[CR] ทริปฉุกละหุก สิงคโปร์ 34 ชม และ มาเลเซีย 9 ชม พอเอาให้หายอยาก (3 วัน 2 คืน)

ใครเคยแบบอยู่ดีดีก็เบื่อแบบ ไม่ไหวแล้วววว ไหม อยากเททุกอย่าง ออกไปให้ไกล ความรู้สึกของเราคือแบบนี้เลย อยากไปไหนสักที สัก 2 วัน ไปชาร์จแบตตัวเอง แล้วค่อยกลับมาสู้ใหม่ (ภาพทุกภาพ No filter ไม่ใส่สีอะไร ทริปนี้ใช้เงินไปทั้งหมด 7095 บาท รวมกิน เดินทาง ตั๋วเครื่องบิน ตั๋ว Universal ที่พัก ทุกอย่างแล้ว รายละเอียดใต้ล่างค่า)

ทริปนี้เลยเกิดจากความอยากล้วนๆ ตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบินวันพุธแล้วบินวันศุกร์ ราคาตั๋ว เราว่าราคาพอรับได้นะคะ ขาไป 2,300 บาท ใช้ส่วนลด Traveloka ลดไป 300 บาท จาก 2,600 บาท สายการบิน Scoot บิน 22.40 ถึง 02.30 น. บินศุกร์เย็น ส่วนขากลับจองจาก Cheapticket ขาละ 2100 บาท ใช้คูปองลด 200 บาท เหลือ 1900 บาท สายการบิน Malaysia Airline นั่งกดดูเขาให้เลือกเวลา Transit จะเอาแบบ 2 ชม , 6 ชม หรือ 9 ชม เห้ยดีอะเอา 9 ไปเลย ออกไปเที่ยวมาเลได้อีก คุ้ม! ได้อาหารและน้ำหนักกระเป๋าสองรอบเลย สรุปรวมตั๋วไปกลับ 4,200 บาท 2 ประเทศ ไม่แพงอะไรมากมาย

ได้ตั๋วกดจองที่พัก ที่เดียวกับพี่ที่บินไปก่อน มีแต้มค้างอยู่ใน Expedia +กับใช้ส่วนลด KTC จ่ายไปเพียง 199 บาท 1 คืน รวมอาหารเช้า ที่ 5footway.inn boat quey ก่อนไปได้อีเมลล์ไปบอกเจ้าหน้าที่ว่า ขอเตียงนอนล่างนะ เจ้าหน้าที่ตอบกลับมาว่า first come first serve นะยู เออ ทำใจไม่ได้ชั้นล่างแน่นอน TT ไม่เป็นไร ปีนเอา

กดจองตั๋ว Universal จาก KKDAY ประมาณ 1,600 บาท ขอบอกว่า ใช้งานง่ายมาก เปิดมือถือ แล้วแสกนกับเครื่องเอง เข้าสวนสนุกได้แล้ว ไว ไม่ต้องไปต่อคิวเข้าแถวให้เมื่อย

ก่อนเดินทาง ตอนนี้ ติดเป็นนิสัยแล้ว ต้องทำประกันเดินทางตลอด รอบนี้ใช้บริการฟรีของ KTC VISA Cigna ฟรีประกันเดินทาง ก่อนเดินทาง 1 วันเราโทรไปหา Cigna เบอร์ 1758 ขอให้เขาทำประกันเดินทางให้ ไม่ถึง 20 นาที ใบกรมธรรม์ส่งเข้าอีเมลล์เรียบร้อย ประหยัดไปได้ 167 บาท ^^ (ขอฟรีได้ทุกคนที่มีบัตรเครดิต VISA เลยนะคะ)

ยัดของใส่กระเป๋า เตรียมพร้อมออกเดินทาง ส่วนแพลนเดินทางหรอไม่มี 5555+ ไปดูหน้างาน อยากไปไหนก็ไป เหนื่อยก็พัก ไม่ต้องแพลนเพราะไปบ่อย ไปดูรีวิวของเราได้ ทั้งหมดของ Singapore, Malaysia

เลิกงาน 4 โมงเป๊ะ อาบน้ำเรียบร้อยจากที่ทำงาน นั่ง MRT มาลงหมอชิต ขอบอกว่าโครตเบียด แน่นมาก MRT ตอนเลิกงาน โผล่ทางออกขึ้นมา มองหา A1,A2 รถแล่นผ่านหน้าไปพอดี โกยซิคะ วิ่งงงงง คันต่อไปจะมากี่โมงก็ไม่รู้ กระโดดขึ้นรถทันพอดี ไม่มีที่นั่งว่าง โหนรถเมล์ยาวไป ค่าโดยสาร 30 บาท ต่อคน มีใช้แสกนจ่ายได้ด้วย ดีงามจริงๆ รถแล่นผ่านมาแบบต่อเนื่อง ไม่ถึงกับติดมาก แบบที่โดนขู่มา ว่าพี่มันโครตติด บางคนขึ้นมอเตอร์ไซค์กันเลยนะพี่ 555

ไหนไม่เห็นติด มาถึงสนามบินก่อน 6 โมงเย็น ประเด็นคือบิน 22.45 แสดงว่าเกตจะเปิดช่วงก่อน 2 ทุ่มนิดนึง ว่างคะ 2 ชั่วโมงเต็มทำไรดีเนี่ยยยย ก่อนอื่นเราต้องค่าเวลาด้วยการเยี่ยมชม สนามบิน 555 ทั้ง 2 Terminal ให้ขาได้ใช้งานกันสักหน่อย เดินเข้าไปคะ เดินเข้าไป
เห็นป้ายเขียนว่า ร้านอาหารราคาย่อมเยา Magic Food Park ไปลองดูกันว่าย่อมเยาจริงไหม ไหนไหนก็ว่างขนาดนี้แล้ว ไม่เสียหายเนอะ
ป้ายเขาชี้ไปตรง 7-eleven เดินตามลูกศรไป หาไม่ยากคะ เจอแล้ว มีหลายร้านนะคะ ลองมาดู
จัดข้าวราดแกง 2 อย่าง 40 บาท ถูกจริงด้วย ขนาดย่านที่ทำงาน 2 อย่างยัง 45 บาทเลย ถูกแล้วจะอร่อยไหมต้องชิมก่อน ผ่านไหมๆ อร่อยยย หรือหิว 555 เอาเป็นว่ามาลองก็ไม่เสียหายคะ ประหยัดไปได้เยอะเลย ผ่านไปแค่เกือบชม.เอง ไม่รู้จะไปไหนดี หาปลั๊กไฟ ชาร์จมือถือรอเวลา เพลินๆ แปบเดียวใกล้เวลา Check in
ลงมา Counter เบอร์ 5-6 คนยืนรอเพียบแล้ว ขนาดก่อนเวลาเกือบ 20 นาทีนะเนี่ย แต่ Check in ไว เข้าไปรอข้างในกันเถอะ นั่งรอใน lounge กินขนมนิดหน่อย ฆ่าเวลา
พร้อมออกเดินทางสู่ Singapore ไม่ดีเลย์เลย ปลาบปลื้มใจ ^^ ตรงเวลาเป๊ะ เย้!!! ขึ้นเครื่องมา ใหญ่มาก ใช้เครื่อง Boeing ใหญ่ จัดที่นั่ง 3-3-3 ประจำที่ ออกเดินทาง เครื่องขึ้นได้แปลบนึง จะนอนแล้ว ดันโชคร้ายคนข้างหลังคุยกันตลอดเวลาเสียงดังอีก นอนไม่หลับ TT อยากจะหันไปบอกรบกวนคุยกันเบาเบาได้ไหมคะ ไม่อยากรู้ด้วย 555+ แต่กลัวโดนตบเลยทนนอนฟังต่อไป ประกอบกลับขายอาหาร ขายของ เปิดไฟแบบเล่นสี โอเคไม่นอนก็ได้
เสียงประกาศใกล้ Landing แล้วให้ทุกคนเตรียมตัว เครื่องลงจอดได้ไม่น่ากลัว

วันที่ 22 กันยายน 2018
ถึงตอน 02.13 น. เรียกว่าช่วงเวลานี้ถ้าอยู่บนเตียง คงจะหลับลึกน่าดูเลย ไม่เป็นไรเนอะ ปลอบใจตัวเอง นอนพื้นก็หลับได้
ผ่านตม. ออกมา ตรง information เข้าไปขอ free wifi ได้ 3 ชั่วโมง พอดีเด๊ะเวลาที่รอรถไฟเปิด ได้มาแล้วลองเข้า ใช้ได้
หาที่นอนกัน กะว่าจะไปนอนแถวรถไฟฟัาใต้ดิน เห็นเพื่อนนอนกันเพียบ เอาตรงนี้แหละ ปูผ้าและนอน นอนไงก็นอนไม่หลับ ไม่นอนมันเลยแล้วกัน นั่งคอยจนเกือบ ตีห้าลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ล้างหน้าล้างตาทำให้ตัวเองสดชื่น
ลงไปรอเข้าเมือง ซื้อตั๋วรายรอบไม่ได้ใช้บัตรเติมเงิน Ezlink บัตรนี้ใช้ครบสามรอบ ได้ค่าบัตรคืน ใช้ 6 รอบได้เงินคืนอีก 0.1 SG จากสนามบินไปลง Expo 1 สถานี เปลี่ยนสายไปลง สาย Downtown ยิงยาวถึง Chinatown ระหว่างนั่งรถก็หลับๆตื่นๆ ง่วงมากกกกก
Chinatown ออกทางออก A โผล่มาถนนช้อปปิ้ง มืดสนิท ไม่กล้าเดินอะ กลัว 555 ยืนรออยู่แถวนั่น จนฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี ออกก็ได้ ค่อยๆเดิน วันนี้ไม่มี Internet ด้วย โหลด app offline ไว้ ใจคิดระหว่างเดิน เมื่อไรจะถึงว๊าาาา ช้าจังเลย ที่จริงไม่ไกลหรอก แต่ใจเราร้อน อยากถึงไวไว เดินจาก chinatown ได้เลย หรือจะลง Clarke Quey ทางออก E ก็ได้ ไม่ไกล เดินจนถึง 5footway.inn Boat Quey สักที เห็นสองสาว มายืนคอยรับ นางบอกนึกว่าหลงไปไหนละ เข้ามาถึงที่พัก เอาของไปฝากไว้ในห้องสองสาว

พร้อมลุยทันที เย้!!!!! หายง่วงเลย พาทั้งคู่เดินย้อนกลับทางเดิมไปที่ Chinatown Maxwell food center ร้านอาหาร food court เปิด 24 ชั่วโมง เดินได้ไม่ไกล ก่อนจะถึงจะเจอวัดพระเกี้ยวแก้วก่อน หรืออีกชื่อว่า Buddha Tooth Relic วัดพุทธในสิงคโปร์ วัดใหญ่โตอลังการเต็มพื้นที่เลย แต่เรายังไม่แวะ ของไปเอาอะไรใส่ท้องก่อน

ตอนนี้ประมาณ 7 โมงครึ่ง ร้านอาหารยังไม่ค่อยเปิด เราเลยเลือก ร้านโจ๊กและติมซำร้านแรกตรงปากทางเข้า ร้านนี้อร่อย แถมราคาไม่แพงนะคะ
โจ๊กชามละ 3.5 SG เอง ราคาเท่ากันเกือบหมด ไม่ว่าจะปลา หมู รวมเครื่องใน แปลกอีกอย่างถ้าขอพริกเขา เราจะได้เป็นพริกสดๆ 555 แปลกดี

กินเสร็จแวะไปวัดตรงข้าม ค่าเข้าชมฟรี ขอให้เราเดินทางปลอดภัยตลอดที่ทริป

ข้ามถนนมาอีกฝั่งรอรถเมล์ไป Vivo city รถสาย 80 หรือ 145 ได้หมด หรือใครขี้เกียจรอกลับไปขึ้นรถไฟใต้ดินสายสีม่วงไปลง harbourfront  ก็ได้ แค่ 2 ป้ายเท่านั้นเอง ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีในการนั่งรถ เราไม่มีบัตร Ezlink จ่ายเงินสดกับคนขับ 1.5 SG (แถมไม่มีเงินทอนด้วย)