าไปไหว้พระแก้ว
แต่ด้วยบันไดทางขึ้นหลายขั้น ยายก็เลยบอกว่า ไหว้กงตัวกระไดก็ได้ 555
ข้อคิดก่อนกลับ " ระฆังดี ไม่ตีก็ดัง แต่ถ้าอยากมีตังค์ เข้าฝันบอกเลขยายที "
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้