ปัจจัยลบรุมเร้า ทำท่องเที่ยวระส่ำ
https://www.thairath.co.th/content/1386376
นาย
พงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯร่วมกับหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ ได้ติดตามและประเมินผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ว่าจะส่งผลต่อภาคการท่องเที่ยวไทยอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 1 ของไทย ซึ่งพบว่าขณะนี้ค่าเงินหยวนเริ่มอ่อนค่าลงอย่างเห็นได้ชัด และตลาดหลักทรัพย์ของจีนก็ได้รับผลกระทบด้วย จึงมองว่าอาจมีผลต่อกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวจีนพอสมควร ทำให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯต้องจับตาดูผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯอย่างใกล้ชิด เพราะมองว่าปัจจัยทางเศรษฐกิจเป็นตัวแปรสำคัญมากที่สุด เพราะส่งผลต่อกำลังซื้อและการตัดสินใจออกมาท่องเที่ยวของชาวจีน
ส่วนข้อเสนอของภาคเอกชนที่ต้องการให้รัฐออกมาตรการเปิดให้ชาวจีนยื่นขอวีซ่าเข้าประเทศไทย 1 ครั้ง สามารถเดินทางได้ 2 ครั้ง (ดับเบิล เอนทรี่ วีซ่า) เพื่อเร่งฟื้นสถานการณ์และกู้ความเชื่อมั่นตลาดนักท่องเที่ยวจีนกลับมา หลังชะลอการเดินทางจนยอดลดลงนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำร่างข้อเสนอดังกล่าว เพื่อนำไปหารือกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
ด้านนาย
ดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าชะลอลง โดยขยายตัว 5.8% จากระยะเดียวกันของปีก่อน และชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 8.3% ซึ่งมาจากการส่งออกสินค้าประมงหดตัวลงจากการส่งออกกุ้งไปสหรัฐฯ ขณะที่การส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าหดตัวลงตามการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและโซลาร์เซลล์ไปสหรัฐฯ ที่มีผลจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ขณะที่การท่องเที่ยวขยายตัวเพียง 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวมาเลเซีย ฮ่องกง ญี่ปุ่น และอินเดีย แต่จำนวนนักท่องเที่ยวจีนหดตัวสูงจากผลกระทบจากเหตุการณ์เรือนักท่องเที่ยวล่มที่ภูเก็ตยังมีต่อเนื่อง.
JJNY : ปัจจัยลบรุมเร้า ทำท่องเที่ยวระส่ำ/เศรษฐกิจดี?เจ้าของร้านก๊วยเตี๋ยวชลบุรีโอดถูกขโมยแม้กระทั่งหม้อสแตนเลส2ครั้งรวด
https://www.thairath.co.th/content/1386376
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯร่วมกับหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ ได้ติดตามและประเมินผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ว่าจะส่งผลต่อภาคการท่องเที่ยวไทยอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 1 ของไทย ซึ่งพบว่าขณะนี้ค่าเงินหยวนเริ่มอ่อนค่าลงอย่างเห็นได้ชัด และตลาดหลักทรัพย์ของจีนก็ได้รับผลกระทบด้วย จึงมองว่าอาจมีผลต่อกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวจีนพอสมควร ทำให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯต้องจับตาดูผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯอย่างใกล้ชิด เพราะมองว่าปัจจัยทางเศรษฐกิจเป็นตัวแปรสำคัญมากที่สุด เพราะส่งผลต่อกำลังซื้อและการตัดสินใจออกมาท่องเที่ยวของชาวจีน
ส่วนข้อเสนอของภาคเอกชนที่ต้องการให้รัฐออกมาตรการเปิดให้ชาวจีนยื่นขอวีซ่าเข้าประเทศไทย 1 ครั้ง สามารถเดินทางได้ 2 ครั้ง (ดับเบิล เอนทรี่ วีซ่า) เพื่อเร่งฟื้นสถานการณ์และกู้ความเชื่อมั่นตลาดนักท่องเที่ยวจีนกลับมา หลังชะลอการเดินทางจนยอดลดลงนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำร่างข้อเสนอดังกล่าว เพื่อนำไปหารือกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
ด้านนายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าชะลอลง โดยขยายตัว 5.8% จากระยะเดียวกันของปีก่อน และชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 8.3% ซึ่งมาจากการส่งออกสินค้าประมงหดตัวลงจากการส่งออกกุ้งไปสหรัฐฯ ขณะที่การส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าหดตัวลงตามการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและโซลาร์เซลล์ไปสหรัฐฯ ที่มีผลจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ขณะที่การท่องเที่ยวขยายตัวเพียง 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวมาเลเซีย ฮ่องกง ญี่ปุ่น และอินเดีย แต่จำนวนนักท่องเที่ยวจีนหดตัวสูงจากผลกระทบจากเหตุการณ์เรือนักท่องเที่ยวล่มที่ภูเก็ตยังมีต่อเนื่อง.