สวัสดีค่าทุกคน ยินดีต้อนรับเข้าสู่จังหวัดลพบุรีค่ะ ก่อนที่จะตามเราไปดูว่า ลพบุรีมีดีอะไร เราอยากจะเกริ่น ๆ ประวัติพอสังเขปของจังหวัดลพบุรี กันสักเล็กน้อยนะคะ

    จังหวัดลพบุรี เป็นจังหวัดในภาคกลางของประเทศไทย โดยมีประวัติศาสตร์มายาวนานมากกว่า 3000 ปี แต่ที่รุ่งเรืองที่สุดคือสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เพราะลพบุรีเปรียบเสมือนราชธานีแห่งที่ 2 เพราะมีที่ตั้งทางยุทธศาตร์เหมาะสม และได้รับความช่วยเหลือจากช่างชาวฝรั่งเศสและอิตาเลียนในการสร้างพระราชวังที่มีป้อมกราการเป็นแนวป้องกันอย่างมั่นคง ถึงขนาดพระองค์ทรงมาประทับอยู่ที่เมืองลพบุรี ปีละ 8-9 เดือนเลยค่ะ
มาค่ะ ต่อ ๆ ล้อใกล้จะหมุนแล้วค่ะ

         ครั้งนี้เราใช้เวลาท่องเที่ยวกัน 3 วัน 2 คืน โดยต้องขอบคุณ กิจกรรมดี ๆของ ทาง Pantip.com ร่วมกับ ททท. ในชื่อโครงการ “นุ่งโจงห่มสไบ เที่ยวไทยภาคกลาง” จุดประสงค์ของโครงการก็เพื่อให้เรามาแชร์การท่องเที่ยวจังหวัดต่าง ๆ ในภาคกลาง ว่าจังหวัดที่เราไป มีอะไรท่องเที่ยวที่น่าสนใจบ้าง โดยเราเลือกเส้นทาง ลพบุรีค่ะ

Let Go

วันที่ 1

          อย่างแรก เรามีการนัดพบกันที่ อาคาร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่  หลังจากที่มีพิธีปล่อยตัว โดยผู้บริหาร ททท. และ Pantip.com เราก็ออกเดินทางพร้อมกันค่ะ  โดยการเดินทางจาก กทม. ไป ลพบุรี ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงนิด ๆ ค่ะ

           หลังจากที่เราเริ่มออกเดินทางที่แรกที่เราจะไปกันคือ โบราณสถาณคู่บ้านคู่เมืองของลพบุรี
พระปรางค์สามยอด และ ศาลพระกาฬ โดยตั้งอยู่ติดกันนะคะ สามารถเดินข้ามถนนฝ่าฝูงน้องลิงได้ค่ะ ตอนนี้ทั้งสองที่อยู่ในระหว่างการปรับปรุงนะคะ

           มามาเข้าสู่มุมสาระกันแพร๊บนะคะ
           พระปรางค์สามยอด เป็นปราสาทศิลาแลงแบบขอมเรียงต่อกัน 3 องค์ เชื่อมต่อกันด้วยมุขกระสัน ภายในบริเวณนอกจากปราสาททั้ง 3 องค์นี้แล้ว ทางด้านทิศตะวันออกของปราสาทประธานมีการต่อเติมวิหารก่ออิฐถือปูนเชื่อมต่อกับปราสาทประธานเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช








            จากนั้นเดินข้ามถนนมาจะเจอกับศาลพระกาฬค่ะ
             ศาลพระกาฬหรือเดิมเรียกว่า ศาลสูง เนื่องจากศาลตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงที่อยู่สูงจากพื้นดิน เป็นศาสนสถานที่เป็นฐานศิลาแลงขนาดใหญ่ ว่ากันว่าฐานศิลาแลงดังกล่าวเป็นฐานพระปรางค์ที่ยังสร้างไม่เสร็จ หรือสร้างสำเร็จแต่พังถล่มลงมาภายหลังโดยไม่ได้รับการซ่อมแซมให้ดีดังเดิม ศาลพระกาฬหลังใหม่จึงถูกออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมทรงไทยร่วมสมัยตั้งเด่นเป็นสง่า ณ บริเวณหน้าฐานพระปรางค์โบราณ



           เจ้าพ่อพระกาฬเป็นเทวรูปรุ่นเก่าซึ่งอาจเป็นพระวิษณุ หรือพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร เป็นเทวรูปรุ่นเก่า ศิลปะลพบุรี แต่เดิมเจ้าพ่อพระกาฬมีพระกายสีดำ ไม่มีพระเศียร และพระกรทั้งหมด

           กล่าวกันว่าเจ้าพ่อพระกาฬได้ไปเข้าฝันผู้ประสงค์ดีท่านหนึ่ง นัยว่าขอพระเศียรและพระกรเท่าที่จะหามาได้ ซึ่งได้มีผู้ศรัทธาได้จัดหาเศียรพระศิลาทรายศิลปะสมัยอยุธยา ส่วนพระกรนั้นได้เพียงสองข้างจากทั้งหมดสี่ข้าง

           ปัจจุบันเจ้าพ่อพระกาฬไม่เหลือเค้าเดิมซึ่งมีสีดำอีกแล้ว ด้วยถูกปิดทองจากผู้ศรัทธาแลดูเหลืองอร่ามจนสิ้น กล่าวกันว่าปีหนึ่งมีผู้มานมัสการไม่ต่ำกว่าหนึ่งแสนคนค่ะ


เราจะพบน้องลิงอยู่ได้ทุกที่นะคะ



           สาระเต็มสมองแล้ว แต่ท้องเราก็เริ่มว่าง มื้อเที่ยงของวันนี้เราจะฝากท้องไว้ที่ ร้านฉัตรนารา















           หนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน ต้องเพิ่มคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกาย ที่ร้านเค้าก็มีขายนะเออ


           หลังจากที่เติมคาเฟอีนกันเรียบร้อย ต่อไปเราจะพาไปเยี่ยมชม พระนารายณ์ราชนิเวศน์
           
           อ้าวแวะ แป๊ป สาระมาจ้า

           พระนารายณ์ราชนิเวศน์ หรือที่ชาวลพบุรีเรียกกันติดปากว่า วังนารายณ์ ใช้เป็นที่ประทับ ล่าสัตว์ ออกว่าราชการ และต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ต่อมาเมื่อสมเด็จพระนารายณ์ฯ เสด็จสวรรคตวังนารายณ์ก็หมดความสำคัญและถูกทิ้งร้าง จนมาได้รับการบูรณะอีกครั้งมือสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 รวมถึงมีการสร้างพระที่นั่งพิมาณมงกุฎและหมู่ตึกพระประเทียบ ทรงพระราชทานนามว่า “พระนารายณ์ราชนิเวศน์” ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใช้จัดแสดงโบราณวัตถุ และภาพประวัติศาสตร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

           ด้านในพิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 เขต ได้แก่
           1.    เขตพระราชฐานชั้นนอก
           2.    เขตพระราชฐานชั้นกลาง
           3.    เขตพระราชฐานชั้นใน
    ถ้าใครติดตามละครบุพเพสันนิวาส เราก็จะคุ้น ๆ กันอยู่แล้วนะคะ ว่าสถานที่นี้มีความสำคัญมากแค่ไหน เดี๋ยวเราไปดูโบราณวัตถุและภาพประวัติศาสตร์ต่างๆ กันนะคะ

















    ต่อไปจะเป็นภาพโบราณวัตถุต่าง ๆ ที่จัดแสดงโชว์ ขอแค่ยกตัวอย่างนะคะ ของจริงข้างในมีเยอะมาก วิทยากรของเราก็ให้ความรู้เกี่ยวกับของแต่ละอย่าง ทำให้เรารู้สึกเหมือนว่า ได้ย้อนเข้าไปในอยู่ในยุคนั้น อิน ๆ เหมือนตัวเองเป็นแม่หญิงการะเกดค่ะ

























มีพนักงานต้อนรับด้วยนะคะ



เดี๋ยวเรามาต่อกันที่ความคิดเห็นนะคะ