
เวระนอม
ผมตั้งหน้าตั้งตารอหนังเรื่องนี้มานานมากครับ หลังจากปรากฎตัวมาแล้วใน Spider-Man 3 คราวนี้ก็ถึงคราวพี่เวระนอมของเรามีหนังเป็นของตัวเองสักที โปรเจคนี้อำนวยการบริหารงานโดย Sony ครับ พี่แกเคยอยากจะสร้างจักรวาล Sinister Six มาแล้วใน The Amazing Spider-Man 2 แต่ก็ล้มเหลวเนื่องจากคำวิจารณ์ออกมาค่อนข้าง "ย่ำแย่" ใน Critic ต่างๆ คราวนี้พี่แกอยากจะแก้มือ ก็เลยลองดูซักตั้ง

เรื่องย่อ
เอ็ดดี้ บร็อค ที่ทำงานเป็นนักข่าวที่ทำเกี่ยวกับเรื่ององค์กร Life Foundation ที่นำคนมาทำการทดลอง แล้วมันก็เกิดเรื่องร้ายขึ้น เมื่อเอ็ดดี้ล่วงรู้ความลับขององค์กรนี้ เขาเลยจำเป็นต้องหลบหนีการไล่ล่าครั้งนี้ให้ได้ และในขณะเดียวกันเขาก็ต้องควบคุมร่างที่สองของเขาไว้ด้วย

"บทหนังปรุงแต่งเยอะ จนรสชาติเกินความเป็นหนังเดี่ยว"
เกริ่นก่อนนะครับ ว่าผมไปดูในระบบ Real 3D มา ในด้านงานภาพค่อนข้างโอเค ไม่ปวดตา ระบบเสียงเองก็กระหึ่มไม่ใช่น้อย ในเรื่องระบบโรงหนังถือว่าผ่านครับ โอเค...มาเข้าเรื่องกันดีกว่า
ตัวหนังทำออกมาได้สนุกในระดับนึงครับ ผมดูไปก็ยังบันเทิงอยู่บ้าง (ส่วนหนึ่งเพราะระบบของโรงหนัง) แต่ถ้ามาแยกเครื่องปรุงออกจากอาหารจานนี้ ก็ต้องบอกเลยว่ามีหลายวัตถุดิบที่ค่อนข้างจะมีปัญหา อย่างแรกเลยคือ "บท"
บทหนังช่วงครึ่งแรกนั้นปูทางมาได้ดี เล่าว่ามีองค์กรหนึ่งที่จะทำการทดลองกับมนุษย์และพระเอกของเราก็ต้องหาทางสืบ และตรงนี้บทก็มีเหตุผลของมันครับ เพราะเอ็ดดี้ต้องการจะเล่นงานองค์กรนี้มานานแล้ว เพื่อหน้าที่มนการทำงานของเขา จนในที่สุดมันก็เลยเถิดไปกันใหญ่จนกลายเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของเขา ในแง่ของพล็อตมันโอเคครับ สูตรไปบ้างแต่ก็มีรูปมีร่าง แต่หลังจากนั้น หนังก็ยัดๆๆ วัตถุดิบอื่นๆ เข้ามาเพื่อจะให้หนังมันยาวครับ มันน่าสนใจอยู่เพียงแต่มันล้นจนกลบ Storyline หลักของหนัง เลยทำให้งานชิ้นนี้ออกมาไม่ค่อยประทับใจนักวิจารณ์เท่าไหร่นัก

"ดีไม่ได้ซักจุด สุดไม่ได้ซักทาง"
อีกอย่างที่น่าเสียดายคือหนังไม่ได้ทำเป็นเรต R ครับ หนังมีการตัดฉากออกไปเยอะพอปริมาณเพื่อหลีกเลี่ยงเรต R และหวังว่าสักวันทาง MCU จะเอาไปแจมด้วย ปต่เนื่องจากห่วงว่าจะไม่ได้นับญาติกับ MCU ทุกอย่างในหนังเลยดูจับประเก็นไม่ได้ ทุกอย่างดูเหมือนถูกยัดเยียด จนฉากที่ควรจะโหดมันเลยดูไก่กาไปเลย มีบางฉากแอบใส่มุขตลกลงไปซึ่งทำให้ขัดกับโทนของหนังที่ทำออกมาแนวดาร์ก แต่ก็ดาร์กได้ไม่สุดเหมือนกัน เฮ้ออออ...

"ทีมนักแสดงแบกหนังไว้ในบ่า"
ส่วนที่ทำให้หนังดูสนุกมากขึ้นก็คือเคมีระหว่างตัวละครเอ็ดดี้กับเวน่อม มันเหมือนดูพี่ชายแสนดีกับน้องชายแสนเลวที่พยายามอยู่ด้วยกันยังไงยังงั้นเลย (จริงๆ 555) ทาง Tom Hardy ก็เล่นได้ดี ส่วนคนอื่นๆ นี่ออกแนวสมทบแต่ก็เล่นดีเหมือนกัน เช่น Michelle Williams ที่ฝีมือเธอนี่รับประกันได้อยู่แล้วว่าไม่ผิดหวังแน่นอน ส่วน Rez Armhed ก็เล่นได้นิ่งแต่จิตอยู่ลึกๆ พี่แกแค่ยิ้มนี่ก็ผวาแล้วหล่ะ บรื่อ!!!

สรุป
ที่บ่นมาขนาดนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าหนังมันจะขี้เหร่อะไรมากนะครับ เพราะในด้านงานแอคชั่น งานภาพ งานโปรดักชั่นนี่ดีทุกอย่างเลย แต่บทมันเป็นจุดผิดพลาดอันใหญ่หลวงเลย มันน่าจะสุดได้มากกว่านี้
รอเช่าดูก็ได้นะ
ปล. หนังมี End Credit สองตัวนะครับ อันที่สองไม่เกี่ยวอะไรกับหนังมาก แต่อันแรกนี่อย่าพลาดเด็ดขาด!
[CR] ##REVIEW## Venom (2018) เวน่อม | "ไม่น่าเล้ยยย เอ็ดดี้" [ไร้ส้มป่อย]
ผมตั้งหน้าตั้งตารอหนังเรื่องนี้มานานมากครับ หลังจากปรากฎตัวมาแล้วใน Spider-Man 3 คราวนี้ก็ถึงคราวพี่เวระนอมของเรามีหนังเป็นของตัวเองสักที โปรเจคนี้อำนวยการบริหารงานโดย Sony ครับ พี่แกเคยอยากจะสร้างจักรวาล Sinister Six มาแล้วใน The Amazing Spider-Man 2 แต่ก็ล้มเหลวเนื่องจากคำวิจารณ์ออกมาค่อนข้าง "ย่ำแย่" ใน Critic ต่างๆ คราวนี้พี่แกอยากจะแก้มือ ก็เลยลองดูซักตั้ง
เอ็ดดี้ บร็อค ที่ทำงานเป็นนักข่าวที่ทำเกี่ยวกับเรื่ององค์กร Life Foundation ที่นำคนมาทำการทดลอง แล้วมันก็เกิดเรื่องร้ายขึ้น เมื่อเอ็ดดี้ล่วงรู้ความลับขององค์กรนี้ เขาเลยจำเป็นต้องหลบหนีการไล่ล่าครั้งนี้ให้ได้ และในขณะเดียวกันเขาก็ต้องควบคุมร่างที่สองของเขาไว้ด้วย
เกริ่นก่อนนะครับ ว่าผมไปดูในระบบ Real 3D มา ในด้านงานภาพค่อนข้างโอเค ไม่ปวดตา ระบบเสียงเองก็กระหึ่มไม่ใช่น้อย ในเรื่องระบบโรงหนังถือว่าผ่านครับ โอเค...มาเข้าเรื่องกันดีกว่า
ตัวหนังทำออกมาได้สนุกในระดับนึงครับ ผมดูไปก็ยังบันเทิงอยู่บ้าง (ส่วนหนึ่งเพราะระบบของโรงหนัง) แต่ถ้ามาแยกเครื่องปรุงออกจากอาหารจานนี้ ก็ต้องบอกเลยว่ามีหลายวัตถุดิบที่ค่อนข้างจะมีปัญหา อย่างแรกเลยคือ "บท"
บทหนังช่วงครึ่งแรกนั้นปูทางมาได้ดี เล่าว่ามีองค์กรหนึ่งที่จะทำการทดลองกับมนุษย์และพระเอกของเราก็ต้องหาทางสืบ และตรงนี้บทก็มีเหตุผลของมันครับ เพราะเอ็ดดี้ต้องการจะเล่นงานองค์กรนี้มานานแล้ว เพื่อหน้าที่มนการทำงานของเขา จนในที่สุดมันก็เลยเถิดไปกันใหญ่จนกลายเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของเขา ในแง่ของพล็อตมันโอเคครับ สูตรไปบ้างแต่ก็มีรูปมีร่าง แต่หลังจากนั้น หนังก็ยัดๆๆ วัตถุดิบอื่นๆ เข้ามาเพื่อจะให้หนังมันยาวครับ มันน่าสนใจอยู่เพียงแต่มันล้นจนกลบ Storyline หลักของหนัง เลยทำให้งานชิ้นนี้ออกมาไม่ค่อยประทับใจนักวิจารณ์เท่าไหร่นัก
อีกอย่างที่น่าเสียดายคือหนังไม่ได้ทำเป็นเรต R ครับ หนังมีการตัดฉากออกไปเยอะพอปริมาณเพื่อหลีกเลี่ยงเรต R และหวังว่าสักวันทาง MCU จะเอาไปแจมด้วย ปต่เนื่องจากห่วงว่าจะไม่ได้นับญาติกับ MCU ทุกอย่างในหนังเลยดูจับประเก็นไม่ได้ ทุกอย่างดูเหมือนถูกยัดเยียด จนฉากที่ควรจะโหดมันเลยดูไก่กาไปเลย มีบางฉากแอบใส่มุขตลกลงไปซึ่งทำให้ขัดกับโทนของหนังที่ทำออกมาแนวดาร์ก แต่ก็ดาร์กได้ไม่สุดเหมือนกัน เฮ้ออออ...
ส่วนที่ทำให้หนังดูสนุกมากขึ้นก็คือเคมีระหว่างตัวละครเอ็ดดี้กับเวน่อม มันเหมือนดูพี่ชายแสนดีกับน้องชายแสนเลวที่พยายามอยู่ด้วยกันยังไงยังงั้นเลย (จริงๆ 555) ทาง Tom Hardy ก็เล่นได้ดี ส่วนคนอื่นๆ นี่ออกแนวสมทบแต่ก็เล่นดีเหมือนกัน เช่น Michelle Williams ที่ฝีมือเธอนี่รับประกันได้อยู่แล้วว่าไม่ผิดหวังแน่นอน ส่วน Rez Armhed ก็เล่นได้นิ่งแต่จิตอยู่ลึกๆ พี่แกแค่ยิ้มนี่ก็ผวาแล้วหล่ะ บรื่อ!!!
ที่บ่นมาขนาดนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าหนังมันจะขี้เหร่อะไรมากนะครับ เพราะในด้านงานแอคชั่น งานภาพ งานโปรดักชั่นนี่ดีทุกอย่างเลย แต่บทมันเป็นจุดผิดพลาดอันใหญ่หลวงเลย มันน่าจะสุดได้มากกว่านี้
ปล. หนังมี End Credit สองตัวนะครับ อันที่สองไม่เกี่ยวอะไรกับหนังมาก แต่อันแรกนี่อย่าพลาดเด็ดขาด!
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น