“คุณป้าเม่า” เล่าเรื่องหุ้น...ตอนที่ 5 เดินสายอบรมสัมมนาหุ้นฟรีดีกว่าคอร์สราคาหลักหมื่นหลักแสน?

ตอนเข้าสู่วงการตลาดหุ้นใหม่ ๆ นอกจากอ่านหนังสือหุ้น อ่านกระทู้ในห้องสินธร
เข้าเวปตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย www.set.or.th หรือ www.settrade.com แล้ว
อีกหนึ่งแหล่งการศึกษาหาความรู้เรื่องหุ้นที่ป้าฯ ทำควบคู่กันมาตลอดก็คือ
การเดินสายอบรมสัมมนาหุ้นฟรีตามที่โบรกเกอร์และตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดเป็นประจำอีกด้วย

ช่วงที่ออกไปตระเวณเดินสายอบรมสัมมนานอกบ้านแทบทุกสัปดาห์ ๆ ละ 1-2 วันแบบนี้
พี่น้องที่บ้านของป้าฯ เป็นห่วงมากกลัวว่าป้าฯ จะโดนคนข้างนอกเข้ามาจีบ เอ๊ยย หลอกเอา
ป้าฯ ก็งงว่าสาวหมวยอย่างป้าฯ มีรูปร่างหน้าตาแบบนี้เป็นอาวุธจะต้องไปกลัวใครทำไม?

แต่ป้าฯ ก็เข้าใจความห่วงใยของพี่น้องที่บ้านอ่ะนะเพราะปัจจุบันนี้สังคมข้างนอกน่ากลัวขึ้นทุกวัน
พวกเขาคงกลัวว่าอาจจะมีมิจฉาชีพในคราบนักบุญมาทำให้เราหลงใหลได้ปลื้มแบบขาดสติไรแบบเน้

ป้าฯ มีความเชื่ออย่างหนึ่งว่าเราจะไม่มีทางโดนใครหลอกได้อย่างเด็ดขาด
หากเราไม่โลภอยากได้สิ่งของ เงินทอง หรือผลประโยชน์ที่ผู้อื่นพยายามเอามาล่อให้เราอยากได้ใคร่มี
แค่นี้เราก็สามารถอยู่รอดปลอดภัยปิดประตูความเสี่ยงต่อมิจฉาชีพแล้ว จริง ๆ นะ

ป้าฯ มักจะไปเข้าร่วมงาน Money Expo หรืองานมหกรรมการเงินที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี
โดยตลาดหลักทรัพย์ร่วมกับสถาบันการเงินการลงทุนซึ่งล่าสุดจัดไปแล้วเมื่อ 10-13 พ.ค. 61 ที่เมืองทองธานี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ภายในงาน Money Expo จะมีบริการสินเชื่อและการลงทุน ทั้งบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล
สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถ สินเชื่อเอสเอ็มอี การออมในรูปแบบต่างๆ ประกันชีวิต/ประกันภัย
ประกันสุขภาพ การลงทุนในตลาดหุ้น และกองทุนรวม
ที่สำคัญคือมีงานอบรมสัมมนา Workshop เรื่องเกี่ยวกับหุ้น การเงิน การลงทุนตลอดงาน

ทุกครั้งที่ไปงาน Money Expo ป้าฯ มักจะเตรียมบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน
และสมุดเงินฝากติดตัวไปด้วยเพื่อเปิดบัญชีพอร์ตหุ้นเพิ่มกับหลาย ๆ โบรกเกอร์
เพื่อต้องการรับฟรีของชำร่วยต่าง ๆ เอ๊ยยย ม่ายช่ายยย ป้าฯ ต้องการมีหลาย ๆ พอร์ต
สำหรับไว้แยกการลงทุนในหลากหลายรูปแบบที่ต้องการ

ยกตัวอย่างเช่น พอร์ตหนึ่งเอาไว้สำหรับลงทุนระยะสั้น พอร์ตสองไว้ลงทุนระยะยาว
พอร์ตสามสำหรับลงทุนออมในหุ้นแบบระยะย๊าวยาวเพื่อวัยเกษียณ เป็นต้น

ส่วนพอร์ตที่สี่ ห้า หก เจ็ด แปด เก้า และอีกหลาย ๆ พอร์ตเอาไว้เพียงเพื่อให้ได้ชื่อว่า
เป็นสมาชิกหรือลูกค้าของหลากหลายโบรกเกอร์เพื่อรับสิทธิ์พิเศษ
ในการเข้าอบรมสัมมนา “ฟรี” ในหัวข้อต่าง ๆ ที่น่าสนใจ และอื่น ๆ อิอิ

บางโบรกเก้อร์ก็ใจดีเปิดกว้างให้บุคคลทั่วไปโดยไม่จำเป็นต้องมีบัญชีหุ้น
ก็สามารถ Walk In เข้าอบรมได้ด้วย แบบนี้ป้าฯ จะชื่นชอบมากเป็นพิเศษ ^^

แต่มีหลายที่ก็สงวนสิทธิ์สำหรับลูกค้าเท่านั้นซึ่งแบบหลังนี้ป้าฯ ไม่ค่อยปลื้ม บ่องตง อิอิ
มีครั้งหนึ่งป้าฯ ลงทะเบียนอบรมเรื่องกราฟเทคนิคงานหนึ่งไม่ทันเพราะที่นั่งเต็มแล้ว
แต่ป้าฯ อยากเรียนมากจึงเสี่ยงเดินทางไปถึงหน้างานและแจ้งเจ้าหน้าที่ลงทะเบียน
เผื่อฟลุ๊คมีคนที่ลงทะเบียนแล้วติดภาระกิจเร่งด่วนมาไม่ได้ป้าฯ จะได้เข้าไปเสียบแทน

ปรากฏว่าวันนั้นป้าฯ โชคร้ายไม่ได้เจอเจ้าหน้าที่ที่ใจดีมีเมตตาและเห็นแก่มนุษย์ป้าตาดำ ๆ
ทั้งที่ป้าฯ พยายามใช้มารยาทุกเล่มเกวียนอ้อนวอนขอร้องขอเข้าอบรมด้วย
เพราะเขาก็จัดอบรมฟรีอยู่แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ให้เหตุผลอย่างไม่มีเยื่อใยว่า
ป้าฯ ไม่ได้เป็นลูกค้าของเขา ประมาณว่าไม่มีบัตร ไม่มีสิทธิ์

เป็นครั้งแรกและที่เดียวที่ป้าฯ ไม่ได้รับโอกาส รู้สึกเสียใจ เสียเวลาและเสียค่าเดินทาง
พวกเขาคงตัดสินป้าฯ แค่ที่เห็นป้าฯ ใส่เสื้อยืด  นุ่งเกงยีนส์  สวมรองเท้าแตะ  สะพายย่ามเก่า ๆ
จึงได้ปฏิบัติกับป้าฯเยี่ยงลูกค้า “เช๊าคา” (ลูกค้าที่ขาเหม็น เอ๊ยย ต่ำตมไม่มีคุณค่า)
พวกเขาคงไม่เคยได้ยินประโยคที่ว่า Don’t Judge A Book By Its Cover มาก่อนเป็นแน่ ฮือ ๆๆ

เหตุการณ์นี้จึงทำให้ป้าฯ ต้องเปิดบัญชีหุ้นไว้กับหลาย ๆ โบรกเกอร์จะได้ไม่พลาดเสียสิทธิ์
ถึงตอนนี้ป้าฯ มีบัญชีพอร์ตหุ้นเกือบ 10 บัญชีแต่ที่ Active หรือใช้งานจริงมีแค่ 5-6 บัญชี
นอกนั้นเปิดทิ้งไว้เฉย ๆ ไม่ได้โอนเงินเข้าไปซื้อขายแต่ยังได้สิทธิ์ในฐานะ Prospective Customer
หรือลูกค้าที่คาดหวังได้ว่าอาจเป็นลูกค้าที่ดีได้ในอนาคต อิอิ

การจัดอบรมสัมมนาโดยโบรกเกอร์แต่ละครั้งที่ป้าฯ มีโอกาสได้ลงทะเบียนเข้าร่วมด้วย
จะมีวิทยากรของโบรกเกอร์แต่ละแห่งมาให้ความรู้ในเรื่องการลงทุนในหุ้น
ส่วนใหญ่จะเริ่มด้วยการพูดถึงภาพรวมเศรษฐกิจระดับโลกก่อนและตามด้วยระดับประเทศ
บ้างก็เปรียบเทียบ Trend หรือแนวโน้มของธุรกิจในอุตสาหกรรมที่น่าสนใจในช่วงนั้น ๆ
และจบลงด้วยการใบ้หุ้น เอ๊ยยย การแนะนำหุ้นเด็ดที่น่าสนใจพร้อมบทวิเคราะห์สนับสนุน

โบรกเกอร์บางแห่งลงทุนเชิญวิทยากร อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการลงทุนมาให้ความรู้
บ้างก็วิเคราะห์แนวโน้มตลาดหุ้นทั้งในประเทศเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน
เช่นอินโดนีเซีย เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ รวมทั้งดาวโจร เอ๊ยยย ดาวโจนส์ นาสแด็ก และ
S&P ของสหรัฐอเมริกา นิเคอิของญี่ปุ่น เซี่ยงไฮ้ของจีน แด็กส์ของเยอรมันนี และอื่น ๆ
บ้างก็สอนการวิเคราะห์ทางเทคนิคด้วยการใช้กราฟขั้นต้นและขั้นสูงฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

วิทยากรและอาจารย์แต่ละท่านก็มีความเชี่ยวชาญแตกต่างกันไป
บางคนดูมีความรู้ดีมากแต่การถ่ายทอดอาจจะยังไม่ปังฟังแล้วอยากหลับก็มี

บางคนพูดเก่งเรียกเสียงฮาได้ตลอดงานแบบอยากขอให้ “ต่อเวลาให้ฉันสักนิดคนดี”
วันไหนเจออาจารย์ที่เก่งทุกทาง เก่งทั้งภูมิความรู้และวิธีการถ่ายทอด
วันนั้นป้าฯ จะเป็นปลื้มที่ได้รับความรู้แบบเต็ม ๆ คุ้มค่าเวลามากถึงมากที่สุดเบยย

มีหนึ่งอย่างที่ป้าฯ พบว่าเหมือนกันในเกือบจะทุกการอบรมสัมมนาก็คือ
ทุกองค์ความรู้ ทุกเรื่องราวเป็นสิ่งใหม่สำหรับป้าฯ ที่ต้องเก็บเล็กผสมน้อยค่อย ๆ เติมเต็ม
งานอบรมสัมมนาบางแห่งเริ่มต้นที่ Step สูง บางแห่ง Step ต่ำ และกลาง
คละเคล้ากันไปแล้วแต่งานไม่ได้เรียงตามลำดับขั้น
ในขณะที่ผู้เข้าร่วมมีความรู้และประสบการณ์ที่แตกต่างกันไป

เนื้อหาการอบรมสัมมนาแต่ละแห่งจึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีประสบการณ์ที่ไม่เหมือนกัน
บางงานเหมาะสำหรับคนที่เข้าสู่วงการมานานหลายปีจึงจะเข้าใจและคิดตามได้ทัน
มือใหม่อย่างป้าฯ ก็จะแอบมีอาการมึน ๆ มีเครื่องหมายคำถามค้างอยู่ในศีรษะนานนับเดือนนับปี

จนกว่าจะได้เข้าไปอบรมสัมมนาในงานที่มีเนื้อหาที่เหมาะสำหรับมือใหม่หัดขับ
หรือบางครั้งเจอเนื้อหาที่ไขปัญหาคาใจมานานก็จะเข้าใจแล้วนำมาประติดประต่อเองได้
ซึ่งกว่าจะรวบรวมเป็นความรู้ให้สามารถเข้าใจได้อย่างลึกซึ้งตกผลึกได้อย่างจริงจัง
ต้องใช้เวลาศึกษาต่อเนื่องยาวนานและป้าฯ ก็คงจะไม่หยุดเรียนรู้จนกว่าจะหมดแรง

นอกจากโบรกเกอร์แล้วป้าฯ ชอบงานอบรมสัมมนาที่จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ช่วง 6-7 ปีแรกที่เข้าสู่วงการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังอยู่ที่เดิมที่อาคารสินธรถนนวิทยุ
ติดกับศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ อยู่ใกล้บ้านขึ้นรถไฟใต้ดิน MRT เพียงแค่ 3 สถานี
พอออกจากสถานีเดินไม่กี่ก้าวก็ถึงตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว สะดวกสบายมาก
ป้าฯ ชื่นชอบการไปอบรมสัมมนาฟรีที่นี่มากเป็นพิเศษ ^^

แต่ 2 ปีเศษที่ผ่านมาตั้งแต่กลางปี 2559 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ได้ย้ายไปที่ทำการแห่งใหม่ที่ถนนรัชดาภิเษกติดกับสถานทูตจีน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

จากที่ป้าฯ เคยใช้เวลาเดินทางแค่ 3 สถานีกลายเป็น 7 สถานี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ลงสถานีศูนย์วัฒนธรรม (ทางออก 3) แล้วต้องเลี้ยวขวาเดินตรงไปอีกกว่าครึ่งกิโลเมตร
ต้องฝ่าแดดในวันที่แดดจัด ฝ่าฝนในวันที่ฝนตก เดินประมาณ 10 นาทีจึงจะถึงที่หมาย
นับว่าไกลโขสำหรับป้าฯ

ป้าฯ เคยไปเยี่ยมชมตลาดหลักทรัพย์ช่วงเปิดใหม่ 2-3 ครั้งแต่ตอนนี้ไม่ค่อยได้ไปแล้ว
เพราะต้องเสียค่ารถใต้ดินที่แพงขึ้นอีกกว่าเท่าตัว เอ๊ยย
เพราะเดินทางไม่สะดวกเหมือนเดิมและส่วนใหญ่ขากลับจะเป็น Rush Hours คนเยอะเกิ๊นนน

แต่ในอนาคตถ้าได้สิทธิ์รับตั๋วพิเศษ MRT Plus สำหรับผู้สูงอายุได้ลดค่าโดยสาร 50%
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ป้าฯ อาจจะถอดใจ Oops! เปลี่ยนใจไปที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งใหม่ก็ได้นะ ^^
ตอนนี้ก็เลยต้องอาศัยหาความรู้ตามโบรกเกอร์ใกล้บ้านไปก่อน อิอิ

ป้าฯ ได้ทยอยเก็บเล็กผสมน้อยความรู้เรื่องหุ้นผ่านการอบรมสัมมนาเกือบทุกสัปดาห์
สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งในช่วง 3-4 ขวบปีแรก และยังคงเดินสายอบรมอย่างต่อเนื่องจนถึงวันนี้แต่ไม่ถี่เหมือนเดิม
รวมแล้วได้เข้าอบรมสัมมนาที่เกี่ยวกับหุ้นในหัวข้อต่าง ๆ มาแล้วไม่น่าจะต่ำกว่า 100 ครั้ง
จริง ๆ นะ ป้าฯ ไม่ได้โม้!

ข้อดีของการอบรมฟรีคือไม่เสียตังค์ซึ่งเหมาะกับป้าฯ ที่เพิ่งเริ่มต้นในช่วงที่ตกงานไม่มีรายได้
และโชคดีที่ตกงานเพราะบางครั้งงานสัมมนาจะจัดในวันธรรมดา
ป้าฯ ก็ไปได้สบายไม่ต้องหนีงาน หรือลาออกจากงานเหมือนหลาย ๆ คน อิอิ

นอกจากอบรมสัมมนาฟรีในช่วงแรกแล้วป้าฯ ก็ไปอบรมแบบเสียตังค์บ้างเหมือนกันนะ
ขอดักไว้ก่อนเดี๋ยวจะเข้าใจว่าป้าฯ ชอบแต่ของฟรีไม่ยอมควักกระเป๋า อิอิ

การซื้อคอร์สอบรมเรื่องหุ้นแบบเสียตังค์จะมีข้อดีกว่าการอบรมสัมมนาฟรีตรงที่
ได้เลือกเรียนรู้ในเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการ เช่นอยากเรียนเรื่องปัจจัยพื้นฐานก็จะเจาะลึกเฉพาะเรื่อง
อยากเรียนกราฟเทคนิคก็ได้เรียนแบบเริ่มต้นตั้งแต่ความหมายของแท่งเทียนแต่ละแท่งกันเลย

เหตุผลที่ป้าฯ ต้องเสียเงินไปเรียนโดยเฉพาะกราฟเทคนิคเพราะอ่านหนังสือเข้าใจยาก
การได้ลงคอร์สเรียนก็ทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นและพอได้กลับไปอ่านหนังสือใหม่ก็รู้เรื่องได้เร็วกว่า

การเลือกคนสอนก็สำคัญมากเหมือนกันนะเพราะถ้าเจอคนสอนเก่งสอนดี
เราก็จะเรียนรู้ได้คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป ถ้าโชคไม่ดีเจอคนสอนไม่เก่งจริงก็น่าเสียดายเงิน

ส่วนใหญ่ป้าฯ จะโชคดีได้คนสอนเก่ง ๆ และพอกลับมาทบทวนเองที่บ้าน
ดูยูทูปบ้าง อ่านหนังสือเพิ่มเติมบ้างก็สามารถต่อยอดความรู้ได้เร็วขึ้น

ที่ผ่านมาป้าฯ ไม่เคยลงเรียนหลักสูตรขั้น Advanced กับคนสอนหรือสถาบันที่มีชื่อเสียง
เพราะราคามักจะแพงหลักหมื่นหลักแสนบาท และหากยังไม่มีความรู้พื้นฐานที่ดีมาก่อน
การไปซื้อคอร์สเรียนแพง ๆ ไม่น่าจะคุ้มสำหรับคนที่เรียนรู้ช้าอย่างป้าฯ ซึ่งจะเรียนตามไม่ทัน

ป้าฯ จึงมักจะลงเรียนคอร์สเริ่มต้นสำหรับมือใหม่ที่ราคาไม่แพงเกินไป
เอามาเป็นพื้นฐานเพื่อศึกษาต่อยอดความรู้เอง พอเข้าใจแล้วปัญญาก็เกิด
เดี๋ยวนี้เก่งกว่าเก่าเยอะมาก อันนี้ไม่มีใครบอก ป้าฯ ชมตัวเอง!

สำหรับมือใหม่ที่กำลังศึกษาเรื่องหุ้นโดยเฉพาะเรื่องกราฟและสัญญาณทางเทคนิค
ถ้าจะซื้อคอร์สเรียนเพื่อให้รู้จักเครื่องมือแบบต่างๆ และมีทุนทรัพย์เพียงพอก็เรียนไปเถิด
เรียนที่ไหนหรือกับใครก็ได้ ยิ่งถ้ามีเพื่อนที่เคยไปเรียนแล้วแนะนำว่าดีก็จัดไปเลย
การได้ลงเรียนกับคนสอนเก่ง ๆ ก็เป็นการปูพื้นฐานความรู้ทางลัดที่ดีกว่า ใช้เวลาน้อยกว่า
ดีกว่าไปศึกษาเอง ลองผิดลองถูกเอง ซึ่งจะใช้เวลายาวนานกว่าและมีโอกาสผิดพลาดมากกว่า

แต่ถ้าหวังจะไปเรียนเพื่อเอาสูตรลับพารวยที่โฆษณาเกินจริง
ป้าฯ เชื่อว่าไม่มีสูตรสำเร็จแบบนั้นแน่นอน
เราต้องศึกษาเรียนรู้เองให้ตกผลึกและสร้างสูตรการลงทุนในแบบของเราเอง

หากใครมีงบน้อยหรือไม่ต้องการเสียตังค์ก็สามารถหาคลิปดี ๆ จากในอินเตอร์เน็ตได้
มีคนเก่ง คนใจดี ทำคลิปให้เลือกมากมายมหาศาล
แต่ต้องเลือกเสพเฉพาะข้อมูลที่ถูกต้องเท่านั้นนะ มิเช่นนั้นการเริ่มต้นแบบเข้าใจผิด
อาจสร้างความเสียหายให้กับการลงทุนของเราได้นะจะบอกให้

ช่วง 4-5 ปีแรกจึงเป็นช่วงที่ป้าฯ พยายามค้นหาตัวเองว่าต้องการลงทุนแบบไหน
กว่าจะรู้จักตัวเองว่าต้องการอะไรแบบทุกวันนี้ก็ใช้เวลานานพอสมควรเลยนะ
มีการลองผิดลองถูกและที่สำคัญช่วงที่มีการขาดทุนจริงเป็นช่วงที่ได้เรียนรู้มากที่สุด
แบบต้องเจ็บจริงไรจริงก่อนจึงจะจดจำขึ้นสมอง
และนำไปปรับปรุงวิธีการลงทุนเป็นแบบฉบับที่ดีของตัวเองได้ในที่สุด ^^

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่