สวัสดีค่า
วันที่ 12-16 ก.ย. 2561 ที่ผ่านมาเราไปเที่ยวโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
เป็นการเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก และเที่ยวด้วยตัวเอง เลยอยากจะมาแชร์จ้า
เริ่มเลยละกันเนอะ
ทริปนี้เราไปกันสองคนกับแฟน ไม่เคยไปญี่ปุ่นทั้งคู่นะ เราจองตั๋วเครื่องบินของแอร์เอเชียเอ็กซ์ ทั้งไป-กลับ ราคาต่อคนอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาท (รวมอาหาร,น้ำหนักกระเป๋า 20 กิโล,ประกันกระเป๋าล่าช้า) เที่ยวบิน XJ600 วันที่ 11 ก.ย. เคาน์เตอร์เปิดให้เช็คอิน+โหลดกระเป๋าตอนเวลา 20.45 น. เที่ยวบินนี้อยู่ที่ Row 4 แนะนำว่าให้ทำ Web check in กันมาก่อนเลย เพราะจะมีกรุ๊ปทัวร์ที่มาก่อน คนเยอะมาก ส่วนเราเช็คอินมาแล้วเลยรออีกแถวแค่ 3-4 คิว เท่านั้น ขึ้นเครื่องเวลา 23.45 น.
แต่ช่วงวันที่ 11 ก.ย. ที่ต้องเดินทางตอนกลางคืน เราอาหารเป็นพิษ ทั้งอาเจียนและท้องเสีย ทำให้ไม่มีภาพช่วงแรกนะคะ ตัดมาที่ตอนลงเครื่องเลยละกัน ถึงญี่ปุ่นวันที่ 12 ก.ย. ช่วง 8.00 น. เดินตามกันไปเรื่อยๆ มาที่ตม. ไม่ถามอะไรเลย มองหน้าเฉยๆ เราพาสปอร์ตขาว ไม่เคยเดินทางมาก่อน ก็ไม่พูดซักคำ แต่เราเตรียมพวกเอกสารต่างๆไปนะ เช่น หนังสือรับรองจากที่ทำงาน แพลนเที่ยว เช็คอิน
ไฟล์ทขากลับ พอถึงศุลกากร ตรวจกระเป๋าก็ไม่ถามเลยเช่นกัน ไม่เปิดกระเป๋าด้วย โชคดีมาก ทำให้ผ่านออกมาอย่างรวดเร็ว
เราเดินทางเข้าเมืองด้วย Keisei Main line แบบถูกสุด ลงที่สถานี Ueno แล้วต่อไปที่รถไฟใต้ดิน Metro สาย Ginza ลงสถานี G18 Tawaramachi เราพักที่โรงแรม Agora Place Asakusa ควรออกทางออก 1 เพราะมีลิฟท์และใกล้สุด แต่วันนั้นพอไปถึงปรับปรุงจ้าา เลยต้องใช้ทางออกอีกทาง ส่วนวันเดินทางทั่วไป เราใช้ทางออก 3 เพราะว่าพอเอาเข้าจริงลงจากรถไฟมาปุ๊ปเราจะอยู่ใกล้ทางออก 3 มากกว่า ทางออก 2 มันต้องวนในสถานีอะ แล้วเดินขึ้นลงบันไดมากกว่า
โรงแรมนี้เราจองห้องได้ในราคา 11,734.76 บาท เป็นห้องเตียงคู่ นอนที่นี่ 4 คืนรวด ที่พักดี พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ ข้อดีอีกอย่างคือ เราไปถึงก่อนเวลาเช็คอิน เค้าให้เช็คอินได้ 15.00 น. เราไปถึง 10.30 น. เค้าให้เราฝากกระเป๋าเดินทางไว้ก่อนได้ ไม่คิดเงินเพิ่มด้วย สามารถเที่ยวต่อได้สบาย การเดินทางของทริปนี้ทั้งหมดส่วนใหญ่เราจะใช้ Tokyo Metro Pass นะ
Day 1
ที่แรกที่เราจะไปคือ ร้าน Irokawa Asakusa ใช้ Tokyo Metro G18 > G19 exit 2
ไปถึงร้านเวลา 11.30 น. ร้านเปิดพอดี มีคนมารออยู่ก่อนหน้าแล้ว ทำให้ต้องรอรอบสอง เป็นมื้อแรกที่โตเกียว ประทับใจมาก ฟิน
ปลาไหลอร่อย ข้าวดี เราสั่งแบบ Regular
ต่อด้วยไอติมชาเขียวเบอร์ 7 แห่งร้าน Suzukien
ขมมากกก ส่วนตัวคิดว่าไปถึงแล้วก็ควรลองสักครั้ง แต่ครั้งเดียวพอนะ 5555
จากนั้นก็เดินไปวัดเซนโซจิ เพื่อนฝากซื้อเครื่องรางเรื่องการเงิน แต่หมดจ้าาา เนื่องจากเป็นที่ต้องการของตลาดทั่วโลก
เสร็จแล้วก็เดินทางไปดูกัมดั้มที่เกาะโอไดบะ
เราเดินทางจาก Asakusa ไป สถานี Daiba แบบนี้
Toei Asakusa line A18 > A10
Yurikamome line U01 > U07
พอช่วงห้าโมงเย็นก็จะมีโชว์กัมดั้ม แต่ตอนนั้นยังไม่ถึงเวลา เลยหาอะไรกินกันก่อน
พวกเราเลือกร้านโซบะที่อยู่ชั้นบน ของเราโซบะกุ้งเทมปุระ รสชาติคือเค็ม แบบเค็มอย่างเดียวเลย
แต่โซบะเย็นของแฟนโอเค รสชาติใช้ได้
เดินทางกลับโรงแรม
Yurikamome line U07 > U01
Ginza line G08 > G18
ระหว่างที่ต้องเปลี่ยนสาย เจอร้าน beard papa's เราแวะซื้อเพื่อเอากลับไปกินที่ห้อง
พนักงานน่ารักมาก ขนาดซื้อแค่ชิ้นเดียวเค้ายังให้ถุงความเย็นมาให้
ไม่รู้ว่าเป็นนโยบายบริษัทหรือป่าวนะ แต่เราว่าเค้าใส่ใจความอร่อยของขนมและผู้บริโภคดี
Day 2
เดินทางไป Kawagoe โดยเราต้องไปที่สถานี Ikebukuro ก่อน
G18 > G09
M16 > M25
แต่ขอแวะกินราเมงร้าน Mutekiya ก่อนจ้า ใช้ทางออก East จากนั้นเปิดกูเกิ้ลเดินตามเลย
พอถึงร้าน ตอนที่เราไปคิวยังไม่เยอะเท่าไรนะ รอประมาณ 20-30 นาทีมั้ง
ที่ร้านมีเมนูภาษาไทย อ่านได้ สบายมาก เพิ่มเส้นฟรีด้วยนะ
แนะนำราเมงหมู 1 ปอนด์ หมูเยอะเป็นภูเขา 5555 แล้วแฟนเราสั่งเพิ่มเส้นเข้าไปอีก แต่กินหมดนะ สุดยอดดดด
จากนั้นก็เดินกลับไปที่สถานี Ikebukuro เหมือนเดิม เพื่อไปซื้อ Kawagoe discount pass premium ที่เคาน์เตอร์ Tobu ราคาอยู่ที่คนละ 950 เยน
ขึ้นชานชาลาที่ 2 เลือกขบวนที่เป็น Express/Rapid/Rapid Expess จะได้ไปถึงไว เพราะรถไฟจะจอดแค่บางสถานี นั่งจาก TJ01 > TJ21
พอถึงแล้วใช้ทางออก East exit จะมองเห็นห้าง atre อยู่ใกล้บันไดทางลง ขึ้นรถบัสสายที่ 1 ไปลง Fuda-no-tsuji (W8) ไวกว่าสาย 3 เนื่องจากสาย 3 เป็นรถที่พานั่งชมเมือง จะอ้อมกว่า ถ้าใครต้องการตรงดิ่งไปที่ย่านขนม ไปสาย 1 ไวสุด
รายละเอียดหาได้จาก
http://www.tobu.co.jp/foreign/th/news/20180202.html
เดินเล่นไปเรื่อย เจอร้านไหนน่าสนใจก็แวะเลย (ส่วนใหญ่ร้านขนมค่ะ 5555)
อย่างร้านนี้เราไม่รู้ว่าคือขนมอะไร เห็นแค่ว่ามีเลขหนึ่ง คิดว่าต้องอร่อยที่สุด เดาล้วนๆ
พอชิมแล้วรู้สึกว่าเค้าให้ไส้ครีมน้อยเกินไป แต่แป้งอร่อยนะ
ต่อด้วยร้านไอติมชาเขียว คราวนี้มีประสบการณ์ด้านความขมจากร้าน Suzukien แล้ว เลยขอทานแบบปกติบ้าง
ซึ่งอร่อยมาก กำลังดี ขนาดแบบธรรมดา เราว่ายังเข้มข้นกว่าชาเขียวบ้านเราอีกนะ
ขอพักไว้แต่เพียงเท่านี้ เดี๋ยวมาต่อค่ะ ยังไม่จบ Day 2 ง่ายๆ
Continue Part DAY 2
หลังจากเราเดินย่านขนมกันครบแล้ว แฟนเราบ่นตั้งแต่เช้าว่าวันนี้ถ้ามีเวลาเหลือ อยากไปย่าน Nakano ซึ่งตอนแรกก็ไม่รู้ว่าคืออะไร สรุปเลยคือย่านที่ขายของเล่น หุ่นยนต์เด็กผู้ชาย คล้ายๆสะพานเหล็กบ้านเราทั้งตึก (แต่บางชั้นก็มีขายพวกนาฬิกา เครื่องประดับนะ)
เรื่องการเดินทาง เรานั่งรถบัสกลับไปสถานี Kawagoe จากนั้นนั่งรถไฟกลับไปที่สถานี Ikebukuro
JR Yamanote line JY13 > JY17
JR Chuo line JC05 > JC06
พอพี่ผู้ชายเค้าได้สิ่งที่ต้องการแล้ว เราก็เดินทางกลับโรงแรมก่อนเพื่อเอาของไปเก็บแล้วค่อยออกไปหาอะไรกิน ร้านที่เราจะไปกันก็คือ Isomaru Suisan สาขา Ueno ร้านปิ้งย่างที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง จากโรงแรมไปย่าน Ueno แค่สองสถานีเท่านั้น เลยชิวมาก ร้านนี้เค้ามีแท็ปแล็ตให้นะ กดเลือกภาษาอังกฤษได้ ไม่งง สั่งง่ายสบายบรื้อ พอเราออเดอร์อาหารไปแล้ว เค้าก็จะเอาเมนูเรียกน้ำย่อยมาให้ก่อนเลย ไว้กินรออาหารที่สั่ง เราได้แบบนี้มา ก้อนกลมๆ ตอนแรกนึกว่าเป็นโมจิ แต่คือ ลูกชิ้น
ไปดูเมนูที่เราสั่งกันดีกว่า เริ่มที่ ปลาซาบะดองรนไฟ รสชาติไม่เค็มเท่าบ้านเรานะ ออกหวานกว่าด้วย เราว่ากำลังดี กินเพลิน
สั่งหอยเชลล์ 2 อัน รสชาติเราว่ากลางๆ ไม่ได้พีคอะไรมาก สดดี หอยใหญ่จริง
ซาซิมิรวม จานนี้ 1,000 เยน เราว่าคุ้มนะ กุ้งหวานจริง ปลาด้านขวาก็อร่อย เราไม่รู้ว่าชื่อไร
สิ่งที่ขาดไม่ได้ มาแล้วต้องลองคือ คานิมิโซะ
หมูก้อนย่าง ไม่ต้องสั่งก็ได้นะ มันเฉยๆ 5555
Day 3
ลืมบอกว่าที่โรงแรม Agora place Asakusa ในห้องจะมีมือถือสมาร์ทโฟนอยู่ เราสามารถหยิบออกมาใช้ได้นะ ใช้เปิดกูเกิ้ลดูเส้นทางมีประโยชน์มาก ประหยัดเน็ตและแบตมือถือของเราด้วย สามารถโทรฟรีด้วย แต่ไม่กล้าโทรอยู่ดีอะ กลัวคิดเงินเพิ่ม 5555
วันนี้เราจะไปตลาดปลาซึกิจิ
G18 > G15
E09 > E18 Toei Oedo line exit A1

ไปหาอะไรกินเล่นดีกว่า แล้วค่อยไปกินจริงจัง ร้านแรกที่แวะซื้อคือ หอยเชลล์ย่าง ตัวใหญ่มาก
ไข่หวาน ที่จริงจะหาร้านที่เค้าแนะนำกันนะ แต่หาไม่เจอเลยซื้อซักร้านนึง พอกินหมดเท่านั้นแหละ อยู่ตรงข้ามเลยจ้ะ บ้าบอ เรื่องรสชาติ หวานเหมือนกินขนมอะ ไม่ได้หวานเจี๊ยบนะ ลืมว่าเป็นของคาวเลย
ต่อที่หอยอีกครั้ง แต่เป็นหองนางรม ครั้งนี้ให้แฟนกินคนเดียว เพราะเราเพิ่งท้องเสียมา ไม่กล้าลอง เลือกตัวราคา 600 เยน
แวะซื้อกาแฟ ของย่างไม้ละ 200 เยน
พอเราเดินไปเรื่อยๆ ไม่รู้จะกินไรแล้ว เลยมาจบที่ร้านซูชิร้านนึง ลุงคนขายแกเรียก มีโปรโมชั่นหน้าร้านคือเซตละ 1,500 เยน ราคาไม่แรง อีกอย่างคือเดินกินมาบ้างแล้ว เลยเข้าไปกัน
จากนั้นเราก็ไป Tokyo Onepiece Tower
E18 > E21
ค่าตั๋วถ้าจำไม่ผิดอยู่ที่คนละ 3,200 เยน เราซื้อข้างหน้าเลย สามารถอยู่ได้ทั้งวัน เอาจริงๆ เรายังไม่รู้เลยว่าตัวละครชื่ออะไร ชอบโชว์อันที่เป็นการแสดง สนุกดี ขนาดไม่รู้จัก ส่วนข้างในก็จะมีเกมต่างๆให้เข้าไปเล่น ฟรีบ้าง เสียตังบ้าง
ไปต่อกันที่ย่านแห่งโอตาคุ Akihabara
E21 > E23
H04 > H15
[CR] โตเกียวหน้าร้อน ตระเวนกินตามลายแทง
วันที่ 12-16 ก.ย. 2561 ที่ผ่านมาเราไปเที่ยวโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
เป็นการเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก และเที่ยวด้วยตัวเอง เลยอยากจะมาแชร์จ้า
เริ่มเลยละกันเนอะ
ทริปนี้เราไปกันสองคนกับแฟน ไม่เคยไปญี่ปุ่นทั้งคู่นะ เราจองตั๋วเครื่องบินของแอร์เอเชียเอ็กซ์ ทั้งไป-กลับ ราคาต่อคนอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาท (รวมอาหาร,น้ำหนักกระเป๋า 20 กิโล,ประกันกระเป๋าล่าช้า) เที่ยวบิน XJ600 วันที่ 11 ก.ย. เคาน์เตอร์เปิดให้เช็คอิน+โหลดกระเป๋าตอนเวลา 20.45 น. เที่ยวบินนี้อยู่ที่ Row 4 แนะนำว่าให้ทำ Web check in กันมาก่อนเลย เพราะจะมีกรุ๊ปทัวร์ที่มาก่อน คนเยอะมาก ส่วนเราเช็คอินมาแล้วเลยรออีกแถวแค่ 3-4 คิว เท่านั้น ขึ้นเครื่องเวลา 23.45 น.
แต่ช่วงวันที่ 11 ก.ย. ที่ต้องเดินทางตอนกลางคืน เราอาหารเป็นพิษ ทั้งอาเจียนและท้องเสีย ทำให้ไม่มีภาพช่วงแรกนะคะ ตัดมาที่ตอนลงเครื่องเลยละกัน ถึงญี่ปุ่นวันที่ 12 ก.ย. ช่วง 8.00 น. เดินตามกันไปเรื่อยๆ มาที่ตม. ไม่ถามอะไรเลย มองหน้าเฉยๆ เราพาสปอร์ตขาว ไม่เคยเดินทางมาก่อน ก็ไม่พูดซักคำ แต่เราเตรียมพวกเอกสารต่างๆไปนะ เช่น หนังสือรับรองจากที่ทำงาน แพลนเที่ยว เช็คอิน
ไฟล์ทขากลับ พอถึงศุลกากร ตรวจกระเป๋าก็ไม่ถามเลยเช่นกัน ไม่เปิดกระเป๋าด้วย โชคดีมาก ทำให้ผ่านออกมาอย่างรวดเร็ว
เราเดินทางเข้าเมืองด้วย Keisei Main line แบบถูกสุด ลงที่สถานี Ueno แล้วต่อไปที่รถไฟใต้ดิน Metro สาย Ginza ลงสถานี G18 Tawaramachi เราพักที่โรงแรม Agora Place Asakusa ควรออกทางออก 1 เพราะมีลิฟท์และใกล้สุด แต่วันนั้นพอไปถึงปรับปรุงจ้าา เลยต้องใช้ทางออกอีกทาง ส่วนวันเดินทางทั่วไป เราใช้ทางออก 3 เพราะว่าพอเอาเข้าจริงลงจากรถไฟมาปุ๊ปเราจะอยู่ใกล้ทางออก 3 มากกว่า ทางออก 2 มันต้องวนในสถานีอะ แล้วเดินขึ้นลงบันไดมากกว่า
โรงแรมนี้เราจองห้องได้ในราคา 11,734.76 บาท เป็นห้องเตียงคู่ นอนที่นี่ 4 คืนรวด ที่พักดี พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ ข้อดีอีกอย่างคือ เราไปถึงก่อนเวลาเช็คอิน เค้าให้เช็คอินได้ 15.00 น. เราไปถึง 10.30 น. เค้าให้เราฝากกระเป๋าเดินทางไว้ก่อนได้ ไม่คิดเงินเพิ่มด้วย สามารถเที่ยวต่อได้สบาย การเดินทางของทริปนี้ทั้งหมดส่วนใหญ่เราจะใช้ Tokyo Metro Pass นะ
ไปถึงร้านเวลา 11.30 น. ร้านเปิดพอดี มีคนมารออยู่ก่อนหน้าแล้ว ทำให้ต้องรอรอบสอง เป็นมื้อแรกที่โตเกียว ประทับใจมาก ฟิน
ปลาไหลอร่อย ข้าวดี เราสั่งแบบ Regular
ขมมากกก ส่วนตัวคิดว่าไปถึงแล้วก็ควรลองสักครั้ง แต่ครั้งเดียวพอนะ 5555
เราเดินทางจาก Asakusa ไป สถานี Daiba แบบนี้
Toei Asakusa line A18 > A10
Yurikamome line U01 > U07
พวกเราเลือกร้านโซบะที่อยู่ชั้นบน ของเราโซบะกุ้งเทมปุระ รสชาติคือเค็ม แบบเค็มอย่างเดียวเลย
แต่โซบะเย็นของแฟนโอเค รสชาติใช้ได้
Yurikamome line U07 > U01
Ginza line G08 > G18
ระหว่างที่ต้องเปลี่ยนสาย เจอร้าน beard papa's เราแวะซื้อเพื่อเอากลับไปกินที่ห้อง
พนักงานน่ารักมาก ขนาดซื้อแค่ชิ้นเดียวเค้ายังให้ถุงความเย็นมาให้
ไม่รู้ว่าเป็นนโยบายบริษัทหรือป่าวนะ แต่เราว่าเค้าใส่ใจความอร่อยของขนมและผู้บริโภคดี
G18 > G09
M16 > M25
แต่ขอแวะกินราเมงร้าน Mutekiya ก่อนจ้า ใช้ทางออก East จากนั้นเปิดกูเกิ้ลเดินตามเลย
พอถึงร้าน ตอนที่เราไปคิวยังไม่เยอะเท่าไรนะ รอประมาณ 20-30 นาทีมั้ง
ที่ร้านมีเมนูภาษาไทย อ่านได้ สบายมาก เพิ่มเส้นฟรีด้วยนะ
แนะนำราเมงหมู 1 ปอนด์ หมูเยอะเป็นภูเขา 5555 แล้วแฟนเราสั่งเพิ่มเส้นเข้าไปอีก แต่กินหมดนะ สุดยอดดดด
จากนั้นก็เดินกลับไปที่สถานี Ikebukuro เหมือนเดิม เพื่อไปซื้อ Kawagoe discount pass premium ที่เคาน์เตอร์ Tobu ราคาอยู่ที่คนละ 950 เยน
ขึ้นชานชาลาที่ 2 เลือกขบวนที่เป็น Express/Rapid/Rapid Expess จะได้ไปถึงไว เพราะรถไฟจะจอดแค่บางสถานี นั่งจาก TJ01 > TJ21
พอถึงแล้วใช้ทางออก East exit จะมองเห็นห้าง atre อยู่ใกล้บันไดทางลง ขึ้นรถบัสสายที่ 1 ไปลง Fuda-no-tsuji (W8) ไวกว่าสาย 3 เนื่องจากสาย 3 เป็นรถที่พานั่งชมเมือง จะอ้อมกว่า ถ้าใครต้องการตรงดิ่งไปที่ย่านขนม ไปสาย 1 ไวสุด
รายละเอียดหาได้จาก http://www.tobu.co.jp/foreign/th/news/20180202.html
อย่างร้านนี้เราไม่รู้ว่าคือขนมอะไร เห็นแค่ว่ามีเลขหนึ่ง คิดว่าต้องอร่อยที่สุด เดาล้วนๆ
พอชิมแล้วรู้สึกว่าเค้าให้ไส้ครีมน้อยเกินไป แต่แป้งอร่อยนะ
ต่อด้วยร้านไอติมชาเขียว คราวนี้มีประสบการณ์ด้านความขมจากร้าน Suzukien แล้ว เลยขอทานแบบปกติบ้าง
ซึ่งอร่อยมาก กำลังดี ขนาดแบบธรรมดา เราว่ายังเข้มข้นกว่าชาเขียวบ้านเราอีกนะ
ขอพักไว้แต่เพียงเท่านี้ เดี๋ยวมาต่อค่ะ ยังไม่จบ Day 2 ง่ายๆ
Continue Part DAY 2
หลังจากเราเดินย่านขนมกันครบแล้ว แฟนเราบ่นตั้งแต่เช้าว่าวันนี้ถ้ามีเวลาเหลือ อยากไปย่าน Nakano ซึ่งตอนแรกก็ไม่รู้ว่าคืออะไร สรุปเลยคือย่านที่ขายของเล่น หุ่นยนต์เด็กผู้ชาย คล้ายๆสะพานเหล็กบ้านเราทั้งตึก (แต่บางชั้นก็มีขายพวกนาฬิกา เครื่องประดับนะ)
เรื่องการเดินทาง เรานั่งรถบัสกลับไปสถานี Kawagoe จากนั้นนั่งรถไฟกลับไปที่สถานี Ikebukuro
JR Yamanote line JY13 > JY17
JR Chuo line JC05 > JC06
พอพี่ผู้ชายเค้าได้สิ่งที่ต้องการแล้ว เราก็เดินทางกลับโรงแรมก่อนเพื่อเอาของไปเก็บแล้วค่อยออกไปหาอะไรกิน ร้านที่เราจะไปกันก็คือ Isomaru Suisan สาขา Ueno ร้านปิ้งย่างที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง จากโรงแรมไปย่าน Ueno แค่สองสถานีเท่านั้น เลยชิวมาก ร้านนี้เค้ามีแท็ปแล็ตให้นะ กดเลือกภาษาอังกฤษได้ ไม่งง สั่งง่ายสบายบรื้อ พอเราออเดอร์อาหารไปแล้ว เค้าก็จะเอาเมนูเรียกน้ำย่อยมาให้ก่อนเลย ไว้กินรออาหารที่สั่ง เราได้แบบนี้มา ก้อนกลมๆ ตอนแรกนึกว่าเป็นโมจิ แต่คือ ลูกชิ้น
ไปดูเมนูที่เราสั่งกันดีกว่า เริ่มที่ ปลาซาบะดองรนไฟ รสชาติไม่เค็มเท่าบ้านเรานะ ออกหวานกว่าด้วย เราว่ากำลังดี กินเพลิน
สั่งหอยเชลล์ 2 อัน รสชาติเราว่ากลางๆ ไม่ได้พีคอะไรมาก สดดี หอยใหญ่จริง
ซาซิมิรวม จานนี้ 1,000 เยน เราว่าคุ้มนะ กุ้งหวานจริง ปลาด้านขวาก็อร่อย เราไม่รู้ว่าชื่อไร
สิ่งที่ขาดไม่ได้ มาแล้วต้องลองคือ คานิมิโซะ
หมูก้อนย่าง ไม่ต้องสั่งก็ได้นะ มันเฉยๆ 5555
ลืมบอกว่าที่โรงแรม Agora place Asakusa ในห้องจะมีมือถือสมาร์ทโฟนอยู่ เราสามารถหยิบออกมาใช้ได้นะ ใช้เปิดกูเกิ้ลดูเส้นทางมีประโยชน์มาก ประหยัดเน็ตและแบตมือถือของเราด้วย สามารถโทรฟรีด้วย แต่ไม่กล้าโทรอยู่ดีอะ กลัวคิดเงินเพิ่ม 5555
G18 > G15
E09 > E18 Toei Oedo line exit A1
ไปหาอะไรกินเล่นดีกว่า แล้วค่อยไปกินจริงจัง ร้านแรกที่แวะซื้อคือ หอยเชลล์ย่าง ตัวใหญ่มาก
ไข่หวาน ที่จริงจะหาร้านที่เค้าแนะนำกันนะ แต่หาไม่เจอเลยซื้อซักร้านนึง พอกินหมดเท่านั้นแหละ อยู่ตรงข้ามเลยจ้ะ บ้าบอ เรื่องรสชาติ หวานเหมือนกินขนมอะ ไม่ได้หวานเจี๊ยบนะ ลืมว่าเป็นของคาวเลย
ต่อที่หอยอีกครั้ง แต่เป็นหองนางรม ครั้งนี้ให้แฟนกินคนเดียว เพราะเราเพิ่งท้องเสียมา ไม่กล้าลอง เลือกตัวราคา 600 เยน
แวะซื้อกาแฟ ของย่างไม้ละ 200 เยน
พอเราเดินไปเรื่อยๆ ไม่รู้จะกินไรแล้ว เลยมาจบที่ร้านซูชิร้านนึง ลุงคนขายแกเรียก มีโปรโมชั่นหน้าร้านคือเซตละ 1,500 เยน ราคาไม่แรง อีกอย่างคือเดินกินมาบ้างแล้ว เลยเข้าไปกัน
E18 > E21
ค่าตั๋วถ้าจำไม่ผิดอยู่ที่คนละ 3,200 เยน เราซื้อข้างหน้าเลย สามารถอยู่ได้ทั้งวัน เอาจริงๆ เรายังไม่รู้เลยว่าตัวละครชื่ออะไร ชอบโชว์อันที่เป็นการแสดง สนุกดี ขนาดไม่รู้จัก ส่วนข้างในก็จะมีเกมต่างๆให้เข้าไปเล่น ฟรีบ้าง เสียตังบ้าง
E21 > E23
H04 > H15
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้