มีวิธีดูสาย SATA ว่าเป็น แบบ 2 หรือ 3

Max Speed ของ Sata2 ประมาณ 300 MB/sec ,ของ Sata1 (150 MB/sec)
รูปแรกสุดของคุณ COpy files จาก HD มา SSD ไม่มีปัญหา
เพราะ SSD มันเขียนได้เร็วกว่า การอ่านของ HD
Limit อยู่ที่การอ่าน จาก HD ประมาณ 100MB /sec ก็ยอมรับได้

ต่อมา
คุณ Copy ข้อมูลจาก SSD มาลง Drive C: ที่ลง Windows ไว้บน SSD อีกตัว มันช้าเพราะ
Drive C: ไม่ได้อิสระ 100% เนื่องจาก Windows เองทั้งเขียนและอ่านจาก C: ด้วย
ที่สำคัญ Cache บน Drive C: มันน้อยพอ Cache เต็มมันก็ช้า
หาวิธีเพิ่ม Write Cache ของ Drive ตัวที่จะเขียนข้อมูล และหลีกเลี่ยงการเขียนข้อมูลลง Drive ที่ลง OS
จะแก้ปัญหาของคุณได้

คุณมี Ram 16 GB ก่อน Copy file แบ่ง Ram มาเป็น Cache สัก 6 GB หรือขนาดประมาณขนาด file ที่จะทำงานด้วย
ปัญหามันก็จะหมดไป

ผมใช้ เครื่องเก่า Pcie2.0 ,Sata2, SSD รุ่นแรกก็เป็น Sata2 สายก็หน้าตาคล้ายของคุณในรูป
HD ก็เก่าแต่ตาม Spec เป็น Sata3 สายที่แถมมากับ Board บน Port ที่เป็น Sata2
คือ Limit ของทั้งสายและ Port อยู่ที่ 300 MB/sec. และ Speed HD รุ่นนี้ไม่ว่าจะเป็น Sata2 หรือ 3 น่าจะประมาณ 150 MB/sec.
และมี M.2 บน Pcie2.0x4


ผม set Cache ให้ HD ประมาณ 6 GB เพราะขนาด file ประมาณนั้น
Speed มันจะถูก Limit โดย Speed ที่อ่านจาก SSD เพราะ SSD มันเร็วที่สุดแค่นั้นตาม SPec ของมัน (Sata2)
file จะถูกอ่านจาก SSD มาเก็บไว้ที่ Cache พออ่านเสร็จ SSD จะอิสระพร้อมทำงานอื่น
HD จะทยอยเขียนลงแผ่นตาม Speed ของมัน ซึ่งช้ามากตาม Spec ของ HD และ HD ยังไม่อิสระจนกว่าจะเขียน file เสร็จ

ต่อมาลอง Copy file จาก M.2 ที่เป็น pcie2.0x4 Read/write Speed ประมาณ 1500 MB/sec
ขนาด file ประมาณ 7 GB ไปที่ HD ตัวเดิมซึ่งกำหนด Cache ไว้ 6 GB
ส่วน M.2 ไม่ได้กำหนดอะไนเพิ่ม

สั้นๆคือ WRite Cache
ถ้าขนาดของ Cache โตพอ มันจะเปลี่ยน Limit ของการ Copy จาก Speed ของการเขียน ไปเป็น Speed ของการอ่าน
เมื่อมาใช้กับ M.2 ซึ่ง Speed ของการอ่านบน Pcie2.0x4 มัน GBกว่า/Sec. เมื่อ Copy file จาก M.2 ไป HD มันจึงเร็วขึ้น

Cache จะใช้ก็เปิดเลิกใช้ก็ปิด ก็จะได้ Ram คืนมาไปทำงานอื่น
ถ้าจะ Copy ทั้ง Drive เป็น 100 เป็น 1000 GB คงต้องใช้วิธีอื่น ยกเว้นมี Ram เป็น 100 เป็น 1000GB เช่นกัน
ผมยังใช้ Sata2 อยู่สายเก่าๆ จะสิบปีแล้วครับ ใช่เหรอ....