ครั้งแรกที่เห็นวง Blackpink ความสะดุดตาที่สุดไปจับอยู่ที่สาวน้อยผมบลอนด์ที่มีหน้าตาแบบที่เห็นครั้งเดียวก็จำได้ หลังจากนั้นก็อ่านข่าวคราว ติดตามผลงานของน้องมาเรื่อยๆ รู้ว่าเป็นเด็กไทยที่ไปเดบิวต์ในค่ายที่ขึ้นชื่อว่าติสต์จ๋าที่สุดแล้วใน K POP จากคนเสพสื่อระดับผู้ใหญ่ที่ไม่ได้ติดตาม K POP ก็เริ่มมีความแง้มมาเมียงมองศิลปิน K POP รายอื่นๆ บ้าง ก็ไม่พบซักคนเดียวที่มีออร่าแบบแม่หนูคนที่ชื่อลิซ่าคนนี้ คนที่ดูเขินอายเหลือเกินเวลาสัมภาษณ์หรือเข้ากล้อง แต่ขึ้นสเตจทีราวกับนางพญา และดูเป็นพื้นที่ที่เธอดูมั่นใจและเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด ไม่มีความรู้สึกของน้องน้อยขี้อายหรือตัวป่วนเลยซักนิดเดียว ที่จะเขียนถือเป็นบทความเล็กๆ บูชาเมนให้อ่านกันสนุกๆ แล้วกัน ว่าด้วยความผมทองของน้องลิซ
ว่าด้วยเรื่องสีผม มันมีนัยยะเกี่ยวกับเรื่องลุคหรือสะท้อนบุคลิกที่แตกต่างกัน เช่น ผมดำ สื่อถึงความลึกลับ เย้ายวน ฉลาดเฉลียว ผมสีน้ำตาลอาจจะให้ความรู้สึกว่าเป็นมิตร เข้าถึงง่าย ใจดี ผมสีแดง สื่อถึงผู้หญิงเซ็กซี่ ร้อนแรง ฉลาดแกมโกง ส่วนผมบลอนด์ สื่อถึงสาวสวยที่อาจจะเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องเทพอโพรไดต์ หรือเทพีแห่งความงามกันเลยทีเดียว ฝั่งตะวันตกจึงมีค่านิยมว่าสาวผมทองคือสาวสวย เซ็กซี่สตาร์ระดับตำนานจำนวนมากฝั่งตะวันตกจะมีผมสีทอง หน้าอกใหญ่ เอวเล็ก สะโพกผาย เป็นพิมพ์นิยมที่ฮอลลีวู้ดสร้างขึ้น แม้แต่ตุ๊กตาสาวสวยยอดนิยมอมตะอย่างบาร์บี้ ก็ต้องผมทองเป็นเมนหลัก แล้วไปๆ มาๆ ก็กลายเป็นค่านิยมแอนตี้อย่าง Dumb Blond ว่าสาวผมบลอนด์คือพวกสวยแต่โง่ไปเสียอย่างนั้น ซึ่งค่านิยมนี้เกิดขึ้นเพื่อต่อต้านการที่สังคมทุนนิยมที่สอนให้ผู้หญิงยึดติดกับเรื่องรูปลักษณ์มากเกินไป แม้ภาพลักษณ์สาวผมบลอนด์จะกลายเป็นลุคที่สาวผมสีอื่นแอบเหยียดเบาๆ แต่หลายๆ คนก็ยังอยากที่จะมีผมสีทองสว่างน่าสนใจ เพราะว่ากันว่า Gentlemen prefer Blondes (หนุ่มๆ มักชอบสาวผมบลอนด์ทั้งนั้นล่ะ) ยังใช้ได้ดีทุกยุคสมัย
ไอค่อนสาวผมทองในตำนานระดับฮอลลีวู้ด ถ้าไม่พูดถึง มาริลีน มอนโร แสดงว่ายังไม่แก่จริง^^ ต้นฉบับสาวผมทอง เจ้าเสน่ห์มันสตาร์ทที่ผู้หญิงคนนี้ ตั้งแต่ฮอลีวู้ดยุค 50's หลังจากที่โด่งดังจนกลายเป็น Sex symbol เป็นรูปที่หนุ่มๆ อเมริกันติดไว้ข้างฝาแทบทุกบ้าน มีเซ็กซี่สตาร์รุ่นหลังๆ จำนวนมากที่พยายาม Copy สไตล์ของมาริลีนมาใช้ ก็พอถูไถกันไปได้ แต่ไม่มีใครสร้างตำนานได้ระดับเดียวกับมาริลีน มาริลีนถูกยกเป็นเซ็กซ์ซิมโบล ผู้ชายคลั่งไคล้ในตัวเธอ และผู้หญิงต่างอิจฉาเธอ ความทุกข์ใจอย่างหนึ่งตลอดชีวิตนักแสดงของเธอคือ ผู้คนมักสนใจกับความสวยของเธอมากกว่าความสามารถที่เธอมี ไม่ว่าจะเรื่องฝีมือทางการแสดง ( จริงๆ เธอเล่นหนังได้ดี ร้องเพลงได้ดี ) และหลายคนมองเธอว่าสวยแต่โง่ ( ทั้งที่จริงๆ มีหลักฐานระบุว่า เธอเป็นผู้หญิงที่มีไอคิวสูงค่อนข้างมาก)
ยุค 80's เจ้าแม่ POP อย่างมาดอนน่าก็เป็นที่จดจำอย่างที่สุดกับลุคผมบลอนด์ แม้เจ้าตัวจะเป็นคนที่เปลี่ยนลุคและสีผมให้ทันยุคทันสมัยตลอดเวลา แต่ภาพจำของมาดอนน่าในสายตาคนส่วนใหญ่ก็คือ มาดอนน่าผมบลอนด์อยู่ดี หลายคนเกลียดเธอ แต่ฟังเพลงของเธอ แม้ว่าจะไม่ใช่นักร้องที่มีเสียงระดับดีว่า แต่เธอคือเจ้าแม่แห่งสไตล์ที่อยู่รอดมาทุกยุค ความสามารถของเธอคือการสร้างสรรค์สไตล์ใหม่ๆ ฉีกสไตล์นำหน้าคนอื่น ซึ่งผมบลอนด์น่าจะเป็นเรื่องเดียวที่เธอไม่ค่อยได้ฉีกมากนัก ทำผมสีเข้มได้ประเดี๋ยวประด๋าวก็กลับมาทำผมทอง อัลบั้มไหนโปรโมตด้วยผมเข้มมักไม่ค่อยปัง
และในยุคปลาย 90's เจ้าหญิง POP อย่างบริตนีย์ สเปียร์ ก็เป็นอีกคนหนึ่งยึดติดกับภาพลักษณ์ผมบลอนด์ เซ็กซี่ ขวัญใจหนุ่มๆ ยุคนั้น ไม่ว่าจะถูกสื่อรุมทึ้งชีวิตส่วนตัวและความสามารถในการร้องเพลง รวมไปถึงรสนิยมทางด้านแฟชั่นขนาดไหน เธอก็อยู่รอดมาได้ทุกยุคเช่นกัน ขนาดว่าพ้นยุคโด่งดังของเธอไปแล้ว แต่เปิดคอนเสิร์ตทีไรบัตรหมดทุกที เป็นศิลปินที่ขายภาพลักษณ์และPerformance ในขณะที่มาดอนน่าขายความครีเอทีฟ บริตนีย์จะเน้นไปที่เสน่ห์และพลังในการแสดง ร่วมงานกับโปรดิวเซอร์เก่งๆ แล้วทำให้ไอเดียมัน POP ขึ้นมา นางจึงรอดทุกยุค แพทเทิร์นเดียวกับมาดอนน่า
เรื่องตลกคือ ไอค่อนผมบลอนด์ระดับตำนานสามคนนี้ จริงๆ แล้วมีผมสีเข้ม( Brunette) ตั้งแต่เกิดทั้งหมด
มาฝั่งเรามั่ง ก่อนลิซ่า แบล็คพิงค์ ไอดอลสาย K POP หรือ J POP ก็ทำผมทองกันมาหลายต่อหลายคน หลายคนดูดีกับผลบลอนด์ แต่หลายคนก็ไม่เท่าไร แต่มีไม่กี่คนที่ผมบลอนด์กลายเป็น Signature ของเขาไปเลย หนึ่งในนั้นก็คือ ลิซ่าของเรานี่ล่ะ ที่ภาพจำของคนส่วนใหญ่จะอยู่ที่ลิซ่า ผมทองมากสุดแล้ว เพราะเสน่ห์ของน้องไต่ระดับสูงสุดจริงๆ ก็ตอนผมบลอนด์นี่ล่ะ ชะตากรรมเส้นผมของลิซ่าจึงใกล้เคียงกับมาริลีน มอนโร และมาดอนน่าว่า บางทีเบื่อๆ ก็ทำผมสีอื่นนะ แต่สุดท้ายแล้ว แฟนเพลงหรือคนส่วนใหญ่ก็ Prefer ให้มีผมสีทองนั่นล่ะ

โดยส่วนตัว ครั้งแรกที่เห็นลิซ่า แบล็คพิงค์นี่ หน้าบริตนีย์ สเปียร์ยุคแรกๆ นี่ลอยมาแต่ไกลเลย มีองค์เดียวกันเวลาขึ้นสเตจมากๆ เป็นคนที่สะดุดตาอะไรขนาดนั้น เวลาขึ้นไลฟ์ ถ้าแฟนแคมแบบเรียลไทม์ ไม่ผ่านการตัดต่อ จะเห็นชัดถึงเอนเนอร์จีในการแสดงของเธอที่พุ่งทะลุออกมาเลย ต่อให้เต้นอยู่ข้างหลังหรือด้านริม ก็ตาม ก็จะคอยมองเห็นผมสีทองๆ ที่สะบัดไปมาอยู่ตลอดจังหวะการเต้นนั่นล่ะ และแม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่ทำผมสีเข้ม ก็ยังเด่นด้วยการเต้นที่ดึงดูดสายตาเหลือเกินอยู่ดี เพราะงั้น ถ้าผมทองนี่คือให้ที่สุด ไม่มองไม่ได้จริงๆ
เอาเข้าจริง บทความนี้อาจไม่ได้มีเนื้อหาสาระอะไรมากมายเกี่ยวกับรายละเอียดของลิซ่า นอกจากเรื่องลุคผมสีทอง แล้วไปเปรียบเทียบกับไอค่อนผมสีทองระดับตำนาน แต่อยากนำเสนอประเด็นว่า ใครๆ ก็ทำผมสีทองได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะผมทองแล้วโดดเด่นจนเป็นซิกเนเจอร์ประจำตัวได้หมด ไม่ใช่ทุกคนที่ทำผมสีทองแล้วคนจำนวนมากจะเครซี่ได้ในระดับที่ลิซ่าทำ
อันที่จริง ความนิยมในการทำผมสีบลอนด์ของคนเอเชียเพิ่งแพร่หลายได้ไม่นาน สิบกว่าปีก่อน ถ้าเป็นคนปกติอาจจะมองว่าการทำผมสีบลอนด์มันสะดุดตาเกินไป เป็นคนแรงๆ หรือเปล่า อะไรทำนองนี้ แต่สำหรับศิลปิน ทำเพื่อให้ดูโดดเด่นสำหรับการแสดง มุมมองคนเอเชียหลายคนมองว่าทำผมสีทองมันดูไม่เป็นธรรมชาติ ผมสีเข้มอย่างเรานี่ล่ะคือสวยที่สุดแล้ว ยกตัวอย่างตุ๊กตาบาร์บี้เอง แต่ก่อนมีแต่พิมพ์นิยมคือ ผมทอง ตาฟ้าแทนที่ผู้หญิงคอเคซอยน์ ต่อมาแตกไลน์ทำตุ๊กตาผู้หญิงหลากหลายเชื้อชาติมากยิ่งขึ้น เพื่อแสดงความงามที่หลากหลายของเผ่าพันธุ์มนุษย์ การปะทะสังสรรค์กันทางเชื้อชาติก่อให้เกิดความงามลูกผสมที่แตกต่างไปได้เรื่อยๆ ฝั่งสาวผิวสีเขาเริ่มทำผมบลอนด์มานานแล้ว แล้วทำไมสาวเอเชียจะทำผมบลอนด์มั่งไม่ได้ แล้วเมื่อทำผมบลอนด์เหมือนคอเคซอยน์ไปแล้ว แต่ความงามของเราก็ยังสามารถสื่อถึงความเป็นตะวันออกซึ่งอยู่ในตัวตนเนื้อแท้ในอีกหลายๆ แง่มุมได้นี่นา ความงามมันไม่ได้จำกัดรูปแบบ แต่คนที่ยึดติดกับความเชื่อบางอย่างปิดใจที่จะรับรู้ความหลากหลายนั้นต่างหาก แล้วก็ตัดสินว่า อะไรที่ไม่ใช่อย่างตัวเองคิดไว้คือไม่สวย ไม่งาม ไม่ดี เพราะการเหยียดคนอื่นลงต่ำเพื่อให้ตัวเองสูงขึ้นนั้นมันมีอยู่ในทุกสังคม
แม้ว่าผมบลอนด์ จะไม่ได้เป็นสีผมตามธรรมชาติตั้งแต่เกิด แต่ก็กลายเป็น "ตัวตน" ส่วนหนึ่งของลิซ่า ที่หลายๆ คนเกิดภาพจำไปแล้ว ใครมองว่ามันคือการดัดแปลงขึ้นในภายหลัง ไม่ใช่สิ่งจริงบนร่างกายเรา แต่ถ้าเป็นสิ่งที่ถูกเลือกสรรมาแล้วว่า "นี่ล่ะ เรา" มันจะกลายเป็นสิ่ง Fake ไปได้อย่างไร ก็เราเลือกมันให้เป็นส่วนหนึ่งของเราเองนี่นา แล้วสำหรับคนที่รักที่ชอบลิซ่า อะไรที่เป็นตัวเขา เราก็ชอบทั้งนั้นล่ะนะ ถ้าชอบ ก็คือใช่ เพราะงั้น Blond Baby Blond ต่อไป ลิซ่า





บลอนด์มันให้ครบทุกเฉดไปเล้ยยยย....
lisa blackpink...Blond Baby Blond
ว่าด้วยเรื่องสีผม มันมีนัยยะเกี่ยวกับเรื่องลุคหรือสะท้อนบุคลิกที่แตกต่างกัน เช่น ผมดำ สื่อถึงความลึกลับ เย้ายวน ฉลาดเฉลียว ผมสีน้ำตาลอาจจะให้ความรู้สึกว่าเป็นมิตร เข้าถึงง่าย ใจดี ผมสีแดง สื่อถึงผู้หญิงเซ็กซี่ ร้อนแรง ฉลาดแกมโกง ส่วนผมบลอนด์ สื่อถึงสาวสวยที่อาจจะเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องเทพอโพรไดต์ หรือเทพีแห่งความงามกันเลยทีเดียว ฝั่งตะวันตกจึงมีค่านิยมว่าสาวผมทองคือสาวสวย เซ็กซี่สตาร์ระดับตำนานจำนวนมากฝั่งตะวันตกจะมีผมสีทอง หน้าอกใหญ่ เอวเล็ก สะโพกผาย เป็นพิมพ์นิยมที่ฮอลลีวู้ดสร้างขึ้น แม้แต่ตุ๊กตาสาวสวยยอดนิยมอมตะอย่างบาร์บี้ ก็ต้องผมทองเป็นเมนหลัก แล้วไปๆ มาๆ ก็กลายเป็นค่านิยมแอนตี้อย่าง Dumb Blond ว่าสาวผมบลอนด์คือพวกสวยแต่โง่ไปเสียอย่างนั้น ซึ่งค่านิยมนี้เกิดขึ้นเพื่อต่อต้านการที่สังคมทุนนิยมที่สอนให้ผู้หญิงยึดติดกับเรื่องรูปลักษณ์มากเกินไป แม้ภาพลักษณ์สาวผมบลอนด์จะกลายเป็นลุคที่สาวผมสีอื่นแอบเหยียดเบาๆ แต่หลายๆ คนก็ยังอยากที่จะมีผมสีทองสว่างน่าสนใจ เพราะว่ากันว่า Gentlemen prefer Blondes (หนุ่มๆ มักชอบสาวผมบลอนด์ทั้งนั้นล่ะ) ยังใช้ได้ดีทุกยุคสมัย
ไอค่อนสาวผมทองในตำนานระดับฮอลลีวู้ด ถ้าไม่พูดถึง มาริลีน มอนโร แสดงว่ายังไม่แก่จริง^^ ต้นฉบับสาวผมทอง เจ้าเสน่ห์มันสตาร์ทที่ผู้หญิงคนนี้ ตั้งแต่ฮอลีวู้ดยุค 50's หลังจากที่โด่งดังจนกลายเป็น Sex symbol เป็นรูปที่หนุ่มๆ อเมริกันติดไว้ข้างฝาแทบทุกบ้าน มีเซ็กซี่สตาร์รุ่นหลังๆ จำนวนมากที่พยายาม Copy สไตล์ของมาริลีนมาใช้ ก็พอถูไถกันไปได้ แต่ไม่มีใครสร้างตำนานได้ระดับเดียวกับมาริลีน มาริลีนถูกยกเป็นเซ็กซ์ซิมโบล ผู้ชายคลั่งไคล้ในตัวเธอ และผู้หญิงต่างอิจฉาเธอ ความทุกข์ใจอย่างหนึ่งตลอดชีวิตนักแสดงของเธอคือ ผู้คนมักสนใจกับความสวยของเธอมากกว่าความสามารถที่เธอมี ไม่ว่าจะเรื่องฝีมือทางการแสดง ( จริงๆ เธอเล่นหนังได้ดี ร้องเพลงได้ดี ) และหลายคนมองเธอว่าสวยแต่โง่ ( ทั้งที่จริงๆ มีหลักฐานระบุว่า เธอเป็นผู้หญิงที่มีไอคิวสูงค่อนข้างมาก)
ยุค 80's เจ้าแม่ POP อย่างมาดอนน่าก็เป็นที่จดจำอย่างที่สุดกับลุคผมบลอนด์ แม้เจ้าตัวจะเป็นคนที่เปลี่ยนลุคและสีผมให้ทันยุคทันสมัยตลอดเวลา แต่ภาพจำของมาดอนน่าในสายตาคนส่วนใหญ่ก็คือ มาดอนน่าผมบลอนด์อยู่ดี หลายคนเกลียดเธอ แต่ฟังเพลงของเธอ แม้ว่าจะไม่ใช่นักร้องที่มีเสียงระดับดีว่า แต่เธอคือเจ้าแม่แห่งสไตล์ที่อยู่รอดมาทุกยุค ความสามารถของเธอคือการสร้างสรรค์สไตล์ใหม่ๆ ฉีกสไตล์นำหน้าคนอื่น ซึ่งผมบลอนด์น่าจะเป็นเรื่องเดียวที่เธอไม่ค่อยได้ฉีกมากนัก ทำผมสีเข้มได้ประเดี๋ยวประด๋าวก็กลับมาทำผมทอง อัลบั้มไหนโปรโมตด้วยผมเข้มมักไม่ค่อยปัง
และในยุคปลาย 90's เจ้าหญิง POP อย่างบริตนีย์ สเปียร์ ก็เป็นอีกคนหนึ่งยึดติดกับภาพลักษณ์ผมบลอนด์ เซ็กซี่ ขวัญใจหนุ่มๆ ยุคนั้น ไม่ว่าจะถูกสื่อรุมทึ้งชีวิตส่วนตัวและความสามารถในการร้องเพลง รวมไปถึงรสนิยมทางด้านแฟชั่นขนาดไหน เธอก็อยู่รอดมาได้ทุกยุคเช่นกัน ขนาดว่าพ้นยุคโด่งดังของเธอไปแล้ว แต่เปิดคอนเสิร์ตทีไรบัตรหมดทุกที เป็นศิลปินที่ขายภาพลักษณ์และPerformance ในขณะที่มาดอนน่าขายความครีเอทีฟ บริตนีย์จะเน้นไปที่เสน่ห์และพลังในการแสดง ร่วมงานกับโปรดิวเซอร์เก่งๆ แล้วทำให้ไอเดียมัน POP ขึ้นมา นางจึงรอดทุกยุค แพทเทิร์นเดียวกับมาดอนน่า
เรื่องตลกคือ ไอค่อนผมบลอนด์ระดับตำนานสามคนนี้ จริงๆ แล้วมีผมสีเข้ม( Brunette) ตั้งแต่เกิดทั้งหมด
มาฝั่งเรามั่ง ก่อนลิซ่า แบล็คพิงค์ ไอดอลสาย K POP หรือ J POP ก็ทำผมทองกันมาหลายต่อหลายคน หลายคนดูดีกับผลบลอนด์ แต่หลายคนก็ไม่เท่าไร แต่มีไม่กี่คนที่ผมบลอนด์กลายเป็น Signature ของเขาไปเลย หนึ่งในนั้นก็คือ ลิซ่าของเรานี่ล่ะ ที่ภาพจำของคนส่วนใหญ่จะอยู่ที่ลิซ่า ผมทองมากสุดแล้ว เพราะเสน่ห์ของน้องไต่ระดับสูงสุดจริงๆ ก็ตอนผมบลอนด์นี่ล่ะ ชะตากรรมเส้นผมของลิซ่าจึงใกล้เคียงกับมาริลีน มอนโร และมาดอนน่าว่า บางทีเบื่อๆ ก็ทำผมสีอื่นนะ แต่สุดท้ายแล้ว แฟนเพลงหรือคนส่วนใหญ่ก็ Prefer ให้มีผมสีทองนั่นล่ะ
เอาเข้าจริง บทความนี้อาจไม่ได้มีเนื้อหาสาระอะไรมากมายเกี่ยวกับรายละเอียดของลิซ่า นอกจากเรื่องลุคผมสีทอง แล้วไปเปรียบเทียบกับไอค่อนผมสีทองระดับตำนาน แต่อยากนำเสนอประเด็นว่า ใครๆ ก็ทำผมสีทองได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะผมทองแล้วโดดเด่นจนเป็นซิกเนเจอร์ประจำตัวได้หมด ไม่ใช่ทุกคนที่ทำผมสีทองแล้วคนจำนวนมากจะเครซี่ได้ในระดับที่ลิซ่าทำ
อันที่จริง ความนิยมในการทำผมสีบลอนด์ของคนเอเชียเพิ่งแพร่หลายได้ไม่นาน สิบกว่าปีก่อน ถ้าเป็นคนปกติอาจจะมองว่าการทำผมสีบลอนด์มันสะดุดตาเกินไป เป็นคนแรงๆ หรือเปล่า อะไรทำนองนี้ แต่สำหรับศิลปิน ทำเพื่อให้ดูโดดเด่นสำหรับการแสดง มุมมองคนเอเชียหลายคนมองว่าทำผมสีทองมันดูไม่เป็นธรรมชาติ ผมสีเข้มอย่างเรานี่ล่ะคือสวยที่สุดแล้ว ยกตัวอย่างตุ๊กตาบาร์บี้เอง แต่ก่อนมีแต่พิมพ์นิยมคือ ผมทอง ตาฟ้าแทนที่ผู้หญิงคอเคซอยน์ ต่อมาแตกไลน์ทำตุ๊กตาผู้หญิงหลากหลายเชื้อชาติมากยิ่งขึ้น เพื่อแสดงความงามที่หลากหลายของเผ่าพันธุ์มนุษย์ การปะทะสังสรรค์กันทางเชื้อชาติก่อให้เกิดความงามลูกผสมที่แตกต่างไปได้เรื่อยๆ ฝั่งสาวผิวสีเขาเริ่มทำผมบลอนด์มานานแล้ว แล้วทำไมสาวเอเชียจะทำผมบลอนด์มั่งไม่ได้ แล้วเมื่อทำผมบลอนด์เหมือนคอเคซอยน์ไปแล้ว แต่ความงามของเราก็ยังสามารถสื่อถึงความเป็นตะวันออกซึ่งอยู่ในตัวตนเนื้อแท้ในอีกหลายๆ แง่มุมได้นี่นา ความงามมันไม่ได้จำกัดรูปแบบ แต่คนที่ยึดติดกับความเชื่อบางอย่างปิดใจที่จะรับรู้ความหลากหลายนั้นต่างหาก แล้วก็ตัดสินว่า อะไรที่ไม่ใช่อย่างตัวเองคิดไว้คือไม่สวย ไม่งาม ไม่ดี เพราะการเหยียดคนอื่นลงต่ำเพื่อให้ตัวเองสูงขึ้นนั้นมันมีอยู่ในทุกสังคม
แม้ว่าผมบลอนด์ จะไม่ได้เป็นสีผมตามธรรมชาติตั้งแต่เกิด แต่ก็กลายเป็น "ตัวตน" ส่วนหนึ่งของลิซ่า ที่หลายๆ คนเกิดภาพจำไปแล้ว ใครมองว่ามันคือการดัดแปลงขึ้นในภายหลัง ไม่ใช่สิ่งจริงบนร่างกายเรา แต่ถ้าเป็นสิ่งที่ถูกเลือกสรรมาแล้วว่า "นี่ล่ะ เรา" มันจะกลายเป็นสิ่ง Fake ไปได้อย่างไร ก็เราเลือกมันให้เป็นส่วนหนึ่งของเราเองนี่นา แล้วสำหรับคนที่รักที่ชอบลิซ่า อะไรที่เป็นตัวเขา เราก็ชอบทั้งนั้นล่ะนะ ถ้าชอบ ก็คือใช่ เพราะงั้น Blond Baby Blond ต่อไป ลิซ่า
บลอนด์มันให้ครบทุกเฉดไปเล้ยยยย....