สวัสดีนี่ฉันเอง แสงทองใต้หล้า
พวกคุณไม่รู้จักฉันแต่ฉันมีเรื่องจะเล่าให้คุณอ่าน
ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่
ในแต่ละวันฉันจะทั้งมีความสุขและดิ่ง
แต่ส่วนมากคือดิ่ง
ฉันกลายเป็นบุคคลผู้ล้มเหลวในชีวิต
ฉันล้มเหลวหลายอย่าง
ปีที่แล้วฉันพยายามกินยาฆ่าตัวตาย (อาจดูโง่ๆ แต่ฉันกินยาแก้โรคซึมเศร้าที่ได้มาทั้งหมด) แต่บอกไว้ก่อนว่าฉันโง่อีกอย่างคือฉันส่งภาพไปให้เพื่อนเพื่อบอกลา โอเค มีคนมาช่วยฉันได้ทัน
ฉันฟื้นขึ้นมา ความรู้สึกแรกฉันไม่รู้ฉันรู้สึกยังไง ฉันแค่ร้องไห้ตอนเห็นแม่
หลังจากนั้นฉันก็คิดว่าฉันจะมีชีวิตต่อไปเพื่อแม่
แต่...ฉันเริ่มอยากหายไปจากโลกเฮงซวยนี้ก่อนแม่
ฉันคิดว่าหากฉันไปก่อน อย่างน้อยจะมีสักคนที่ยังคิดถึงฉัน
ยังมีคนจำฉันได้...ฉันจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยว ฉันกลัวเหลือเกิน หากในอนาคตฉันต้องใช้ชีวิตคนเดียวโดยไร้ญาติและตายไปโดยไม่มีใครรู้จักฉัน...มันคงแย่และโดดเดี่ยวมาก
ฉันรู้สึกโดดเดี่ยว เหมือนทั้งโลกทอดทิ้งฉันไปแล้ว
ฉันอ้วกเกือบทุกวัน กินอาหารน้อยลง หายใจลำบาก
พอเกิดอาการกลัวทีไร ฉันมักขยับร่างกายไม่ได้ดั่งใจ ฉันต้องหยิบปากกาหัวแหลมๆ มากรีดแขนตัวเอง มันไม่เจ็บเท่าไหร่ แต่ความเจ็บที่เกิดขึ้นชั่วคราวช่วยพาความกลัวหายไปได้...เพียงชั่วคราวเช่นกัน
ถือว่าดีอยู่เพราะฉันดึงสติกลับมาได้บ้างแล้ว
แต่ฉันไม่ได้ไปหาหมอเพราะสิทธิ์ รพ.ฉันอยู่อีกที่
อีกอย่างฉันกลัวว่าหากฉันไปหาหมอ เขาจะมองว่าฉันวอนนาบีโรคซึมเศร้า
ซึ่งฉันไม่อยากถูกคิดอย่างนั้น และสถานะบ้านฉันไม่มีเงินพาฉันไปรักษาแน่หากฉันเกิดป่วยเป็นอะไรจริง มีแต่ฉันจะถูกพ่อด่าเปล่าๆ
ฉันคิดว่าฉันต้องการที่ปรึกษามากกว่า...
มันคงยากกว่าให้ฉันไปหาหมอซะอีก
วันก่อนฉันตัดสินใจล้มเลิกทุกอย่าง
ฉันหาหนทางการมีชีวิตต่อไปไม่ได้แล้ว
ฉันรู้สึกโดดเดี่ยวเกินไป ฉันกลัวสายตาผู้คนด้วย
ฉันส่งข้อความไปหาเพื่อน "ขอกำลังใจหน่อย" เพื่อให้เธอตอบกลับมาสั้นๆ หรือส่งสติ๊กเกอร์โง่ๆ มาให้ฉัน
ซึ่งเธอแค่อ่านมัน...
ไม่มีใครตอบฉัน ไม่มีใครมองเห็นฉัน
ที่ผ่านมาฉันอยู่บนโลกเฮงซวยนี่คนเดียวจริงๆ สินะ
ฉันเหนื่อยเหลือเกิน
ฉันแค่ต้องการให้ใครสักคนอยู่เคียงข้างฉันก่อนฉันจะเดินทางไปที่ไกลแสนไกล
ฉันกลัวว่าหากฉันไปโลกอีกโลกหนึ่ง ฉันจะโดดเดี่ยวอีกครั้ง
ฉันกลัวเหลือเกิน ทุกคนทอดทิ้งฉันแล้ว
ฉันโทรไปที่เบอร์ 1323 เพื่อหวังจะถามพวกเขาว่า
"คุณเคยรับสายจากคนที่บอกว่าคุณจะเป็นคนสุดท้ายที่คุยกับผม(ฉัน)ไหม"
เสียงเพลงรอสายที่ดังคล้อยเป็นทำนองเหมือนพยายามจะกล่อมจิตใจ
ฉันกลับรู้สึกว่าไอ้เสียงเพลงนั่นมันกระตุ้นความกลัวฉัน
รีบๆ รับสายสักที ฉันไม่ไหวแล้ว ขอร้องล่ะ..ใครก็ได้
สุดท้ายไม่มีใครรับสาย ฉันจึงปิดมัน
และถือกรรไกรเพื่อหวังเจาะข้อมือตัวเอง
แต่ดูโง่อีกแล้ว กรรไกรที่ไม่ใช่กรรไกรตัดเนื้อเยื่อไม่คมพอหรอก ฉันแค่รู้สึกเจ็บและกลัวว่าถ้าเลือดออกมาจริงๆ ฉันจะทำไง (ฉันกลัวเลือด)
ฉันเลยเดินไปห้องน้ำเพื่อดูว่าน้ำในถังเต็มยัง แต่น้ำมันไม่ไหล
ฉันขึ้นไปบนดาดฟ้า...และฉันก็ฉุกคิดได้ว่าถ้าฉันตาย ฉันจะอดทำบางสิ่งบางอย่าง
และข้างล่างมีกันสาด ฉันอาจแค่บาดเจ็บสาหัส ดังนั้นอย่าเสี่ยงเลย
ฉันกลับมานอนร้องไห้โง่ๆ ตั้งแต่บ่ายถึงเย็น
ตื่นอีกที ฉันก็ดึงสติตัวเองให้มานั่งทำงานต่อได้
ฉันไม่อยากตายในฐานะ loser ที่ถูกพาดหัวข่าวว่า
"สาววัย 21 เครียด ไม่เรียนมหาลัย ตกงาน บลาๆ"
แต่ฉันอยากหายไปในฐานะ "ผู้กล้าหาญ" ที่ตัดสินใจหาทางออกให้ตัวเอง
ทุกคนจะค้นหาความจริงของการหายตัวไปของฉัน
พยายามเข้าใจฉันมากขึ้น
นั่นแหละสิ่งที่ฉันต้องการ...แต่ฉันว่าตอนนี้คงมีบางคนเริ่มสาปแช่งให้ฉันรีบๆ ไปตายได้แล้ว...
ฉันว่าฉันอาจทำอย่างที่เขาต้องการเร็วๆ นี้หรืออีก 4 ปีเมื่อฉันอายุครบ 25 ปี
ฉันไม่อยากทนเห็นแม่ที่เริ่มแก่...ฉันทนไม่ได้หากสักวันฉันจะเสียท่านไป
สู้ฉันไปก่อนท่านคงดีสักกว่า...
พิมพ์ถึงตรงนี้น้ำตาฉันเริ่มไหลอีกแล้ว
หากพวกคุณสงสัยว่าการที่ฉันมาตั้งกระทู้งี่เง่านี้ทำไม
อย่าว่าฉันหากฉันจะพูดจากใจจริงไม่อ้อมค้อมแล้ว เพราะฉันทนไม่ไหวจริงๆ...
.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ได้โปรดรับฟังปัญหาของฉัน ช่วยฉันหาทางออก
อย่านำฉันไปเปรียบกับใครที่ชีวิตแย่กว่า ขอร้องล่ะ ฉันไม่ใช่พวกเขา ฉันมองคนอื่นมาเปรียบตัวเองไม่ไหวแล้ว...ช่วยฉันด้วย
การที่ฉันแท็กนักจิตวิทยา ฉันแค่หวังว่าพวกเขาอาจรู้ว่าฉันกำลังเป็นอะไร
หากผิดพลาดประการใดขออภัยอย่างสูง
สวัสดีฉันเอง
พวกคุณไม่รู้จักฉันแต่ฉันมีเรื่องจะเล่าให้คุณอ่าน
ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่
ในแต่ละวันฉันจะทั้งมีความสุขและดิ่ง
แต่ส่วนมากคือดิ่ง
ฉันกลายเป็นบุคคลผู้ล้มเหลวในชีวิต
ฉันล้มเหลวหลายอย่าง
ปีที่แล้วฉันพยายามกินยาฆ่าตัวตาย (อาจดูโง่ๆ แต่ฉันกินยาแก้โรคซึมเศร้าที่ได้มาทั้งหมด) แต่บอกไว้ก่อนว่าฉันโง่อีกอย่างคือฉันส่งภาพไปให้เพื่อนเพื่อบอกลา โอเค มีคนมาช่วยฉันได้ทัน
ฉันฟื้นขึ้นมา ความรู้สึกแรกฉันไม่รู้ฉันรู้สึกยังไง ฉันแค่ร้องไห้ตอนเห็นแม่
หลังจากนั้นฉันก็คิดว่าฉันจะมีชีวิตต่อไปเพื่อแม่
แต่...ฉันเริ่มอยากหายไปจากโลกเฮงซวยนี้ก่อนแม่
ฉันคิดว่าหากฉันไปก่อน อย่างน้อยจะมีสักคนที่ยังคิดถึงฉัน
ยังมีคนจำฉันได้...ฉันจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยว ฉันกลัวเหลือเกิน หากในอนาคตฉันต้องใช้ชีวิตคนเดียวโดยไร้ญาติและตายไปโดยไม่มีใครรู้จักฉัน...มันคงแย่และโดดเดี่ยวมาก
ฉันรู้สึกโดดเดี่ยว เหมือนทั้งโลกทอดทิ้งฉันไปแล้ว
ฉันอ้วกเกือบทุกวัน กินอาหารน้อยลง หายใจลำบาก
พอเกิดอาการกลัวทีไร ฉันมักขยับร่างกายไม่ได้ดั่งใจ ฉันต้องหยิบปากกาหัวแหลมๆ มากรีดแขนตัวเอง มันไม่เจ็บเท่าไหร่ แต่ความเจ็บที่เกิดขึ้นชั่วคราวช่วยพาความกลัวหายไปได้...เพียงชั่วคราวเช่นกัน
ถือว่าดีอยู่เพราะฉันดึงสติกลับมาได้บ้างแล้ว
แต่ฉันไม่ได้ไปหาหมอเพราะสิทธิ์ รพ.ฉันอยู่อีกที่
อีกอย่างฉันกลัวว่าหากฉันไปหาหมอ เขาจะมองว่าฉันวอนนาบีโรคซึมเศร้า
ซึ่งฉันไม่อยากถูกคิดอย่างนั้น และสถานะบ้านฉันไม่มีเงินพาฉันไปรักษาแน่หากฉันเกิดป่วยเป็นอะไรจริง มีแต่ฉันจะถูกพ่อด่าเปล่าๆ
ฉันคิดว่าฉันต้องการที่ปรึกษามากกว่า...
มันคงยากกว่าให้ฉันไปหาหมอซะอีก
วันก่อนฉันตัดสินใจล้มเลิกทุกอย่าง
ฉันหาหนทางการมีชีวิตต่อไปไม่ได้แล้ว
ฉันรู้สึกโดดเดี่ยวเกินไป ฉันกลัวสายตาผู้คนด้วย
ฉันส่งข้อความไปหาเพื่อน "ขอกำลังใจหน่อย" เพื่อให้เธอตอบกลับมาสั้นๆ หรือส่งสติ๊กเกอร์โง่ๆ มาให้ฉัน
ซึ่งเธอแค่อ่านมัน...
ไม่มีใครตอบฉัน ไม่มีใครมองเห็นฉัน
ที่ผ่านมาฉันอยู่บนโลกเฮงซวยนี่คนเดียวจริงๆ สินะ
ฉันเหนื่อยเหลือเกิน
ฉันแค่ต้องการให้ใครสักคนอยู่เคียงข้างฉันก่อนฉันจะเดินทางไปที่ไกลแสนไกล
ฉันกลัวว่าหากฉันไปโลกอีกโลกหนึ่ง ฉันจะโดดเดี่ยวอีกครั้ง
ฉันกลัวเหลือเกิน ทุกคนทอดทิ้งฉันแล้ว
ฉันโทรไปที่เบอร์ 1323 เพื่อหวังจะถามพวกเขาว่า
"คุณเคยรับสายจากคนที่บอกว่าคุณจะเป็นคนสุดท้ายที่คุยกับผม(ฉัน)ไหม"
เสียงเพลงรอสายที่ดังคล้อยเป็นทำนองเหมือนพยายามจะกล่อมจิตใจ
ฉันกลับรู้สึกว่าไอ้เสียงเพลงนั่นมันกระตุ้นความกลัวฉัน
รีบๆ รับสายสักที ฉันไม่ไหวแล้ว ขอร้องล่ะ..ใครก็ได้
สุดท้ายไม่มีใครรับสาย ฉันจึงปิดมัน
และถือกรรไกรเพื่อหวังเจาะข้อมือตัวเอง
แต่ดูโง่อีกแล้ว กรรไกรที่ไม่ใช่กรรไกรตัดเนื้อเยื่อไม่คมพอหรอก ฉันแค่รู้สึกเจ็บและกลัวว่าถ้าเลือดออกมาจริงๆ ฉันจะทำไง (ฉันกลัวเลือด)
ฉันเลยเดินไปห้องน้ำเพื่อดูว่าน้ำในถังเต็มยัง แต่น้ำมันไม่ไหล
ฉันขึ้นไปบนดาดฟ้า...และฉันก็ฉุกคิดได้ว่าถ้าฉันตาย ฉันจะอดทำบางสิ่งบางอย่าง
และข้างล่างมีกันสาด ฉันอาจแค่บาดเจ็บสาหัส ดังนั้นอย่าเสี่ยงเลย
ฉันกลับมานอนร้องไห้โง่ๆ ตั้งแต่บ่ายถึงเย็น
ตื่นอีกที ฉันก็ดึงสติตัวเองให้มานั่งทำงานต่อได้
ฉันไม่อยากตายในฐานะ loser ที่ถูกพาดหัวข่าวว่า
"สาววัย 21 เครียด ไม่เรียนมหาลัย ตกงาน บลาๆ"
แต่ฉันอยากหายไปในฐานะ "ผู้กล้าหาญ" ที่ตัดสินใจหาทางออกให้ตัวเอง
ทุกคนจะค้นหาความจริงของการหายตัวไปของฉัน
พยายามเข้าใจฉันมากขึ้น
นั่นแหละสิ่งที่ฉันต้องการ...แต่ฉันว่าตอนนี้คงมีบางคนเริ่มสาปแช่งให้ฉันรีบๆ ไปตายได้แล้ว...
ฉันว่าฉันอาจทำอย่างที่เขาต้องการเร็วๆ นี้หรืออีก 4 ปีเมื่อฉันอายุครบ 25 ปี
ฉันไม่อยากทนเห็นแม่ที่เริ่มแก่...ฉันทนไม่ได้หากสักวันฉันจะเสียท่านไป
สู้ฉันไปก่อนท่านคงดีสักกว่า...
พิมพ์ถึงตรงนี้น้ำตาฉันเริ่มไหลอีกแล้ว
หากพวกคุณสงสัยว่าการที่ฉันมาตั้งกระทู้งี่เง่านี้ทำไม
อย่าว่าฉันหากฉันจะพูดจากใจจริงไม่อ้อมค้อมแล้ว เพราะฉันทนไม่ไหวจริงๆ...
.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
การที่ฉันแท็กนักจิตวิทยา ฉันแค่หวังว่าพวกเขาอาจรู้ว่าฉันกำลังเป็นอะไร
หากผิดพลาดประการใดขออภัยอย่างสูง