อัพเดท 10 กองทุน LTF ผลตอบแทนแรงสุด
http://www.share2trade.com/index.php?route=content/content&path=9&content_id=3704
------------------------------------------------------------
เริ่มกลับมาเป็นข่าวอีกครั้งสำหรับกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงของการนับ “ถอยหลัง” การยกเลิกสิทธิพิเศษในการลดหย่อนภาษี ซึ่งจะมีผลในสิ้นปี 2562
กองทุน LTF ก่อกำเนิดในปี 2547 จากการสนับสนุนของรัฐบาล เพื่อส่งเสริมให้นักลงทุนออม และลงทุนในตลาดหุ้น พร้อมกับสิทธิพิเศษในการลดหย่อนภาษี โดยนักลงทุนต้องลงทุนต่อเนื่อง 5 ปีปฏิทิน
ก่อนที่จะขยายระยะเวลาการลงทุน LTF เพิ่มเป็น 7 ปีปฏิทินในปี 2559
ในปี 2547 ซึ่งเป็นปีแรกของการส่งเสริมการลงทุนผ่านกองทุน LTF มี “มนุษย์เงินเดือน” ลงทุนจำนวน 5 พันล้านบาท ก่อนที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดในปี 2560 มีเงินลงทุนผ่านกองทุน LTF กว่า 3.97 แสนล้านบาท
...หลากมุมมองสำหรับกองทุน LTF ที่กำลังจะหมดอายุลงในปี 2562
นักวิชาการมองว่า ควร “ยกเลิก” กองทุนนี้ เพราะจะช่วยให้รัฐบาลประหยัดรายจ่ายได้เกือบ 9 พันล้านบาทต่อปี
เพราะกองทุน LTF มุ่งเน้นเป้าหมายในการส่งเสริมตลาดทุนมากกว่าการสร้างความเป็นธรรม
และควรส่งเสริมการออมผ่านกองทุน RMF ซึ่งเป็นการออมระยะยาว เมื่อเทียบกับ LTF ที่ลงทุนระยะสั้นเพียง 7 ปี ปฏิทินเท่านั้น
...แน่นอนว่า ในส่วนของความเคลื่อนไหวของสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน (สมาคมบลจ.) ในฐานะผู้ประกอบการ เตรียมเสนอให้กระทรวงการคลังเตรียมพิจารณาขยายเวลา ให้สิทธิพิเศษภาษีกองทุน LTF ออกไปอีก โดยคาดว่าจะเสนอในช่วงต้นปี 2562
ทั้งนี้ มีการประเมินว่า หากรัฐบาลไม่ต่ออายุมาตรการลดหย่อนภาษี จะทำให้เม็ดเงินลงทุนหายออกไปจากตลาดประมาณปีละประมาณ 2 หมื่นล้านบาท
ถือเป็นโจทย์สำคัญ... และเป็นการบ้านสำหรับรัฐบาลใหม่ ที่ต้องนำไปบรรจุไว้สำหรับการหาเสียงเลือกตั้งในเวลาอันใกล้นี้????
สัปดาห์นี้ Smart Invest ชวนมาสำรวจ 10 กองทุน LTF ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 5 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา แบบสดๆร้อนๆ
ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1.80-4.50% ต่อปี
โดยกองทุน LTF ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดคือ กองทุนเปิด อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด หุ้นระยะยาว ให้ผลตอบแทนสูงถึง 4.50%
น่าสนใจทีเดียวสำหรับกองทุน LTF ภายใต้การบริหารของบลจ.ทิสโก้ ที่ผลตอบแทนติดชาร์จ 10 อันดับแรกถึง 3 กองทุน ประกอบด้วย
กองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้นระยะยาว ชนิดหน่วยลงทุน B ให้ผลตอบแทนสูดติดอันดับ 3 อยู่ที่ 3.13%
กองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้นระยะยาว ชนิดหน่วยลงทุน A ให้ผลตอบแทนสูดติดอันดับ 5 อยู่ที่ 2.70%
กองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้นระยะยาวปันผล ให้ผลตอบแทนสูดติดอันดับ 6 อยู่ที่ 2.52%
แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า...จะพาไปอัพเดทกองทุน RMF ว่า 15 ปี ที่ผ่านมา มูลค่าเงินลงทุนเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน เมื่อเทียบกับกองทุน LTF
//////////////////
ขอบคุณบทความจาก
www.facebook.com/Share2Trade/
www.share2trade.com
อัพเดท 10 กองทุน LTF ผลตอบแทนแรงสุด (โดย Smart Invest เว็บ Share2Trade)
http://www.share2trade.com/index.php?route=content/content&path=9&content_id=3704
------------------------------------------------------------
เริ่มกลับมาเป็นข่าวอีกครั้งสำหรับกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงของการนับ “ถอยหลัง” การยกเลิกสิทธิพิเศษในการลดหย่อนภาษี ซึ่งจะมีผลในสิ้นปี 2562
กองทุน LTF ก่อกำเนิดในปี 2547 จากการสนับสนุนของรัฐบาล เพื่อส่งเสริมให้นักลงทุนออม และลงทุนในตลาดหุ้น พร้อมกับสิทธิพิเศษในการลดหย่อนภาษี โดยนักลงทุนต้องลงทุนต่อเนื่อง 5 ปีปฏิทิน
ก่อนที่จะขยายระยะเวลาการลงทุน LTF เพิ่มเป็น 7 ปีปฏิทินในปี 2559
ในปี 2547 ซึ่งเป็นปีแรกของการส่งเสริมการลงทุนผ่านกองทุน LTF มี “มนุษย์เงินเดือน” ลงทุนจำนวน 5 พันล้านบาท ก่อนที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดในปี 2560 มีเงินลงทุนผ่านกองทุน LTF กว่า 3.97 แสนล้านบาท
...หลากมุมมองสำหรับกองทุน LTF ที่กำลังจะหมดอายุลงในปี 2562
นักวิชาการมองว่า ควร “ยกเลิก” กองทุนนี้ เพราะจะช่วยให้รัฐบาลประหยัดรายจ่ายได้เกือบ 9 พันล้านบาทต่อปี
เพราะกองทุน LTF มุ่งเน้นเป้าหมายในการส่งเสริมตลาดทุนมากกว่าการสร้างความเป็นธรรม
และควรส่งเสริมการออมผ่านกองทุน RMF ซึ่งเป็นการออมระยะยาว เมื่อเทียบกับ LTF ที่ลงทุนระยะสั้นเพียง 7 ปี ปฏิทินเท่านั้น
...แน่นอนว่า ในส่วนของความเคลื่อนไหวของสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน (สมาคมบลจ.) ในฐานะผู้ประกอบการ เตรียมเสนอให้กระทรวงการคลังเตรียมพิจารณาขยายเวลา ให้สิทธิพิเศษภาษีกองทุน LTF ออกไปอีก โดยคาดว่าจะเสนอในช่วงต้นปี 2562
ทั้งนี้ มีการประเมินว่า หากรัฐบาลไม่ต่ออายุมาตรการลดหย่อนภาษี จะทำให้เม็ดเงินลงทุนหายออกไปจากตลาดประมาณปีละประมาณ 2 หมื่นล้านบาท
ถือเป็นโจทย์สำคัญ... และเป็นการบ้านสำหรับรัฐบาลใหม่ ที่ต้องนำไปบรรจุไว้สำหรับการหาเสียงเลือกตั้งในเวลาอันใกล้นี้????
สัปดาห์นี้ Smart Invest ชวนมาสำรวจ 10 กองทุน LTF ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 5 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา แบบสดๆร้อนๆ
ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1.80-4.50% ต่อปี
โดยกองทุน LTF ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดคือ กองทุนเปิด อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด หุ้นระยะยาว ให้ผลตอบแทนสูงถึง 4.50%
น่าสนใจทีเดียวสำหรับกองทุน LTF ภายใต้การบริหารของบลจ.ทิสโก้ ที่ผลตอบแทนติดชาร์จ 10 อันดับแรกถึง 3 กองทุน ประกอบด้วย
กองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้นระยะยาว ชนิดหน่วยลงทุน B ให้ผลตอบแทนสูดติดอันดับ 3 อยู่ที่ 3.13%
กองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้นระยะยาว ชนิดหน่วยลงทุน A ให้ผลตอบแทนสูดติดอันดับ 5 อยู่ที่ 2.70%
กองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้นระยะยาวปันผล ให้ผลตอบแทนสูดติดอันดับ 6 อยู่ที่ 2.52%
แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า...จะพาไปอัพเดทกองทุน RMF ว่า 15 ปี ที่ผ่านมา มูลค่าเงินลงทุนเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน เมื่อเทียบกับกองทุน LTF
//////////////////
ขอบคุณบทความจาก
www.facebook.com/Share2Trade/
www.share2trade.com