มิจฉาสมาธิ แล้วไง... ใครแคร์...?

มิจฉาสมาธิ แล้วไง... ใครแคร์...?

มิจฉาสมาธิก็... มีคนคิดไปต่างๆนานาว่าอย่างนั้นเรียกมิจฉาสมาธิ แบบนี้เรียกมิจฉาสมาธิ
แต่สำหรับกระทู้นี้จะคุยในกรอบแค่ว่า ยังไม่มีสัมมาทิฏฐิ จะอะไรๆๆก็มิจฉาไปหมดนั่นแหละ
ย้ำ ยังไม่มีสัมมาทิฏฐิแบบพระอริยเจ้าเลย เอาแบบที่จะบรรลุมรรคผลกันเลย

ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะทำอะไรตอนนี้ มันก็เป็นเรื่องของมิจฉาทั้งนั้นนะ
ฉันไม่อ่อนข้อ ไม่อ่อนด้อย ไม่บอกว่ามันมีระดับการเข้าถึง ตัดกันเป็นจังหวะนั้นไปเลย
" [๒๕๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สัมมาทิฐิของพระอริยะที่เป็นอนาสวะเป็นโลกุตระ เป็นองค์มรรค เป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ปัญญา ปัญญินทรีย์ปัญญาพละ ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์
ความเห็นชอบ องค์แห่งมรรค ของภิกษุผู้มีจิตไกลข้าศึก มีจิตหาอาสวะมิได้
พรั่งพร้อมด้วยอริยมรรค เจริญอริยมรรคอยู่นี้แล สัมมาทิฐิของพระอริยะที่เป็นอนาสวะ เป็นโลกุตระ เป็นองค์มรรค ฯ"

มิจฉาสมาธิแล้วไง... ใครแคร์....?

ก่อนจะไปถึงมิจฉาสมาธิ เราลองมาดูมิจฉาตัวอื่นๆกันก่อนนะ

สัมมาสังกัปปะ ดำริชอบ อา... ตอนนี้เรายังไม่สัมมาทิฏฐิแบบที่ยกมานะ
ดังนั้นไม่ว่าจะคิดอะไรยังไง ก็มิจฉาทั้งนั้น... แต่ใครแคร์...?
คิดจะออกบวช คิดจะเจริญภาวนา คิดจะรักษาศีล ทำทาน ใครจะบอกว่ามันเป็นมิจฉาสังกัปปะนะเพราะยังไม่ได้สัมมาทิฏฐิ
ก็ช่างหัวมัน... 555
อ้อ... ถ้าไปอ่านในพระไตรปิฎก มิจฉาสังกัปปะมันก็ต้องพยาบาท คิดเบียดเบียน คิดชั่วๆทั้งหลาย

"[๒๖๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สัมมาสังกัปปะของพระอริยะที่เป็นอนาสวะเป็นโลกุตระ เป็นองค์มรรค เป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความตรึก ความวิตก ความดำริ ความแน่ว ความแน่
ความปักใจ วจีสังขาร ของภิกษุผู้มีจิตไกลข้าศึกมีจิตหาอาสวะมิได้ พรั่งพร้อมด้วยอริยมรรคเจริญอริยมรรคอยู่นี้แล
สัมมาสังกัปปะของพระอริยะที่เป็นอนาสวะ เป็นโลกุตระ เป็นองค์มรรค ฯ"

เรายังไม่ใช่พระอริยเจ้านี่หว่า... จะทำอะไรก็เรื่องของเรา เขาบอกว่าไม่ใช่โลกุตรมรรค ก็เรื่องของเขา
เราทำของเราต่อไป... อธิศีลสิกขา อธิจิตสิกขา อธิปัญญาสิกขา ทำต่อไป

ลองดูอีกสักตัว สัมมาวาจาเป็นไง พูดดีๆ เอาสั้นแค่นี้แหละ พูดดีๆ
มันยังไม่ใช่ขอบเขตของอริยมรรคนะ... แต่เราก็จะทำ ก็มันยังไม่ถึงนี่ จะให้ไปทำในส่วนที่ถึงได้ยังไง
"[๒๖๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สัมมาวาจาของพระอริยะที่เป็นอนาสวะเป็นโลกุตระ เป็นองค์มรรค เป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความงด ความเว้นความเว้นขาด
เจตนางดเว้น จากวจีทุจริตทั้ง ๔ ของภิกษุผู้มีจิตไกลข้าศึก มีจิตหาอาสวะมิได้ พรั่งพร้อมด้วยอริยมรรค
เจริญอริยมรรคอยู่ นี้แล สัมมาวาจาของพระอริยะที่เป็นอนาสวะ เป็นโลกุตระ เป็นองค์มรรค ฯ"

ยังไม่มีสัมมาทิฏฐิแบบข้างต้น.... แต่ก็จะทำต่อไป
เราทำของเราต่อไป... อธิศีลสิกขา อธิจิตสิกขา อธิปัญญาสิกขา ทำต่อไป

(ใครมันบอกว่าการปฏิบัติธรรมอย่าใช้เจตนา ไม่ต้องไปฟังธรรมมันอีกต่อไปนะ)

ทีนี้ไปดูกันที่สัมมาสตินิดหนึ่ง ความจริงสติมันควบคู่ไปกับอริยมรรคทั้งหมดนั่นแหละ
ถ้ามันไม่มีสติก็ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง
รู้ว่ากายเดิน หายใจ มีสุข มีทุกข์ โลภ โกรธ หลง มีนิวรณ์หรือไม่มี แน่นอนว่าจิตยังไม่ไกลจากกิเลสแน่นอน
แต่เราก็จะมีสติอย่างนี้แหละ ใครจะทำไม...?
มีได้แค่นี้ก็ดีแล้ว แต่ก่อนไม่มีอย่างนี้ ตอนนี้พัฒนามาได้ขนาดนี้ ใครมาบ่นก็เรื่องของมัน
เราทำของเราต่อไป... อธิศีลสิกขา อธิจิตสิกขา อธิปัญญาสิกขา ทำต่อไป

สมาธิก็เหมือนกัน ยังไม่ใช่สัมมาสมาธิก็ช่างประไร
เราก็เจริญสมาธิของเราต่อไปนั่นแหละ
จะบอกว่าได้ ฌานเฌินยังไม่ใช่สัมมาสมาธิ ก็ช่างประไร ไอ้คนพูดก็ยังไม่เห็นมันได้อะไรเลยนี่
เราทำในส่วนของเราที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าดี ก็พอใจของเราไป
ทำได้แค่ไหนเอาแค่นั้น จะมาบอกให้เป็นพระอรหันต์กันวันสองวัน... ใครมันทำได้ล่ะ
มันพูดง่ายกันทั้งนั้นนี่...
พอเราทำทาน ก็บอกว่าเราห่วย ต้องรักษาศีล เจริญสติปัฏฐาน เจริญสมาธิ เจริญปัญญา ไปเป็นพระอรหันต์
พอเราเริ่มรักษาศีล ก็มาบอกว่าห่วยอีก ต้องไปเจริญสติปัฏฐาน เจริญสมาธิ เจริญปัญญา ไปเป็นพระอรหันต์
มันถามเราสักคำมั้ยว่า... เราอยากเป็นพระอรหันต์หรือเปล่า...?

เราอยากทำแค่ไหนเราก็ทำไป ไม่ต้องไปแคร์ใครมานินทาอยู่ สบายจะตาย
อย่างไปบอกฝรั่งว่า เจริญสมาธิแบบนั้นไม่เป็นพระพุทธศาสนา
เขานับถือพระพุทธศาสนาแล้วหรือ...? เขาอยากเป็นพระอรหันต์หรือเปล่าละ...?
แต่เขาได้แน่ๆคือ คุณภาพจิตที่ดี มีความสงบ มีความสุขตามสมควรของเขา

เขารู้เรื่องจิตดีกว่านักอ่านแต่ตำราเสียอีก...

เราทำในส่วนที่เป็นบุญ ให้ผลแก่ขันธ์ นับว่าดีแล้ว ไม่ประมาทแล้ว ยอดเยี่ยมแล้ว
แม้จะไม่ใช่ดีที่สุด ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
เพราะยังไง พระพุทธเจ้าก็ตรัสให้เราทำ ความจริงท่านตรัสด้วยซ้ำว่าเป็นสัมมา....
เรานับถือศาสนาพุทธ นับถือพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์
รักษาศีล เจริญสมาธิ เจริญปัญญา
ขณะที่กำหนดจิตเพ่งอยู่ในธรรมต่างๆ แล้วบอกว่าไม่ใช่สัมมาสมาธิ
แล้วไง... ใครแคร์...?

ปล่อยให้เขาคุยกันต่อไปว่า มิจฉา.. สัมมา.. กันต่อไป
ส่วนเราทำของเราต่อไป... อธิศีลสิกขา อธิจิตสิกขา อธิปัญญาสิกขา ทำต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่