ประกาศรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์! สำหรับการค้นพบการรักษามะเร็งโดยระบบภูมิคุ้มกัน


สวัสดีชาวพันทิปทุกท่านครับ และในที่สุด วันที่ประกาศรางวัลโนเบลก็ได้วนมาอีกปีนึงแล้ว ซึ่งปี 2018 นี่เอง รางวัลก็ตกเป็นของนักภูมิคุ้มกันวิทยา (Immunologists) ถึงสองท่านด้วยกัน ก็คือ ศ.ดร.เจมส์ แอลลิสัน (James P. Allison, Ph.D.) และ ศ.ดร.ทาสุคุ ฮอนโจ (Tasuku Honjo, Ph.D.) ในหัวข้อของการรักษามะเร็งโดยระบบภูมิคุ้มกันบำบัดนั่นเองครับ ขอแสดงความยินดีไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

โรคมะเร็ง นับเป็นปัญหาหลักต่อสุขภาพของคนทั่วโลก กล่าวได้ว่ามีคนที่ต้องเสียชีวิตจากโรงมะเร็งนับล้านคนต่อปี เนื่องด้วยมีตัวแปรมากมายที่ทำให้การรักษาโรคนี้เป็นไปอย่างยากลำบาก และไม่มีตัวยาที่สามารถรักษาได้ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งเม็ดเลือดขาว จุดกำเนิดต่างกันก็จำเป็นที่จะต้องใช้การรักษาต่างกันออกไป แม้แต่เคมีบำบัดเองก็ยังนับว่ามีผลข้างเคียงที่อันตราย

ซึ่งแน่นอนว่างานวิจัยนับไม่ถ้วนจากหลากสาขา ไม่ว่าจะทางการแพทย์ ชีววิทยา หรือทางเคมี ต่างก็มุ่งเป้าไปที่การรักษามะเร็งเป็นหลัก ซึ่งก่อนหน้านั้นก็มีบางงานวิจัยที่เคยได้รับรางวัลโนเบลมาแล้วเช่นกัน อย่างเช่น การรักษามะเร็งต่อมลูกหมากโดยใช้ฮอร์โมน (ปี 1966) การใช้เคมีบำบัด (ปี 1988) และการปลูกถ่ายไขกระดูกสำหรับโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (ปี 1990) แต่ถึงอย่างนั้นนักวิทยาศาสตร์ก็ต้องพยายามหาวิธีใหม่ๆ ในการรักษาโรคนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบและครอบคลุมมากขึ้น

และงานวิจัยที่ว่านั่น ก็เป็น talk of the town เมื่อไม่นานมานี้ก็คือการรักษาโดยภูมิคุ้มกันบำบัด หรือพูดง่ายๆ ก็คือ การกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายโจมตีเซลล์มะเร็งโดยตรงได้นั่นเองครับ

และนี่เป็นคลิปการประกาศรางวัลโนเบล สาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์ในปีนี้ครับ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



เรามาเริ่มที่งานวิจัยของ ดร.แอลลิสัน กันก่อนนะครับ (เชิงลึกนิดนึง แต่จะพยายามสรุปให้เข้าใจง่ายนะครับ)
เรื่องนี้ต้องขยาย

เมื่อราวปี 1990 ณ ห้องปฏิบัติการที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนี่ย ดร.แอลลิสัน ได้ศึกษาโปรตีน CTLA-4 ที่อยู่ใน T-cell (ซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำหน้าที่ยับยั้งการทำงานของ T-cell) ซึ่งงานวิจัยของทีมอื่นนั้น ใช้จุดนี้ในการรักษาโรคภูมิแพ้ตัวเอง แต่ ดร.แอลลิสัน กลับคิดอีกไอเดียนึงออกมา

เขาได้ทดลองใช้วิธีสร้างแอนติบอดี้เข้าไปพัวพันกับโปรตีน CTLA-4 และปิดกั้นการทำงานของเจ้าโปรตีนตัวนี้ อาจกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันเพื่อให้มันสามารถโจมตีเซลล์มะเร็งได้ ...แน่นอนว่าเขาไม่จบแค่ตั้งสมมุติฐาน แต่ลงมือทำและตรวจสอบ โดยที่ ดร.แอลลิสันและทีมก็ได้เริ่มงานวิจัยนี้ในช่วงปลายปี 1994 ซึ่งผลปรากฎออกมาเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่ง นั่นคือหนูทดลองที่เป็นมะเร็งนั้น ถูกรักษาจนหายด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด!

ถึงแม้ตอนนั้นอุตสาหกรรมทางการแพทย์ดูจะไม่ค่อยสนใจงานวิจัยชิ้นนี้ ดร.แอลลิสัน ก็ยังคงพยายามพัฒนาการรักษาต่อไป เพื่อยกระดับการใช้ในมนุษย์ จนกระทั่งปี 2010 ได้มีการรักษาในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งผิวหนัง พบว่าเซลล์มะเร็งนั้นหายไป ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในผู้ป่วยกลุ่มนี้เลย




ในขณะเดียวกัน ไม่กี่ปีก่อนการค้นพบของ ดร.แอลลิสัน (ปี 1992) ดร.ทาสุคุ ได้ค้นพบโปรตีนบนผิวของ T-cell ที่มีชื่ออย่างเก๋ไก๋ว่า PD-1 (ไม่ใช่ Produce นะเอ้อ!) เขาได้ทำการทดลอง ณ ห้องปฏิบัติการที่มหาวิทยาลัยเกียวโต ซึ่งผลการทดลองแสดงให้เห็นว่า โปรตีน PD-1 นั้นมีการยับยั้ง T-cell คล้ายๆ กับ CTLA-4 เพียงแต่กลไกต่างกันเท่านั้นเองครับ!

งานวิจัยนี้ ดร.ทาสุคุและทีมได้ทำการทดลองในสัตว์ โดยใช้วิธีบล็อคการทำงานของเจ้าโปรตีน PD-1 นี้ซะ ผลปรากฎว่า T-cell นั้นโจมตีเซลล์มะเร็งเช่นกัน! ซึ่งงานวิจัยนี้ได้ถูกนำมาพัฒนาจนกระทั่งเมื่อปี 2012 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งประเภทต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ และอาจนำไปสู่ความเป็นไปได้การรักษาผู้ป่วยมะเร็งระยะลุกลาม ซึ่งเป็นระยะที่ถือว่าไม่สามารถรักษาได้



เป็นเวลานับร้อยปี กับการที่นักวิทยาศาสตร์พยายามรักษามะเร็ง นักภูมิคุ้มกันวิทยาทั้งสองท่านนี้ ก็เหมือนกับแสงแห่งความหวัง เพราะการศึกษาเบื้องต้นของการทำงานของโปรตีน CTLA-4 และ PD-1 ได้นำไปสู่การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด และกลายมาเป็นอีกเทรนด์หนึ่งในการศึกษาโรคมะเร็ง ซึ่งงานวิจัยต่อมาก็ได้มุ้งเน้นไปที่การบำบัดโดยลดผลข้างเคียงให้ได้มากที่สุด

เพี้ยนสู้สู้

ทั้งหมดทั้งมวล ผมแปลจากเว็บไซต์ Nobelprize.org โดยตรง โดยนำมาสรุปและเรียบเรียงใหม่ให้เข้าใจง่ายที่สุด หากมีตรงไหนผิดพลาดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ขอบคุณที่ติดตามอ่านและขอให้สนุกกับการติดตามการประกาศผลรางวัลโนเบลกันทุกคนนะครับ และในส่วนของวันพรุ่งนี้ (วันอังคารที่ 2 ตุลาคม) จะเป็นการประกาศรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์นะครับผม สวัสดีครับ
พาพันขอบคุณ




ที่มา The Nobel Prize in Physiology or Medicine 2018
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์หลักและ Nobel Prize Official Page on Facebook
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่