ทริปนี้เป็นการรีวิวเที่ยววัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารนะครับ หลังจากที่ จขกท ได้ชมภาพจากอินสตาแกรม เฟสบุค พันทิพ ที่มีคนมารีวิวกันมากมายเหลือเกินหลังจากที่วัดนี้ได้รับการบูรณะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อตากล้องพร้อม นางแบบก็พร้อม ก็ได้มาประชุมกันโดยนัดหมายภายในเวลาอั้นสั้น ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งวันครับ แล้วก็ถ่ายรูปกันอย่างสาแก่ใจ อีช้อย (ได้ข่าวว่า คุยกันตอนแรกว่าจะไปทำบุญนะ แต่เอาจริงๆ คุยเรื่องทำบุญห้านาที นอกนั้น เรื่องเสื้อผ้า โทนภาพ สถานที่ แอ๊คเซสเซอรี่....ไหนเรื่องทำบุญ) เอาหล่ะครับ ไม่พูดพร่ำทำเพลงนะครับ ไปชมรูปกันเลย เผื่อใครอยากไป จะได้รู้มุมไปเบื้องต้นนะครับ
ทริปนี้เราเริ่มต้นกันจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ Victory Monument (ใส่เสียงพี่รัดเกล้าเข้าไป แล้วจะได้อารมณ์) มุ่งหน้าไปยัง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วยรถเมล์ปรับอากาศ สาย 59 (ดูเป็นทางก้าร...ทางการเนาะ) ตั้งแต่ 7 โมงเช้า เทียบเวลาโดย Garmin (อันนี้ไม่น่าจะเกี่ยว)
และแล้วก็มาถึง ธรรมศาสตร์ ในเวลา เกือบ 8 โมง แต่ความตลกคือ...ลงธรรมศาสตร์แล้ว...มองซ้ายขวา อีเพื่อนสองคน เป็นผู้ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการหลงทาง มองหน้ากันก็รู้เลย ถ้าตัวอักษรเป็นซับไตเติ้ลคือ "ไปทางไหนต่อ"
เดินไปเรื่อยๆ จนมาถึงท่าช้าง ระหว่างทางเดินมาถึงท่าช้าง เห็นประตูสีฟ้า มีแสงแดดสีทองส่องมาที่ประตู งดงามยิ่งนัก ข้าจัดต้องได้สักภาพจากตรงนี้ ว่ะฮ่าๆๆๆ (หนังจีนกำลังภายในไปอีก)

ถ่ายรูปเสร็จ ก็เดินไปที่ท่าเรือท่าช้างเพื่อขึ้นเรือตรง ปรากฎมองจากท่าเรือไปที่วัดอรุณแล้วต๊ะกะใจ เอ๊าทำไมพระปรางค์องค์เล็กนิดเดียว แต่ก็ยังไปถามเค้าว่า มีเรือไปวัดอรุณมั้ยครับ ได้ความว่า มีเรือมานะ เป็นเรือด่วน แต่มาช้านะ ทางที่ดีให้เดินไปตรงท่าวัดโพธิ์นะ ทันใดนั้น อีเพื่อนสองคนก็มองหน้ากันอย่างไร้เหตุผล และคำบรรยายก็ขึ้นอีกรอบว่า "ไปกันเถอะ" แบบไม่รู้ว่า ไกลแค่ไหน
เอาจริงๆ ระหว่างทางจากท่าช้างนั้น ได้ยินเสียงหายใจดัง แฮ่ก แฮ่ก เลย ไม่ใช่ใกล้ๆ ว่ะคุณผู้ชม เดินมาถึงท่าเรือตรงวัดโพธิ์ ดีใจอย่างกะได้มิสไทยแลนด์เวิร์ลด์ สายสะพายมาเถอะ แก่การแข่งขันเดินครั้งนี้ มงลงแม่ล้าวววววว....(ไปไกล สมที่เดินมาไกลซะหน่อยเนาะ)
สุดท้ายก็มาถึงแร้วววววว วัดอรุณของพวกราววววว.....
ทางเข้าจากท่าเรือ จะต้องเดินผ่านพี่ยักษ์ก่อน เราก็จัดการแชะภาพกับพี่ยักษ์ซะหน่อยเนาะ แต่ว่า ตรงนี้ข้างๆ เค้าจะมีการก่อสร้างนะ อาจจะถ่ายยากนิดนึง อีกอย่างตอนที่เราไป ประตูตรงนี้ก็ยังไม่เปิดด้วยนะ แอบเห็นประตูเหล็กสีเขียวเชียะ

เอาหล่ะ ถึงแล้ว มาถึงเช้าด้วย ไม่ค่อยมีคน คราวนี้ ก็ถ่ายรูปได้แล้วนะครับ เดินหามุมกันสักพัก
ไปชมภาพกันเล้ยยยย....

มุมพระปรางค์ พยายามให้เต็มองค์ แต่ว่าเลนส์เราไม่อำนวย เดี๋ยวเห็นนางแบบตัวเท่ามด เลยได้ไม่ถึงยอดพระปรางค์เลย

ภาพนี้ใช้เลนส์ฟิก 50 f1.8 อยากได้ฉากหลังเบลอ ต้องให้นางแบบเดินออกมาจากฉากหลัง แต่ขณะเดียวกัน เราก็อยากได้องค์ประกอบของค์พระปรางค์มากเช่นกัน ทำไงดี ขยับมาสุดมุม...แล้วนอนถ่ายสิครับ รออะไร

ด้วยความที่เราเป็นสายแฟชั่น ช่วงนี้ดูพี่แพร วทานิกกาเยอะไปหน่อย จึงเอาอินเน่อร์ขแงตัวเองไปทิ้งให้เพื่อน "แก ชั้นอยากได้ แฟชั่น แบบ เชิ่ดๆ ลงมาจากบันได" เพื่อนมันก็จัดให้ (แหม คอระหงส์เชียะ)

เราเดินวนกันไปมาอยู่สักพัก ก็อยากได้มุมเห็นยอดพระปรางค์บ้าง มุมนี้ถ่ายลำบากนิดนึง เพื่อให้เก็บทั้งตัวนางแบบ และยอดพระปรางค์ ก็ต้องนอนลงไปอีก ซ้อมเกร็งหน้าท้องมาได้เลย

ไหนลองชะเง้อจากชั้นสอง ลงไปชั้นล่าง ดังเจ้าหญิงออกมาพบประชาชีด้วยความอารีย์ สะพานควายซิ

สลับมาที่การเดินแคทวอล์คจากพระปรางค์หน่อย แบบชอบมูฟเม้นต์อ่ะ ถ่ายสวยๆ มันไม่ใช่เรา

ชะเง้อไปที่ฝั่งตรงข้ามซะหน่อย

เกยตื้น เอ้ย เกยบันไดซะหน่อย

แดดมั้นร้อน เอามือบังแดดนิดนึงเนาะ
.
.
.
หลังจากถ่ายรูปเพื่อเสร็จ เพื่อนก็ต้องทำงานให้ จขกท เป็นการตอบแทน ขอแบบพี่หมู อาซาว่า นะ จัดมุมให้ ตั้งโทรศัพท์ให้ เพื่อน จขกท ก็เก่ง กดชัดเตอร์รัวเป็น 100 และในที่สุดก็ได้ภาพที่ดีที่สุดมา 1 ภาพถ้วน

...จบทริปการถ่ายภาพครั้งนี้...
เราได้อะไรบ้าง..
1. ถ้านั่ง 59 จะลงหน้าธรรมศาสตร์ เดินไกลนิดนึงนะ ถ้าเดินไหวก็ไม่เป็นไร
2. ควรมาแต่เช้า กะว่าถึงวักสัก 7 โมงครึ่ง คนไม่เยอะ แสงสวย ถ่ายรูปออกมาก็สวย ที่สำคัญไม่ร้อนมากด้วยครับ3.
3.ราคาค่าเรือข้ามฟากจากท่าวัดโพธิ์ มาท่าเรือวัดอรุณราคาคนละ 4 บาท ถ้วน ถูกๆ นะครับ

รอบนี้ไปได้วัดเดียว พวกเราร้อน และเหน็ดเหนื่อยเกินกว่าจะมาถ่ายต่อที่วัดโพธิ์ ดังนั้น เราจะถ่ายที่วัดโพธิ์และมารีวิวภาพสวยๆ ในคราวต่อไป ขอบพระคุณสำหรับการติดตามครับ คอมเม้นต์พูดคุยกันได้นะครับ อนุญาตให้ฝากได้ทุกร้านเลย แต่ขออย่างเดียว อย่าด่า จขกท. กับเพื่อน จขกท. เพราะเรายังไม่เข้มแข็งพอจริงๆ จ้ะ Luv U.
[CR] เ ที่ ย ว วั ด อ รุ ณ - B a n g k o k t e m p l e
ทริปนี้เราเริ่มต้นกันจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ Victory Monument (ใส่เสียงพี่รัดเกล้าเข้าไป แล้วจะได้อารมณ์) มุ่งหน้าไปยัง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วยรถเมล์ปรับอากาศ สาย 59 (ดูเป็นทางก้าร...ทางการเนาะ) ตั้งแต่ 7 โมงเช้า เทียบเวลาโดย Garmin (อันนี้ไม่น่าจะเกี่ยว)
และแล้วก็มาถึง ธรรมศาสตร์ ในเวลา เกือบ 8 โมง แต่ความตลกคือ...ลงธรรมศาสตร์แล้ว...มองซ้ายขวา อีเพื่อนสองคน เป็นผู้ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการหลงทาง มองหน้ากันก็รู้เลย ถ้าตัวอักษรเป็นซับไตเติ้ลคือ "ไปทางไหนต่อ"
เดินไปเรื่อยๆ จนมาถึงท่าช้าง ระหว่างทางเดินมาถึงท่าช้าง เห็นประตูสีฟ้า มีแสงแดดสีทองส่องมาที่ประตู งดงามยิ่งนัก ข้าจัดต้องได้สักภาพจากตรงนี้ ว่ะฮ่าๆๆๆ (หนังจีนกำลังภายในไปอีก)
ถ่ายรูปเสร็จ ก็เดินไปที่ท่าเรือท่าช้างเพื่อขึ้นเรือตรง ปรากฎมองจากท่าเรือไปที่วัดอรุณแล้วต๊ะกะใจ เอ๊าทำไมพระปรางค์องค์เล็กนิดเดียว แต่ก็ยังไปถามเค้าว่า มีเรือไปวัดอรุณมั้ยครับ ได้ความว่า มีเรือมานะ เป็นเรือด่วน แต่มาช้านะ ทางที่ดีให้เดินไปตรงท่าวัดโพธิ์นะ ทันใดนั้น อีเพื่อนสองคนก็มองหน้ากันอย่างไร้เหตุผล และคำบรรยายก็ขึ้นอีกรอบว่า "ไปกันเถอะ" แบบไม่รู้ว่า ไกลแค่ไหน
เอาจริงๆ ระหว่างทางจากท่าช้างนั้น ได้ยินเสียงหายใจดัง แฮ่ก แฮ่ก เลย ไม่ใช่ใกล้ๆ ว่ะคุณผู้ชม เดินมาถึงท่าเรือตรงวัดโพธิ์ ดีใจอย่างกะได้มิสไทยแลนด์เวิร์ลด์ สายสะพายมาเถอะ แก่การแข่งขันเดินครั้งนี้ มงลงแม่ล้าวววววว....(ไปไกล สมที่เดินมาไกลซะหน่อยเนาะ)
สุดท้ายก็มาถึงแร้วววววว วัดอรุณของพวกราววววว.....
ทางเข้าจากท่าเรือ จะต้องเดินผ่านพี่ยักษ์ก่อน เราก็จัดการแชะภาพกับพี่ยักษ์ซะหน่อยเนาะ แต่ว่า ตรงนี้ข้างๆ เค้าจะมีการก่อสร้างนะ อาจจะถ่ายยากนิดนึง อีกอย่างตอนที่เราไป ประตูตรงนี้ก็ยังไม่เปิดด้วยนะ แอบเห็นประตูเหล็กสีเขียวเชียะ
เอาหล่ะ ถึงแล้ว มาถึงเช้าด้วย ไม่ค่อยมีคน คราวนี้ ก็ถ่ายรูปได้แล้วนะครับ เดินหามุมกันสักพัก
ไปชมภาพกันเล้ยยยย....
ภาพนี้ใช้เลนส์ฟิก 50 f1.8 อยากได้ฉากหลังเบลอ ต้องให้นางแบบเดินออกมาจากฉากหลัง แต่ขณะเดียวกัน เราก็อยากได้องค์ประกอบของค์พระปรางค์มากเช่นกัน ทำไงดี ขยับมาสุดมุม...แล้วนอนถ่ายสิครับ รออะไร
ด้วยความที่เราเป็นสายแฟชั่น ช่วงนี้ดูพี่แพร วทานิกกาเยอะไปหน่อย จึงเอาอินเน่อร์ขแงตัวเองไปทิ้งให้เพื่อน "แก ชั้นอยากได้ แฟชั่น แบบ เชิ่ดๆ ลงมาจากบันได" เพื่อนมันก็จัดให้ (แหม คอระหงส์เชียะ)
เราเดินวนกันไปมาอยู่สักพัก ก็อยากได้มุมเห็นยอดพระปรางค์บ้าง มุมนี้ถ่ายลำบากนิดนึง เพื่อให้เก็บทั้งตัวนางแบบ และยอดพระปรางค์ ก็ต้องนอนลงไปอีก ซ้อมเกร็งหน้าท้องมาได้เลย
ไหนลองชะเง้อจากชั้นสอง ลงไปชั้นล่าง ดังเจ้าหญิงออกมาพบประชาชีด้วยความอารีย์ สะพานควายซิ
สลับมาที่การเดินแคทวอล์คจากพระปรางค์หน่อย แบบชอบมูฟเม้นต์อ่ะ ถ่ายสวยๆ มันไม่ใช่เรา
ชะเง้อไปที่ฝั่งตรงข้ามซะหน่อย
เกยตื้น เอ้ย เกยบันไดซะหน่อย
แดดมั้นร้อน เอามือบังแดดนิดนึงเนาะ
.
.
.
หลังจากถ่ายรูปเพื่อเสร็จ เพื่อนก็ต้องทำงานให้ จขกท เป็นการตอบแทน ขอแบบพี่หมู อาซาว่า นะ จัดมุมให้ ตั้งโทรศัพท์ให้ เพื่อน จขกท ก็เก่ง กดชัดเตอร์รัวเป็น 100 และในที่สุดก็ได้ภาพที่ดีที่สุดมา 1 ภาพถ้วน
...จบทริปการถ่ายภาพครั้งนี้...
เราได้อะไรบ้าง..
1. ถ้านั่ง 59 จะลงหน้าธรรมศาสตร์ เดินไกลนิดนึงนะ ถ้าเดินไหวก็ไม่เป็นไร
2. ควรมาแต่เช้า กะว่าถึงวักสัก 7 โมงครึ่ง คนไม่เยอะ แสงสวย ถ่ายรูปออกมาก็สวย ที่สำคัญไม่ร้อนมากด้วยครับ3.
3.ราคาค่าเรือข้ามฟากจากท่าวัดโพธิ์ มาท่าเรือวัดอรุณราคาคนละ 4 บาท ถ้วน ถูกๆ นะครับ
รอบนี้ไปได้วัดเดียว พวกเราร้อน และเหน็ดเหนื่อยเกินกว่าจะมาถ่ายต่อที่วัดโพธิ์ ดังนั้น เราจะถ่ายที่วัดโพธิ์และมารีวิวภาพสวยๆ ในคราวต่อไป ขอบพระคุณสำหรับการติดตามครับ คอมเม้นต์พูดคุยกันได้นะครับ อนุญาตให้ฝากได้ทุกร้านเลย แต่ขออย่างเดียว อย่าด่า จขกท. กับเพื่อน จขกท. เพราะเรายังไม่เข้มแข็งพอจริงๆ จ้ะ Luv U.
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้