สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ! สำนวนสุดคลาสสิคที่ยังใช้ได้อยู่ทุกยุคทุกสมัย แม้แต่ปรมาจารย์การลงทุนหุ้นแนว VI ระดับโลก วอร์เรน "บัฟเฟตต์" ที่ได้รับการยอมรับจากคนทั่วโลก ยังเคยผิดพลาดจากการลงทุนได้เลย แต่สิ่งสำคัญกว่านั้น คือ บทเรียนของการเรียนรู้จากความผิดพลาดเหล่านั้นมากกว่า บทความนี้ พี่ทุยขอยกตัวอย่าง 3 บทเรียนสำคัญๆ ที่นักลงทุนควรจะศึกษาเรียนรู้กันไว้ให้ดี
บทเรียนแรก การซื้อบริษัท Berkshire Hathaway
Berkshire Hathaway เป็นบริษัทที่สร้างชื่อเสียงให้กับปู่บัฟเฟตต์ หลายคนอาจยังไม่รู้จัก แต่เดิมทีเป็นบริษัทสิ่งทอเล็กๆ ที่กำลังจะล้มละลายอยู่แล้ว แต่ปู่บัฟเฟตต์ได้ประเมินมูลค่าหุ้นแล้วพบว่า หุ้นมีราคาถูกมาก จึงตัดสินใจได้เข้าซื้อหุ้น Berkshire Hathaway ยังไงก็ตาม ธุรกิจสิ่งทอก็อยู่ในช่วงตะวันตกดิน ปู่บัฟเฟตต์จึงใช้เวลาในการพลิกฟื้นบริษัทปรับรูปแบบโมเดลธุรกิจใหม่ทั้งหมด ให้กลายมาเป็นบริษัทโฮลดิ้ง (Holding Company) หรือบริษัทที่ไปถือหุ้นบริษัทอื่น ๆ ในหลากหลายธุรกิจ จนทำให้บริษัท Berkshire Hathaway เป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ระดับโลกจนถึงทุกวันนี้
บทเรียนที่ได้ คือ อย่าคิดซื้อหุ้นเพียงเพราะว่ามันมีราคาถูกเท่านั้น เพราะเป็นเรื่องที่ยากมาก.. ที่บริษัทใกล้เจ๊งแล้วจะสามารถพลิกฟื้นกลับมาได้ ปู่บัฟเฟตต์ยังคงใช้ชื่อบริษัท Berkshire Hathaway อยู่เหมือนเดิม เพื่อไว้ใช้เป็นข้อเตือนใจสำหรับการลงทุนของตนเองจนถึงทุกวันนี้
บทเรียนที่สอง การซื้อหุ้น Tesco บริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่
การเข้าซื้อหุ้น Tesco คิดเป็นมูลค่ากว่า 2 พันล้านเหรียญฯ เมื่อไม่นานมานี้ ปู่บัฟเฟตต์ได้ขายหุ้นบางส่วนออกไป เพราะเริ่มกังวลเกี่ยวกับทิศทางการบริหารงานในอนาคต ในที่สุดก็มีข่าวใหญ่ครั้งสำคัญ ในเรื่องการรายงานตัวเลขกำไรที่เกินจริงของ Tesco หลังจากนั้นไม่นานทำให้ราคาหุ้นร่วงลงอย่างหนัก จนปู่บัฟเฟตต์ตัดสินใจขายหุ้นออกไปทั้งหมด การลงทุนครั้งนี้ทำให้ปู่บัฟเฟตต์ขาดทุนไปกว่า 400 ล้านเหรียญฯ
บทเรียนที่ได้ เมื่อรู้ว่าบริษัทมีแนวโน้มต่อไปไม่ค่อยดีนักแล้ว เมื่อเรารู้ว่าเรามาผิดทางแล้ว การตัดสินใจขายเพื่อหนีออกมาก่อน ก็จะช่วยลดการขาดทุนหนักได้ในที่สุด
บทเรียนที่สาม การไม่ได้เข้าซื้อหุ้น Amazon & Google
ปู่บัฟเฟตต์เคยกล่าวไว้ว่า เขาเสียดายที่ในพอร์ตของ Berkshire Hathaway ไม่มีหุ้น Amazon หรือ Google เพราะปู่ไม่ค่อยเข้าใจโมเดลธุรกิจ และวิธีการสร้างรายได้มีความซับซ้อน ไม่เหมือนกับหุ้นที่ปู่ชอบลงทุนมาก่อน เช่น หุ้นโค้ก
แต่สิ่งที่ทำให้ปู่บัฟเฟตต์ รู้จักประหลาดใจอย่างมาก เมื่อปู่ได้รับบิลเรียกเก็บเงินจาก Google มายัง Geico ซึ่งเป็นบริษัทประกันของปู่เอง ทำให้เข้าใจว่า โมเดลธุรกิจแบบนี้ถือได้ว่ายอดเยี่ยมมาก มีอีกหลายบริษัทชั้นนำที่ต้องการโฆษณากับเว็บ Google เพื่อสื่อสารได้กับคนทั่วโลกเพียงแค่ปลายนิ้วคลิกเท่านั้น ส่วนหุ้น Amazon ซึ่งเป็นบริษัทขายสินค้าออนไลน์ชื่อดังไปทั่วโลก เนื่องด้วยราคาที่ดูจะแพงอยู่ตลอดเวลา (เทียบจาก P/E ที่ใช้วัดความถูกแพงของหุ้น) แม้ว่าปู่บัฟเฟตต์จะชื่นชมในตัวของผู้บริหาร Amazon อย่าง Jeff Bezos แต่เนื่องด้วยยังไม่เข้าใจโมเดลธุรกิจได้มากพอจึงทำให้ปู่บัฟเฟตต์พลาดโอกาสการลงทุนครั้งสำคัญไป
บทเรียนที่ได้ การลงทุนได้ธุรกิจที่เรามีความรู้ความเข้าใจ ถือว่ามีความได้เปรียบในการลงทุน ทำให้เราเข้าใจเวลาเมื่อเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่จะมากระทบต่อธุรกิจหรือหุ้นที่เราถืออยู่ได้ การเลือกหุ้นโดยเราไม่มีความรู้พอ จะทำให้เรามีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นได้ หรืออีกทางหนึ่ง พี่ทุยแนะนำว่า เราสามารถไปศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมในโมเดลธุรกิจต่างๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนได้ด้วย เพื่อเปิดโอกาสโลกแห่งการลงทุนให้กว้างได้ยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน
3 บทเรียนสำคัญจากกูรูหุ้นแนว VI ที่เคยผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้ว พี่ทุยเชื่อว่าจะทำให้นักลงทุนทุกคนได้ใช้เป็นข้อคิดเตือนสตินักลงทุนได้เป็นอย่างดี ทางเดินสู่ความสำเร็จไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ไม่มีนักลงทุนชั้นนำของโลกคนไหนที่ไม่เคยผิดพลาดล้มเหลวกันมาก่อน แต่สิ่งที่สำคัญกว่าความผิดพลาดนั้น คือ การลุกขึ้นมาสู้ พร้อมกับการเรียนรู้ แก้ไขป้องกันข้อผิดพลาดเหล่านั้นไม่ให้เกิดขึ้นอีก จะดีกว่ามั้ย ถ้าเราเรียนรู้ข้อผิดพลาดจากผู้อื่นได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปผิดพลาดเอง จะดีกว่ามั้ย ถ้าเราเตรียมตัววางแผนการลงทุนให้ดีที่สุดก่อนตัดสินใจทุกครั้ง
ถึงแม้ว่า 3 บทเรียนนี้จะเป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนจากบทเรียนมากมายหลายสิบปีของปู่บัฟเฟตต์ แต่พี่ทุยคิดว่า ทั้ง 3 บทเรียนนี้ถือได้ว่าครอบคลุมแนวคิดในการลงทุนได้เป็นอย่างดี ทั้งตั้งแต่การซื้อหุ้นที่ใกล้จะเจ๊งแล้วพลิกฟื้นโมเดลธุรกิจใหม่ให้กลับมายิ่งใหญ่ได้ รวมถึงการตัดสินใจซื้อหุ้นแล้วพบว่าแนวโน้มที่ไม่ดีของผู้บริหารบริษัท แต่ไม่ได้ขายหุ้นทั้งหมดก่อนที่ราคาจะร่วงลงมาหนัก และบทเรียนสุดท้ายการไม่ได้เลือกหุ้นดีที่มีความสามารถในการเติบโตสูงเข้ามาเก็บไว้ในพอร์ตก่อน ทำให้เสียโอกาสจะได้หุ้นเติบโตไป พี่ทุยหวังว่าบทความนี้ ทั้งนักลงทุนมือใหม่และมือเก่า จะนำไปปรับใช้ในการลงทุนกันต่อไปได้
ที่มาบทความ :
http://bit.ly/2y3S5sG
ติดตามเรื่องเล่าเข้าใจง่ายๆของ Money Buffalo ได้ที่
> Website : www.moneybuffalo.in.th
> Facebook : fb.com/moneybuffalo
> LINE :
https://goo.gl/GAQxF8
กรณีศึกษา บทเรียนข้อผิดพลาดของปู่ "บัฟเฟตต์"
สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ! สำนวนสุดคลาสสิคที่ยังใช้ได้อยู่ทุกยุคทุกสมัย แม้แต่ปรมาจารย์การลงทุนหุ้นแนว VI ระดับโลก วอร์เรน "บัฟเฟตต์" ที่ได้รับการยอมรับจากคนทั่วโลก ยังเคยผิดพลาดจากการลงทุนได้เลย แต่สิ่งสำคัญกว่านั้น คือ บทเรียนของการเรียนรู้จากความผิดพลาดเหล่านั้นมากกว่า บทความนี้ พี่ทุยขอยกตัวอย่าง 3 บทเรียนสำคัญๆ ที่นักลงทุนควรจะศึกษาเรียนรู้กันไว้ให้ดี
บทเรียนแรก การซื้อบริษัท Berkshire Hathaway
Berkshire Hathaway เป็นบริษัทที่สร้างชื่อเสียงให้กับปู่บัฟเฟตต์ หลายคนอาจยังไม่รู้จัก แต่เดิมทีเป็นบริษัทสิ่งทอเล็กๆ ที่กำลังจะล้มละลายอยู่แล้ว แต่ปู่บัฟเฟตต์ได้ประเมินมูลค่าหุ้นแล้วพบว่า หุ้นมีราคาถูกมาก จึงตัดสินใจได้เข้าซื้อหุ้น Berkshire Hathaway ยังไงก็ตาม ธุรกิจสิ่งทอก็อยู่ในช่วงตะวันตกดิน ปู่บัฟเฟตต์จึงใช้เวลาในการพลิกฟื้นบริษัทปรับรูปแบบโมเดลธุรกิจใหม่ทั้งหมด ให้กลายมาเป็นบริษัทโฮลดิ้ง (Holding Company) หรือบริษัทที่ไปถือหุ้นบริษัทอื่น ๆ ในหลากหลายธุรกิจ จนทำให้บริษัท Berkshire Hathaway เป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ระดับโลกจนถึงทุกวันนี้
บทเรียนที่ได้ คือ อย่าคิดซื้อหุ้นเพียงเพราะว่ามันมีราคาถูกเท่านั้น เพราะเป็นเรื่องที่ยากมาก.. ที่บริษัทใกล้เจ๊งแล้วจะสามารถพลิกฟื้นกลับมาได้ ปู่บัฟเฟตต์ยังคงใช้ชื่อบริษัท Berkshire Hathaway อยู่เหมือนเดิม เพื่อไว้ใช้เป็นข้อเตือนใจสำหรับการลงทุนของตนเองจนถึงทุกวันนี้
บทเรียนที่สอง การซื้อหุ้น Tesco บริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่
การเข้าซื้อหุ้น Tesco คิดเป็นมูลค่ากว่า 2 พันล้านเหรียญฯ เมื่อไม่นานมานี้ ปู่บัฟเฟตต์ได้ขายหุ้นบางส่วนออกไป เพราะเริ่มกังวลเกี่ยวกับทิศทางการบริหารงานในอนาคต ในที่สุดก็มีข่าวใหญ่ครั้งสำคัญ ในเรื่องการรายงานตัวเลขกำไรที่เกินจริงของ Tesco หลังจากนั้นไม่นานทำให้ราคาหุ้นร่วงลงอย่างหนัก จนปู่บัฟเฟตต์ตัดสินใจขายหุ้นออกไปทั้งหมด การลงทุนครั้งนี้ทำให้ปู่บัฟเฟตต์ขาดทุนไปกว่า 400 ล้านเหรียญฯ
บทเรียนที่ได้ เมื่อรู้ว่าบริษัทมีแนวโน้มต่อไปไม่ค่อยดีนักแล้ว เมื่อเรารู้ว่าเรามาผิดทางแล้ว การตัดสินใจขายเพื่อหนีออกมาก่อน ก็จะช่วยลดการขาดทุนหนักได้ในที่สุด
บทเรียนที่สาม การไม่ได้เข้าซื้อหุ้น Amazon & Google
ปู่บัฟเฟตต์เคยกล่าวไว้ว่า เขาเสียดายที่ในพอร์ตของ Berkshire Hathaway ไม่มีหุ้น Amazon หรือ Google เพราะปู่ไม่ค่อยเข้าใจโมเดลธุรกิจ และวิธีการสร้างรายได้มีความซับซ้อน ไม่เหมือนกับหุ้นที่ปู่ชอบลงทุนมาก่อน เช่น หุ้นโค้ก
แต่สิ่งที่ทำให้ปู่บัฟเฟตต์ รู้จักประหลาดใจอย่างมาก เมื่อปู่ได้รับบิลเรียกเก็บเงินจาก Google มายัง Geico ซึ่งเป็นบริษัทประกันของปู่เอง ทำให้เข้าใจว่า โมเดลธุรกิจแบบนี้ถือได้ว่ายอดเยี่ยมมาก มีอีกหลายบริษัทชั้นนำที่ต้องการโฆษณากับเว็บ Google เพื่อสื่อสารได้กับคนทั่วโลกเพียงแค่ปลายนิ้วคลิกเท่านั้น ส่วนหุ้น Amazon ซึ่งเป็นบริษัทขายสินค้าออนไลน์ชื่อดังไปทั่วโลก เนื่องด้วยราคาที่ดูจะแพงอยู่ตลอดเวลา (เทียบจาก P/E ที่ใช้วัดความถูกแพงของหุ้น) แม้ว่าปู่บัฟเฟตต์จะชื่นชมในตัวของผู้บริหาร Amazon อย่าง Jeff Bezos แต่เนื่องด้วยยังไม่เข้าใจโมเดลธุรกิจได้มากพอจึงทำให้ปู่บัฟเฟตต์พลาดโอกาสการลงทุนครั้งสำคัญไป
บทเรียนที่ได้ การลงทุนได้ธุรกิจที่เรามีความรู้ความเข้าใจ ถือว่ามีความได้เปรียบในการลงทุน ทำให้เราเข้าใจเวลาเมื่อเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่จะมากระทบต่อธุรกิจหรือหุ้นที่เราถืออยู่ได้ การเลือกหุ้นโดยเราไม่มีความรู้พอ จะทำให้เรามีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นได้ หรืออีกทางหนึ่ง พี่ทุยแนะนำว่า เราสามารถไปศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมในโมเดลธุรกิจต่างๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนได้ด้วย เพื่อเปิดโอกาสโลกแห่งการลงทุนให้กว้างได้ยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน
3 บทเรียนสำคัญจากกูรูหุ้นแนว VI ที่เคยผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้ว พี่ทุยเชื่อว่าจะทำให้นักลงทุนทุกคนได้ใช้เป็นข้อคิดเตือนสตินักลงทุนได้เป็นอย่างดี ทางเดินสู่ความสำเร็จไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ไม่มีนักลงทุนชั้นนำของโลกคนไหนที่ไม่เคยผิดพลาดล้มเหลวกันมาก่อน แต่สิ่งที่สำคัญกว่าความผิดพลาดนั้น คือ การลุกขึ้นมาสู้ พร้อมกับการเรียนรู้ แก้ไขป้องกันข้อผิดพลาดเหล่านั้นไม่ให้เกิดขึ้นอีก จะดีกว่ามั้ย ถ้าเราเรียนรู้ข้อผิดพลาดจากผู้อื่นได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปผิดพลาดเอง จะดีกว่ามั้ย ถ้าเราเตรียมตัววางแผนการลงทุนให้ดีที่สุดก่อนตัดสินใจทุกครั้ง
ถึงแม้ว่า 3 บทเรียนนี้จะเป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนจากบทเรียนมากมายหลายสิบปีของปู่บัฟเฟตต์ แต่พี่ทุยคิดว่า ทั้ง 3 บทเรียนนี้ถือได้ว่าครอบคลุมแนวคิดในการลงทุนได้เป็นอย่างดี ทั้งตั้งแต่การซื้อหุ้นที่ใกล้จะเจ๊งแล้วพลิกฟื้นโมเดลธุรกิจใหม่ให้กลับมายิ่งใหญ่ได้ รวมถึงการตัดสินใจซื้อหุ้นแล้วพบว่าแนวโน้มที่ไม่ดีของผู้บริหารบริษัท แต่ไม่ได้ขายหุ้นทั้งหมดก่อนที่ราคาจะร่วงลงมาหนัก และบทเรียนสุดท้ายการไม่ได้เลือกหุ้นดีที่มีความสามารถในการเติบโตสูงเข้ามาเก็บไว้ในพอร์ตก่อน ทำให้เสียโอกาสจะได้หุ้นเติบโตไป พี่ทุยหวังว่าบทความนี้ ทั้งนักลงทุนมือใหม่และมือเก่า จะนำไปปรับใช้ในการลงทุนกันต่อไปได้
ที่มาบทความ : http://bit.ly/2y3S5sG
ติดตามเรื่องเล่าเข้าใจง่ายๆของ Money Buffalo ได้ที่
> Website : www.moneybuffalo.in.th
> Facebook : fb.com/moneybuffalo
> LINE : https://goo.gl/GAQxF8