ระอุ!สหรัฐฯเตือนรัสเซียหยุดพัฒนาระบบขีปนาวุธร่อน ขู่ชิงโจมตีทำลายทิ้งก่อนใช้การได้จริง
https://mgronline.com/around/detail/9610000098650
รอยเตอร์ - ทูตสหรัฐฯประจำนาโต้ในวันอังคาร(2ต.ค.) เตือนรัสเซียต้องหยุดดำเนินการอย่างลับๆในการพัฒนาระบบขีปนาวุธร่อนหนึ่งซึ่งอยู่ห้ามภายใต้สนธิสัญญาสงครามเย็น ไม่อย่างนั้นอเมริกาจะหาทางทำลายก่อนที่มันจะใช้งานได้จริง
สหรัฐฯเชื่อว่ารัสเซียกำลังพัฒนาระบบขีปนาวุธยิงจากภาคพื้นชนิดหนึ่งซึ่งละเมิดสนธิสัญญาสงครามเย็น และอาจเปิดทางให้มอสโกสามารถยิงนิวเคลียร์โจมตียุโรปได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ อย่างไรก็ตามเครมลินปฏิเสธมาตลอดว่ามันไม่ได้ละเมิดสนธิสัญญาใดๆ
เคย์ ไบลีย์ ฮัตชิสัน ผู้แทนทูตสหรัฐฯประจำนาโต้ บอกว่าวอชิงตันยังคงมุ่งมั่นใช้การทูตแก้ปัญหา แต่ขณะเดียวกันก็เตรียมพร้อมพิจารณาโจมตีทางทหารหากว่ารัสเซียยังคงเดินหน้าพัฒนาระบบขีปนาวุธพิสัยกลางดังกล่าว
"ณ จุดนั้น เราจะพิจารณาถึงศักยภาพในการกำจัดขีปนาวุธของรัสเซียที่อาจโจมตีที่ใดก็ได้ในประเทศของเรา" เธอกล่าวระหว่างแถลงข่าว "มาตรการตอบโต้(ของสหรัฐฯ) ก็คือจะกำจัดขีปนาวุธเหล่านั้นที่พัฒนาโดยรัสเซีย ซึ่งละเมิดสนธิสัญญา พวกเขาได้รับการบอกกล่าวแล้ว"
กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ แต่ในอดีตพวกเขาบอกว่าพร้อมพูดคุยกับสหรัฐฯในความพยายามสงวนไว้ซึ่งสนธิสัญญาดังกล่าวและจะปฏิบัติตามสนธิสัญญาหากอเมริกาทำแบบนั้นเช่นกัน
ความคิดเห็นของ ฮัตชิสัน ซึ่งได้รับแต่งตั้งจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ให้เข้ามาทำหน้าที่ประจำนาโต้ ถือเป็นคำเตือนครั้งตรงไปตรงมามากที่สุดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่อเมริกาจะชิงลงมือก่อน นับตั้งแต่เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของสหรัฐฯเคยกล่าวในปี 2017 ว่าวอชิงตันจะพิจารณาระบบของตนเองหากว่ารัสเซียยังคงเดินหน้าละเมิดสนธิสัญญาอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง (Intermediate-Range Nuclear Forces Treaty: INF) ปี 1987
สนธิสัญญาดังกล่าวห้ามพัฒนาและครอบครองขีปนาวุธพิสัยกลางที่มีศักยภาพโจมตียุโรปหรืออะแลสกา ขณะที่สหรัฐฯและรัสเซียเพิ่งฉลองครบรอบ 30 ปีสนธิสัญญาดังกล่าวในเจนีวา เมื่อปี 2017
อย่างไรก็ตามในปีเดียวกันนั้น กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเผยแพร่รายงานอ้างพบรัสเซียละเมิดพันธสัญญาต่างๆที่จะไม่ครอบครอง, ผลิตหรือทดสอขีปนาวุธร่อนยิงจากภาคพื้นที่มีพิสัยทำการระหว่าง 500 กิโลเมตรถึง 5,5000 กิโลเมตร หรือครอบครองและผลิตแท่นยิงที่ใช้ปล่อยขีปนาวุธดังกล่าว
คำกล่าวหาของสหรัฐฯดูเหมือนจะซ้ำเติมความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างมอสโกและตะวันตก ที่ปัจจุบันก็อยู่ในระดับต่ำอยู่ก่อนแล้วต่อกรณีที่รัสเซียผนวกไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในปี 2014, ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรียและคำกล่าวหาที่ว่ารัสเซียแทรกแซงศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ
"เราพยายามส่งสารถึงรัสเซียมาหลายปีแล้ว ว่าเรารู้ว่าพวกเขากำลังละเมิดสนธิสัญญา เรานำแสดงต่อรัสเซียว่าเรามีหลักฐานว่าพวกเขากำลังละเมิดสนธิสัญญา" ฮัตชิสันกล่าว
ด้าน จิม แมตทิส รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯเผยว่าเขาจะหยิบยกประเด็นนี้เข้าหารือกับเหล่ารัฐมนตรีกลาโหมของนาโต้ ระหว่างการประชุม 2 วันในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ซึ่งมีกำหนดเริ่มขึ้นตั้งแต่วันพุธ(3ต.ค.) เป็นต้นไป
นี่คือสาเหตุที่ทองขึ้น มะกันกร่างขนาดนี้ รัสเซียจะหงอไหม
https://mgronline.com/around/detail/9610000098650
รอยเตอร์ - ทูตสหรัฐฯประจำนาโต้ในวันอังคาร(2ต.ค.) เตือนรัสเซียต้องหยุดดำเนินการอย่างลับๆในการพัฒนาระบบขีปนาวุธร่อนหนึ่งซึ่งอยู่ห้ามภายใต้สนธิสัญญาสงครามเย็น ไม่อย่างนั้นอเมริกาจะหาทางทำลายก่อนที่มันจะใช้งานได้จริง
สหรัฐฯเชื่อว่ารัสเซียกำลังพัฒนาระบบขีปนาวุธยิงจากภาคพื้นชนิดหนึ่งซึ่งละเมิดสนธิสัญญาสงครามเย็น และอาจเปิดทางให้มอสโกสามารถยิงนิวเคลียร์โจมตียุโรปได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ อย่างไรก็ตามเครมลินปฏิเสธมาตลอดว่ามันไม่ได้ละเมิดสนธิสัญญาใดๆ
เคย์ ไบลีย์ ฮัตชิสัน ผู้แทนทูตสหรัฐฯประจำนาโต้ บอกว่าวอชิงตันยังคงมุ่งมั่นใช้การทูตแก้ปัญหา แต่ขณะเดียวกันก็เตรียมพร้อมพิจารณาโจมตีทางทหารหากว่ารัสเซียยังคงเดินหน้าพัฒนาระบบขีปนาวุธพิสัยกลางดังกล่าว
"ณ จุดนั้น เราจะพิจารณาถึงศักยภาพในการกำจัดขีปนาวุธของรัสเซียที่อาจโจมตีที่ใดก็ได้ในประเทศของเรา" เธอกล่าวระหว่างแถลงข่าว "มาตรการตอบโต้(ของสหรัฐฯ) ก็คือจะกำจัดขีปนาวุธเหล่านั้นที่พัฒนาโดยรัสเซีย ซึ่งละเมิดสนธิสัญญา พวกเขาได้รับการบอกกล่าวแล้ว"
กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ แต่ในอดีตพวกเขาบอกว่าพร้อมพูดคุยกับสหรัฐฯในความพยายามสงวนไว้ซึ่งสนธิสัญญาดังกล่าวและจะปฏิบัติตามสนธิสัญญาหากอเมริกาทำแบบนั้นเช่นกัน
ความคิดเห็นของ ฮัตชิสัน ซึ่งได้รับแต่งตั้งจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ให้เข้ามาทำหน้าที่ประจำนาโต้ ถือเป็นคำเตือนครั้งตรงไปตรงมามากที่สุดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่อเมริกาจะชิงลงมือก่อน นับตั้งแต่เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของสหรัฐฯเคยกล่าวในปี 2017 ว่าวอชิงตันจะพิจารณาระบบของตนเองหากว่ารัสเซียยังคงเดินหน้าละเมิดสนธิสัญญาอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง (Intermediate-Range Nuclear Forces Treaty: INF) ปี 1987
สนธิสัญญาดังกล่าวห้ามพัฒนาและครอบครองขีปนาวุธพิสัยกลางที่มีศักยภาพโจมตียุโรปหรืออะแลสกา ขณะที่สหรัฐฯและรัสเซียเพิ่งฉลองครบรอบ 30 ปีสนธิสัญญาดังกล่าวในเจนีวา เมื่อปี 2017
อย่างไรก็ตามในปีเดียวกันนั้น กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเผยแพร่รายงานอ้างพบรัสเซียละเมิดพันธสัญญาต่างๆที่จะไม่ครอบครอง, ผลิตหรือทดสอขีปนาวุธร่อนยิงจากภาคพื้นที่มีพิสัยทำการระหว่าง 500 กิโลเมตรถึง 5,5000 กิโลเมตร หรือครอบครองและผลิตแท่นยิงที่ใช้ปล่อยขีปนาวุธดังกล่าว
คำกล่าวหาของสหรัฐฯดูเหมือนจะซ้ำเติมความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างมอสโกและตะวันตก ที่ปัจจุบันก็อยู่ในระดับต่ำอยู่ก่อนแล้วต่อกรณีที่รัสเซียผนวกไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในปี 2014, ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรียและคำกล่าวหาที่ว่ารัสเซียแทรกแซงศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ
"เราพยายามส่งสารถึงรัสเซียมาหลายปีแล้ว ว่าเรารู้ว่าพวกเขากำลังละเมิดสนธิสัญญา เรานำแสดงต่อรัสเซียว่าเรามีหลักฐานว่าพวกเขากำลังละเมิดสนธิสัญญา" ฮัตชิสันกล่าว
ด้าน จิม แมตทิส รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯเผยว่าเขาจะหยิบยกประเด็นนี้เข้าหารือกับเหล่ารัฐมนตรีกลาโหมของนาโต้ ระหว่างการประชุม 2 วันในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ซึ่งมีกำหนดเริ่มขึ้นตั้งแต่วันพุธ(3ต.ค.) เป็นต้นไป