เรื่องมีอยู่ว่าดิฉัน ไม่ได้ชำระเงิน กยศ. เลย แต่เคยไปศาลมาแล้วครั้งนึง และได้ไปชำระแค่งวดเดียวจนถึงปีนี้ มีสำนักทนายความติดต่อมาว่าให้ชำระ แล้วเมื่อเดือนก.พ. 61 ดิฉันก้อได้ชำระไป 100,000 บาท จนยอดหนี้เหลือประมาณ 40,000 บาท ดิฉันก้อผ่อนจ่ายมาเดือนละพัน จนถึงเดือน ก.ค. ก้อมีเจ้าหน้าที่ทนายโทรมาบอกว่าต้องชำระเงินให้หมดภายใน 25 ก.ค. ไม่งั้นจะส่งเรื่องไปยังกรมบังคับคดีเพื่อยึดทรัพย์ ซึ่งดิฉันก้อไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใดก้อหาเงินมาชำระให้วันที่ 25 ก.ค. พอดีค่ะ พอวันที่ 26 ก.ค. เจ้าหน้าที่ทนายก้อโทรมาบอกว่าได้ทำหนังสือแจ้งกรมบังคับคดีไปแล้วตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค. 61 ดิฉันก้อต่อว่าไหนบอกว่าให้ชำระภายใน 25 ก.ค. ละ เจ้าหน้าที่บอกว่า คิดว่าไม่มีจ่าย เลยทำหนังสือแจ้งไป จนท.ยังบอกอีกว่าให้รอหมายจากกรมบังคับดีแล้วไปทำเรื่องถอน พอไม่นานดิฉันก้อได้หมายจากกรมบังคับดี ดิฉันจึงรีบไปติดต่อทันที จนท.ที่กรมบังคับคดีบอกว่าต้องมีค่าใช้จ่าย 2% จากยอดเงินที่เหลือ แล้วค่าธรรมเนียมอะไรสักอย่าง รวมแล้วประมาณ 1,800 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ทนายก้อบอกยอดที่จะเสียประมาณนี้ แล้วไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรแล้ว แต่เราก้อต้องรอทางโจทย์มาถอนฟ้อง เราก้อจนถึงวันนี้ 2 ต.ค. 61 เจ้าหน้าที่ทนายโทรมานัดเราวันที่ 3 ต.ค. ให้มากรมบังคับคดีพร้อมเตรียมเงิน 4,000 บาท ดิฉันก้องงละสิไหนบอก 1,800 เค้าบอกค่าอะไรสักอย่างนี่แหล่ะ 2,500 บาท ดิฉันก้อบอกไปว่าไหนบอกไม่มีค่าใช้จ่ายอีกแล้วงัยค่ะจบที่ 1,800 ดิฉันย้ำหลายครั้งนะว่าไม่มีอะเพิ่มเติมแล้วนะ เค้าบอกต่อว่าสงสัยลืมบอก คือเค้ารีบพูดรีบวางสาย แบบว่าเราต้องมาเสียอะไรเพิ่มเติมอีกเราก้อเตรียมเงินไว้พอดีแล้วเพราะเรามีค่าใช้จ่ายเยอะมากอีกทั้งภาระที่เรากู้ยืมมาเพื่อชำระหนี้อีก คิดว่าจะจบไปตั้งแต่ปิดหนี้ไปแล้วเสียอีก คือเค้าจะนัดเราจ่ายไปเพื่อ..แถมยังคิดแทนเราอีกว่าคงไม่มีจ่ายให้แน่ๆ ทำงานแบบไหนกันแน่ จริงๆคุณควรต้องดูว่า วันที่นัดชำระแล้วลูกหนี้มาชำระหรือป่าว ถ้าไม่มา ถึงค่อยทำหนังสือแจ้งกรมบังคับคดีสิ ไม่ใช่ตัดสินแทนลูกหนี้ มันไม่ยุติธรรมเลยค่ะ
ปิดเงินกู้ กยศ. แล้ว ยังโดนยึดทรัพย์