พรรคการเมืองโวย อดถามกกต. 'ปิยบุตร' จี้คำสั่ง คสช.อุปสรรคใหญ่ ด้าน กกต.แจงไม่เคลียร์
https://www.matichon.co.th/politics/news_1152010
ตัวแทนพรรคการเมืองยกมือถามกันพรึบ ฟาก กกต. ตอบคำถามพรรคการเมืองไม่เคลียร์
วันที่ 28 กันยายน ที่โรงแรมเซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดการประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจการแก่พรรคการเมืองและผู้ขอแจ้งเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมือง เพื่อชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง โดยมีนาย
อิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการ กกต. กรรมการ กกต.ทั้ง 4 คน พ.ต.อ.
จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. และนายทะเบียนพรรคการเมือง นาย
แสวง บุญมี รองเลขาธิการพรรค และผู้บริหารสำนักงาน เข้าร่วม หลังบรรยายจบ
เวลา 11.30 น. เป็นการเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองถามคำถามกับ กกต. โดยนาย
ชูศักดิ์ ซึ่งเป็นตัวแทนจากพรรค พท. ได้ลุกขึ้นสอบถาม กกต.เป็นคนแรก โดยนาย
ชูศักดิ์กล่าวว่า กฎหมายกำหนดว่า พรรคการเมืองจะส่งผู้สมัครได้ต้องมีสาขา และตัวแทนพรรค ดังนั้น หากจะส่งผู้สมัคร 350 เขต ทั้ง 350 เขต จะต้องมีสาขาพรรคหรือตัวแทนพรรคประจำจังหวัดใช่หรือไม่ และส่วนตัวเห็นว่าสิ่งที่ กกต.ได้ชี้แจงไปก่อนหน้านี้ไม่ตรงกับคำสั่งที่ 13/2561 ในเงื่อนไขของการส่งผู้สมัคร เพราะในคำสั่งกำหนดว่าพรรคการเมืองสามารถจัดตั้งสาขาพรรคได้ภายในระยะเวลา 1 ปี ดังนั้น เมื่อคำสั่งนี้ประกาศเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2561 ก็เท่ากับว่าในวันที่ 14 กันยายน 2562 ก็ยังสามารถจัดตั้งสาขาพรรคได้ใช่หรือไม่ แล้วหากการเลือกตั้งเกิดในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ก็เท่ากับว่าพรรคยังไม่ต้องตั้งสาขาพรรคก็สามารถส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ใช่หรือไม่ แต่กลับมีการเขียนกำกับในกฎหมายว่าพรรคการเมืองจะต้องฟังความเห็นจากสาขา และตัวแทนสมาชิกพรรค โดยท่านไม่ได้ใช้คำว่า ‘หรือ’ เท่ากับว่าถ้าไม่มีสองอย่างนี้คือไม่ครบข้อกำหนดใช่หรือไม่ นอกจากนี้ มาตรา 145 กำหนดว่าให้มีสาขาหรือตัวแทนจังหวัดใดจังหวัดหนึ่งก็สามารถส่งผู้สมัครได้ ตนอ่านแต่ละมาตราเป็นสิบๆ เที่ยวก็เห็นว่าไม่ตรงกัน
เช่นเดียวกับนาย
วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ตัวแทนจากพรรคชาติพัฒนา ที่ถามในประเด็นเดียวกัน คือ เพียงรับฟังความเห็นจากสมาชิกอย่างกว้างขวางโดยไม่ต้องมีสาขาพรรคก็น่าจะเพียงพอใช่หรือไม่
นาย
แสวง ตัวแทนฝ่าย กกต. ตอบคำถามนี้ว่า เรื่องการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางของสมาชิกพรรคการเมืองนั้น มีการยกเลิกมาตรา 147 แล้วที่มาแทนที่คือ มาตรา 145 ที่เอามาใช้เพื่อผ่อนปรนว่าในการส่งผู้สมัคร คุณไม่ต้องใช้ตัวแทนพรรคทุกเขต ทั้งนี้ กกต.คงจะยังไม่ตอบคำถามนี้ แต่แนวทางก็คงจะประมาณนี้ ซึ่งหากทาง กกต.ได้ข้อสรุปในประเด็นนี้เมื่อใด กกต.จะทำเป็นหนังสือแล้วส่งไปให้ทุกพรรคอีกครั้งหนึ่ง
ต่อมา นาย
ปิยบุตร จากพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีอีกหลายกลุ่มที่ได้จดแจ้งชื่อต่อ กกต. และอนุญาตจัดตั้งพรรค
1. หากการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 กกต.จะทำให้ทุกพรรคเกิดขึ้นได้ทันหรือไม่
2. ต่อให้ตั้งพรรคได้ทันเขาจะหาสมาชิกได้ทันหรือไม่
และ 3. อุปสรรคจาก คสช.รวมถึงคำสั่งคลายล็อกหรือคำสั่งก่อนหน้านี้ก็ดีไม่ได้เอื้อต่อการปฏิบัติงาน และทำให้ กกต.ตอบคำถามเรื่องการหาสมาชิกไม่ได้ เท่ากับให้พรรคการเมืองไปสุ่มเอา หรือไปตายเอาดาบหน้าใช่หรือไม่ เพราะ คสช. ไม่ยอมปลดล็อก แต่เจตนารมณ์ของกฎหมายรวมถึง กกต.ต้องการให้มีสมาชิกพรรคจำนวนมาก แต่กลับไม่ให้พวกตนลงพื้นที่ไปหาสมาชิก แล้วแบบนี้การเลือกตั้งจากเสรีและเป็นธรรมได้อย่างไร ตนชื่อว่าทุกคนในที่นี้พร้อมลงเลือกตั้ง และกกต.ก็พร้อมจัดการเลือกตั้ง แต่คนไม่พร้อมที่จะให้มีการเลือกตั้งคือใครกันแน่ถึงต้องมาขวางแบบนี้ ตนขอให้ กกต.จี้ให้ คสช.ปลดล็อกให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ นอกจากนี้ เรื่องของการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินหนี้สิน สรุปว่าจะต้องมีการยื่นหรือไม่ เพราะบางข้อบอกให้ยื่น แต่บางข้อบอกยกเลิก
นาย
แสวงกล่าวว่า เชื่อว่าทุกพรรคจะสามารถตั้งได้ทัน เพราะรายชื่อต่างๆ อยู่ในมือเราไม่เกิน 2 อาทิตย์ ถ้าขอมาในช่วงนี้เราเร่งให้แน่นอน อย่างอนาคตใหม่ท่านก็ได้เข้ามาช่วยดูในเรื่องของข้อบังคับ ก็ขอขอบคุณเพราะทำให้เกิดประโยชน์และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องการแสดงบัญชีทรัพย์สินหนี้สินให้เป็นไปตามกฎหมายคือยังไม่ต้องแสดง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงของการถามคำถามมีตัวแทนจากพรรคต่างๆ ประสงค์จะถามคำถามจำนวนมาก แต่ทาง กกต.มีเวลาจำกัดและให้เพียงไม่กี่คนถามคำถามเท่านั้น ทำให้หลายพรรครู้สึกไม่ค่อยพอใจ และรู้สึกว่าการมาหารือกับ กกต.วันนี้ไม่เกิดประโยชน์ เพราะแทบจะไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนในเรื่องใดเลย
กกต.แจงหาเสียงโซเชียลสตาร์ทได้หลังมีพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง
https://www.dailynews.co.th/politics/668532
“เลขาฯกกต.”แจงกรอบหาเสียงโซเชียล สตาร์ทได้หลัง มี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ต้องแจ้งช่องทาง-วิธีการหาเสียงต่อกกต.ก่อน รับห่วงกลุ่ม “กองแช่ง” หาเสียงใส่ร้ายฝ่ายตรงข้าม เล็งถกพรรคการเมืองปมดีเบต-ปิดป้ายหาเสียง
เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ในการประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจการแก่พรรคการเมืองและผู้ขอแจ้งเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมือง ครั้งที่ 3/2561 พ.ต.อ.
จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. บรรยายหัวข้อ
“พรรคการเมืองไทยมีอะไรที่ต้องปรับตัวตามกฎหมายใหม่” ตอนหนึ่งว่า หลังจากมีการประกาศ พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้งแล้ว ทุกพรรคการเมืองจะมีเสรีภาพในการหาเสียงในโซเชียลมีเดีย แต่ต้องเป็นไปตามมาตรา 70 ของ กฎหมายพรรคการเมือง โดยจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ กกต.กำหนด ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการที่จัดทำระเบียบดังกล่าวมีการประชุมไปแล้ว ครั้ง โดยมีหลักการคือ ภายหลังมี พ.ร.ฎ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง จะให้เสรีภาพในการหาเสียงในโซเชียลมีเดีย แต่พรรคการเมืองจะต้องแจ้งว่าจะหาเสียงผ่านโซเชียลมีเดียอะไรอย่างไร ให้กกต.ได้รับทราบ โดยไม่ต้องรอให้กกต.อนุมัติ แต่อย่าลืมว่ามีกองเชียร์และกองแช่ง
ซึ่งกกต.จะให้ความสำคัญเรื่องกองแช่ง หากพบว่าพรรคการเมืองแจ้งวิธีหาเสียงมาแล้ว แต่มีกองแช่งไปแอบอ้างแล้วไปหาเสียงที่มีข้อความใส่ร้าย กกต.ก็จะทำการติดตามตรวจสอบว่าตรงกับที่พรรคการเมืองได้แจ้งไว้ตอนแรกหรือไม่ และแจ้งให้พรรคนั้นๆทราบเพื่อดำเนินการต่อไป ส่วนข้อความการหาเสียงในโซเชียลมีเดียนั้น ต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตาม พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้ง ถ้าข้อความนั้นต้องห้าม หรือกระทบกระเทือนผู้อื่น กกต.จะขอให้พรรคการเมืองลบข้อความ ถ้าไม่ลบ กกต.ก็จะมีวิธีลบข้อความ นอกจากนี้หากคณะกรรมการไต่สวน กกต. พบว่า ข้อความดังกล่าวเป็นลักษณะการใส่ร้าย ทำให้คนอื่นเสียหาย จนทำให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ หรือผู้สมัครรับเลือกตั้งโดนใบแดง ตามกฎหมายใหม่ถ้าศาลฎีกาพิพากษาให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง บุคคลนั้นจะต้องชดใช้ค่าเสียหายจัดเลือกตั้งใหม่ด้วย โดยให้ศาลฎีกาพิพากษาสั่งให้ชดใช้
พ.ต.อ.
จรุงวิทย์ กล่าวอีกว่า ส่วนรูปแบบการหาเสียงตามปกตินั้น ก็จะเปลี่ยนไปเยอะโดยเฉพาะการสนับสนุนโดยรัฐ ที่จะต้องมีการให้พรรคการเมืองดีเบตนโยบาย ส่วนจะมีการจัดรูปแบบอย่างไรยังไม่ได้ข้อสรุป และให้พรรคการเมืองได้แถลงนโยบาย ส่วนเรื่องป้ายหาเสียงนั้นก็จะมีเรื่องที่ยากสำหรับ กทม. ที่ฝั่งถนนหนึ่งอาจเบอร์หนึ่ง อีกฝั่งถนนหนึ่งเป็นอีกเบอร์หนึ่ง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความสับสน ส่วนการจัดป้ายหาเสียงต้องหาข้อสรุปกับพรรคการเมืองว่าจะติดป้ายที่ใดบ้าง รวมทั้งเรื่องขนาดป้ายหาเสียงด้วย ความปรารถนาของนายทะเบียนพรรคการเมืองคืออยากให้ทุกพรรคการเมืองอยู่ครบถ้วน ซึ่งตนกำลังรวบรวมข้อมูลให้พรรคการเมืองได้ทราบว่าการกระทำอะไรบ้างที่จะทำให้มีโทษถึงขั้นยุบพรรค.
กกต.มีมติอนุมัติ "อนาคตใหม่" เป็นพรรคการเมืองแล้ว
https://www.matichon.co.th/politics/news_1152869
กกต. มีมติอนุมัติ “อนาคตใหม่” เป็นพรรคการเมืองแล้ว
วันนี้ (28 ก.ย.) น.ส.
พรรณิการ์ วานิช ว่าที่โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ได้เปิดเผยว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติอนุมัติรับรองพรรคอนาคตใหม่ เป็นพรรคการเมืองแล้ว โดยระบุว่า
“แจ้งข่าวด่วนให้ทุกท่านทราบสั้นๆ ก่อนนะคะ วันนี้กกต.มีมติอนุมัติรับรองพรรคอนาคตใหม่เรียบร้อยแล้วค่ะ เดี๋ยวในรายการเฟซบุ๊กไลฟ์ คืนวันศุกร์ให้ประชาชน เราจะพูดถึงเรื่องนี้อย่างละเอียดนะคะ”
ปชป.-ชทพ.ไหลอีก! 'ประมวล เอมเปีย-เกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร' แห่สมัครเข้าภูมิใจไทย
https://www.matichon.co.th/politics/news_1152654
‘ประมวล เอมเปีย’ อดีต ส.ส.ปชป. สมัครสมาชิกภูมิใจไทยแล้ว
วันนี้ (28 ก.ย.) ที่พรรคภูมิใจไทย ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการรับสมัครสมาชิกพรรคว่า มีผู้สนใจเข้าร่วมงานการเมืองกับพรรคทยอยเดินทางเข้ามาสมัครเป็นสมาชิก อาทิ นาย
เกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร อดีต ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นาย
ประมวล เอมเปีย อดีต ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) และนาย
สมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ อดีต ส.ส.สุโขทัย พรรคชาติไทยพัฒนา โดยมีนาย
ทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรคให้การต้อนรับ ขณะเดียวกัน มีผู้สนใจเข้าร่วมงานกับพรรคใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกด้วย ทำให้บรรยากาศที่พรรคเป็นไปด้วยความคึกคักเช่นเดียวกับ 2-3 วันที่ผ่านมา
JJNY : 5in1 พรรคโวยอดถามกกต./หาเสียงโซเชียลหลังพ.ร.ฎ./อนาคตใหม่เป็นพรรคแล้ว/ปชป.-ชทพ.ไหลอีก/7ชม.ไม่จบพรบ.น้ำ
https://www.matichon.co.th/politics/news_1152010
ตัวแทนพรรคการเมืองยกมือถามกันพรึบ ฟาก กกต. ตอบคำถามพรรคการเมืองไม่เคลียร์
วันที่ 28 กันยายน ที่โรงแรมเซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดการประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจการแก่พรรคการเมืองและผู้ขอแจ้งเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมือง เพื่อชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง โดยมีนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการ กกต. กรรมการ กกต.ทั้ง 4 คน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. และนายทะเบียนพรรคการเมือง นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการพรรค และผู้บริหารสำนักงาน เข้าร่วม หลังบรรยายจบ
เวลา 11.30 น. เป็นการเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองถามคำถามกับ กกต. โดยนายชูศักดิ์ ซึ่งเป็นตัวแทนจากพรรค พท. ได้ลุกขึ้นสอบถาม กกต.เป็นคนแรก โดยนายชูศักดิ์กล่าวว่า กฎหมายกำหนดว่า พรรคการเมืองจะส่งผู้สมัครได้ต้องมีสาขา และตัวแทนพรรค ดังนั้น หากจะส่งผู้สมัคร 350 เขต ทั้ง 350 เขต จะต้องมีสาขาพรรคหรือตัวแทนพรรคประจำจังหวัดใช่หรือไม่ และส่วนตัวเห็นว่าสิ่งที่ กกต.ได้ชี้แจงไปก่อนหน้านี้ไม่ตรงกับคำสั่งที่ 13/2561 ในเงื่อนไขของการส่งผู้สมัคร เพราะในคำสั่งกำหนดว่าพรรคการเมืองสามารถจัดตั้งสาขาพรรคได้ภายในระยะเวลา 1 ปี ดังนั้น เมื่อคำสั่งนี้ประกาศเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2561 ก็เท่ากับว่าในวันที่ 14 กันยายน 2562 ก็ยังสามารถจัดตั้งสาขาพรรคได้ใช่หรือไม่ แล้วหากการเลือกตั้งเกิดในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ก็เท่ากับว่าพรรคยังไม่ต้องตั้งสาขาพรรคก็สามารถส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ใช่หรือไม่ แต่กลับมีการเขียนกำกับในกฎหมายว่าพรรคการเมืองจะต้องฟังความเห็นจากสาขา และตัวแทนสมาชิกพรรค โดยท่านไม่ได้ใช้คำว่า ‘หรือ’ เท่ากับว่าถ้าไม่มีสองอย่างนี้คือไม่ครบข้อกำหนดใช่หรือไม่ นอกจากนี้ มาตรา 145 กำหนดว่าให้มีสาขาหรือตัวแทนจังหวัดใดจังหวัดหนึ่งก็สามารถส่งผู้สมัครได้ ตนอ่านแต่ละมาตราเป็นสิบๆ เที่ยวก็เห็นว่าไม่ตรงกัน
เช่นเดียวกับนายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล ตัวแทนจากพรรคชาติพัฒนา ที่ถามในประเด็นเดียวกัน คือ เพียงรับฟังความเห็นจากสมาชิกอย่างกว้างขวางโดยไม่ต้องมีสาขาพรรคก็น่าจะเพียงพอใช่หรือไม่
นายแสวง ตัวแทนฝ่าย กกต. ตอบคำถามนี้ว่า เรื่องการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางของสมาชิกพรรคการเมืองนั้น มีการยกเลิกมาตรา 147 แล้วที่มาแทนที่คือ มาตรา 145 ที่เอามาใช้เพื่อผ่อนปรนว่าในการส่งผู้สมัคร คุณไม่ต้องใช้ตัวแทนพรรคทุกเขต ทั้งนี้ กกต.คงจะยังไม่ตอบคำถามนี้ แต่แนวทางก็คงจะประมาณนี้ ซึ่งหากทาง กกต.ได้ข้อสรุปในประเด็นนี้เมื่อใด กกต.จะทำเป็นหนังสือแล้วส่งไปให้ทุกพรรคอีกครั้งหนึ่ง
ต่อมา นายปิยบุตร จากพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีอีกหลายกลุ่มที่ได้จดแจ้งชื่อต่อ กกต. และอนุญาตจัดตั้งพรรค
1. หากการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 กกต.จะทำให้ทุกพรรคเกิดขึ้นได้ทันหรือไม่
2. ต่อให้ตั้งพรรคได้ทันเขาจะหาสมาชิกได้ทันหรือไม่
และ 3. อุปสรรคจาก คสช.รวมถึงคำสั่งคลายล็อกหรือคำสั่งก่อนหน้านี้ก็ดีไม่ได้เอื้อต่อการปฏิบัติงาน และทำให้ กกต.ตอบคำถามเรื่องการหาสมาชิกไม่ได้ เท่ากับให้พรรคการเมืองไปสุ่มเอา หรือไปตายเอาดาบหน้าใช่หรือไม่ เพราะ คสช. ไม่ยอมปลดล็อก แต่เจตนารมณ์ของกฎหมายรวมถึง กกต.ต้องการให้มีสมาชิกพรรคจำนวนมาก แต่กลับไม่ให้พวกตนลงพื้นที่ไปหาสมาชิก แล้วแบบนี้การเลือกตั้งจากเสรีและเป็นธรรมได้อย่างไร ตนชื่อว่าทุกคนในที่นี้พร้อมลงเลือกตั้ง และกกต.ก็พร้อมจัดการเลือกตั้ง แต่คนไม่พร้อมที่จะให้มีการเลือกตั้งคือใครกันแน่ถึงต้องมาขวางแบบนี้ ตนขอให้ กกต.จี้ให้ คสช.ปลดล็อกให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ นอกจากนี้ เรื่องของการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินหนี้สิน สรุปว่าจะต้องมีการยื่นหรือไม่ เพราะบางข้อบอกให้ยื่น แต่บางข้อบอกยกเลิก
นายแสวงกล่าวว่า เชื่อว่าทุกพรรคจะสามารถตั้งได้ทัน เพราะรายชื่อต่างๆ อยู่ในมือเราไม่เกิน 2 อาทิตย์ ถ้าขอมาในช่วงนี้เราเร่งให้แน่นอน อย่างอนาคตใหม่ท่านก็ได้เข้ามาช่วยดูในเรื่องของข้อบังคับ ก็ขอขอบคุณเพราะทำให้เกิดประโยชน์และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องการแสดงบัญชีทรัพย์สินหนี้สินให้เป็นไปตามกฎหมายคือยังไม่ต้องแสดง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงของการถามคำถามมีตัวแทนจากพรรคต่างๆ ประสงค์จะถามคำถามจำนวนมาก แต่ทาง กกต.มีเวลาจำกัดและให้เพียงไม่กี่คนถามคำถามเท่านั้น ทำให้หลายพรรครู้สึกไม่ค่อยพอใจ และรู้สึกว่าการมาหารือกับ กกต.วันนี้ไม่เกิดประโยชน์ เพราะแทบจะไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนในเรื่องใดเลย
กกต.แจงหาเสียงโซเชียลสตาร์ทได้หลังมีพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง
https://www.dailynews.co.th/politics/668532
“เลขาฯกกต.”แจงกรอบหาเสียงโซเชียล สตาร์ทได้หลัง มี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ต้องแจ้งช่องทาง-วิธีการหาเสียงต่อกกต.ก่อน รับห่วงกลุ่ม “กองแช่ง” หาเสียงใส่ร้ายฝ่ายตรงข้าม เล็งถกพรรคการเมืองปมดีเบต-ปิดป้ายหาเสียง
เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ในการประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจการแก่พรรคการเมืองและผู้ขอแจ้งเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมือง ครั้งที่ 3/2561 พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. บรรยายหัวข้อ “พรรคการเมืองไทยมีอะไรที่ต้องปรับตัวตามกฎหมายใหม่” ตอนหนึ่งว่า หลังจากมีการประกาศ พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้งแล้ว ทุกพรรคการเมืองจะมีเสรีภาพในการหาเสียงในโซเชียลมีเดีย แต่ต้องเป็นไปตามมาตรา 70 ของ กฎหมายพรรคการเมือง โดยจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ กกต.กำหนด ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการที่จัดทำระเบียบดังกล่าวมีการประชุมไปแล้ว ครั้ง โดยมีหลักการคือ ภายหลังมี พ.ร.ฎ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง จะให้เสรีภาพในการหาเสียงในโซเชียลมีเดีย แต่พรรคการเมืองจะต้องแจ้งว่าจะหาเสียงผ่านโซเชียลมีเดียอะไรอย่างไร ให้กกต.ได้รับทราบ โดยไม่ต้องรอให้กกต.อนุมัติ แต่อย่าลืมว่ามีกองเชียร์และกองแช่ง
ซึ่งกกต.จะให้ความสำคัญเรื่องกองแช่ง หากพบว่าพรรคการเมืองแจ้งวิธีหาเสียงมาแล้ว แต่มีกองแช่งไปแอบอ้างแล้วไปหาเสียงที่มีข้อความใส่ร้าย กกต.ก็จะทำการติดตามตรวจสอบว่าตรงกับที่พรรคการเมืองได้แจ้งไว้ตอนแรกหรือไม่ และแจ้งให้พรรคนั้นๆทราบเพื่อดำเนินการต่อไป ส่วนข้อความการหาเสียงในโซเชียลมีเดียนั้น ต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตาม พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้ง ถ้าข้อความนั้นต้องห้าม หรือกระทบกระเทือนผู้อื่น กกต.จะขอให้พรรคการเมืองลบข้อความ ถ้าไม่ลบ กกต.ก็จะมีวิธีลบข้อความ นอกจากนี้หากคณะกรรมการไต่สวน กกต. พบว่า ข้อความดังกล่าวเป็นลักษณะการใส่ร้าย ทำให้คนอื่นเสียหาย จนทำให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ หรือผู้สมัครรับเลือกตั้งโดนใบแดง ตามกฎหมายใหม่ถ้าศาลฎีกาพิพากษาให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง บุคคลนั้นจะต้องชดใช้ค่าเสียหายจัดเลือกตั้งใหม่ด้วย โดยให้ศาลฎีกาพิพากษาสั่งให้ชดใช้
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวอีกว่า ส่วนรูปแบบการหาเสียงตามปกตินั้น ก็จะเปลี่ยนไปเยอะโดยเฉพาะการสนับสนุนโดยรัฐ ที่จะต้องมีการให้พรรคการเมืองดีเบตนโยบาย ส่วนจะมีการจัดรูปแบบอย่างไรยังไม่ได้ข้อสรุป และให้พรรคการเมืองได้แถลงนโยบาย ส่วนเรื่องป้ายหาเสียงนั้นก็จะมีเรื่องที่ยากสำหรับ กทม. ที่ฝั่งถนนหนึ่งอาจเบอร์หนึ่ง อีกฝั่งถนนหนึ่งเป็นอีกเบอร์หนึ่ง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความสับสน ส่วนการจัดป้ายหาเสียงต้องหาข้อสรุปกับพรรคการเมืองว่าจะติดป้ายที่ใดบ้าง รวมทั้งเรื่องขนาดป้ายหาเสียงด้วย ความปรารถนาของนายทะเบียนพรรคการเมืองคืออยากให้ทุกพรรคการเมืองอยู่ครบถ้วน ซึ่งตนกำลังรวบรวมข้อมูลให้พรรคการเมืองได้ทราบว่าการกระทำอะไรบ้างที่จะทำให้มีโทษถึงขั้นยุบพรรค.
กกต.มีมติอนุมัติ "อนาคตใหม่" เป็นพรรคการเมืองแล้ว
https://www.matichon.co.th/politics/news_1152869
กกต. มีมติอนุมัติ “อนาคตใหม่” เป็นพรรคการเมืองแล้ว
วันนี้ (28 ก.ย.) น.ส.พรรณิการ์ วานิช ว่าที่โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ได้เปิดเผยว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติอนุมัติรับรองพรรคอนาคตใหม่ เป็นพรรคการเมืองแล้ว โดยระบุว่า
“แจ้งข่าวด่วนให้ทุกท่านทราบสั้นๆ ก่อนนะคะ วันนี้กกต.มีมติอนุมัติรับรองพรรคอนาคตใหม่เรียบร้อยแล้วค่ะ เดี๋ยวในรายการเฟซบุ๊กไลฟ์ คืนวันศุกร์ให้ประชาชน เราจะพูดถึงเรื่องนี้อย่างละเอียดนะคะ”
ปชป.-ชทพ.ไหลอีก! 'ประมวล เอมเปีย-เกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร' แห่สมัครเข้าภูมิใจไทย
https://www.matichon.co.th/politics/news_1152654
‘ประมวล เอมเปีย’ อดีต ส.ส.ปชป. สมัครสมาชิกภูมิใจไทยแล้ว
วันนี้ (28 ก.ย.) ที่พรรคภูมิใจไทย ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการรับสมัครสมาชิกพรรคว่า มีผู้สนใจเข้าร่วมงานการเมืองกับพรรคทยอยเดินทางเข้ามาสมัครเป็นสมาชิก อาทิ นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร อดีต ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายประมวล เอมเปีย อดีต ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) และนายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ อดีต ส.ส.สุโขทัย พรรคชาติไทยพัฒนา โดยมีนายทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรคให้การต้อนรับ ขณะเดียวกัน มีผู้สนใจเข้าร่วมงานกับพรรคใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกด้วย ทำให้บรรยากาศที่พรรคเป็นไปด้วยความคึกคักเช่นเดียวกับ 2-3 วันที่ผ่านมา