5 เรื่อง เฌอปราง BNK48 ที่จะทำให้คุณหลงรักเธอมากขึ้น โดย Mgronline
24 ก.ย. 2561 โดย Marsmag
“เฌอปราง อารีย์กุล” กัปตันวง BNK48 เกิร์ลกรุ๊ปสุดฮอตระดับท็อปๆ ของไทย ที่บรรดาเหล่าโอตะน้อยใหญ่ทั้งประเทศต่างหลงใหลได้ปลื้ม เพราะความสามารถที่โดดเด่นบวกรูปร่างหน้าตาที่มีเสน่ห์ ทำให้ “ดาว” ดวงนี้ได้เข้าไปยึดพื้นที่ในหัวใจของใครหลายคน ซึ่งดาวดวงนี้ไม่ใช่ดาวในนภา หากแต่เป็นดาวที่ส่งสายตาแล้วเราสัมผัสรับรู้ได้จริง
ลองมาทำความรู้จักเธอให้มาก กับ 5 เรื่องของ “เฌอปราง” ที่จะทำให้มิติความจริงของโอตะเปลี่ยนไป แต่หัวใจพองโตขึ้น
เจ็บปวด แต่ไม่ปริปาก
ด้วยความโด่งดังของ BNK 48 ทำให้รังสีคลื่นความฮอตชนิดที่ร้อนแรงกว่าพระอาทิตย์เมืองไทย
ได้แผ่ปกคลุมไปทั่วทุกวงการ จึงเป็นธรรมดาที่สาวๆ BNK จะถูกเชิญไปออกรายการต่างๆ ซึ่งเฌอปรางก็เช่นกัน
เมื่อไม่นานมานี้เธอได้ไปออกรายการ “เดินหน้าประเทศไทย” ซึ่งได้ทำหน้าที่พิธีกรรับเชิญ โดยนำเสนอความพิเศษของช่อง DLTV ซึ่งเป็นสถานีวิทยุโทรทัศน์การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมที่มาเป็นผู้ช่วยคุณครูอีกแรง ทำให้เด็กๆ ที่อยู่ห่างไกลได้เข้าถึงและเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายยิ่งขึ้น แต่ด้วยโลโก้ “คสช” ที่แปะหลาอยู่ในรายการก็ไม่วายที่ทำให้คอการเมืองทั้งหลายที่ไม่ชอบใจรัฐบาลชุดนี้พยายามจะ "ลาก" เฌอปรางเข้าไปตีโมงโยงกันยุ่งอีรุงตุงนัง ทั้งๆ ที่เจ้าตัวไม่ได้คิดถึงการเมืองเลยด้วยซ้ำ ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็ทำให้บอบช้ำน้ำใจไปไม่น้อย แม้ในที่สุดกระแสจะถูกตีกลับว่าเฌอปราง เพียงเข้ามาร่วมรายการตามคำเชิญและเห็นว่าเป็นการตอบแทนสังคมได้ทางหนึ่งดั่งที่บอสใหญ่ของ BNK “ต้อม-จิรัฐ บวรวัฒนะ” ออกมาโพสต์แสดงความเห็นบน IG ส่วนตัว
แต่ก็อย่างว่า เมื่อแผลเปิดขึ้นแล้วก็ยากที่จะหายสนิท เหตุการณ์นี้จึงยังคงทำให้ “เฌอปราง” เจ็บปวด
แต่ก็ไม่อยากปริปากใดๆ ผ่านสื่อเลยแม้แต่น้อย
ผลักความขี้เกียจให้เป็นแรงผลักดัน
เฌอปรางกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาลัยนานาชาติ สาขาวิชาเคมี ซึ่งต้องบอกเลยว่าเห็นกัปตันวงทั้งเก่งและฉลาดอย่างนี้ก็เพราะมีเบื้องหลังมาจากความขี้เกียจ ซึ่งเจ้าความขี้เกียจที่ว่านี้ เป็นเคล็ดลับที่เธอค้นพบจากการอ่านหนังสือเล่มหนึ่งที่ว่าด้วยเรื่องของคนขี้เกียจจะพยายามหาวิธีการทำงานให้ออกมาดีที่สุด ด้วยวิธีที่สะดวกสบายที่สุด ซึ่งก็สอดคล้องกับอุปนิสัยเดิมของเธอเช่นกัน เช่น ในช่วงวัยเด็กเธอไม่อยากโดนคุณแม่บ่น จึงต้องทำทุกอย่างให้ออกมาดีที่สุด จนสุดท้ายก็กลายเป็นนิสัยติดตัวมาถึงปัจจุบัน
แทบไม่อยากเชื่อว่าความขี้เกียจที่ใครๆ ก็ต่างตีตราว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดี ไม่สมควรเอาเยี่ยงอย่าง
กลับมีด้านที่นำมาใช้เป็นแรงผลักดันและสร้างสรรค์ได้ อยู่ที่ว่าเราจะเลือกใช้มันอย่างไร
เวทีไม่ใช่ทุกความสำเร็จ
เพราะทุกคนเห็นว่าเฌอปรางเก่งมีความสามารถ แต่หารู้ไม่ว่าเธอไม่ได้เก่งอย่างที่ทุกคนคิด
นี่จึงเป็นเรื่องที่หลายคนกำลังเข้าใจผิด แต่ที่เห็นเป็นแบบนั้นเพราะเธอมีความพยายามทำทุกอย่างอย่างเต็มที่เพื่อให้มันออกมาดีที่สุด
เราจึงได้เห็นภาพของไอดอลคนหนึ่งที่ไม่ได้เจิดจรัสเฉพาะแค่บนเวที
หากแต่ไอดอลคนนี้ยังส่องแสงเปล่งประกายฉายความฉลาดทางวิชาการอีกด้วย เพราะผลงานวิจัยสุดล้ำ การทดลองขวดสีน้ำเงิน (The blue bottle experiment) ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร Royal Society Open Science ของประเทศอังกฤษ
อ่านความชอบด้านวิจัยของเธอได้ที่
https://mgronline.com/live/detail/9610000073667
ไตร่ตรอง รับฟัง เคารพ ในการเข้าสังคม
เพราะคำพูดเปรียบเสมือนอาวุธที่มีอานุภาพร้ายแรงคอยจะทิ่มแทงกันไปมาอย่างเลือดเย็น นี่จึงเป็นสิ่งที่เฌอปรางกลัว เพราะครั้งหนึ่งเธอเคยทำให้เพื่อนเสียใจจนร้องไห้ และจากเหตุการณ์ครั้งนั้นก็ได้กลายมาเป็นบทเรียนให้เธอได้ไตร่ตรองคำพูดและคิดถึงผลที่จะตามมา
ด้วยวุฒิภาวะที่มากขึ้นทำให้ต้องรับผิดชอบงานหลากหลายรูปแบบ
การเข้าสังคมและการทำงานร่วมกันกับผู้อื่นจึงเป็นสิ่งที่เฌอปราง ทำออกมาแล้วได้ดี
เพราะเธอรับฟังและเคารพในความคิดเห็นของผู้อื่นเสมอ
คิดและเข้าใจธรรมะอย่างอดทน
เฌอปรางผู้เข้าใจเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตได้อย่างลึกซึ้งเกินวัย ทั้งนี้เพราะในวัยเยาว์เธอได้ไปปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ จากตรงนี้ทำให้เธอได้เรียนรู้ถึงความอดทน เพราะครั้งหนึ่งเธอได้ไปเดินธรรมยาตรานานถึง 7 วัน ซึ่งในแต่ละวันต้องเดินถึง 20 กิโลเมตร
การเดินทางครั้งนี้จึงพิเศษกว่าครั้งไหนๆ เพราะไม่ใช่การเดินทางไปท่องเที่ยวเสพความสุขทางธรรมชาติ หากแต่เป็นการเดินทางตามสายกลางเสพความสุขที่ธรรมะได้รังสรรค์ไว้ให้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เฌอปรางมีความอดทนและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคที่เผชิญ
https://mgronline.com/marsmag/detail/9610000095584
BNK48 - 5 เรื่อง เฌอปราง BNK48 ที่จะทำให้คุณหลงรักเธอมากขึ้น โดย Mgronline
24 ก.ย. 2561 โดย Marsmag
“เฌอปราง อารีย์กุล” กัปตันวง BNK48 เกิร์ลกรุ๊ปสุดฮอตระดับท็อปๆ ของไทย ที่บรรดาเหล่าโอตะน้อยใหญ่ทั้งประเทศต่างหลงใหลได้ปลื้ม เพราะความสามารถที่โดดเด่นบวกรูปร่างหน้าตาที่มีเสน่ห์ ทำให้ “ดาว” ดวงนี้ได้เข้าไปยึดพื้นที่ในหัวใจของใครหลายคน ซึ่งดาวดวงนี้ไม่ใช่ดาวในนภา หากแต่เป็นดาวที่ส่งสายตาแล้วเราสัมผัสรับรู้ได้จริง
ลองมาทำความรู้จักเธอให้มาก กับ 5 เรื่องของ “เฌอปราง” ที่จะทำให้มิติความจริงของโอตะเปลี่ยนไป แต่หัวใจพองโตขึ้น
เจ็บปวด แต่ไม่ปริปาก
ด้วยความโด่งดังของ BNK 48 ทำให้รังสีคลื่นความฮอตชนิดที่ร้อนแรงกว่าพระอาทิตย์เมืองไทย
ได้แผ่ปกคลุมไปทั่วทุกวงการ จึงเป็นธรรมดาที่สาวๆ BNK จะถูกเชิญไปออกรายการต่างๆ ซึ่งเฌอปรางก็เช่นกัน
เมื่อไม่นานมานี้เธอได้ไปออกรายการ “เดินหน้าประเทศไทย” ซึ่งได้ทำหน้าที่พิธีกรรับเชิญ โดยนำเสนอความพิเศษของช่อง DLTV ซึ่งเป็นสถานีวิทยุโทรทัศน์การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมที่มาเป็นผู้ช่วยคุณครูอีกแรง ทำให้เด็กๆ ที่อยู่ห่างไกลได้เข้าถึงและเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายยิ่งขึ้น แต่ด้วยโลโก้ “คสช” ที่แปะหลาอยู่ในรายการก็ไม่วายที่ทำให้คอการเมืองทั้งหลายที่ไม่ชอบใจรัฐบาลชุดนี้พยายามจะ "ลาก" เฌอปรางเข้าไปตีโมงโยงกันยุ่งอีรุงตุงนัง ทั้งๆ ที่เจ้าตัวไม่ได้คิดถึงการเมืองเลยด้วยซ้ำ ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็ทำให้บอบช้ำน้ำใจไปไม่น้อย แม้ในที่สุดกระแสจะถูกตีกลับว่าเฌอปราง เพียงเข้ามาร่วมรายการตามคำเชิญและเห็นว่าเป็นการตอบแทนสังคมได้ทางหนึ่งดั่งที่บอสใหญ่ของ BNK “ต้อม-จิรัฐ บวรวัฒนะ” ออกมาโพสต์แสดงความเห็นบน IG ส่วนตัว
แต่ก็อย่างว่า เมื่อแผลเปิดขึ้นแล้วก็ยากที่จะหายสนิท เหตุการณ์นี้จึงยังคงทำให้ “เฌอปราง” เจ็บปวด
แต่ก็ไม่อยากปริปากใดๆ ผ่านสื่อเลยแม้แต่น้อย
ผลักความขี้เกียจให้เป็นแรงผลักดัน
เฌอปรางกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาลัยนานาชาติ สาขาวิชาเคมี ซึ่งต้องบอกเลยว่าเห็นกัปตันวงทั้งเก่งและฉลาดอย่างนี้ก็เพราะมีเบื้องหลังมาจากความขี้เกียจ ซึ่งเจ้าความขี้เกียจที่ว่านี้ เป็นเคล็ดลับที่เธอค้นพบจากการอ่านหนังสือเล่มหนึ่งที่ว่าด้วยเรื่องของคนขี้เกียจจะพยายามหาวิธีการทำงานให้ออกมาดีที่สุด ด้วยวิธีที่สะดวกสบายที่สุด ซึ่งก็สอดคล้องกับอุปนิสัยเดิมของเธอเช่นกัน เช่น ในช่วงวัยเด็กเธอไม่อยากโดนคุณแม่บ่น จึงต้องทำทุกอย่างให้ออกมาดีที่สุด จนสุดท้ายก็กลายเป็นนิสัยติดตัวมาถึงปัจจุบัน
แทบไม่อยากเชื่อว่าความขี้เกียจที่ใครๆ ก็ต่างตีตราว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดี ไม่สมควรเอาเยี่ยงอย่าง
กลับมีด้านที่นำมาใช้เป็นแรงผลักดันและสร้างสรรค์ได้ อยู่ที่ว่าเราจะเลือกใช้มันอย่างไร
เวทีไม่ใช่ทุกความสำเร็จ
เพราะทุกคนเห็นว่าเฌอปรางเก่งมีความสามารถ แต่หารู้ไม่ว่าเธอไม่ได้เก่งอย่างที่ทุกคนคิด
นี่จึงเป็นเรื่องที่หลายคนกำลังเข้าใจผิด แต่ที่เห็นเป็นแบบนั้นเพราะเธอมีความพยายามทำทุกอย่างอย่างเต็มที่เพื่อให้มันออกมาดีที่สุด
เราจึงได้เห็นภาพของไอดอลคนหนึ่งที่ไม่ได้เจิดจรัสเฉพาะแค่บนเวที
หากแต่ไอดอลคนนี้ยังส่องแสงเปล่งประกายฉายความฉลาดทางวิชาการอีกด้วย เพราะผลงานวิจัยสุดล้ำ การทดลองขวดสีน้ำเงิน (The blue bottle experiment) ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร Royal Society Open Science ของประเทศอังกฤษ
อ่านความชอบด้านวิจัยของเธอได้ที่ https://mgronline.com/live/detail/9610000073667
ไตร่ตรอง รับฟัง เคารพ ในการเข้าสังคม
เพราะคำพูดเปรียบเสมือนอาวุธที่มีอานุภาพร้ายแรงคอยจะทิ่มแทงกันไปมาอย่างเลือดเย็น นี่จึงเป็นสิ่งที่เฌอปรางกลัว เพราะครั้งหนึ่งเธอเคยทำให้เพื่อนเสียใจจนร้องไห้ และจากเหตุการณ์ครั้งนั้นก็ได้กลายมาเป็นบทเรียนให้เธอได้ไตร่ตรองคำพูดและคิดถึงผลที่จะตามมา
ด้วยวุฒิภาวะที่มากขึ้นทำให้ต้องรับผิดชอบงานหลากหลายรูปแบบ
การเข้าสังคมและการทำงานร่วมกันกับผู้อื่นจึงเป็นสิ่งที่เฌอปราง ทำออกมาแล้วได้ดี
เพราะเธอรับฟังและเคารพในความคิดเห็นของผู้อื่นเสมอ
คิดและเข้าใจธรรมะอย่างอดทน
เฌอปรางผู้เข้าใจเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตได้อย่างลึกซึ้งเกินวัย ทั้งนี้เพราะในวัยเยาว์เธอได้ไปปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ จากตรงนี้ทำให้เธอได้เรียนรู้ถึงความอดทน เพราะครั้งหนึ่งเธอได้ไปเดินธรรมยาตรานานถึง 7 วัน ซึ่งในแต่ละวันต้องเดินถึง 20 กิโลเมตร
การเดินทางครั้งนี้จึงพิเศษกว่าครั้งไหนๆ เพราะไม่ใช่การเดินทางไปท่องเที่ยวเสพความสุขทางธรรมชาติ หากแต่เป็นการเดินทางตามสายกลางเสพความสุขที่ธรรมะได้รังสรรค์ไว้ให้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เฌอปรางมีความอดทนและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคที่เผชิญ
https://mgronline.com/marsmag/detail/9610000095584