เป็นเรื่องผ่านมายี่สิบกว่าปีแล้วที่เกิดกับแฟนคนแรกของผม แต่มันก็ยังมาวนเวียนอยู่ในหัวผมตลอดเวลาเมื่ออยู่คนเดียว ผมคิดว่าทั้งเธอและเพื่อนๆคงลืมมันไปหมดแล้วล่ะ เหลือก็แต่ผมนี่แหละที่พยายามหาวิธีลืมเรื่องราวเก่าๆมาหลายครั้งก็ไม่สำเร็จ ที่มันเบาบางลงไปเพราะกาลเวลาต่างหาก ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเราไม่เคยยกโทษให้ตัวเองเลย จริงๆ ผมไม่ใช่คนที่มีอะไรก็เอามาบอกกล่าวในโลกโซเชียลนะครับ นี่คงเป็นเรื่องแรกและเรื่องเดียว วัตถุประสงค์แค่ระบายมันออกมาจากตัวเองบ้าง ขอเล่าแบบรวบรัดเลยนะครับ
เรื่องมีอยู่ว่าผมกับแฟนซึ่งเราเริ่มคบกันช่วงปีสองตอนเรียนมหาลัย คงเกิดจากความประทับใจกันและกัน ในมุมของผม เธอเป็นผู้หญิงที่เป็นคนดีที่สุดที่เดินผ่านเข้ามาในชีวิตผมเลย ถ้าให้ระลึกในตอนนี้ เธอเป็นคนเรียบร้อย ร่าเริง คอยเป็นห่วงเป็นใยคนรอบข้าง ลายมือเธอสวยมากผมจบมาด้วยโน้ตของเธอเลยอาศัยเอาของเธอนี่แหละมาอ่าน เราทั้งคู่ชอบดูหนังมากดูกันทุกเรื่องตั้งแต่ยังไม่เป็นแฟนกันจนเลิกกันไปเธอสะสมตั๋วหนังไว้ ถ้าวันนี้เรายังได้อยู่ด้วยกันมันคงจะนับจำนวนไม่ได้เลย เมื่อเรียนจบเราแยกย้ายทำงานกันอยู่คนละจังหวัด วันหยุดเราก็จะผลัดกันไปหาอีกคนหนึ่ง ช่วงเวลาที่ผมยังจดจำได้ถึงความสุขทุกครั้งก็คือการนั่งอยู่บนรถโดยสารที่กำลังเดินทางไปหาเธอ เส้นทางรอบข้างดูสวยงามมากทุกๆวินาทีผมกำลังเข้าใกล้เธอไปเรื่อยๆ เรารู้อยู่แก่ใจว่าคนนี้แหละที่จะเป็นแม่ของลูกเรา เขียนมาถึงจุดนี้ก็ใช่ว่าทุกอย่างในความสัมพันธ์จะสวยงามไปทั้งหมด เราก็มีบ้างที่ทะเลาะกัน เธอโกรธผมบ่อยครั้ง แต่ที่น่าแปลกคือผมไม่เคยโกรธเธอเลยเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่สวยจนผู้ชายทุกคนต้องมอง แต่เธอก็มีความน่ารักในแบบของเธอมีบ้างที่มีผู้ชายเข้ามาจีบเธอ แต่เธอเป็นผู้หญิงที่เป็นคนดีที่สุดที่ผมเคยพบมาจริงๆ อีกทั้งพ่อเธอเองก็ไม่ไม่ยอมรับในตัวผมและไม่อยากให้เธอมีแฟนตอนเรียน ไอ้ตัวผมเองมันก็ไม่ได้มีบุคลิกภาพที่ดีอะไรเลย ออกจะดูเกเรไปด้วยซ้ำ ผมเข้าใจมุมมองในความเป็นพ่อของเธอนะ แต่เรื่องที่เป็นมลทินในชีวิตเรามากที่สุดคือ เธอท้องขณะที่เรายังเรียนไม่จบ สมัยนั้นไม่มีใครยอมรับได้โดยเฉพาะพ่อของเธอคงต้องใจสลายแน่นอน เราตัดสินใจไปเอาเด็กออกกัน ผมจำได้ทุกนาทีในตอนนั้น น้ำตาเธอเปื้อนอยู่บนแผ่นหลังผมตลอดการเดินทางกลับ ผมรู้เราสองคนต่างเสียใจแต่ก็ไม่เคยเอาเริ่องนี้มาพูดกันอีกเลย หากในชีวิตให้ผมย้อนเวลากลับไปได้ผมจะกลับมาตรงจุดนี้แก้ไขเรื่องราวที่ได้ทำผิดไป ไม่ตัดสินใจโง่ๆอย่างนั้น กล้าเผชิญกับความจริง นี่มันเป็นบาปที่สุดแล้วที่ติดกับตัวผม เธอเองก็คงเสียใจมากเช่นกัน แม้วันที่เราต้องเลิกลากันผมได้อธิฐานจิตขอรับผลกรรมไว้แต่เพียงผู้เดียว เราคบกันประมาณ7ปี จุดแตกร้าวมันเริ่มต้นจากผมเองที่มีนิสัยออกไปเที่ยวผับบาร์ จนวันหนึ่งเผลอไปมีอะไรกับเพื่อนหญิงที่เที่ยวด้วยกันเพราะความเมา ซึ่งเค้าเองก็เป็นเพื่อนของเธอด้วย พอมีครั้งแรกก็มีครั้งต่อๆมาแต่มันเป็นความต้องการของกันและกันมากกว่าที่จะเรียกว่าความรัก จนเวลาผ่านไปเพื่อนของเธอน่าจะรู้สึกกับผมมากกว่านั้น วันหนึ่งระหว่างที่ผมอยู่กับเธอ เพื่อนเธอคนนี้ได้เข้ามาแสดงตัวให้แฟนผมรู้ว่าผมและเค้าเป็นมากว่าที่แฟนผมเค้าใจนะ วันนั้นแฟนผมเธอคงเสียใจมากตั้งแต่นั้นเราก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ผมตามง้ออยู่เป็นเดือนเป็นปีความสัมพันธ์ก็ไม่สามารถกลับมาได้เหมือนเก่า จนวันนึงผมถามเธอว่า ผมจะชดใช้ความผิดนี้อย่างไรให้เธอรู้สึกดีขึ้น เธอตอบกลับให้กลับไปดูแลเพื่อนของเธอให้ดีที่สุด นาทีนั้นผมไม่รู้หลอกว่าเธอประชดหรืออยากให้เป็นแบบนั้นจริง ผมคิดอย่างเดียวจะทำให้ได้ตามที่เธอขอ สรุปว่าผมมีแฟนใหม่มาคบกับเพื่อนของเธอแทน ตลอดเวลาที่คบกับแฟนใหม่ ด้วยความที่เธอยังอยู่ในหัวของผมตลอพเวลา มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นเพราะสาเหตุจากที่ผมยังไม่ลืมคนรักเก่า ผมยังติดต่อกับคนรักเก่าอยู่เนืองๆ เวลาว่างก็ไปหาเธอ ผมว่าเธอยังรอผมอยู่นะ ตอนเราคบกันมีคำพูดหนึ่งที่ติดอยู่ในใจผมตลอดมา เธอพูดว่าถ้าเธอไม่มีผมเธอก็จะไม่มีใครอีกในชีวิตนี้ คำพูดนี้บวกกับนิสัยที่ไม่เอาไหนของผมมันกลับทำให้ผมมีคิดว่าผมไม่คู่ควรกับคนดีๆอย่างเธอเลย ด้วยความสัตย์จริงผมอยากให้เธอได้เจอคนอื่นที่คู่ควรกว่าผม ซึ่งวันหนึ่งเธอก็ได้เจอจริงๆ ปัจจุบันผมเข้าใจว่าเธอคงมีความสุขมากๆกับชีวิตครอบครัวของเธอ ชีวิตคนเรามันก็ตลกดีเหมือนกันอย่างเธอเองก็ต้องผ่านความเจ็บช้ำมากมายที่เกิดจากการกระทำต่างๆนานาของผม กว่าจะได้มาเจอความสุขที่แท้จริง ไม่แน่นะถ้าไม่มีผมในวันนั้นเธออาจไม่พบครอบครัวที่ดีที่สุดของเธอในวันนี้ก็ได้
หลังจากที่แฟนคนที่สองบอกเลิกผมเรื่องหลักๆก็คงเกิดจากที่ผมไม่เคยลืมแฟนคนแรกนี่แหละ ผมก็เหมือนผู้ชายเสเพลคนนึง กินเหล้าเก่งมากตลอดเวลาในหัวก็จะมีเรื่องราวของเธอ ผู้หญิงคนแรกในชีวิตผมปรากฎขึ้นตลอกเวลา จริงๆผมดีใจกับเธอนะที่เห็นเธอมีความสุขกับสามีของเธอและคิดว่าตัวเองทำถูกแล้วที่ปล่อยให้เธอได้ไปเจอกับคนใหม่ที่ไม่ใช่ผม เธอมีลูกที่น่ารักสองคนซึ่งแสดงว่าคำอธิษฐานของผมได้ผล แต่ไอ้ตัวผมนี่สิมีเธออยู่ในหัวตลอดเวลาจนเวลาผ่านไปเป็นสิบปีก็ยังไม่เคยลืม มันอาจจะจางๆลงไปบ้างเมื่อเวลาผ่านไปนานขึ้น ช่วงแรกๆนี่มันทรมานจริงๆกับการที่ต้องคิดถึงเธอทุกวินาที แต่กาลเวลาช่วยเราได้ เริ่มห่างเป็นทุกนาที ทุกชั่วโมง ทุกวัน เกือบทุกวัน บางวัน จนถึงตอนนี้ พ.ศ. 2561 ความคิดถึงเปลี่ยนเป็นนานๆครั้งแล้ว ก่อนหน้านี้ผมมักจะทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้ลูกของผมกับแฟนคนแรกอยู่เสมอ ปัจจุบันผมเองก็มีครอบครัวใหม่มีลูก1คนที่ผมรักมากๆ ก็ยังไม่วายมีเรื่องของเธอวนเวียนเข้ามาในหัวเป็นครั้งคราว ความรู้สึกผิดที่ได้ทำให้เธอเสียใจมันคงไม่มีวันเลือนหายไป ผมเองก็อยากซื่อสัตย์กับภรรยาคนปัจจุบัน กับลูกสาวผม ผมอยากมีครอบครัวเป็นของผมเองด้วยจิตใจที่บริสุทธ์โดยไม่มีเธอคอยหลบๆซ่อนๆอยู่ในความคิดของผมอีก อีกสองปีก็จะครบรอบสามสิบปีที่ผมได้รู้จักกับเธอแล้ว แค่หวังว่ากาลเวลาจะเพิ่มระยะห่างในการที่เธอจะเข้ามาปรากฎตัวอยู่ในความคิดของผม ผมเองเขียนมาถึงตอนนี้ไม่ได้ต้องการคำแนะนำใดๆนะครับ ผมลองมาหลายวิธีแล้วทั้งทางโลกและทางธรรม บางทีเรื่องราวของเธออาจจะถูกฝังไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดของความทรงจำก็ได้ ผมก็แค่เขียนขึ้นมาเพื่ออยากระบายเท่านั้นเอง ขอบคุณครับที่เปิดพื้นที่ให้ผู้ชายที่ยังจมอยู่กับเรื่องราวเก่าๆได้บรรยายออกมาเป็นตัวหนังสือ
ถ้าเพื่อนๆได้พบคนที่ใช่ คนที่รักแล้ว ขออย่าให้เป็นแบบผมนะครับ ถนอมเค้าไว้ให้ดีอย่าให้หลุดลอยไปนะครับ สำหรับผมการได้นึกย้อนความทรงจำอย่างนี้มันมีทั้งความสุข ความคิดถึง ความสำนึกผิด ความเสียดาย รวมๆกัน ออกจะหม่นๆหน่อย ซึ่งจริงๆเราควรอยู่กับปัจจุบันนะผมว่า แต่ทำไงได้ เหมือนเรื่องราวเหล่านี้มันผุดขึ้นมาเองโดยที่ไม่ได้ตั้งใจเลย ขอบคุณมากครับ
ความทรงจำแสนยาวนาน(เกือบสามสิบปี) ที่ไม่เคยลืมเธอ
เรื่องมีอยู่ว่าผมกับแฟนซึ่งเราเริ่มคบกันช่วงปีสองตอนเรียนมหาลัย คงเกิดจากความประทับใจกันและกัน ในมุมของผม เธอเป็นผู้หญิงที่เป็นคนดีที่สุดที่เดินผ่านเข้ามาในชีวิตผมเลย ถ้าให้ระลึกในตอนนี้ เธอเป็นคนเรียบร้อย ร่าเริง คอยเป็นห่วงเป็นใยคนรอบข้าง ลายมือเธอสวยมากผมจบมาด้วยโน้ตของเธอเลยอาศัยเอาของเธอนี่แหละมาอ่าน เราทั้งคู่ชอบดูหนังมากดูกันทุกเรื่องตั้งแต่ยังไม่เป็นแฟนกันจนเลิกกันไปเธอสะสมตั๋วหนังไว้ ถ้าวันนี้เรายังได้อยู่ด้วยกันมันคงจะนับจำนวนไม่ได้เลย เมื่อเรียนจบเราแยกย้ายทำงานกันอยู่คนละจังหวัด วันหยุดเราก็จะผลัดกันไปหาอีกคนหนึ่ง ช่วงเวลาที่ผมยังจดจำได้ถึงความสุขทุกครั้งก็คือการนั่งอยู่บนรถโดยสารที่กำลังเดินทางไปหาเธอ เส้นทางรอบข้างดูสวยงามมากทุกๆวินาทีผมกำลังเข้าใกล้เธอไปเรื่อยๆ เรารู้อยู่แก่ใจว่าคนนี้แหละที่จะเป็นแม่ของลูกเรา เขียนมาถึงจุดนี้ก็ใช่ว่าทุกอย่างในความสัมพันธ์จะสวยงามไปทั้งหมด เราก็มีบ้างที่ทะเลาะกัน เธอโกรธผมบ่อยครั้ง แต่ที่น่าแปลกคือผมไม่เคยโกรธเธอเลยเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่สวยจนผู้ชายทุกคนต้องมอง แต่เธอก็มีความน่ารักในแบบของเธอมีบ้างที่มีผู้ชายเข้ามาจีบเธอ แต่เธอเป็นผู้หญิงที่เป็นคนดีที่สุดที่ผมเคยพบมาจริงๆ อีกทั้งพ่อเธอเองก็ไม่ไม่ยอมรับในตัวผมและไม่อยากให้เธอมีแฟนตอนเรียน ไอ้ตัวผมเองมันก็ไม่ได้มีบุคลิกภาพที่ดีอะไรเลย ออกจะดูเกเรไปด้วยซ้ำ ผมเข้าใจมุมมองในความเป็นพ่อของเธอนะ แต่เรื่องที่เป็นมลทินในชีวิตเรามากที่สุดคือ เธอท้องขณะที่เรายังเรียนไม่จบ สมัยนั้นไม่มีใครยอมรับได้โดยเฉพาะพ่อของเธอคงต้องใจสลายแน่นอน เราตัดสินใจไปเอาเด็กออกกัน ผมจำได้ทุกนาทีในตอนนั้น น้ำตาเธอเปื้อนอยู่บนแผ่นหลังผมตลอดการเดินทางกลับ ผมรู้เราสองคนต่างเสียใจแต่ก็ไม่เคยเอาเริ่องนี้มาพูดกันอีกเลย หากในชีวิตให้ผมย้อนเวลากลับไปได้ผมจะกลับมาตรงจุดนี้แก้ไขเรื่องราวที่ได้ทำผิดไป ไม่ตัดสินใจโง่ๆอย่างนั้น กล้าเผชิญกับความจริง นี่มันเป็นบาปที่สุดแล้วที่ติดกับตัวผม เธอเองก็คงเสียใจมากเช่นกัน แม้วันที่เราต้องเลิกลากันผมได้อธิฐานจิตขอรับผลกรรมไว้แต่เพียงผู้เดียว เราคบกันประมาณ7ปี จุดแตกร้าวมันเริ่มต้นจากผมเองที่มีนิสัยออกไปเที่ยวผับบาร์ จนวันหนึ่งเผลอไปมีอะไรกับเพื่อนหญิงที่เที่ยวด้วยกันเพราะความเมา ซึ่งเค้าเองก็เป็นเพื่อนของเธอด้วย พอมีครั้งแรกก็มีครั้งต่อๆมาแต่มันเป็นความต้องการของกันและกันมากกว่าที่จะเรียกว่าความรัก จนเวลาผ่านไปเพื่อนของเธอน่าจะรู้สึกกับผมมากกว่านั้น วันหนึ่งระหว่างที่ผมอยู่กับเธอ เพื่อนเธอคนนี้ได้เข้ามาแสดงตัวให้แฟนผมรู้ว่าผมและเค้าเป็นมากว่าที่แฟนผมเค้าใจนะ วันนั้นแฟนผมเธอคงเสียใจมากตั้งแต่นั้นเราก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ผมตามง้ออยู่เป็นเดือนเป็นปีความสัมพันธ์ก็ไม่สามารถกลับมาได้เหมือนเก่า จนวันนึงผมถามเธอว่า ผมจะชดใช้ความผิดนี้อย่างไรให้เธอรู้สึกดีขึ้น เธอตอบกลับให้กลับไปดูแลเพื่อนของเธอให้ดีที่สุด นาทีนั้นผมไม่รู้หลอกว่าเธอประชดหรืออยากให้เป็นแบบนั้นจริง ผมคิดอย่างเดียวจะทำให้ได้ตามที่เธอขอ สรุปว่าผมมีแฟนใหม่มาคบกับเพื่อนของเธอแทน ตลอดเวลาที่คบกับแฟนใหม่ ด้วยความที่เธอยังอยู่ในหัวของผมตลอพเวลา มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นเพราะสาเหตุจากที่ผมยังไม่ลืมคนรักเก่า ผมยังติดต่อกับคนรักเก่าอยู่เนืองๆ เวลาว่างก็ไปหาเธอ ผมว่าเธอยังรอผมอยู่นะ ตอนเราคบกันมีคำพูดหนึ่งที่ติดอยู่ในใจผมตลอดมา เธอพูดว่าถ้าเธอไม่มีผมเธอก็จะไม่มีใครอีกในชีวิตนี้ คำพูดนี้บวกกับนิสัยที่ไม่เอาไหนของผมมันกลับทำให้ผมมีคิดว่าผมไม่คู่ควรกับคนดีๆอย่างเธอเลย ด้วยความสัตย์จริงผมอยากให้เธอได้เจอคนอื่นที่คู่ควรกว่าผม ซึ่งวันหนึ่งเธอก็ได้เจอจริงๆ ปัจจุบันผมเข้าใจว่าเธอคงมีความสุขมากๆกับชีวิตครอบครัวของเธอ ชีวิตคนเรามันก็ตลกดีเหมือนกันอย่างเธอเองก็ต้องผ่านความเจ็บช้ำมากมายที่เกิดจากการกระทำต่างๆนานาของผม กว่าจะได้มาเจอความสุขที่แท้จริง ไม่แน่นะถ้าไม่มีผมในวันนั้นเธออาจไม่พบครอบครัวที่ดีที่สุดของเธอในวันนี้ก็ได้
หลังจากที่แฟนคนที่สองบอกเลิกผมเรื่องหลักๆก็คงเกิดจากที่ผมไม่เคยลืมแฟนคนแรกนี่แหละ ผมก็เหมือนผู้ชายเสเพลคนนึง กินเหล้าเก่งมากตลอดเวลาในหัวก็จะมีเรื่องราวของเธอ ผู้หญิงคนแรกในชีวิตผมปรากฎขึ้นตลอกเวลา จริงๆผมดีใจกับเธอนะที่เห็นเธอมีความสุขกับสามีของเธอและคิดว่าตัวเองทำถูกแล้วที่ปล่อยให้เธอได้ไปเจอกับคนใหม่ที่ไม่ใช่ผม เธอมีลูกที่น่ารักสองคนซึ่งแสดงว่าคำอธิษฐานของผมได้ผล แต่ไอ้ตัวผมนี่สิมีเธออยู่ในหัวตลอดเวลาจนเวลาผ่านไปเป็นสิบปีก็ยังไม่เคยลืม มันอาจจะจางๆลงไปบ้างเมื่อเวลาผ่านไปนานขึ้น ช่วงแรกๆนี่มันทรมานจริงๆกับการที่ต้องคิดถึงเธอทุกวินาที แต่กาลเวลาช่วยเราได้ เริ่มห่างเป็นทุกนาที ทุกชั่วโมง ทุกวัน เกือบทุกวัน บางวัน จนถึงตอนนี้ พ.ศ. 2561 ความคิดถึงเปลี่ยนเป็นนานๆครั้งแล้ว ก่อนหน้านี้ผมมักจะทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้ลูกของผมกับแฟนคนแรกอยู่เสมอ ปัจจุบันผมเองก็มีครอบครัวใหม่มีลูก1คนที่ผมรักมากๆ ก็ยังไม่วายมีเรื่องของเธอวนเวียนเข้ามาในหัวเป็นครั้งคราว ความรู้สึกผิดที่ได้ทำให้เธอเสียใจมันคงไม่มีวันเลือนหายไป ผมเองก็อยากซื่อสัตย์กับภรรยาคนปัจจุบัน กับลูกสาวผม ผมอยากมีครอบครัวเป็นของผมเองด้วยจิตใจที่บริสุทธ์โดยไม่มีเธอคอยหลบๆซ่อนๆอยู่ในความคิดของผมอีก อีกสองปีก็จะครบรอบสามสิบปีที่ผมได้รู้จักกับเธอแล้ว แค่หวังว่ากาลเวลาจะเพิ่มระยะห่างในการที่เธอจะเข้ามาปรากฎตัวอยู่ในความคิดของผม ผมเองเขียนมาถึงตอนนี้ไม่ได้ต้องการคำแนะนำใดๆนะครับ ผมลองมาหลายวิธีแล้วทั้งทางโลกและทางธรรม บางทีเรื่องราวของเธออาจจะถูกฝังไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดของความทรงจำก็ได้ ผมก็แค่เขียนขึ้นมาเพื่ออยากระบายเท่านั้นเอง ขอบคุณครับที่เปิดพื้นที่ให้ผู้ชายที่ยังจมอยู่กับเรื่องราวเก่าๆได้บรรยายออกมาเป็นตัวหนังสือ
ถ้าเพื่อนๆได้พบคนที่ใช่ คนที่รักแล้ว ขออย่าให้เป็นแบบผมนะครับ ถนอมเค้าไว้ให้ดีอย่าให้หลุดลอยไปนะครับ สำหรับผมการได้นึกย้อนความทรงจำอย่างนี้มันมีทั้งความสุข ความคิดถึง ความสำนึกผิด ความเสียดาย รวมๆกัน ออกจะหม่นๆหน่อย ซึ่งจริงๆเราควรอยู่กับปัจจุบันนะผมว่า แต่ทำไงได้ เหมือนเรื่องราวเหล่านี้มันผุดขึ้นมาเองโดยที่ไม่ได้ตั้งใจเลย ขอบคุณมากครับ