สามีหย่ากับเราเพราะเชื่อคนที่ไปปฏิบัติธรรมด้วยกัน

เราแต่งงานกับสามีมาสิบกว่าปีแล้วคะ มีลูกสาวด้วยกันสองคน คนโตสิบขวบ คนเล็กกหกขวบ อดีตสามีไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เจ้าชู้ เป็นชีวิตครอบครัวที่อบอุ่นมาก สามีเราชอบไปทำบุญที่วัด เรากับลูกก็ไปกับเขา ไม่ได้ห้ามเค้า จนเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ลูกพี่ลูกน้องสามี ได้ชวนสามีไปปฏิบัติธรรมที่สถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง เราสังเกตุว่าเค้าเริ่มเปลี่ยนไป ไม่สนใจครอบครัว กลับจากทำงานจากเดิมจะเล่นกับลูกสาวคนเล็ก เค้าก็ไม่เล่น รีบเปิดแทปเล็ตเพื่อจะเข้ากลุ่มไบน์ธรรมะของเค้า ไม่พาเรากับลูกไปเที่ยวที่ไหนด้วยเลย จนช่วงหลังๆถึงขั้นขับรถไปกว่า แปดร้อยกว่ากิโลเพื่อไปปฏิบัติธรรมที่สถานปฏิบัติธรรมนั้นๆ เราไม่รู้นึกว่าเค้ากลับบ้านไปหาพ่อแม่ที่ตจว. จนเห็นเคาเอาชุดขาวมาซักถึงรู้ว่าไม่ได้เข้าไปหาพ่อแม่เลย เราพยายามเตือนเค้าเรื่องลูก เพราะตัวเล็กเริ่มถามว่าพ่อไปไหน เค้าก็เฉยไม่พูด ถามคำตอบคำ จนสุดท้ายเราแทบไม่คุยกันเลย จนเมื่อปลายเดือน กค.ที่ผ่านมา เามาขอทะเบียนบ้านจากเรา เราก๋นึกว่าคงจะเอาไปใช้ในงานจองเค้า ผ่านไปอาทิตย์หนึ่งเค้าก็ไม่เอามาคืน พอเราเลยโทรทวงเค้าบอกว่ายังใช้อยู่ เราก็เลยถามเค้าว่าเอาทำอะไร เค้าบอกว่าเค้าซื้อบ้าน เราตกใจเลยน่ะ ซื้อบ้านทำไมไม่ถามเรา เค้าไม่ยอมให้รายละเอียดบอกไว้กลับจาก ตจว.จะมาคุยด้วย เราเลยโทรไปหาญาติเค้าที่ชวนไปปฏิบัติธรรม เค้าบอกว่ารู้ เราเลยถามว่าเอาเงินมาจากไหน ลูกคนเล็กกะลังจะจึ้นป.1 ต้องใช้เงินเยอะ เพราะต้องจ่ายค่าเทอมป.1 ล่วงหน้า ไหนจะของคนโตอีก รวมแล้วเกือบแสน ไหนจะค่าบัตรเครดิตอีก 6 ใบซึ่งเราไม่เคยรู้เลยว่าใช้ทำอะไร ไหนค่าผ่อนรถอีก แล้วเราเลยขอให้เค้าว่า ช่วยเตือนเฮียหน่อยให้สนใจเด็กๆด้วย เค้ากำลังโต ยังอยากใกล้ชิดกับพ่ออยู่ เค้าก็รับปาก แต่พอสามีเรากลับมาจาก ตจว.เค้ามาขอหย่าคะ เค้าบอกว่าจะย้ายออกไปอยู่บ้านหลังใหม่ โดยเค้าอ้างเรื่องปฏิบัติธรรม เค้าบอกว่าเราทำแบบที่เค้าต้องการไม่ได้ เราเลยถามเค้าว่าแบบที่ต้องทิ้งพ่อทิ้งแม่ไปเหมือนคุณนะเหรอ เราทำไม่ได้ เพราะตอนนี้เราค้องดูแลปู่กับพ่อของเราอยู่ เค้าบอกว่าเค้าอยากไปนิพพาน ทุกวันนี้เค้าเป็นระดับเทวดาแล้วน่ะ เราเลยถามเค้าว่าแล้วลูกละ เค้าบอกว่าถ้าไม่ไป ตจว.เค้าจะรับลูกไปส่ง รร.ตอนเช้า จะจ่ายค่าเทอมให้ลูก จะเข้ามาเล่นกับลูกเราลองถามเค้าเรื่องบ้าน เค้าบอกว่าไม่ใช่บ้านสำหรับเรา เป็นบ้านที่ลูกเท่านั้นที่จะไปอยู่ได้ บ้านที่เค้าซทีอใหม่อยู่ไกลจากบ้านเราไปอีกไกล แต่ไม่ยอมบอกว่าอตู่ตรงไหน เรายอมหย่าให้เค้าคะ ไม่เรียกร้องอะไรสักอย่าง วันที่เค้าย้ายของออกไป เราไม่อยู่แล่อยเค้าขนตามสบาย แม่เราที่อยู่บ้านอีกหลังถามเค้าว่าจะเอายังไง เค้าบอกว่าไปๆมาๆ พอเย็นวันนั้นเค้าเข้ามาเล่นกับลูก พอวันเสาร์กลางคืนไลน์มาบอกพรุ่งนี้จะมารับไปซือของ เค้าทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น บอกให้เราซือเสื้อผ้าชุดชั้นใน คุยกับเราเยอะแยะ เค้ากลับเป็นคนเดิมก่อนื่เค้าจะไปปฏิบัติธรรมเลยคะ เดินจับมือเรา ถ่ายรูปเรา เค้าทำเพื่ออะไรคะ ในวันที่สถานะเราไม่เหมือนเดิมแล้ว เราเลิกกันเมื่อ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา วะนศุกร์ที่ 28 กันยา ช่วงบ่ายเค้าไลน์มาว่าจะมานินที่บ้าน เรางงมากคะ แต่ไม่ได้ห้ามเพราะสงสารลูก พอตอนกลางคืนเราก็ถามเค้าว่า ทำแบบนี้เพื่ออะไร ทำไมไม่คิดถึงใจเราบ้าง เค้าก็เงียบแล้วก็กอดเรา จับมือเรา เค้าบอกว่าเรายังเหมือนเดิมเพียงแต่ไม่มีทะเบียนสมรส เราเลยถามว่าแล้วหย่าทำไม เค้าบอกว่าเราไปคุยอะไรกับน้องเค้า เค้าหาว่าเรากลัวเป็นหนี้ร่วมกับเค้า เค้าว่าเราว่าเรากลัวต้องเอามรดกของเราไแใช้หนี้ให้เค้า เราบอกว่าเราไม่ได้คิดแบบนั้น ผัวเมียกันมั้นต้องทุกข์ต้องสุขด้วยกัยอยู่แล้ว มรดกเราก็ยังไม่ได้ พ่อเราก็ยังมีชีวิตอยู่ เค้าไม่เชื่อเราคะ เพราะเค้าบอกว่าน้องเค้าถือศีล ไม่โกหก แล้วอีกอย่างคือ เค้าอยากนิพพาน เค้าเลยอยู่กับเราไม่ได้ เค้าไม่ยอมคุยเหตผลที่แท้จริงกับเราเลย แล้วเค้าบอกว่าปลายปีตะพาไปหาพ่อแม่เค้า ทั้งๆที่พาเรากะลูกไปเลยตลอดส่มปีที่ผ่านมา ทางญาติฝ่ายเค้ามีคนรู้เรื่องที่เลิกกับเราแค่ไม่กี่คน แต่ยังไม่โวยวายคะ เราไม่รู้ว่าเราจะทำยังไงต่อไปดี สงสารลูกคนเล็กคะ ส่วนคนโตไม่ร้องไห้เลยคะ เพราะเค้ารับรู้เรื่องพ่อเค้ามาตลอด เสียใจมากคะที่เป็นแบบนี้ ไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไง ถามเค้า เค้าบอกว่าให้เป็นเหมือนเดิม แต่เราทำใจไม่ไเคะ ถ้าทะเลาะกัน รึเค้ามีคนใหม่ เราจะไม่เป็นแบบนี้เลยอ้อ!!น้องชายคนที่ชวนไปปฏิบัติธรรมออกจะคล้ายๆเกย์นะคะ ไม่รู้ว่าเค้าพูดไปขนาดไหน
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
เรามองหลายมุมอยู่ แต่ขอพูดมุมที่น่ากลัวก่อน เพราะคนเราใจมันวัดอะไรไม่ได้เลย
   เรามองว่าเค้ามีคนอื่น และ ต้องการมีคุณด้วย จะเอาหมดทั้งคู่  สบายจะตาย อยากไปบ้านไหนก็ไป อยากกอดใครก็กอด เขื่อคนอื่นไม่เชื่อเมีย คนบางคนธรรมะบังหน้า หรือบางที ก็คิดเข้าข้างตัวเอง    บอกไม่ถูก  แต่ทีแรกอาการเหมือนมีคนอื่น  ไม่สนใจลูกเมีย พอซื้อบ้านก็ไม่บอก มีลับลมคมในตลอด  เป็นเรารู้ดำรู้แดงไปเลย มีก็มีจะได้จบเด็ดขาด ลูกก็ไม่ต้องมายุ่ง ในเมื่อแค่ความซื่อสัตย์ยังให้กันไม่ได้ ในขณะที่เราซื่อสัตย์เสมอ พร้อมร่วมหัวจมท้าย
ความคิดเห็นที่ 5
อย่าว่าเรามองแง่ร้ายเลย
มีคนอื่นชัวล์
แนะนำให้ไปสืบ ว่าบ้านใหม่อยู่ที่ไหน
ไม่ต้องบอกเค้า แรกๆ ก็สืบก่อนว่าอยู่ที่ไหน
วันดีคืนดี ก็แอบไปส่องดูว่าอยู่กับใคร

ถ้าไม่มีเรื่องผู้หญิง หรือ ผู้ชายก็แล้วไป
ถ้าเป็นเรื่องธรรมะอย่างเดียว คนเข้าทางธรรม เค้าไม่ยึดติดกับสิ่งของหรอกคะ
ถ้าโดนหลอกให้เชื่องมงาย ก็น่าจะหนักไปทางบริจาค บวชไม่ศึก อยู่แต่วัดไม่กลับบ้าน

สิ่งที่ควรทำ เก็บตังค์ ดีกลับเค้าเหมือนเดิม
แต่เป็นเพื่อนกัน ไม่ต้องมานอน ไม่ต้องจับมือ
ทำตัวให้สวยขึ้น ออกไปเปิดหูเปิดตาบ้า
อ้อ ... ถ้าคุณขี้เกียจตามจับ
แนะนำให้คุณ ทำทีเหมือนมี สามีใหม่
รับรอง ถ้าเค้ารักจริง หรือหวงก้าง
ไม่นานก็กลับ

ปอลิง ในสถานปฏิบัติธรรม  เค้าก็อาจไปเจอได้นะคะ
แถวบ้ายก็ไปวัดแบบนี้แหละคะ มีลูกมีเมีย
อยู่ๆ ไปเจอกันที่วัก ได้เมียน้อยรุ่นคราวลูก
หนีกันออกไป สร้างบ้านสร้างหอ มีลูกกัน กู้หนี้ยืมสิ้นมา เป็นล้าน สุดท้าย หมุนเงินไม่ทัน
เค้าก็ชิงฆ่าตัวตาย เมียน้อยต้องก้มหน้าเลี้ยงลูกไป
แต่ๆๆ เมียหลวง ดัน ไม่ได้หย่า
เลยต้องใช้หนี้ที่เค้าเอาไปเสวยสุขกันตามระเบียบพัก

ดีแล้วคะ ที่หย่า
เชือสิ
สู้ๆ คะ
ความคิดเห็นที่ 8
ข้างบ้านเราเป็นคล้ายๆแบบนี้ ตอนหลังถึงรู้ว่าเขาเป็นโรคจิตเภท มีอาการหลงผิดเป็นบางครั้ง

เวลาเขาพูดเรื่องปฏิบัติธรรมลองมองตาเขาว่ามันเป็นปกติดีหรือมันลอยๆ

อาจพาเขาไปหาหมอก็ได้ บอกให้เขาไปตรวจสุขภาพ แถมพบจิตแพทย์ด้วยเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่