กลับมาสนุกเร้าใจอีกครั้ง สำหรับการแข่งขันโมโตจีพีที่สนามมอเตอร์แลนด์ แอรากอนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยผลการแข่งขันก็เป็น มาร์ค มาเกวซที่เบียดเอาชนะอันเดรีย โดวิซิโอโซ่คว้าชัยชนะไปอย่างสุดมัน รวมถึงมีมาม่าชามเล็กๆมาให้พวกเราได้กินกันต่อ กับประเด็นที่โค้ง 1 ในจังหวะที่รถดูคาติเบอร์ 99 ของฮอร์เฮ ลอเรนโซ่พลาดล้ม ต้องออกจากการแข่งขันไปตั้งแต่นกกระจอกยังไม่ทันได้จิบน้ำ

ลอเรนโซ่ เจ้าเวหา
ที่แอรากอนจีพีปีนี้ ทางสนามได้มีการประกาศเปลี่ยนชื่อโค้ง 10 มาเป็นชื่อ Marc Marquez อย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติให้กับยอดนักแข่งเบอร์ 93 คนนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ Jorge Lorenzo ได้รับชื่อที่โค้งสุดท้ายของสนาม Jerez ไปแล้วเมื่อปี 2013 โดยตามธรรมเนียมของชาวสเปนนั้น การมอบชื่อโค้งให้กับนักแข่งที่ยังลงแข่งขันอยู่นั้นถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งจะต่างจากธรรมเนียมของชาวอิตาเลี่ยน ที่จะมีการมอบชื่อเพื่อเป็นเกียรติให้กับนักแข่ง ก็ต่อเมื่อได้ลาจากโลกนี้ไปแล้วเท่านั้น ซึ่งบางครั้งไม่ใช่แค่ชื่อโค้ง แต่เป็นการให้ชื่อพวกเข้าไปในชื่อของสนามเลยก็มี

Marc Marquez 93
ทั้งนี้ เรื่องนักแข่งสำรองที่จะมาขี่แทนติโต้ ราบัทของทีมอวินเทียนั้น ก็ยังมีดราม่าตามต่อเนื่องมาจากที่มิซาโน่ เพราะเดิมที เจ้าพอนสันนั้นได้เซ็นสัญญากับทีมไว้ยาวถึง 4 สนาม (ซึ่งเจ้าตัวหวังว่าเค้าจะค่อยๆเรียนรู้และทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ) แต่เมื่อมีสัญญาณต่อต้านออกมา ทีม Avintia ถูกบีบให้ยกเลิกสัญญา ทำให้เจ้าตัวบ่นอุบว่า ไม่ยักกะรู้ว่ามาเฟียในโมโตจีพีมันเฮี้ยนขนาดนี้ ห้าห้า ทำให้ต้องไปดึงจอร์ดี้ ทอเรส นักแข่ง WSBK ของ MV Agusta มาแข่งแทน ที่แม้จะไม่เคยจับรถ MotoGP มาก่อนเช่นกัน แต่ชื่อชั้นนั้นถือว่าดีกว่าอยู่พอสมควรรวมถึงเคยแข่งในรุ่น Moto2 มาก่อน และจากประเด็นความขัดแย้งตรงนี้นี้ ทำให้ต้องมีการออกกฏใหม่เพิ่มขึ้นมาว่า นักแข่งสำรองที่ทีมจะเลือกมาแข่งแทนนักแข่งที่ได้รับบาดเจ็บนั้น จะต้องได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมธิการเสียก่อน
เดี๋ยวเราจะลองไปไล่ย้อนดูว่ามีเหตุการณ์อะไรที่น่าสนใจเกิดขึ้นในสนามนี้บ้าง
[MotoGP] Review สนาม 14/2018: ภาระกิจดับซ่าส์ดูคาติของ MM93 + Suzuki เวอร์ชั่นติดฉนวนกันความร้อน
ที่แอรากอนจีพีปีนี้ ทางสนามได้มีการประกาศเปลี่ยนชื่อโค้ง 10 มาเป็นชื่อ Marc Marquez อย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติให้กับยอดนักแข่งเบอร์ 93 คนนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ Jorge Lorenzo ได้รับชื่อที่โค้งสุดท้ายของสนาม Jerez ไปแล้วเมื่อปี 2013 โดยตามธรรมเนียมของชาวสเปนนั้น การมอบชื่อโค้งให้กับนักแข่งที่ยังลงแข่งขันอยู่นั้นถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งจะต่างจากธรรมเนียมของชาวอิตาเลี่ยน ที่จะมีการมอบชื่อเพื่อเป็นเกียรติให้กับนักแข่ง ก็ต่อเมื่อได้ลาจากโลกนี้ไปแล้วเท่านั้น ซึ่งบางครั้งไม่ใช่แค่ชื่อโค้ง แต่เป็นการให้ชื่อพวกเข้าไปในชื่อของสนามเลยก็มี
ทั้งนี้ เรื่องนักแข่งสำรองที่จะมาขี่แทนติโต้ ราบัทของทีมอวินเทียนั้น ก็ยังมีดราม่าตามต่อเนื่องมาจากที่มิซาโน่ เพราะเดิมที เจ้าพอนสันนั้นได้เซ็นสัญญากับทีมไว้ยาวถึง 4 สนาม (ซึ่งเจ้าตัวหวังว่าเค้าจะค่อยๆเรียนรู้และทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ) แต่เมื่อมีสัญญาณต่อต้านออกมา ทีม Avintia ถูกบีบให้ยกเลิกสัญญา ทำให้เจ้าตัวบ่นอุบว่า ไม่ยักกะรู้ว่ามาเฟียในโมโตจีพีมันเฮี้ยนขนาดนี้ ห้าห้า ทำให้ต้องไปดึงจอร์ดี้ ทอเรส นักแข่ง WSBK ของ MV Agusta มาแข่งแทน ที่แม้จะไม่เคยจับรถ MotoGP มาก่อนเช่นกัน แต่ชื่อชั้นนั้นถือว่าดีกว่าอยู่พอสมควรรวมถึงเคยแข่งในรุ่น Moto2 มาก่อน และจากประเด็นความขัดแย้งตรงนี้นี้ ทำให้ต้องมีการออกกฏใหม่เพิ่มขึ้นมาว่า นักแข่งสำรองที่ทีมจะเลือกมาแข่งแทนนักแข่งที่ได้รับบาดเจ็บนั้น จะต้องได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมธิการเสียก่อน
เดี๋ยวเราจะลองไปไล่ย้อนดูว่ามีเหตุการณ์อะไรที่น่าสนใจเกิดขึ้นในสนามนี้บ้าง